เจ้าคือลมหายใจ เจ้าคือทุกสิ่งที่ข้านั้นปรารถนา ขอเพียงมีเจ้า ข้ายินดีผ่าทุกด่านเคราะห์
เจ้าคือลมหายใจ เจ้าคือทุกสิ่งที่ข้านั้นปรารถนา ขอเพียงมีเจ้า ข้ายินดีผ่าทุกด่านเคราะห์
บทที่1
“แม่..”
นางเอ่ยออกมาได้เพียงเท่านั้น ความรู้สึกมากมายตีตื้นขึ้นมาจุกถึงคอหอย ไม่รู้จะต้องพูดเช่นไรให้บุตรชายเข้าใจในสิ่งที่นางทำ
“ข้าอยู่ได้”
เด็กชายพูดตัดบทสนทนา เสียวสั่นแต่ก็พยายามข่มความเจ็บปวดเอาไว้ ดวงตารื้อไปด้วยน้ำตา เขาไม่อยากฟังคำแก้ตัวใด ๆ ในเมื่อสุดท้ายแล้ว มารดาก็ไม่ได้คิดที่จะพาเขาไปด้วย
“เจ้าเข้าใจแม่ด้วย แม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ อยู่ที่นี่จะไม่มีใครหาเจ้าพบ”
โอวหยางฮูหยินน้ำตาคลอ นางพาบุตรชายขึ้นเขามาไกล บอกเขาว่าจะพามาขอพรให้เรื่องเลวร้ายทั้งหมดจบสิ้นลงเสียที แต่ไม่ใช่สำหรับเขา แต่เพื่อนางต่างหาก นางเหนื่อยเต็มทีแล้วกับภาระที่ต้องแบกไว้
เฟยหงแต่งเข้าสกุลโอวหยาง แม้ว่าตระกูลโอวหยางจะทำการเกษตร แต่กลับร่ำรวยที่สุดในเมือง ไม่ว่าเพาะปลูกสิ่งใดก็ได้ผลผลิตมากมาย ขายดิบขายดีทุกฤดูกาล แม้สามีของนางจะหน้าตาขี้เหร่ ผิวกายดำขลับ แต่นางก็ยอมแต่งเข้าไปก็เพื่อไม่ให้ตนต้องลำบาก
แต่แล้วความจริงทุกอย่างก็ถูกเปิดเผย กลางดึกคืนหนึ่ง จวนตระกูลโอวหยางถูกกลุ่มคนในชุดดำจำนวนมากบุกรุกสามีพานางหนีออกมาท่ามกลางความมืด เฟยหงซึ่งกำลังตั้งครรภ์อยู่ห่วงความปลอดภัยของตน ไม่ถามมากความหนีตามออกมาโดยแทบไม่ได้หยิบคว้าสิ่งใดติดมือมาเลย และนางก็ได้รู้ความลับของตระกูลโอวหยาง สามีของนางคือผู้สืบทอดพลังปราณ และลูกในครรภ์ของนางคือผู้สืบทอดคนต่อไป กลุ่มคนที่บุกมาต้องการเด็กในท้องของนาง เพื่อนำไปมอบให้หัวหน้าพรรคมาร
นางและสามีต้องหลบหนีแอบซ่อนตัวมาตลอดหลายปี จนในที่สุดพวกพรรคมารก็หาพวกนางพบ สามีนางต่อสู้กับพวกมันจนในที่สุดก็ต้องจบชีวิตลง เพื่อให้นางและบุตรชายหนีรอดมาได้ แต่นางเป็นเพียงสตรี จะพาบุตรชายอายุเพียงสิบขวบหนีไปแห่งใดได้อีก อยู่อย่างหวาดระแวงอดมื้อกินมื้อ รอนแรมไปตามที่ต่าง ๆ ไม่อาจหยุดพักได้เพราะเกรงว่าจะถูกหาพบและถูกสังหารทิ้งทั้งแม่และลูก
“ไม่ต้องห่วงข้า ท่านลงเขาไปเถอะก่อนที่ฟ้าจะมืด”
“ข้า..ขอโทษ” เฟยหงปาดน้ำตาออกจากดวงหน้า รีบหมุนตัวไปยังทิศทางลงจากเขา สาวเท้าก้าวเดินด้วยความรีบเร่งกลัวว่าโอวหยางเจิ้งหัวจะตามนางลงเขาไปด้วย แล้วสิ่งที่ทำมาทั้งหมดจะเสียเปล่า
นางพบรักใหม่ แต่บุรุษผู้นั้นไม่ต้องการบุตรชายของนาง ใครกันเล่าอยากจะเลี้ยงดูลูกของชายอื่น อีกทั้งหากนางพาโอวหยางเจิ้งหัวไปด้วย ก็ต้องถูกตามล่าไปชั่วชีวิต นางตกระกําลําบากมาสิบกว่าปี เมื่อสวรรค์หยิบยื่นหนทางให้ เหตุใดนางจะต้องทิ้งมัน ทิ้งโอวหยางเจิ้งหัวมิง่ายดายกว่าหรือ
เด็กชายมองมารดาเดินลงเขาจนลับตา น้ำหยดใส ๆ ไหลรินรดดวงหน้า เขาเข้าใจมารดาดี ใครเลยจะอยากแบกตัวภาระเช่นเขาไปด้วย คนที่ไม่มีใครต้องการ มีพลังปราณหลับใหลอยู่ภายในกาย แต่ก็ยังไม่สามารถใช้ได้ พลังยิ่งใหญ่ที่มาพร้อมกับคำสาป ในวันที่เขาถือกำเนิดในครรภ์มารดา คนตระกูลโอวหยางก็แทบสูญสิ้น แม้บิดาของเขาจะดิ้นรนเพื่อให้ครอบครัวมีชีวิตรอด แต่สุดท้ายก็สู้คนเลวไม่ไหว มารดาของเขาเป็นเพียงสตรีนางหนึ่ง จะทนแบกรับชะตากรรมที่ไม่ใช่ของตนไปเพื่ออะไรกัน นางพบบุรุษใหม่ที่พร้อมจะมอบความสบายกายสบายใจให้ แล้วนางจะเอาตัวภาระเช่นเขาไปด้วยทำไม ทิ้งเขาเอาไว้ที่วัดบนเขาห่างไกลผู้คนเช่นนี้ก็คงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว อย่างน้อย ๆ คนพวกนั้นก็จะหาเขาไม่เจอ
‘คนที่ไม่มีใครต้องการเช่นข้า’
มือหนาวางทาบลงไหล่น้อย ๆ
“เจ้าอยู่ที่นี่อย่างน้อย ๆ ก็ยังมีข้าวให้กิน”
“ขอรับหลวงพ่อ” โอวหยางเจิ้งหัวพยักหน้ารับ
“ตั้งใจทำงาน พระรูปอื่น ๆ ในอารามจะได้เอ็นดู” หลวงพ่อแนะนำได้เท่านี้ สงสารก็สงสาร แต่ทำอย่างไรได้ ในเมื่อรับปากโอวหยางฮูหยินว่าจะรับเด็กคนนี้เอาไว้แล้ว อยู่ที่นี่อย่างไรก็ยังมีข้าวกินอิ่มท้องมีที่ซุกหัวนอน ไม่ต้องกลายเป็นเด็กเร่ร่อน ลงไปเป็นขอทานในเมือง เพราะดูแล้วโอวหยางฮูหยินคงไม่คิดจะพาบุตรชายกลับแคว้นจ้าวไปด้วย สามีใหม่ของนางเป็นพ่อค้าในขบวนคาราวาน นางคงทิ้งบุตรชายเอาที่แคว้นซีเป่ยเป็นแน่ หลวงพ่อจึงรับเด็กคนนี้เอาไว้ถือเสียว่าเอาบุญ
“ขอรับหลวงพ่อ”
“เจ้าไปพักผ่อนเถอะ อาตมาจะไปสวดมนต์ที่หัวพระ”
โอวหยางเจิ้งหัวพยักหน้ารับน้ำตาคลอเบ้า เท้าน้อย ๆ เดินโซซัดโซเซไปทรุดลงที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ยกฝ่ามือขึ้นปิดดวงหน้า ปล่อยโฮออกมาสุดเสียง
ไม่เหลือใครอีกแล้ว ข้าไม่เหลือใครอีกแล้ว
เลือกสามีผิดคิดจนตัวตาย!เป็นเช่นไรรู้ก็เมื่อสายไปเสียแล้ว ลูกต้องตายจาก พ่อแม่พี่ชายพลัดพราก ด้วยหน้าที่ของเขาในฐานะเจ้าเมือง ช่วยชีวิตทุกคนไว้ได้ เว้นแต่นาง เว้นแต่ครอบครัวของนาง
โปรยปราย ผู้คนเกลียดชังข้า แต่กลับมิมีผู้ใดรู้เบื้องหลังว่าแท้จริงแล้วข้าต้องโหดร้ายเช่นนี้เป็นเพราะผู้ใด แทงมีดใส่อกคนรักของข้า สังหารตระกูลข้าจนสิ้นแม้แต่เด็กทารกก็มิเว้น ข้าต้องยืนยิ้มแล้วเอ่ยว่า ไม่เป็นไร ข้าให้อภัย นั่นคงมีเพียงพระโพธิสัตว์เสียแล้วมิใช่ข้าคนนี้ คนที่พวกเจ้าหวาดกลัวยิ่งกว่าภูตผี
นางเคยเป็นดั่งดอกบัวขาว บริสุทธิ์ผุดผ่องมองแล้วสบายตา แต่เขาและน้องสาวต่างมารดาของนางกลับมาแต้มหมึกดำลงบนบัวขาวดอกนี้
นางเกิดมาขาพิการแต่หาได้ไร้ใจไม่ มีเพียงคนผู้นั้นที่ไร้หัวใจยิ่งกว่านาง เขามาหลอกให้นางหลงรักแล้วถอนหมั้นอย่างเลือดเย็น หลังนางตายจากไปแล้วยังใช้ความเห็นอกเห็นใจของพี่ชายนางเพื่อหาประโยชน์เข้าตัว โชคดีสวรรค์ไม่ปล่อยให้คนชั่วลอยนวล กลับมาครานี้ ในเมื่อพวกมันรักกันมากนัก ก็เชิญรักกันไปได้เลย ชายชั่วเช่นนี้คิดจนตัวตายก็ไม่เอามาเป็นสามีเด็ดขาด!
ท่านช่างใจดำยิ่งนัก ท่านกับข้าเปรียบดั่งเหมยเขียวม้าไม้ไผ่ ข้าเชื่อว่าสักวันท่านจะกลับมาเข้าพิธีกราบไหว้ฟ้าดินกับข้า แต่ใยท่านจึงพาสตรีอื่นกลับมา แล้วถอนหมั้นข้าอย่างไร้เยื่อใย
เพราะรักนางจึงยอมทุกอย่าง แต่สุดท้ายเขากลับมอบความรักให้สตรีอื่น ในเมื่อเดินมาจนถึงสุดทางแล้วนางก็ไม่คิดจะยื้อไว้อีกต่อไป ไปเถิดข้าปล่อยมือท่านแล้ว ส่วนข้าจะเดินจากไปพร้อมกับบุตรในครรภ์
เซี่ยถิงถิง ย้อนเวลากลับมาในวันที่แฟนหนุ่มได้บอกเลิกกับเธอ เด็กสาวที่มากความสามารถจากหมู่บ้านเชิงเขาเล็กๆ ครอบครัวของเธอเป็นเกษตรกรมา 13 ชั่วอายุคน เซี่ยถิงถิงถือว่าเป็นปัญญาชนคนแรกของหมู่บ้าน ตลอดเวลาเด็กสาวที่หน้าตาสะสวยและเรียนดีผู้นี้ เป็นคนที่เชื่อฟังคำสั่งสอนของครอบครัวและค่อนข้างจะหัวโบราณอยู่บ้าง นี่จึงเป็นสาเหตุให้แฟนหนุ่มของเธอมีอันต้องเลิกรากันไปเพราะถิงถิงไม่เคยหลับนอนกับเขา นั่นถือว่าเป็นการหมื่นเกียรติของตัวเธอเอง แต่สาเหตุที่แท้จริงแล้วแฟนหนุ่มของเธอเพียงต้องการเกาะกิ่งไม้สูงเพื่อความก้าวหน้าเพียงเท่านั้น เพียงเพราะถิงถิงมาจากครอบครัวชาวนาในชนบทไม่มีแรงสนับสนุนเขาให้ปีนป่ายขึ้นไปอยู่บนกิ่งไม้สูงได้ตามที่เขาต้องการ เขาจึงต้องหันหลังให้กับถิงถิงเพื่อไปเกาะขาลูกสาวนายทหารยศใหญ่ที่มีฐานะร่ำรวยและพร้อมสนับสนุนเขาในสิ่งที่เขาต้องการ ถิงถิงเองถึงแม้จะเสียใจมาก แต่สำหรับเธอแล้ว ชาวนาแล้วอย่างไร ชาวนาก็ถือว่ามีเกียรติ คุณรังเกียจชาวนาก็อย่ากินข้าวที่ชาวนาปลูกก็แล้วกัน ในเวลาชั่วข้ามคืนจากความรักที่เธอมีให้แฟนหนุ่มแต่ตอนนี้เธอมีเพียงความรังเกียจและเสียใจที่มองคนผิดไปเท่านั้น ถิงถิงตัดสินใจลาออกจากงานและเก็บกระเป๋ากลับบ้านเกิด เธอจะพลิกภูเขาแห้งแล้งที่บ้านเกิดให้เป็นแหล่งอาหาร อันอุดมสมบูรณ์ เธอจะทำให้คนที่ดูถูกเธอได้เห็นว่า เกษตรกรนั้นหาได้ต่ำต้อยไม่ เธอจะต้องร่ำรวยเพราะอาชีพของเธอให้ได้ในสักวันและจะตอกหน้าคนพวกนั้นคืนให้สาสม แต่ที่น่าอับอายที่สุดไม่ใช่ถูกแฟนหนุ่มบอกเลิกในที่สาธารณะ แต่เป็นเธอที่เดินเหยียบเปลือกกล้วยแล้วลื่นล้มหัวฟาดต่างหาก เพราะความโมโหทำให้ไม่ทันได้มองทาง นี่ถือว่าตายด้วยความอับอายและคับแค้นใจมากที่สุด ขอบคุณพระเจ้าที่ให้โอกาสเธอได้กลับมา
หนุ่มหล่อเจ้าของฟาร์มรักษ์ทะเลขอแต่งงานกับนักแสดงนางร้ายเจ้าของรางวัล...นักแสดงดีเด่นขวัญใจมหาชน...เพื่อปกป้องเธอจากภัยร้ายนักธุรกิจชื่อดังผู้คาม แต่เธอกลับต้องมาพบเจอความหื่นแบบน่ารักน่าหยิกและเจอภัยร้ายจากอดีตเมียเก็บที่บอกเลิกเพียงข้ามคืนในบ้านของเขา และทั้งสองผู้ปองร้ายทำให้เขาและเธอได้รู้ความจริงว่า...ใครคือฆาตกร...ฝาก Readers ที่รักทุกท่านมาเอาใจช่วยพระเอกหื่นน่ารักน่าหยิกของเราด้วยกัน ฝากติดตามอ่านนิยายรักสนุกๆทุกเรื่องของ...ศิรารัย...ด้วยนะคะ
ฉินเซี่ยหรู คุณหนูใหญ่แห่งสกุลฉิน นางสิ้นอายุขัยจากการถูกสามีอย่าง หวงจิงอวี่ทำร้ายจิตใจด้วยการรับอนุเข้ามาอยู่ในจวนมากมาย เขามิเคยร่วมเตียงกับนางเลยสักครั้งจนอนุที่รับมานั้นตั้งครรภ์ อำนาจในการดูแลเรือนของนางจึงดูไร้ค่า เพราะแม่ของสามีก็ดูถูกที่นางมิสามารถมีทายาทสืบสกุลได้ นางจะมีได้เช่นไรกัน ในเมื่อสามีที่แต่งนางมานั้นมิเคยร่วมเตียงกับนางเลยสักครา จนนางตรอมใจและดับสูญไปในที่สุด ผู้ใดจะรู้เรื่องราวหลังจากนั้น ฉินเซี่ยหรูได้กลับชาติไปเกิดในร่างของหลานสาวขี้โรคของนาง แต่ทว่าการได้เกิดใหม่ในครั้งนี้ทำให้ร่างกายของหลานสาวนั้นกลับมาแข็งแรงราวปาฏิหารย์ สตรีที่เคยมีอายุยี่สิบสามปี แต่บัดนี้กลับกลายมาอยู่ในร่างของเด็กหญิงอายุเจ็ดขวบ นางตั้งมั่นเอาไว้แล้วว่าในอนาคต นางจะมิยอมแต่งงานอีกต่างหาก แต่เมื่อได้พบเจอกับเขา นักปราชญ์หนุ่มที่เพิ่งย้ายมา นางจึงเปิดใจและอยากแต่งงาน นั่นเป็นเพราะเขาทำให้นางได้รู้จักความรักที่แท้จริง... ความรักที่ไม่เคยได้รับรักตอบจากชาติภพก่อน
หนุ่มใหญ่วัย 42 เจ้าของโรงแรมและรีสอร์ตระดับ 5 ดาว ผู้ทรงอิทธิพลแห่งขุนเขา ดุดัน โหดและดินเถื่อน ต้องมาพ่ายแพ้ให้กับสายตาและรอยยิ้้มแสนหวาน ของสาวน้อยวัย 19 เธอคือ made mind day เธอคือคนที่ทำให้วันเครียดๆ ของเขากลายเป็นสีชมพู รอยยิ้มของเธอทำให้เขาไม่มีวันลืม นอนไม่หลับ และเฝ้ารอที่จะได้เห็นรอยยิ้มนั้นอีกครั้ง “ปวดท้องอีกแล้วค่ะ อื้อ! พอปวดมันก็ไหลออกมาอีก” “บอกอาเลย ให้อาทำยังไง” “ไปร้านสะดวกซื้อ ซื้อผ้าอนามัยให้วีได้ไหมคะ” “ไอ้เขตไปร้านสะดวกซื้อ เร็ว” พ่อเลี้ยงหนุ่มสั่งอย่างรีบร้อน ก่อนจะประคองมนัสวีเขามากอดปลอบไปก่อนเพราะไม่รู้จะทำอย่างไร “ครับๆ” ว่าแล้วเขตแดนก็ขับรถไปพาร้านสะดวกซื้อทันทีซึ่งหาไม่ยาก “ถึงแล้ว ให้อาซื้ออะไรบ้างบอกมาซิ” ครั้นจะให้หนุ่มๆ ไปซื้อก็มีความรู้เท่ากันนั่นแหละ สู้เขาไปจัดการเองดีกว่า “ได้เหรอคะ วีกลัวคุณอาจะ...” “ไม่เป็นไรวีเดินไม่ไหว ไหนกางเกงน่าจะเปื้อนแล้ว” “เอาแบบกลางวัน ยาว 30 cm. 1 ห่อนะคะ แล้วกลางคืนยาว 35 cm. ค่ะ ถ้าหาไม่เจอบอกพนักงานก็ได้ค่ะ” “โอเคจ้ะ” ได้หรือไม่ได้เขาก็รับปากไปก่อนก็แล้วกัน ว่าแล้วจึงรีบลงจากรถพุ่งตัวเข้าไปในร้านในทันที เพียงไม่กี่ล็อกก็เจอผ้าอนามัยแต่ “คุณพระคุณเจ้ามีเป็นร้อย เอ่อ ไงดีวะ” ด้วยความไม่แน่ใจ กลัวหยิบไปผิด ต้องรวบรวมความกล้าและทิ้งความอายไปถามพนักงาน ไม่งั้นเมียเขาม่ได้ใส่ผ้าอนามัยแน่ๆ เชียว “ขอโทษทีครับ คือ ผม... มาซื้อผ้าอนามัยให้... ภรรยา แต่ไม่รู้ว่าต้องเลือกยี่ห้อไหนขนาดอะไรหรือแบบไหนถึงจะดี”
โปรย: มาอยู่ในร่างหญิงปัญญาอ่อน ถูกตราหน้าว่าเป็นลูกโจรที่เคยเข่นฆ่าผู้คนไปทั่ว ซ้ำร้ายเขายังต้องการล้างแค้นแทนพ่อโดยใช้หัวใจเป็นเดิมพัน ........................ ไรต์มีนิยายพื้นบ้านมาฝากอีกแล้วค่า เน้นการใช้ชีวิตประจำวัน เนื้อเรื่องไม่หวือหวาส่วนใหญ่เกิดจากจินตนาการของไรต์มากกว่าเหตุการณ์ในยุคนั้น ใครชอบแนวนี้ไรต์ฝากกดหัวใจกดติดตามกันด้วยนะคะ หญิงสาวที่ตื่นมาตอนเช้าเพื่อเตรียมตัวไปรับพระราชทานปริญญาบัตร แต่กลับต้องย้อนไปอยู่ในยุค 60 ในร่างหญิงปัญญาอ่อนที่มีความทรงจำอันน้อยนิด มีพ่อเป็นอดีตโจรที่ขาพิการ ครอบครัวยากจน กับค่าแรงวันละเจ็ดบาท แล้วเช่นนี้เธอจะทำให้ครอบครัวกินอยู่อิ่มท้องได้อย่างไร พระเอกนางเอกเรื่องนี้มีการแก้แค้นเอาคืนไม่ได้เป็นคนดีบริสุทธิ์นะคะ ทุกคนโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เนื้อหาบางส่วน.... คำแก้วเดินออกมาถึงทางห้าแยกที่จะเลี้ยวเข้าหมู่บ้านสี่แจและหมู่บ้านอื่น ๆ ก็เจอกับชายฉกรรจ์สามคนยืนขวางอยู่ตรงหน้า คำแก้วเดินต่ออย่างไม่รู้สึกเกรงกลัว “เฮ้ย! มีคนเดินมาทางนี้ว่ะ” “ลูกพี่มันแบกหมูป่าตัวเบ้อเร่อมาด้วย” “เอาของมีค่าทั้งหมดมาจากมันให้ได้” “แต่มันเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เองนะลูกพี่” “พ่อมึงสอนให้โจรอย่างพวกมึงใจดีกับพวกผู้หญิงเหรอวะ” คนที่เป็นหัวหน้าแก๊งตวาดเสียงดังจนคำแก้วต้องเงยหน้ามอง ดวงตากลมไหวสั่นเล็กน้อย เข้ามาสิจะใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตให้ ปืนก็มี มีดก็มี กลัวอะไรล่ะ หักแขนหักขาคนก็ได้ด้วย “มะ ไม่ได้บอกครับ” คนที่เป็นลูกน้องตอบเสียงสั่น แล้วพวกมันก็ก้าวเท้าไปขวางหน้าคำแก้วไว้ “เอาของมีค่าจากตัวมึงมาให้หมด รวมถึงหมูป่าด้วย” ลูกน้องหนึ่งในสองคนพูดขึ้น แปลกใจที่ในกระบุงมีผลไม้หลายอย่างที่พวกเขาไม่เคยกิน “ไม่มี” คำแก้วตอบเสียงห้วน มองชายทั้งสามด้วยแววตาไม่สะทกสะท้าน เธออยากเห็นโจรตัวเป็น ๆ วันนี้เธอก็ได้เห็นแล้ว พวกมันใช้ผ้าขาวม้าคลุมหน้าไว้ ยุคสมัยนี้ตำรวจคงทำอะไรคนพวกนี้ไม่ได้จริง ๆ “ปากดีซะด้วย กูชอบว่ะ จะมีผู้หญิงสักกี่คนวะที่ไม่กลัวโจรอย่างพวกกู ฮ่า ๆ ๆ” เรืองว่าพลางหัวเราะเสียงลั่น ในมือถือปืนเคาะฝ่ามืออีกข้างเล่นไปพลาง ๆ แล้วสั่งลูกน้องเสียงเหี้ยม “จับตัวมันไว้” ลูกน้องทั้งสองกรูเข้าไปจับตัวคำแก้วไว้ คำแก้วปล่อยหมูและกระบุงลงบนพื้นดิน เรืองก้าวเท้ายาวเข้ามาใกล้ ดึงผ้าขาวม้าออกจากหน้าเธอ สายตาคมกริบมองใบหน้าเรียวเล็กของอีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจเป็นที่สุด “นี่มันลูกสาวคนโตของไอ้เสือเข้มนี่หว่า มึงกล้าออกมาป่าคนเดียวได้ยังไงวะ” เขาใช้ปลายกระบอกปืนเชยคางของคำแก้วขึ้น แล้วพิศมองใบหน้าเธอนิ่ง คำแก้วจ้องตามันกลับอย่างไม่ลดละ โจรพวกนี้อาจจะเป็นพวกเดียวกันกับที่ทำร้ายพ่อของเธอก็เป็นได้ ถึงได้รู้จักเสือเข้ม ชายรูปร่างสูงใหญ่ที่ยืนหลบอยู่ในพุ่มไม้ที่อยู่ไม่ไกลมากนักถึงกับเบิกตาโพลงเมื่อได้ยินว่าสาวน้อยคนที่เขาเดินตามออกมาจากป่าเป็นลูกของไอ้เสือเข้ม แต่เขาได้ยินมาว่าลูกสาวคนโตของเสือเข้มเป็นเด็กที่มีความบกพร่องทางปัญญาไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงเข้าป่าไปล่าสัตว์คนเดียวได้อย่างไม่รู้สึกเกรงกลัวสัตว์ป่า หรือแม้แต่โจรพวกนี้ได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัย ตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ที่เดินตามเธอมา คราแรกเขาแค่อยากรู้ว่าเธอเป็นคนของหมู่บ้านไหนกันแน่ เพราะเขาไม่เคยเห็นหน้า และกลัวว่าเธอจะเป็นอันตรายจึงเดินตามมาอย่างเงียบ ๆ ไม่คิดว่าจะเป็นลูกสาวคนที่เขาตามหามานาน
"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด "ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้" ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY