เพื่อทดแทนบุญคุณของผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่ง การแต่งงานและละทิ้งความฝันคือสิ่งที่เขาต้องการจาก“เธอ”
โอ๊ย!!
“อะไรกันลูก แค่นี้เอง” หญิงสาววัยสามสิบปีนิดๆ ยิ้มจนตาปิดให้กับความน่ารัก น่าเอ็นดูของลูกสาวตัวน้อย
ยามว่างหลังจากทำการบ้านเสร็จ เธอมักจะยกตะกร้าหวายใบขนาดย่อมที่บรรจุไหมพรมสีหวานมานั่งถักทอกับลูกสาวของเธอ
งานฝีมือที่ต้องอาศัยความละเอียดอ่อน ใจเย็นและความอดทน เธอหวังว่าการถักพรมไหมจะช่วยให้ลูกสาววัยกำลังเข้าสู่วัยรุ่นไม่หมกมุ่นไปกับเรื่องที่ไม่จำเป็น
“ตวัดหัวเข็มแล้วจิ้มลงในห่วง จากนั้นก็คล้องไหมพรมเกี่ยวขึ้นมาทางเดิม แล้วม้วนหัวเข็มรอดระหว่างช่องออกมาก็จะได้ลายแบบนี้”
“โอ๊ย! หงุดหงิดๆ นิลไม่ทำแล้ว”
“โธ่เอ๊ย! ลูกแม่”
เด็กน้อยตวัดเข็มโครเชต์ควักเส้นด้ายสีสวยนุ่มฟูตามที่แม่บอกทุกขั้นตอน แต่ทว่ายิ่งทำเจ้าไหมพรมก็ยิ่งพันกันยุ่งเหยิงไปหมด กิจกรรมเสริมสร้างความสมาธิและอดทนนี้มันยิ่งให้เธอหงุดหงิดอารมณ์เสียมากกว่าได้ความใจเย็น
เด็กหญิงวัยสิบสองปีอยากไปนั่งดูหนังฟังเพลงแบบที่วัยรุ่นทั่วๆ ไปเค้าทำกันมากกว่า
แม่มักจะให้เธอฝึกความอดทนด้วยการนั่งหลังขดหลังแข็งถักผ้าพันคอลายง่ายๆ ให้เสร็จสักผืน
และด้วยความเป็นเด็กผสมกับความใจร้อนของปลานิล เธอจึงบ่ายเบี่ยงบอกแม่ว่าผ้าพันคอผืนหนาคงไม่มีโอกาสได้ใช้จริง เพราะประเทศไทยอากาศร้อนตับจะแลบ
“มันน่าเบื่อจะตายไปแม่ ทำเสร็จแล้วก็ใช่ว่าจะได้ใช้...” เด็กส่งเสียงออดอ้อน
“เอาน่า...ค่อยๆ ถักไปจนกว่าจะเสร็จนะลูก”
“...”
.
.
.
6 ปีต่อมา
“นางปลาเน่า แกจะพันผ้าเน่าๆ ของแกถ่ายรูปด้วยเหรอ”
“แล้วมันไม่ได้เหรอ...”
“ก็ต้องไม่ได้สิวะ! นี่มันบัตรนักศึกษานะเว้ย”
“ก็มันได้ความรู้สึกเหมือนแม่อยู่ใกล้ๆ นี่หน่า” เจ้าตัวกำผ้าพันคอสีแดงสดที่เธอถักมันจนเสร็จตั้งแต่ตอนประถม นี้เป็นสมบัติชิ้นเดียวที่เต็มไปด้วยความทรงจำ ความอบอุ่นของแม่อันเป็นที่รักเพียงคนในชีวิตของเด็กสาววัยเพียง 18 ปีคนนี้
“อย่ามาต่อมน้ำตาตรงนี้นะเว้ย”
“โธ่เอ๊ยภีม! ปลาก็แค่คิดถึงแม่เฉยๆ ปลาไม่ได้เศร้าสักหน่อย”
“จะไปรู้เหรอ! ฉันกลัวว่าแกจะมาน้ำตาแตกถ้าในรูปไม่มีผ้าพันคอของแม่ติดอยู่” เด็กสาววัยเดียวกับปลานิลแซวเพื่อนรักคนสนิท
เพราะตั้งแต่ที่ภีมรู้จักกับปลานิลตอนประถม ชีวิตของปลานิลก็ไม่เคยห่างจากไอ้ผ้าพันคอไหมพรมผืนนี้สักครั้ง
บัตรประชาชนเอย รึรูปอะไรก็ตามแต่ต้องมีผ้าเน่าสีแดงนี้ร่วมเฟลมตลอด
“ปลานิล?”
“หึ่ม!?”
เจ้าของตอบรับคำเพื่อนโดยที่ตนเองยังนั่งหันหลังให้ แต่แล้วก็ต้องมองตามเพราะยัยเพื่อนสาวสะกิดจนเจ็บแขน
“แก๊งหมอ!!”
“อะไรของแกภีม” คนขี้รำคาญหันไปเอ็ดเพื่อนสาว
ปลานิลมองตามฝูงชนขบวนใหญ่ พวกรุ่นพี่แห่อะไรกันก็ไม่รู้ ราวกับมีขบวนพาเหรด
“นางปลาเน่า แกดูพวกศิษย์เก่าพวกนั้นสิ”
“ทำไมภีม!!” คนถูกสะกิดแว้ดเสียงสูง
ด้วยนิสัยส่วนตัวไม่ค่อยสนใจเรื่องคนอื่นหรอก สนก็แต่เรื่องเรียน เรื่องเงินและงานพิเศษเท่านั้น
1 วันมีค่าเท่ากับ 24 ชั่วโมง แต่สำหรับปลานิลแล้วหนึ่งวันสำหรับเธอ ทำไมมันจึงน้อยกว่าคนอื่นนัก น่าจะมีเวลาทำอะไรต่อมิอะไรได้มากกว่านี้
“นั้นมันแก๊งเทวดานางฟ้าชัดๆ เขาว่ากันว่า ดาวเดือนของมหาลัยเรามาจากคณะแพทย์ทั้งนั้นเลยนะ”
“อืม...แล้ว!?” คนฟังไม่สนใจได้แต่ถามไปอย่างนั้น เพราะนางภีมมันพูดเจื้อยแจ้วไม่หยุด เดี๋ยวจะงอนหาว่าไม่สนใจฟังสิ่งที่นางพูด
“ตอนเย็นมีกิจกรรมรับน้องที่ทางมหาลัยจัดด้วย วันนี้งานใหญ่เลยนะปลา รวมทุกคณะเลย”
“เอ่อ...แล้ว”
“แกก็แหกตาดูเหล่าบรรดาเทวดานางฟ้าตรงนั้นสิ พวกเรามีโอกาสได้ทำกิจกรรมกับพวกรุ่นพี่พวกนั้นด้วยนะ ตัวTOPของแต่ละคณะ และส่วนใหญ่ก็จบไปแล้ว” หญิงสาวประคองสองแก้มซ้ายขวาของปลานิลแล้วบิดบังคับให้เธอหันมองเหล่าบรรดาลูกรักของพระเจ้าที่เดินพาเหรดเชิญชวนน้องๆ
“ฮึ! เย็นนี้คุณท่านจะพาไปทานข้าว”
“โธ่! อีกแล้วเหรอ” ภีมทำเสียงอ่อย
เพราะเพื่อนรักไม่อยู่ทำกิจกรรมด้วย เธอต้องอยู่คนเดียวมันก็จะเหงาๆ
“อีกแล้วซะที่ไหนกัน ตั้งแต่สอบติดปลาก็เพิ่งว่างไปทานข้าวกับคุณท่านวันนี้แหละ”
“โอเคๆ ไว้ฉันจะถ่ายรูปไปอวดนะ แกพลาดแล้วแหละ เขาบอกว่าวันนี้รวมตัวท็อปของทุกปีเลยด้วย”
“จ้า!!...ขอให้ได้รุ่นพี่หล่อๆ สักคนเนาะ”
“นางปลาเน่า! คนอย่างฉัน....ไม่เอาหรอกนะ”
“ถามจริง?”
“คนหล่อๆ มีเป็นร้อย จะเอาแค่คนเดียวทำไมก่อน...ห้ะ!”
ภีม!!!
ฮ่าๆๆๆ
เสียงหัวเราะร่าตามประสาเพื่อนระหว่างสองสาวหน้าตึกคณะมัณฑนศิลป์ แล้วเมื่อถึงเวลาเย็นต่างคนจึงต่างแยกย้ายไปทำกิจของตนเอง เด็กสาวยังมีธุระสำคัญกับคนสำคัญที่รอให้เธอไปพบในคืนนี้
เขาเกิดจากเศษเสี้ยวหนึ่งที่คุณแค่ทิ้งไว้ในตัวฉันเท่านั้น นั่น! ไม่ใช่ “ความรัก” // ภาคต่อตอนจบจาก 'เสน่หาคู่นอน'
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
“หยุดทำบ้าๆ นะพี่สิงห์...อ๊อย...” น้ำผึ้งขนลุกซู่ เขาจูบไซ้ซอกคอของหล่อน ขณะหญิงสาวกำลังยืนส่องกระจกอยู่หน้าอ่างล้างหน้า “พี่ขออีกนิด แค่ภายนอกเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่เสียหายอะไรนี่นา...นะครับ” พี่เขยปะเหลาะปะแหละอย่างคนเอาแต่ได้ เสียงออดอ้อนอ่อนหวานเริ่มทำให้น้องเมียใจอ่อนหวามไหว ปล่อยให้มือของเขาเคล้นคลึงสะโพกของหล่อนอย่างนึกมันเขี้ยว สอดท่อนแขนเข้ามาระหว่างง่ามก้น หงายฝ่ามือลูบไล้เข้ามาถึงหนอกเนื้ออุ่นจัดอีกครั้ง ตะล่อมล้วงเข้ามาโอบเนินนูนเหมือนหลังเต่า บีบขยำเบาๆ เหมือนจะประมาณความอวบใหญ่ล้นอุ้งมือ “ของผึ้งใหญ่จัง” มือสัมผัสกลีบเนื้อเป็นพูแน่น โหนกนูนและใหญ่กว่าของเจนนี่มากมาย “อ๊าย...” น้ำผึ้งเสียว กระดกก้นขึ้นโดยอัตโนมัติ สิงหาบีบขยำความเป็นผู้หญิงของหล่อนเป็นจังหวะ หัวใจเต้นแรงกับความอวบใหญ่ที่อัดแน่นอยู่ในอุ้งมือของตน “อย่า...พี่สิงห์...หยุดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวพี่เจนนี่มาเห็นผึ้งซวยแน่ๆ” น้องเมียร้องห้ามอย่างสับสนใจ ส่ายก้นทำท่าว่าจะดิ้นหนี แต่ช้ากว่ามือใหญ่ของสิงหาอีกข้างที่กดลงบนแผ่นหลังของหล่อนเหมือนจะล็อกกายไม่ให้ขยับหนี
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
มังกร หนุ่มหล่อหน้าใสลูกชาวไร่ชาวนา อายุ 22 ปี ที่ได้รับทุนเรียนดีจนจบมหาวิทยาลัย ได้แบกร่างกายพาหัวใจอันแตกสลายกลับบ้านเกิดทันทีในวันที่จบการศึกษา เพราะบิดามารดาได้เสียชีวิตกระทันหันทั้งคู่หลังจากกลับจากการนำข้าวไปขายและโดนสิบล้อที่เบรคแตกเสียหลักพุ่งชนรถของพ่อแม่ของมังกร เมื่อสูญเสียพ่อและแม่ไปอย่างกระทันหันเขาจึงกลับบ้านเกิดเพื่อไปทำไร่ทำนาสานฝันของพ่อแม่และนำความรู้ที่ได้เรียนมากลับมาพัฒนาที่ดินมรดกในบ้านเกิด หากแต่ว่ามังกรยังไม่ทันได้ทำอะไรเขากลับตายลงอย่างไม่ทันตั้งตัว ตายแบบไม่ตั้งใจและไม่เต็มใจที่สุด เขาจำได้เพียงแค่ว่าหลังจากเดินทางกลับมาถึงบ้านเกิดเขาได้ไปไหว้พ่อกับแม่ที่วัดในหมู่บ้าน แล้วก็กลับมานอนแต่พอเขากลับตื่นขึ้นมาในร่างของเด็กชาย อายุ 8ขวบ กับบ้านพุๆพังๆ เขาตื่นมาในร่างของคนอื่นไม่พอ แล้วเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่นี่มันที่ไหน และใครพาเขามา แล้วมังกรจะทำยังไงต่อไปกับชีวิตที่อยู่ในร่างเด็กชายยากจนคนนี้ มาติดตามชีวิตใหม่ของมังกรกันต่อไปค่ะ
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"