เรื่อง...คลั่งรักยัยแว่นข้างห้อง คำโปรย ความสัมพันธ์(รัก)ระหว่างเขากับเธอ เกิดสะดุด เมื่อเขามีตัวจริงที่ไม่ใช่เธอ แนะนำตัวละคร อิทธิพล (คุณอิท) อายุ 28 ปี สถาปนิกหนุ่มชื่อดัง เขาหล่อ สายเปย์ ขี้แกล้ง อารมณ์ดี ถึงเขาจะเจ้าเล่ห์ แต่เขาก็จริงใจ มัทนา (มาย) อายุ 21 ปี นักศึกษาปี 4 เธอสวย ขี้กลัว หัวใจที่ไม่เคยมอบให้ใครมาก่อน ต้องจำยอมต่อความดีที่เขามีให้ @@@@@@ นิยายเรื่องนี้ : โรมานซ์ ฟีลกู๊ด เหมือนเดิมนะคะ
ตอนที่ 1 พบเจอ
อิทธิพล สถาปนิกหนุ่มชื่อดัง เพิ่งสร้างเนื้อสร้างตัว มีบริษัทเล็กๆเป็นของตัวเอง รับออกแบบตกแต่งทั่วไป ตั้งแต่งานเล็กไปจนถึงงานขนาดกลาง ค่อนข้างมีชื่อเสียงอยู่ในขณะนี้
“ไปคิดมาใหม่ ผมว่าแบบที่คุณทำมามันยังไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร ผมคิดว่าคุณน่าจะทำได้ดีกว่านี้นะ” มาตรฐานเรื่องงานสำหรับเขาแล้วค่อนข้างสูง งานทุกชิ้นต้องออกมาดีที่สุด รายละเอียดผิดพลาดเล็กๆน้อยๆก็แทบไม่มีให้เห็น ลูกน้องที่นี่อาจจะทำงานลำบากหน่อย แต่เงินดีมาก
“ครับ พรุ่งนี้ผมจะเอาแบบมาเสนอใหม่ครับ”
“อือ...ได้เวลาเลิกงานแล้ว แยกย้ายกลับไปพักผ่อนกันเถอะ”
“ครับ/ค่ะ” อิทธิพลเดินออกจากบริษัทฝ่ารถติดบนท้องถนน กว่าจะมาถึงที่พักก็ใช้เวลาพอสมควร เขาพักอยู่ที่คอนโดแห่งหนึ่งไม่ใกล้ไม่ไกลจากบริษัทมากนัก คอนโดที่เขาอยู่เขาซื้อไว้นานแล้ว อยู่มาหลายปีตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆ
มัทนา หรือ มาย แต่เพื่อนๆมักจะเรียกเธอว่าไอ้แว่น เธอสายตาสั้น ใส่แว่นหนา ถ้าไม่มีแว่นเธอจะมองไม่ชัดเลย แว่นสายตาจึงเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเธอ
มัทนามีเพื่อนที่สนิทมากๆอยู่สามคน คนแรกชื่อมด คนที่สองชื่อน้ำ และคนที่สามชื่อฟ้า รวมตัวเธอด้วยเป็นสี่คน กำลังนั่งรถมาด้วยกัน โดยมีมดเป็นคนขับรถให้เพื่อนๆนั่ง
“ไอ้แว่น...เพื่อนๆมีแฟนกันหมดแล้ว เมื่อไหร่มึงจะยอมมีสักที” น้ำนั่งอยู่ที่เบาะด้านหน้าข้างคนขับ หันหลังไปคุยกับเพื่อนที่นั่งอยู่ด้านหลัง ฟ้านั่งอยู่ที่เบาะด้านหลังกับมัทนา พยักหน้าเห็นด้วยกับสิ่งที่น้ำพูด
“แม่กูบอกว่าเรียนให้จบก่อน” มัทนาไม่อยากให้แม่เป็นห่วง เธอจึงไม่เคยมองผู้ชายคนไหนมาก่อน ถึงแม้ว่าจะมีผู้ชายเข้ามาจีบเธอเป็นจำนวนมากแต่เธอก็ไม่เคยสนใจใคร แว่นสายตาที่เธอสวมใส่อยู่ ไม่สามารถปิดบังความสวยของเธอได้
“เป็นเด็กดีเชื่อแม่ แหม...กูจะบอกอะไรให้นะ ถ้ามึงพ้นจากรั้วมหาลัยไปแล้ว ผู้หญิงอย่างเราอาจจะขึ้นคานได้เลยนะ” มดที่กำลังทำหน้าที่ขับรถอยู่ในขณะนี้ขอพูดขึ้นมาบ้าง
“ทำไม...”
“อ้าวอินี่...มึงคิดว่าผู้ชายเขาจะอยู่รอมึงเหรอ เห็นเดินๆอยู่เนี่ยมีเจ้าของเกือบหมด ที่เหลือจริงๆก็ไม่ไหวจะเอา” พวกเธอมีความเชื่อที่ว่า ผู้ชายวัยทำงานส่วนมากมักจะมีครอบครัวกันเกือบหมดแล้ว ผู้ชายยังอยากได้ผู้หญิงมือหนึ่ง ผู้หญิงอย่างเธอก็เช่นกัน มือสองไม่ว่าแต่ถ้ามีของแถมด้วยนี่สิ!
“ช่างเถอะ กูอยู่คนเดียวได้”
“มึงอยู่คนเดียวไม่ได้!!!” เพื่อนๆทั้งสามคน ผสานเสียงกันดังขึ้นทันที เนื่องจากว่ามัทนาเป็นคนขี้กลัว อะไรนิดอะไรหน่อยก็กลัว ทุกคนที่สนิทกับเธอจะรู้ดี
“เออน่า...ถึงคอนโดกูแล้ว ขอบใจพวกมึงมากที่มาส่งพรุ่งนี้เจอกัน”
“มีอะไรโทรหาได้ตลอด หรือถ้าอยากให้พวกกูมานอนเป็นเพื่อนก็บอกได้นะ”
“กูจะเลิกกลัวแล้ว แล้วกูก็จะต้องนอนคนเดียวให้ได้ พวกมึงคอยดู” เมื่อก่อนอยู่ห้องเช่าที่เดิมเพื่อนๆมักจะพลัดกันมานอนเป็นเพื่อนมัทนาอยู่บ่อยครั้ง แต่ถ้าช่วงไหนเพื่อนๆของเธอติดผู้ชาย เธอก็จะกลับไปนอนกับแม่ที่บ้าน แต่ระยะทางมาเรียนค่อนข้างไกล ต้องตื่นแต่เช้า ซึ่งเธอขี้เกียจตื่น
"ย่ะ! พวกกูไปก่อนนะ"
“บ๊ายบาย...” มัทนาเปิดประตูรถลงมายืนโบกมือบ๊ายบายให้เพื่อนๆด้วยรอยยิ้ม จากนั้นมดก็ได้ทำหน้าที่ขับรถออกไป มัทนาจึงหมุนตัวเดินเข้าคอนโดที่เธอเพิ่งย้ายเข้ามาอาศัยอยู่
มัทนาย้ายมาอยู่ห้องใหม่ได้สองสามวันแล้ว เนื่องจากว่าห้องเก่าเสียงรบกวนค่อนข้างดัง ปีนี้เป็นปีสุดท้ายของการเป็นนักศึกษา ซึ่งเธอจะต้องอ่านหนังสือหนักมากๆ เธอจึงเลือกที่จะย้ายเข้ามาอยู่ในคอนโด ได้ทั้งความเงียบสงบและความปลอดภัย
“รอด้วยค่ะ รอด้วย” ลิฟต์กำลังจะปิดลง เธอจึงร้องขอให้คนที่อยู่ด้านในลิฟต์ช่วยกดปุ่มให้ประตูลิฟต์เปิดออกอีกครั้ง แต่แล้วประตูก็ปิดลงต่อหน้าต่อตา
“แล้งน้ำใจ!” เธอบ่นออกมาเสียงดัง ทันใดนั้นประตูลิฟต์ก็ได้เปิดออก สิ่งที่เห็นคือผู้ชายตัวสูงแต่งตัวดีใบหน้าหล่อเหลายืนอยู่ที่ด้านในลิฟต์คนเดียว...เขาน่าจะได้ยิน!
“จะเข้ามั้ย” เสียงทุ่มเอ่ยถาม นั่นจึงทำให้มัทนาได้สติ
“อ๋อๆ ไปค่ะ” เธอก้าวเท้าเข้าไปด้านใน ทันใดนั้นประตูลิฟต์ก็ปิดลงโดยอัตโนมัติ เธอแอบมองไปยังชั้นที่คนข้างๆเธอกำลังจะขึ้นไป...มันคือชั้นเดียวกันกับเธอ
“อยู่ชั้นไหน” เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง เขาคงเห็นว่ามัทนายังไม่ได้กดเลือกชั้นที่จะต้องขึ้นไปสักที
“ชั้นเก้าค่ะ” ชั้นเดียวกัน! หลังจากตอบคำถามเสร็จ ทั้งสองก็ยืนเงียบจนประตูลิฟต์เปิดออกอีกครั้งที่ชั้นเก้า
อิทธิพลรอให้ผู้หญิงเพียงคนเดียวในลิฟต์เดินออกไปก่อน ตามมารยาทที่สุภาพบุรุษควรจะทำ
ซึ่งมัทนาเองก็รู้สึกได้ว่าเขารอให้เธอเดินออกไปก่อน ขาเรียวก้าวเดินออกไป โดยมีชายหนุ่มสาวเท้าก้าวตามไปติดๆ
มัทนาเริ่มใจคอไม่ค่อยดี รู้สึกเหมือนเขาคนนี้ กำลังเดินตามเธอยังไงก็ไม่รู้ ซึ่งในขณะนี้ไม่มีคนอื่นเลยนอกจากเธอกับเขาแค่สองคน บรรยากาศวังเวงน่ากลัว เคยอยู่แต่ที่มีผู้คนพลุกพล่านจนเคยชิน พอมาเจอเงียบๆแบบนี้มัทนารู้สึกไม่ค่อยชิน
ด้วยความที่เธอรู้สึกกลัว เธอจึงไม่กล้าที่จะหันหลังไปมอง แต่ก็พยายามก้าวเท้าเดินเร็วๆ ซึ่งเธอก็ยังคงรู้สึกว่าเขาคนนี้ยังคงเดินตามเธอไม่ยอมเลิก
จนเธอเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องของตัวเอง ห้อง 923 เธอหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้อง ก้มหน้าหาคีย์การ์ดในกระเป๋า ตอนนี้เธอกำลังรู้สึกว่าฝีเท้าที่เดินตามเธอมานั้น ได้หยุดลงแล้ว ตอนนี้เธอเริ่มกลัวมากขึ้นไปอีก มือไม้เริ่มสั่น เธอเงยหน้าขึ้นแล้วกำลังจะอ้าปากด่า แต่!! ประตูห้องข้างๆก็ได้เปิดออก เขาคนที่เดินตามเธอมา ได้หายเข้าไปในห้องนั้น
“อ้าว...อยู่ห้องติดกับเราเหรอวะเนี่ย ใจหายใจคว่ำหมด!” หัวใจที่กำลังเต้นแรงไม่เป็นจังหวะด้วยความกลัวเมื่อสักครู่ค่อยๆเริ่มดีขึ้น
ห้องเธอ 923 ห้องเขา 922 ถ้าเดินเข้ามาห้องเขาจะถึงก่อนห้องเธอ มัทนาเปิดประตูห้องด้วยคีย์การ์ดแล้วเดินเข้าห้องของตัวเองไปเช่นกัน
ห้องที่มัทนาอยู่เป็นห้องเช่า ส่วนห้องที่อิทธิพลอยู่เป็นห้องซื้อ ทั้งสองไม่เคยเห็นหน้าหรือเจอกันมาก่อน
“คนอะไรวะ น่ากลัวจัง” เธอเดินเข้ามาในห้อง บ่นพึมพำอยู่คนเดียว เธออาบน้ำอาบท่าเสร็จก็เตรียมตัวอ่านหนังสือ จับหนังสือกำลังจะอ่าน แต่แล้วในสมองของเธอกลับนึกถึงผู้ชายข้างห้องไม่ยอมเลิก ใบหน้าและน้ำเสียงของเขาดูดุ จนเธอนึกกลัวไม่หาย มัทนาสะบัดศีรษะแรงๆไล่สิ่งที่คิดอยู่ในหัว จากนั้นเธอจึงลงมืออ่านหนังสือต่อ...
ทางด้านอิทธิพล เขากำลังนั่งนึกถึงผู้หญิงสวมชุดนักศึกษารัดรูปใส่แว่น ที่เจอกันในลิฟต์เมื่อสักครู่ เธอว่าเขาเสียงดังที่หน้าลิฟต์ ทำไมเขาจะไม่ได้ยิน ในใจนึกไม่ค่อยพอใจเธอสักเท่าไหร่ อีกใจก็ไม่อยากถือสาเด็ก
แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ใบหน้าจิ้มลิ้มปากนิดจมูกหน่อยของหญิงสาวตัวเล็กคนนั้น ถึงได้กวนใจเขาไม่เลิก สลัดเท่าไหร่ก็ไม่ยอมหลุด ในใจบอกว่าไม่ถือสาเด็ก แต่ทำไมถึงได้หงุดหงิดขนาดนี้
แค่เพียงสบตาความปรารถนาอันร้อนแรงของเขาก็ได้ก่อตัวขึ้น ในเมื่อแต่งงานกันแล้ว เขาย่อมมีสิทธิ์ในตัวเธอทุกประการ
คืน One Night Stand ของมาเฟียอิตาลีกับยัยขี้เมา เช้าวันนั้นเธอหายไป เขาจึงออกตามหา แต่เมื่อได้เจอกันเธอกลับจำหน้าเขาไม่ได้
เรื่อง...คุณหมอสะดุดรัก คำโปรย พริ้งพราวเพื่อนลากให้ไปเที่ยวผับแต่เธอดันถูกยาปลุกเซ็กเข้า แล้วบังเอิญมาเจอกับเขา คุณหมอหนุ่มวัย35ปี แล้วคุณหมอจะมีวิธีช่วยเธออย่างไร... แนะนำตัวละคร วายุภักษ์ ภักดีวัฒนากุล (วายุ) อายุ 35 ปี เขาเป็นผู้ชาย ขี้เล่น อารมณ์ดี และที่สำคัญเขายิ้มเก่งมากๆ วายุเป็นผู้บริหารโรงพยาบาลสาขาที่เชียงใหม่และยังพ่วงด้วยตำแหน่งคุณหมอโรคหัวใจ เขาเป็นลูกชายคนโตของ เจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่มีสาขาอยู่หลายแห่งของประเทศไทย วายุมีความจำเป็นต้องย้ายมาจากสาขาที่เชียงใหม่ เพราะน้องชายที่ประจำอยู่เกิดอุบัติเหตุ วายุเลยมาประจำอยู่สาขาที่กรุงเทพแทนเป็นการชั่วคราว กมลเนตร ธนพัฒน์ธาดา (พริ้งพราว) หญิงสาวบริสุทธิ์ อายุ 24 ปี ทำงานในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพ และเหตุการณ์ในวันนั้นทำให้เธอกับเขาอยู่ด้วยกันและค่อยๆ สนิทกัน เหนือเมฆ ภักดีวัฒนากุล (เมฆ) น้องชายคนเดียวของวายุ ตั้งแต่เขาประสบอุบัติเหตุเดินไม่ได้ เขาก็กลายเป็นคนอารมณ์ร้อน พยาบาลพิเศษที่จ้างมาดูแล ไม่มีใครสามารถอยู่กับเขาได้ จนได้มาเจอกับ...ข้าวหอม ศศินาทิพย์ คงเจริญ (ข้าวหอม) พยาบาลจบใหม่ เธออยู่ในช่วงทดลองงาน ถูกทางโรงพยาบาลขอร้องให้ไปดูแลคนป่วยที่บ้านตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีเงื่อนไข และเงื่อนไขนั้นทำให้เธอยอมตอบตกลงรับทำงานนี้ @@@@@@
เรื่อง...พ่อม่ายกับยัยพี่เลี้ยง คำโปรย...นักธุรกิจหนุ่มลูกติด มีปมชีวิตความใสซื่อและความดีของเธอทำให้เขาสนใจ ส่วนลูกชายที่ไม่ยอมไปโรงเรียนเพราะโดนเพื่อนล้อว่าไม่มีแม่ อยากได้เธอมาเป็นแม่ซึ่งเขาก็เห็นด้วยกับลูกชายเช่นกัน แนะนำตัวละคร คุณอาทิตย์ เจริญเดชาพงษ์ (คุณอาทิตย์) หนุ่มหล่อรวย เป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้ากลางใจเมือง และยังมีธุรกิจ ผลิต นำเข้า และส่งออก เกี่ยวกับสิ่งอิเล็กทรอนิกส์ รายใหญ่ที่สุดในประเทศอีกด้วย แต่อาทิตย์เขามีลูกติดชื่อน้องเกียร์เป็นเด็กผู้ชายอายุสามขวบ แม่เสียชีวิตตอนคลอดน้องเกียร์ออกมาได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เพราะเธอเสียเลือดมาก นันทิชา มงคลสวัสดิ์ (มิรา) หญิงสาวที่พึ่งเรียนจบมาใหม่ๆ เธอตกงาน ที่บ้านกำลังลำบาก เธอออกหางานทำเพราะต้องส่งน้องเรียน น้องเธออยู่มัธยมต้น เป็นผู้หญิงชื่อลิลิน พ่อแม่เสียไปนานแล้ว เหลือกันอยู่แค่สองคนพี่น้อง โดยได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านถึงรอดมาถึงทุกวันนี้ได้
เรื่อง...คุณหมออาสากับยัยเด็กบนดอย โปรย...ความรักมันไม่ได้เกี่ยวกับอายุ...แต่มันเกี่ยวอยู่ที่ใจ เขาไม่อยากมีลูกเพราะฉะนั้นเขาก็เลยไม่คิดที่จะมีเมีย ความรักเป็นเรื่องตลกไม่มีเขาก็อยู่ได้ แนะนำตัวละคร แสงเหนือ หรือ หมอแสง อายุ 32 ปี นิสัย ปากร้าย อารมณ์ดี ขี้เล่น อบอุ่นและขี้หึงสุดๆ แต่เขาไม่อยากมีลูกเพราะฉะนั้นเขาก็เลยไม่คิดที่จะมีเมีย ความรักเป็นเรื่องตลกไม่มีเขาก็อยู่ได้ ปิ่นงาม หรือ ปิ่น อายุ 20 ปี เธอสวย เก่ง เธอใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่บนดอยสูง เธอมีความสุขตามอัตภาพของเธอ แต่แล้วชีวิตของเธอก็ได้เปลี่ยนไปเมื่อมีเขาเดินเข้ามา ************* (เรื่องนี้เขียนต่อจากเรื่อง...คุณหมอเจ้าแผนการ) ปล.นิยายเรื่องนี้ทุกเหตุการณ์เป็นการสมมุติขึ้นทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเป็นอยู่ ศาสนา วัฒนธรรม หรืออะไรก็แล้วแต่ในเนื้อหาของเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้แต่งที่สมมุติขึ้นทั้งสิ้น
ความสวยสะดุดตา ความสดใสสะดุดใจ ปากที่บอกว่ายังไม่อยากมีใคร แต่ในใจกลับอยากได้เธอมาครอบครอง
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"