เรื่อง...คลั่งรักเมียแต่ง คำโปรย เมื่อเขาและเธอต้องมาอยู่ร่วมบ้านหลังเดียวกันในฐานะสามีภรรยา เขาเป็นคนพูดน้อยแถมยังดุ จึงทำให้เธอรู้สึกอึดอัดและน้อยใจอยู่บ่อยๆ แนะนำตัวละคร ภูวดล หรือ คุณภูมิ อายุ 32 ปี เจ้าของสวนองุ่นขนาดใหญ่ เขาหล่อ ทำงานเก่ง พูดน้อย ดุ ชอบทำหน้าเข้ม จนเธอรู้สึกอึดอัด รัตติกาล หรือ เจ้าขา อายุ 23 ปี ลูกสาวร้านอาหารแห่งหนึ่งในตัวจังหวัด เธอสวย แต่งตัวแซ่บ ขี้น้อยใจ ชอบคิดเองเออเอง เพราะความอกหักจึงทำให้เธอเลือกที่จะประชด ตกลงรับคำแต่งงานกับใครที่ไหนก็ไม่รู้จัก ที่ผู้ใหญ่หาให้ @@@@@@ โรมานซ์ ฟีลกู๊ดเหมือนเดิม ไม่นอกกาย ไม่นอกใจ แต่เรื่องนี้พระเอกดุหน่อยนะคะโปรดทำใจก่อนอ่าน (แนวบ้านนอก)
ตอนที่ 1 รับปาก
@จังหวัดเชียงราย
บ้านหลังใหญ่บนเนินเขา ที่ใครๆต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี นั่นก็คือบ้านแม่พร ทุกคนในจังหวัดนี้ไม่มีใครไม่รู้จักท่าน คนงานส่วนมากมักจะเรียกท่านติดปากว่าแม่พร ส่วนคนอื่นๆ ก็เรียกป้าเรียกน้าแล้วแต่สะดวก
ท่านเป็นผู้ใหญ่ใจดี มีลูกชายหนึ่งคน ลูกสาวหนึ่งคน ลูกชายเป็นคนโตยังไม่มีเมีย ส่วนลูกสาวมีสามีแล้ว ท่านเป็นเจ้าของสวนอ้อย สวนยาง และยังเป็นเจ้าของแผงตลาดสดขนาดใหญ่ในตัวเมืองอีกด้วย
“ตาภูมิ...” ภูวดลลูกชายคนโตของบ้านก้าวขาเดินเข้ามาในบ้านแม่ยังไม่ทันไร เสียงแม่ก็เรียกดังมาแต่ไกล
“ครับ” ภูวดลมีบ้านอยู่ต่างหาก เขาปลูกบ้านอยู่ในสวนองุ่น ซึ่งก็อยู่ไม่ได้ไกลจากบ้านแม่พรมากนัก ระยะทางประมาณสามกิโลขับรถแป๊บเดียวก็ถึง
“อายุก็ไม่น้อยแล้ว เมื่อไหร่จะมีเมียสักทีล่ะ” เป็นคำถามยอดฮิตไปไหนมาไหนคนก็ชอบถามคำถามนี้กับเขา...น่ารำคาญสิ้นดี!
“ยังไม่สะดวกครับ” ตอบแบบขอไปที แล้วเลือกที่จะเดินหนี
“ดูมันตอบเข้า...นี่แม่นะ! คิดว่าเป็นเพื่อนเล่นหรือยังไง” โดนดุจนได้!
“โธ่แม่ครับ ถ้าแม่อยากให้ผมมีเมียมากนัก แม่ไปหามาเลยครับ ขอตัวก่อนนะพอดีผมมีธุระ” ที่จริงก็ไม่ได้มีธุระที่ไหน แต่เลือกที่จะเดินออกไปทั้งๆที่เพิ่งมาถึง
“ดูมันๆ เป็นคนแบบนี้ถึงไม่มีใครเอา” เสียงแม่พรด่าไล่หลังตามไปเสียงดัง มีหรือเขาจะไม่ได้ยิน
“เอาน่าแม่...อย่างหงุดหงิดน่า เดี๋ยวความดันขึ้นนะจ๊ะ” กลิ่นลูกสาวคนเล็ก อยู่บ้านหลังเดียวกับแม่ ช่วยพูดให้แม่ใจเย็นๆ
“เมื่อกี้พี่แกบอกว่าให้แม่หาเมียให้มันได้ใช่มั้ย” แววตาของแม่พรเริ่มมีความหวัง
“ขนาดแม่ยังไม่รู้เลยใช่มั้ย ว่าจะไปหาผู้หญิงที่ไหนมาให้พี่ภูมิ” ซึ่งกลิ่นเองก็ยังมองไม่ออกเหมือนกัน ว่าผู้หญิงที่ไหนจะมาชอบคนบ้างานอย่างพี่ภูมิได้ ไม่ได้บ้างานอย่างเดียว ผู้หญิงสักคนก็ไม่เคยมอง
“ใครบอก...ถ้าหาได้แล้วมันไม่ยอมแต่งล่ะน่าดู” แม่พรเป็นผู้หญิงเก่งที่ค่อนข้างกว้างขวาง ท่านรู้จักคนเยอะ ทั้งจังหวัดนี้จะไม่มีผู้หญิงสักคนที่เหมาะสมกับลูกชายของท่านเลยก็ให้มันรู้ไป!
“อ้าว...แล้วแม่จะไปไหนจ๊ะนั่น”
“จะไปเก็บค่าเช่าแผงที่ตลาดสักหน่อย”
“ให้พี่เปลวขับรถไปให้เอามั้ยจ๊ะ” เปลวคือสามีของกลิ่น ลูกเขยของแม่พรนั่นเอง
“ไม่ต้องๆ แม่ไปเองได้ อยากได้อะไรหรือเปล่าล่ะ” บ้านของท่านอยู่ในหมู่บ้านชนบทที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขาต้นไม้ มีความอุดมสมบูรณ์เป็นธรรมชาติสุดๆ ส่วนแผงตลาดอยู่ในเมืองโน่น ใช้เวลาเดินทางนานพอสมควร ระยะทางประมาณสามสิบกิโลเห็นจะได้
“ไม่จ่ะ”
“เย็นๆโน่นแหละแม่ถึงจะกลับ” เก็บค่าเช่าแผงที่ตลาดเสร็จ ก็ว่าจะไปดูต้นอ้อยในสวนสักหน่อย น่าจะใกล้ตัดได้แล้ว
@ตลาดสด
#รัตติกาล หรือ เจ้าขา
ฉันชื่อเจ้าขาบ้านอยู่ในตัวจังหวัด ที่บ้านเปิดร้านขายอาหารตามสั่ง มีพ่อกับแม่พี่ชายและพี่สะใภ้ช่วยกันทำ เป็นธุรกิจครอบครัว ส่วนฉันเพิ่งจะเรียนจบ เอาจริงๆก็จบมาเกือบปีแล้วแหละ มีแฟนเป็นลูกเจ้าของร้านขายหมูในตลาด แต่ตอนนี้เลิกกันแล้ว
เหตุผลที่ฉันตัดสินใจเลิกก็คือ ความเจ้าชู้และมักมากของมัน เราคบกันมาสองปี มันพยายามจะขอฉันมีอะไรด้วยมาตลอด แต่ฉันไม่ให้ ฉันบอกกับมันว่าถ้าอยากได้ก็ให้แม่มาขอ แต่งงานกันเมื่อไหร่ฉันจะยอมเป็นของมันทันที แต่มันก็ไม่เห็นมาสักที สุดท้ายมันก็แอบไปกินกับลูกแม่ค้าขายผักในตลาด ฉันก็เลยเลิกแต่ก็เพิ่งจะเลิกกัน ตอนนี้ยังรู้สึกเซ็งๆอยู่เลย
วันนี้แม่ชวนฉันออกมาซื้อของที่ตลาดหวังว่าจะไม่เจอพวกมันสองคนนะ ฉันยังทำใจไม่ค่อยได้ ปกติร้านขายอาหารของเราจะสั่งของไปลงที่ร้านเลย แต่ก็มีบางอย่างที่แม่อยากมาเลือกด้วยตัวเอง โดยเฉพาะของสด แม่ฉันชื่อแม่บัว ส่วนพ่อชื่อพ่อยอดค่ะ
ในขณะที่ฉันกับแม่เดินเลือกซื้อของสดในตลาดกันอยู่นั้น อยู่ๆก็มีผู้หญิงคนหนึ่งแต่งตัวดีท่าทางมีฐานะเดินเข้ามาทักแม่บัวของฉัน
“บัว...”
“อ้าวพี่พร...ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ”
“บัวสบายดีมั้ย นั่นลูกสาวเธอเหรอ”
“เจ้าขา สวัสดีป้าพรสิลูก ป้าพรเป็นเจ้าของตลาดที่นี่จ่ะ” ทำไมฉันถึงไม่เคยเจอ...อ่อคงเป็นเพราะฉันไม่ค่อยได้มาเดินตลาดสดแบบนี้สักเท่าไหร่
“สวัสดีค่ะป้าพร”
“สวัสดีจ่ะลูก”
“ป้าพรเป็นเจ้าของไร่อ้อยกับไร่องุ่นด้วยนะ”
“พอๆไร่องุ่นน่ะของลูกชาย ของพี่ซะที่ไหนกัน ว่าแต่...มีลูกสาวน่ารักนะเนี่ย หนูเจ้าขามีแฟนหรือยังลูก”
“มีแล้ว...แล้วก็เลิกไปแล้วค่ะป้า”
“อ้าวทำไมล่ะ”
“ผู้ชายห่วยค่ะป้า” ชีวิตฉันคบกับผู้ชายมาก็หลายคน ทุกคนล้วนแล้วแต่เจ้าชู้ไม่รู้จักพอ ฉันเกลียดผู้ชายแบบนี้ที่สุด!
“มาเป็นลูกสะใภ้ป้าเอามั้ย รับรองลูกชายป้านิสัยดีทำมาหากินเก่ง” ห๊า...
“ลูกชายพี่พร ยังไม่มีเมียอีกเหรอคะ อายุน่าจะมากกว่ายัยเจ้าขาเยอะเลย” เสียงแม่บัวของฉันเองค่ะ
“แหม...พูดเรื่องนี้แล้วมันยาว มาๆหาที่นั่งก่อนรีบกลับหรือเปล่า”
“แม่...กลับช้าเดี๋ยวพ่อก็บ่นอีก” ฉันหันไปสะกิดแม่ แม่ฉันชอบติดคุยรู้จักคนไปทั่ว จะว่าไปแล้วก็เป็นคุณสมบัติอย่างหนึ่งของแม่ค้าแหละ
“เถอะน่า นานๆเจอกันที นั่งคุยก่อนแป๊บนึงไม่เป็นไรหรอก” นี่แหละแม่บัวของฉัน
“มาๆหนูเจ้าขา นั่งลงก่อน” ป้าพรพาแม่บัวมานั่งลงที่โต๊ะไม้หินอ่อน ใกล้ๆจากที่ยืนคุยกันอยู่เมื่อสักครู่นี้
“เจ้าขาไปเดินซื้อของที่เหลือให้แม่ดีกว่าค่ะ”
“เออ...ก็ดีลูกจะได้เสร็จเร็วๆ” ฉันเดินออกไปจากตรงนี้ ปล่อยให้คนแก่เขาคุยกันไป ฉันเป็นเด็กไม่อยากฟัง...
“บัวว่าไง...”
“ว่าอะไรคะ”
“ก็ลูกสาวเธอไง ยกให้พี่นะ เดี๋ยวจะดูแลให้เป็นอย่างดีเลย เรียนจบแล้วไม่ใช่เหรอ”
“เพิ่งจบพี่ แต่เรื่องแต่งงานฉันคงต้องถามลูกก่อน พักนี้แกซึมๆคงเป็นเพราะเพิ่งเลิกกับแฟนนั่นแหละ นี่ก็เพิ่งจะยอมออกจากห้องมา”
“ลูกชายพี่เป็นถึงเจ้าของสวนองุ่น แถมยังมีโรงไวน์ใหญ่โต ไม่สนใจอยากได้ไปเป็นลูกเขยเหรอ”
“โฆษณาขนาดนี้ พี่พรมีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ”
“คืออย่างนี้...ไอ้ภูมิมันทำแต่งาน ไอ้พี่น่ะก็อยากมีหลาน อยากเห็นลูกชายมีเมียอยู่กันเป็นครอบครัว แต่มันไม่ยอมหา แฟนก็ไม่เคยมี พี่ก็เลยว่าจะหาให้มันน่ะ” อ๋อ...เป็นแบบนี้นี่เอง
“แล้วลูกชายพี่พรจะชอบจะรักลูกสาวฉันเหรอ”
“อยู่ๆกันไปเดี๋ยวก็ชอบกันเองนั่นแหละ หนูเจ้าขาน่ารักขนาดนี้ ผู้ชายที่ไหนจะอดใจไหน เธอว่ามั้ย”
ฉันซื้อของที่เหลือเสร็จจึงเดินกลับมา เห็นแม่บัวกับป้าพรยังคุยกันไม่เสร็จอีก
“โน่น...เจ้าตัวเดินหน้าเป็นตูดมาโน่นแล้วถามเลย ลูกว่ายังไง ฉันก็ว่าอย่างนั้น” ระหว่างที่ฉันเดินผ่านร้านขายหมูของแม่ภพ ภพคือแฟนเก่าของฉันเอง เจอมันกำลังหยอกเย้าจับแก้มยิ้มหวานอยู่กับลูกสาวร้านขายผักพอดี เห็นแล้วอารมณ์ขึ้นเลย เจ็บจี๊ด! ที่จริงฉันไม่ควรจะรู้สึกอะไรแต่มันอดไม่ได้จริงๆ
“หนูเจ้าขาจ๊ะ ป้าอยากได้หนูมาเป็นลูกสะใภ้ หนูสนใจจะแต่งงานกับลูกชายป้ามั้ย สินสอดไม่อั้น อยากได้เท่าไหร่เรียกมาได้เลย”
“เอ่อ...” ฉันหันไปมองหน้าแม่
“ว่ายังไงล่ะ ป้าเขาถาม” ฉันหันกลับไปมองหน้าป้าพรที่กำลังส่งยิ้มมาให้ฉันอีกครั้ง
“ลูกชายป้าพรเจ้าชู้หรือเปล่าคะ”
“ไม่เลยจ่ะ ข้อนี้ป้ารับประกันได้ มันไม่เคยมีแฟนเลยด้วยซ้ำ”
“ตกลงค่ะ”
“ห๊ะ!! หนูพูดจริงเหรอลูก” ป้าพรถามย้ำ
“ค่ะ”
“เจ้าขา...หนูคิดดีแล้วเหรอลูก พูดกับผู้ใหญ่พูดเล่นไม่ได้นะ” แม่บัวสะกิดแขนฉันยิกๆ
“ค่ะ ถ้าไม่เจ้าชู้เจ้าขาโอเค เจ้าขาเกลียดผู้ชายเจ้าชู้!” ภาพเมื่อสักครู่ยังคงติดตาติดใจอยู่เลย ทุเรศสิ้นดี!
“ถ้าอย่างนั้น พรุ่งนี้เช้าพี่จะไปหาเธอที่บ้าน ไปคุยเรื่องนี้กันให้เรียบร้อย”
“เอาอย่างนั้นก็ได้ค่ะ”
“พี่กลับก่อนนะ” และแล้วป้าพรก็เดินออกไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“เจ้าขา! รู้ตัวหรือเปล่าว่าพูดอะไรออกไป”
“รู้ค่ะ ผู้ชายสมัยนี้ หาไม่เจ้าชู้ได้จากที่ไหนคะ ถ้าผู้ชายคนนั้นไม่เจ้าชู้ เจ้าขายินดีใช้ชีวิตร่วมกับเขาค่ะ”
“แล้วรู้หรือเปล่าว่ากลับคำไม่ได้แล้วนะ”
“เจ้าขาคิดน้อยไปเหรอคะ” ช่างเถอะ...
“รู้ตัวหรือเปล่าว่าหนูกำลังประชดตัวเองอยู่ เคยเห็นหน้าพี่เขาแล้วเหรอ เคยศึกษานิสัยใจคอกันแล้วหรือไง ถึงได้พูดกับผู้ใหญ่ออกไปแบบนั้น” ฉันกำลังโดนแม่บัวตำหนิ
“ขอให้ไม่เจ้าชู้อย่างเดียวก็พอแล้วค่ะ”
“แล้วแต่หนูแล้วกัน”
“ป้าพร...เป็นคนยังไงคะ”
“ป้าพรก็เป็นผู้ใหญ่ที่ดีคนหนึ่งนั่นแหละ แต่ชีวิตคู่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ สามีมีเมียน้อยตลอด”
“นั่นไงเห็นมั้ย ผู้ชายเจ้าชู้โคตรเยอะ แล้วตอนนี้คุณลุงไปไหนแล้วล่ะคะ” ฉันหมายถึงสามีของป้าพร
“เสียไปนานแล้วลูก เราอย่าไปพูดถึงครอบครัวเขาเลย กลับบ้านกันดีกว่า ซื้อของครบแล้วใช่มั้ย”
“ค่ะ”
แค่เพียงสบตาความปรารถนาอันร้อนแรงของเขาก็ได้ก่อตัวขึ้น ในเมื่อแต่งงานกันแล้ว เขาย่อมมีสิทธิ์ในตัวเธอทุกประการ
คืน One Night Stand ของมาเฟียอิตาลีกับยัยขี้เมา เช้าวันนั้นเธอหายไป เขาจึงออกตามหา แต่เมื่อได้เจอกันเธอกลับจำหน้าเขาไม่ได้
เรื่อง...คุณหมอสะดุดรัก คำโปรย พริ้งพราวเพื่อนลากให้ไปเที่ยวผับแต่เธอดันถูกยาปลุกเซ็กเข้า แล้วบังเอิญมาเจอกับเขา คุณหมอหนุ่มวัย35ปี แล้วคุณหมอจะมีวิธีช่วยเธออย่างไร... แนะนำตัวละคร วายุภักษ์ ภักดีวัฒนากุล (วายุ) อายุ 35 ปี เขาเป็นผู้ชาย ขี้เล่น อารมณ์ดี และที่สำคัญเขายิ้มเก่งมากๆ วายุเป็นผู้บริหารโรงพยาบาลสาขาที่เชียงใหม่และยังพ่วงด้วยตำแหน่งคุณหมอโรคหัวใจ เขาเป็นลูกชายคนโตของ เจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่มีสาขาอยู่หลายแห่งของประเทศไทย วายุมีความจำเป็นต้องย้ายมาจากสาขาที่เชียงใหม่ เพราะน้องชายที่ประจำอยู่เกิดอุบัติเหตุ วายุเลยมาประจำอยู่สาขาที่กรุงเทพแทนเป็นการชั่วคราว กมลเนตร ธนพัฒน์ธาดา (พริ้งพราว) หญิงสาวบริสุทธิ์ อายุ 24 ปี ทำงานในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพ และเหตุการณ์ในวันนั้นทำให้เธอกับเขาอยู่ด้วยกันและค่อยๆ สนิทกัน เหนือเมฆ ภักดีวัฒนากุล (เมฆ) น้องชายคนเดียวของวายุ ตั้งแต่เขาประสบอุบัติเหตุเดินไม่ได้ เขาก็กลายเป็นคนอารมณ์ร้อน พยาบาลพิเศษที่จ้างมาดูแล ไม่มีใครสามารถอยู่กับเขาได้ จนได้มาเจอกับ...ข้าวหอม ศศินาทิพย์ คงเจริญ (ข้าวหอม) พยาบาลจบใหม่ เธออยู่ในช่วงทดลองงาน ถูกทางโรงพยาบาลขอร้องให้ไปดูแลคนป่วยที่บ้านตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีเงื่อนไข และเงื่อนไขนั้นทำให้เธอยอมตอบตกลงรับทำงานนี้ @@@@@@
เรื่อง...พ่อม่ายกับยัยพี่เลี้ยง คำโปรย...นักธุรกิจหนุ่มลูกติด มีปมชีวิตความใสซื่อและความดีของเธอทำให้เขาสนใจ ส่วนลูกชายที่ไม่ยอมไปโรงเรียนเพราะโดนเพื่อนล้อว่าไม่มีแม่ อยากได้เธอมาเป็นแม่ซึ่งเขาก็เห็นด้วยกับลูกชายเช่นกัน แนะนำตัวละคร คุณอาทิตย์ เจริญเดชาพงษ์ (คุณอาทิตย์) หนุ่มหล่อรวย เป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้ากลางใจเมือง และยังมีธุรกิจ ผลิต นำเข้า และส่งออก เกี่ยวกับสิ่งอิเล็กทรอนิกส์ รายใหญ่ที่สุดในประเทศอีกด้วย แต่อาทิตย์เขามีลูกติดชื่อน้องเกียร์เป็นเด็กผู้ชายอายุสามขวบ แม่เสียชีวิตตอนคลอดน้องเกียร์ออกมาได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เพราะเธอเสียเลือดมาก นันทิชา มงคลสวัสดิ์ (มิรา) หญิงสาวที่พึ่งเรียนจบมาใหม่ๆ เธอตกงาน ที่บ้านกำลังลำบาก เธอออกหางานทำเพราะต้องส่งน้องเรียน น้องเธออยู่มัธยมต้น เป็นผู้หญิงชื่อลิลิน พ่อแม่เสียไปนานแล้ว เหลือกันอยู่แค่สองคนพี่น้อง โดยได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านถึงรอดมาถึงทุกวันนี้ได้
เรื่อง...คุณหมออาสากับยัยเด็กบนดอย โปรย...ความรักมันไม่ได้เกี่ยวกับอายุ...แต่มันเกี่ยวอยู่ที่ใจ เขาไม่อยากมีลูกเพราะฉะนั้นเขาก็เลยไม่คิดที่จะมีเมีย ความรักเป็นเรื่องตลกไม่มีเขาก็อยู่ได้ แนะนำตัวละคร แสงเหนือ หรือ หมอแสง อายุ 32 ปี นิสัย ปากร้าย อารมณ์ดี ขี้เล่น อบอุ่นและขี้หึงสุดๆ แต่เขาไม่อยากมีลูกเพราะฉะนั้นเขาก็เลยไม่คิดที่จะมีเมีย ความรักเป็นเรื่องตลกไม่มีเขาก็อยู่ได้ ปิ่นงาม หรือ ปิ่น อายุ 20 ปี เธอสวย เก่ง เธอใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่บนดอยสูง เธอมีความสุขตามอัตภาพของเธอ แต่แล้วชีวิตของเธอก็ได้เปลี่ยนไปเมื่อมีเขาเดินเข้ามา ************* (เรื่องนี้เขียนต่อจากเรื่อง...คุณหมอเจ้าแผนการ) ปล.นิยายเรื่องนี้ทุกเหตุการณ์เป็นการสมมุติขึ้นทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเป็นอยู่ ศาสนา วัฒนธรรม หรืออะไรก็แล้วแต่ในเนื้อหาของเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้แต่งที่สมมุติขึ้นทั้งสิ้น
ความสวยสะดุดตา ความสดใสสะดุดใจ ปากที่บอกว่ายังไม่อยากมีใคร แต่ในใจกลับอยากได้เธอมาครอบครอง
หลังจากดูแลสามีมาเป็นเวลาสามปี เมื่อเห็นสามีสอบติดขุนนาง เฉียวชูเยว่ก็นึกว่าชีวิตดีๆ จะมาแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าสามีเป็นคนโลภ และเจ้าชู้ เพื่อจัดการปัญหาให้สามี เฉียวชูเยว่เสียตัวให้กับจักรพรรดิโหดร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อชีวิตและอนาคตของสามี นางได้แต่อดทนเอาไว้ จากนั้น สามีของนางก็ได้รับการยกย่องจากจักรพรรดิ และถูกเลื่อนตำแหน่งเรื่อยๆ เมื่อสามีของนางกำลังเพลิดเพลินอำนาจและสาวสวยนั้น นางกำลังรับใช้กับจักรพรรดิอย่าง้อยใจ แต่ไม่คาดคิดว่าความพยายามของนางได้แลกกับใบหย่าจากสามี ในวันแต่งงานของสามี นางถูกฆาตกรไล่ตามและตกลงไปในโคลน เมื่อนางหมดหวังนั้น จักรพรรดิก็มายืนอยู่ตรงหน้านาง "มาเป็นคนของข้าสิ และจะไม่มีใครกล้ารังแกเจ้าอีก!"
วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
อารียา ถูกโชคชะตาชักนำไปสู่บทพิศวาสที่แสนเร่าร้อนบนความเข้าใจผิด ก่อเกิดเป็น ‘รักต้องห้าม’ ที่ไม่อาจต้านทานได้ แล้ว ชีควาคิล จะทำเช่นไร ที่จะทำให้ยอดหญิงที่เป็นดั่งดวงหฤทัย กลายเป็น ‘รักเดียว ตลอดกาล’ มันคงไม่ยากนัก หาก ‘เขา’ ซึ่งเป็นถึงองค์รัชทายาทจะทรงต้องการ ‘นางสนมในฮาเร็ม’ เพิ่มอีกสักคน ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ ‘เธอ’ ครูสอนภาษาที่เป็นดังกุหลาบงามที่ซ่อนหนามแหลมเอาไว้ภายใน แม้จะทรงมีอำนาจเหนือใคร ก็อย่าหมายมารังแกเธอได้ง่ายๆ แต่ทว่าเขากำลังถือ ‘ไพ่’ เหนือเธอ จึงทรงบังคับขืนใจด้วยไฟแค้น พันธนาการเธอเอาไว้ด้วยเพลิงพิศวาสที่แสนหวาน แล้วครูสาวไร้เดียงสาอย่างอารียา จะสามารถต้านทานบทสวาทขั้นเทพของชีคหนุ่มผู้กระหายในรสรักได้อย่างไร “อ๊ะ...ท่านชีค” เสียงหวานๆ ครางแผ่วออกมาอย่างลืมอายเมื่อท่านชีคผู้แสนจัดเจนในสนามรัก งัดกลยุทธพิชิตกายสาวออกมาใช้กับหญิงสาวอย่างไม่หมกเม็ด เจ้าของเรือนร่างงดงามดุจรูปปั้นเปลือยเปล่าของนักรบเทพเจ้ากรีก ได้จุดประกายไฟพิศวาสให้ลามเลียไปทั่วร่างร้อนผ่าวที่พร้อมจะติดไฟรักได้ทุกเมื่อ แล้วเมื่อใบหน้าหล่อเหลาดุจเทพบุตรแห่งสวรรค์ ฝังจมูกลงมาบนช่อดอกรักอวบอูมกลางกายสาว คนใต้ร่างก็ไม่อาจกลั้นใจ “ท่านชีค อย่าค่ะ ไม่...โอว” ร่างบอบบางบิดเร่าๆสะท้านไหว กลีบดอกไม้ลู่ไปตามทิศทางลมที่พัดโหมจนกลายเป็นพายุสวาทลูกใหญ่ซัดกระหน่ำแทรกลึกซอกซอนเข้าไปยังกลีบดอกรักแสนสวยจนเกสรสีหวานสั่นระรัวและบวมเป่งเพราะอารมณ์เสน่หา
นุชพินตา ควรเป็นเจ้าสาวที่น่าอิจฉาที่สุดที่ได้แต่งงานกับ ปุลวัชร เจ้าบ่าวที่ทั้งหล่อ รวย เนื้อหอม เป็นเจ้าชายในฝันของสาวๆ ทั้งเมือง แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าบ่าวในฝันนั้น...ทั้งไร้หัวใจ และไม่ได้รักเธอสักนิด! การแต่งงานที่ไร้รัก อยู่กันไปก็มีแต่เจ็บปวดเท่านั้น แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเธอไม่อาจปฏิเสธ แม้จะต้องถูกเขาทำร้ายหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะทำอย่างไรหากใจที่ไม่คิดปรารถนารักกลับอยากได้ความรักจากเขา ------------------------------ “เธอเคยนอนกับผู้ชายหรือเปล่า” เขาถามออกมาจากปากร้าย ตอนที่เธอได้ยินถึงกับสะอึก ไม่คิดว่าเขาจะถามตรง ๆ และในนาทีต่อมา นุชพินตาก็รู้สึกโกรธมาก หญิงสาวโต้เขากลับ “ทำไมผู้ชายดี ๆ การศึกษาดี ๆ ถึงได้พูดจาแบบนี้คะ มาพูดดูถูกกัน เมื่อกี้ก็หาว่าพวกเราขายตัว และตอนนี้ยังมากล่าวหาฉันอีกว่าฉันสำส่อน คุณถามคำถามแบบนี้กับผู้หญิงทุกคน ที่คุณเคยนอนด้วยหรือยังไงคะ” ความเจ็บปวดระบายออกมาทางสายตา เขาเป็นบ้าอะไรกันนี่ คำพูดแบบนี้มาจากสันดานข้างในหรือเพราะว่าเขาเมา “แล้วเธอเคยมีอะไรกับผู้ชายหรือเปล่าล่ะ” เขาย้ำอีกครั้ง จ้องสบตาด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ “ปากร้าย ประโยคนี้คุณไม่ควรถามออกมาด้วยซ้ำไป” จากที่เรียกเขาว่าพี่ปุ่น ชักขุ่นและมีอารมณ์โมโหขึ้นมาเปลี่ยนสรรพนามที่คนฟังก็รู้ว่าห่างเหิน “ผู้หญิงที่ดี ๆ ที่ไหน จะตอบตกลงแต่งงานกันชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่คิด เวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น” “แล้วมันยังไงคะ” นุชพินตาก็ไม่ยอมเหมือนกัน “เธออาจจะเป็นมือสองก็ได้” ‘เมื่อคืนเขาไปนอนที่ไหน แล้วไปนอนกับใคร’ ‘อ้อ… ก็คงจะเป็นผู้หญิงคนนั้นสินะ’ ดวงตาเศร้าลง เธอลุกขึ้นไปเปิดม่านหน้าต่าง และมองออกไปยังท้องทะเล แสงอาทิตย์กระทบกับระลอกคลื่นที่ไล่เรียงกันกระทบเข้าฝั่ง นุชพินตาถึงกับถอนหายใจดังเฮือก ‘ฉันมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ มาให้เขาย่ำยีเล่นใช่หรือไม่’ เฝ้าถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ‘ยะหยาอย่าเสียใจไปเลยนะ เธอต้องทำตัวเองให้เข้มแข็ง แข็งแรงเถอะ ในเมื่อเธอก็ไม่ได้รักเขาเหมือนกัน’ คำพูดปลอบโยนตัวเอง ‘ใช่… ฉันไม่ได้รักเขา และจะเกลียดเขาให้มากกว่านี้’ เธอตอกย้ำคำนี้เข้าไปในหัวใจของตัวเองด้วยความมุ่งมั่นและสายตาที่แน่วแน่ แม้จะรู้สึกเจ็บแน่นในหัวอก ------------------------------ “ฉันจะหย่ากับเธอ” เขาเอ่ยอย่างใจดำ หญิงสาวถึงกับใจหล่นวูบ เธอเม้มขบริมฝีปาก กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว นุชพินตาพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว “นางผู้หญิงไร้ยางอาย แพศยาฉันเกลียดผู้หญิงหลายใจ ฉันเกลียดผู้หญิงที่นอกใจ ไปให้พ้นจากบ้านของฉัน ไปให้พ้นจากหน้าฉัน พรุ่งนี้จะให้ทนายทำใบหย่า” “พี่ปุ่นคะ” เธอยกมือขึ้นมาไหว้เขาปลก ๆ “เราสองคนเพิ่งแต่งงานกันเองนะคะ ยะหยาไม่อยากให้คุณลุงและคุณย่าเสียใจ” “แต่สิ่งที่เธอทำล่ะ มันน่าอาย แล้วเธอไม่ละอายบ้างเหรอ หน้าด้าน” เขามีอาการเสียใจ และหัวเสีย นุชพินตาเอง เธอไม่คิดว่าปุลวัชรจะปากร้ายด่าทอเธอได้ถึงเพียงนี้ “ฉันจะหย่ากับเธอแน่นอน เตรียมปากกาไว้เซ็นใบหย่าในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” พูดจบ เขาเดินเข้าไปใช้มือปัดแจกันที่อยู่ใกล้ และชกบานกระจกที่ใช้ตกแต่งอยู่ในห้องโถงด้วย จนกระจกแตกละเอียดทั้งบาน มือของปุลวัชรมีเลือดไหลซึม เขาจะเดินเข้าห้องทำงานและปิดประตูตามหลังดังโครม นุชพินตาตกใจ และหวาดกลัวกับสิ่งที่เธอได้เห็น ความดีใจที่สามีจะกลับมา เธอจะบอกข่าวดีเขา และกินข้าวด้วยกัน ได้มลายหายไปสิ้น มีเพียงความเศร้าเข้ามาทับถมอยู่ในจิตใจของนุชพินตา แล้วหญิงสาวยกมือขึ้นมาปิดหน้าปิดตาปล่อยโฮ
ทะลุมิติมาในนิยายยุค 80 ว่ายากลำบากแล้วเธอยังต้องมาเลี้ยงลูกแฝดและวางแผนหนีชะตาชีวิตที่นักเขียนระบุให้ตายอย่างทรมานภายใต้เงื้อมมือของพ่อตัวร้ายอีก สวรรค์!ยังจะมีตัวละครทะลุมิติใดบัดซบเท่าเธออีกหรือไม่