"แกไม่ต้องมาหัวเราะเยาะฉันนะโว้ย คนยิ่งเครียดอยู่"
"นี่ยายขิม เป็นเพราะแกไม่ยอมมีแฟนหรือเปล่า พ่อแกก็เลยจะจับคู่ให้แกน่ะ" เขมินทราพยักหน้าน้อย ๆ พี่ชายแต่งงานไปแล้ว น้องสาวกับน้องชายก็แต่งไปแล้ว มีแต่เธอที่ไม่ยอมหาคู่ครองสักที
"แต่อย่าลืมสิ ฉันแค่ยี่สิบแปดปีเอง"
"แต่น้องแกสองคนก็แต่งงานแล้วนะโว้ย"
"เพราะทุกคนอยากได้สมบัติของคุณพ่อไง"
"อ้าว แล้วแกไม่อยากได้หรือ"
"อยากสิ ตอนนี้ฉันยังต้องไปทำงานงก ๆ กินเงินเดือนเหมือนพนักงานทั่วไปอยู่เลย พ่อบอกคำเดียว ถ้าไม่แต่งงานนะ ไม่ได้ขึ้นเป็นกรรมการบริหาร"
"พ่อแกสุดยอดเลยว่ะ เพิ่งเคยเห็นนี่แหละ"
"ฉันอายทุกคนในบริษัทจะตาย ใครจะคิดยังไง คงจะนินทาฉันจนสนุกปาก แถมยังมองฉันแบบดูถูกเสียด้วย"
บุษรินทร์ทำท่าคิด "แล้วถ้าแกแค่พาตัวผู้ชายสักคนไปแนะนำ แบบบอกว่าเป็นคู่หมั้นเฉย ๆ พ่อแกจะโอเคไหม"
เขมินทราส่ายหน้าหลุบ "ไม่"
"หา!" บุษรินทร์ทำหน้างงมาก
"ทำไมเป็นแบบนั้นล่ะคะ"
"พ่อบอกต้องมีใบทะเบียนสมรส"
"เฮ้ย! พ่อของแกต้องเพี้ยนหนักแล้ว"
เผียะ... เขมินทราตีแขนเพื่อนสาวเสียงดัง
"แกอย่าว่าพ่อฉันน่ะยายบุษ" บุษรินทร์รีบยกมือขอโทษ
"ฉันเว้าเล่นซื่อ ๆ หรอก" พูดภาษาอีสานออกมา
บุษรินทร์ (บุษ) ไพศาลอัษฎา เป็นคนจังหวัดอุดรธานี ครอบครัวเปิดร้านขายของฝากอยู่ในตัวเมืองอุดรฯ ต้นตระกูลของเธอมาจากเวียดนาม
มีเหมืองพลอยอยู่ที่เวียดนามด้วย เป็นลูกสาวเศรษฐีคนหนึ่ง ตอนนี้กำลังเอาดีกับงานออกแบบจิวเวลรี่เพื่อจะพัฒนาพลอยที่ครอบครัวครอบครองอยู่ให้มุ่งสู่ตลาดโลก พ่อชื่อมิตร แม่ชื่อนุษรา มีน้องชายชื่อบรมวิทย์หรือโบ้
"แล้วตอนนี้แกคิดอะไรออกบ้างหรือยัง"
"ยัง"
บุษรินทร์ก้มมองรายการอาหารในเมนู
"ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องคิดนะ ฉันว่าเราสั่งอะไรมาดื่มเถอะ แต่ฉันจะขอสั่งของกินนะ"
"อื้อ ก็เอาสิ ร้านนี้หอยนางรมอร่อย"
"อุ้ย!" ยกมือขึ้นมาปิดปาก แล้วหัวเราะคิก ๆ
"หัวเราะอะไรยะนางบุษ"
"กินหอยนางรมทีไร ของขึ้นทุกที ฉันน่ะอยากจะนั่งโยกบนตัวผู้นะสิ" แล้วทำท่าปิดปากหัวเราะอีก แต่สายตามองสอดส่ายไปทั่วร้าน เหมือนแม่เสือสาวที่จ้องมองหาเหยื่อ
ปิ๊ง! สายตาของบุษรินทร์ปะทะกับสายตาของหนุ่มหล่อที่กำลังลากกีตาร์ขึ้นไปบนเวที
"อุ้ย ๆ ฉันเจอแล้วยายขิม"
"ไหน ๆ" หันไปมองตามสายตาของเพื่อน
เขมินทราถึงกับอ้าปากตาค้างเมื่อเห็นหนุ่มอีกคนที่นั่งอยู่โต๊ะใกล้เวที
"พี่อินทัช" เสียงพึมพำ แต่ก็พอให้บุษรินทร์ที่นั่งใกล้ได้ยิน
"ใคร คนไหน" เปลี่ยนจุดโฟกัสของตัวเอง จากนักร้องที่ลากกีตาร์ขึ้นบนเวที เป็นหนุ่มของเพื่อนที่เขมินทราเอ่ยปาก
"คนไหนยายขิม"
"โต๊ะหน้าไง ติดกับอ่างปลานะ"
อ่างที่ว่าเหมือนสระน้ำจำลองเพื่อตกแต่งให้ดูบรรยากาศในร้านร่มรื่นและเย็นสบายตา
"พี่อินทัชที่แกพูดถึงบ่อย ๆ เวลาที่แกเมากรึ่ม ๆ รุ่นพี่ที่หักอกแก ปฏิเสธแก แล้วก็หายไปจากชีวิตของแกเลย"
"อื้อ" ขานรับเสียงเบา พร้อมกับกลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงไปในลำคอ
ภาพความทรงจำในอดีตกลับมาอีกครั้งหนึ่ง อินทัช (อิน) อิทธิภัคร รุ่นพี่ปีสี่ ที่เขมินทราเคยหลงรักหัวปักหัวปำ
ที่หน้าตึกของคณะเศรษฐศาสตร์ มหาลัย S
(เรื่องอดีตที่เจ็บมาก)
สาวน้อยปีหนึ่ง สวยขาวหมวย รูปร่างอวบอั๋นสมวัย เธอไว้ผมที่ตัดหน้าม้าเต่อ ๆ ที่เธอตั้งใจจะตัดให้เหมือนกับนักร้องไอดอลชื่อดังของเกาหลี
เขมินทราอยู่ในชุดเครื่องแบบนักศึกษาที่เรียบร้อย และถูกต้องตามระเบียบมาก ๆ
เขมินทราหอบช่อดอกไม้ดอกกุหลาบช่อใหญ่สีขาวบริสุทธิ์ เพราะมันคือความบริสุทธิ์ใจของเธอล้วน ๆ
อีกมือก็มีตุ๊กตาหมีที่เธอเลือกแล้วเลือกอีก เพื่อจะให้มันเป็นตัวแทนของเธอเอง เวลาที่พี่อินทัชเห็นตุ๊กตาก็จะได้เห็นหน้าของเธอด้วย ตลอดเวลาที่เรียนที่นี่ หนึ่งปีที่ผ่านมา ไม่มีวันใดที่เธอจะละสายตาไปจากพี่อินทัชได้เลย
พอเห็นอินทัชผละตัวออกมาจากกลุ่มเพื่อน เขมินทราก็วิ่งเข้าไปชาร์จเขาในทันที เธอยืนขวางหน้าเขา ดวงหน้าใสแวววาวไปด้วยหยาดเหงื่อที่ซึมออกมาจากแรงผลักดันภายในตอนที่ร่างกายมีปฏิกิริยาตื่นเต้นเกินต้านทานได้
สองมือที่ยื่นทั้งดอกกุหลาบช่อใหญ่ มีการ์ดแห่งรักที่เขียนบรรยายความในใจของเธอให้เขาไปด้วย พร้อมกับตุ๊กตาหมี "ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ" น้ำเสียงสั่นพอ ๆ กับร่างกายที่สะท้านไปตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
อินทัชมองสบตากับเขมินทราด้วยแววตาที่เรียบเฉย เขาเคยเห็นเธอ
เพราะเขมินทรามักจะมาป้วนเปี้ยนให้เขาได้เห็นหน้าอยู่เสมอ
"น้อง ทำไมหรือ?"
เพล้ง... เสียงในใจที่เขมินทราได้ยิน หน้าแตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ
"ขิม เอาดอกไม้มาแสดงความยินดีกับพี่ ดีใจด้วยนะคะที่เรียนจบ"
"แค่นี้ใช่ไหม" เขาเอื้อมมือออกมารับทั้งช่อดอกไม้และตุ๊กตา แล้วเดินผ่านหน้าของเขมินทราไปในทันที ไม่มีแม้แต่คำขอบคุณ หรือรอยยิ้ม
เขมินทราหน้าแตกแบบหมอไม่รับเย็บ แต่ที่เจ็บกว่า คือหัวใจดวงน้อย ๆ ที่ถวิลและคิดถึงแต่เขา
ฝันลม ๆ แล้ง ๆ ภาพวาดในหัวดั่งในละคร ที่พระเอกยิ้มหวาน และรับช่อดอกไม้พร้อมกับตุ๊กตาจากมือ ก่อนจะพูดว่า "ขอบใจมากนะ" พระเอกโผเข้ากอดนางเอก และก็อุ้มหมุนตัวนางเอกไปรอบ ๆ
'ไม่... ฉันยังไม่ได้สารภาพรักเลย' เขมินทรารีบหมุนตัวหันไปทางที่อินทัชเดินไป
เธออ้าปากหมายตะโกนเรียกเขา "พะ พี่..." หญิงสาวหุบปากของตัวเองลงทันที ภาพที่ประจักษ์แก่สายตา อินทัชทิ้งทั้งช่อดอกไม้ และตุ๊กตาของเธอลงไปในถังขยะสีเขียวใบใหญ่ที่อยู่บนทางเท้าที่อยู่ไม่ใกล้จากตัวของเธอ
เพล้ง... เสียงดังก้องเหมือนกับสะท้อนจากหินหน้าผาเขามาในโสตประสาทของเธอ แล้วน้ำตาของเขมินทราก็ค่อยๆ ไหลลงมากบสองตาจนสนิท เธอแทบไม่เห็นอะไรอีก ยืนขาแข็งแช่อยู่ตรงนั้น หูของเธอก็ไม่ได้ยินเสียงของใคร ๆ เลยด้วยซ้ำไป
คนรายรอบที่อยู่เต็มบริเวณนั้น แทบจะถูกลบกลายเป็นศูนย์ มีเพียงเขมินทราที่ร้องไห้เสียใจกับความใจร้ายของอินทัช