แป้งร่ำสาวใหญ่วัยสี่สิบ ชีวิตของเธอเต็มไปด้วยงานจนกระทั่งเพิ่งรู้ตัวว่าไม่มีใครเคียงข้าง หลังจากทบทวนชีวิตดีแล้วจึงยื่นขอลาออกจากบริษัท และนับตั้งแต่นั้นมาชีวิตของเธอก็เปลี่ยน ระบบเส็งเคร็งนี่คืออะไร!
แป้งร่ำสาวใหญ่วัยสี่สิบ ชีวิตของเธอเต็มไปด้วยงานจนกระทั่งเพิ่งรู้ตัวว่าไม่มีใครเคียงข้าง หลังจากทบทวนชีวิตดีแล้วจึงยื่นขอลาออกจากบริษัท และนับตั้งแต่นั้นมาชีวิตของเธอก็เปลี่ยน ระบบเส็งเคร็งนี่คืออะไร!
ถิงถิงจำได้ว่าเธอเพิ่งจะนอนหลังอ่านนิยายเรื่อง ‘ฝากรักไว้กับรักแรกของแฟนเก่า’ จบไปตอนบ่ายสามของวัน นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักน้ำเน่าที่ถิงถิงชอบมาก และมันยังเป็นนิยายของนักเขียนที่เธอติดตาม เนื่องจากนักเขียนได้ส่งนิยายที่สั่งพิมพ์ให้กับนักอ่านที่สั่งซื้อมาถึง ถิงถิงที่ว่างจึงรีบอ่านนิยายเกือบห้าร้อยหน้าโดยที่ไม่ยอมพักจนจบโดยใช้เวลาเพียงสิบชั่วโมงในการอ่าน จากนั้นจึงหันไปหยิบหูฟังมาสวมพร้อมกับผ้าปิดตาที่ใช้ตลอดเพราะเดี๋ยวแดดจะแยงตาตอนเช้า
แต่แล้วถิงถิงที่นอนอย่างสบายใจก็ต้องสะดุ้งตื่น เพราะได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ข้างหู ถิงถิงขมวดคิ้วระหว่างรู้สึกตัว
ตั้งแต่จำความได้เธอก็โตมากับคุณยายสองคนที่บ้านนอกและเสียไปเมื่อห้าปีก่อน หลังเรียนจบมัธยมปลายจึงย้ายเข้ามาเรียนในมหาลัยรัฐบาลที่มีทุนเรียนฟรี นอกจากยายแล้วเธอก็ไม่ได้มีญาติคนอื่นอีก จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะได้ยินเสียงเด็กร้องในห้อง เพราะที่พักของเธอนั้นเป็นหอพักสำหรับนักศึกษา เด็กที่ต่ำกว่าสิบสองขวบถูกห้ามเข้ามาอยู่เพราะเจ้าของหอกลัวจะรบกวนเหล่านักศึกษาในมหาลัยที่ต้องตื่นไปเรียนเช้าและกลับดึกบางคณะ
ถิงถิงบิดขี้เกียจพร้อมกับใช้มือขยี้ดวงตาที่กำลังจะปิดลงอีกครั้งหากไม่ได้ยินเสียงเคาะประตูอีกรอบ
“พะ...พี่สะใหญ่” เสียงแหบแห้งอยู่ด้านนอกประตูดังเล็ดรอดมาให้ถิงถิงได้ยิน “เสี่ยวลู่คงจะหิวแล้ว เอามาให้ฉันป้อนน้ำข้าวให้หล่อนก่อนเถอะค่ะ”
‘ดะ...เดี๋ยวนะ!! พะ...พี่...สะใภ้ใหญ่งั้นหรือ’
ถิงถิงที่ดวงตากำลังจะปิดเบิกโพลงขึ้นมาอีกรอบ และยิ่งทำให้เธอตกใจกว่าเดิมเพราะสถานที่ไม่คุ้นชินพร้อมกับกลิ่นอับชื้นภายในห้องที่กำลังนอนอยู่ อีกทัังมีเด็กทารกวัยเดือนเศษที่กำลังนอนร้องไห้อยู่ข้าง ๆ เธอ
“อะ...โอ๊ยย” ถิงถิงยกมือขึ้นกุมขมับและหลับตาลงเพราะมันรู้สึกปวดหัว
“พะ...พี่สะใภ้ใหญ่! เป็นอะไรหรือเปล่าคะ” คงจะเพราะได้ยินเสียงร้องจากภายในห้อง คนด้านนอกที่มีน้ำเสียงแหบจึงร้องถามด้วยความแตกตื่น
“มะ...ไม่มีอะไรแล้ว เธอไปพักเถอะ!” ถิงถิงในคราบกัวเหม่ยอิงตะโกนตอบ
ใช่แล้ว! เธอที่กำลังนอนพักผ่อนหลังอ่านนิยายจบ กลับทะลุมิติเข้ามาในยุค70 ที่ในยุคนี้ข้าวยากหมากแพง เจ้าของร่างที่เธอทะลุมิติเข้ามาอยู่มีนามว่า ‘กัวเหม่ยอิง’ กัวเหม่ยอิงเป็นบุตรสาวคนเล็กของครอบครัวกัว มีพี่ชายกับพี่สาวอีกสี่คน
ครอบครัวสกุลกัวเป็นครอบครัวที่เล็กที่สุดในหมู่บ้าน และเป็นครอบครัวที่จนมากเพราะส่งลูกสาวคนเล็กเข้าเรียนมัธยมปลายในอำเภอ ในตอนนี้ทั้งพี่ชายและพี่สาวของกัวเหม่ยอิงจึงไม่มีใครได้แต่งงานสักคนเพราะครอบครัวยากจนเกินไป
แต่เพราะกัวเหม่ยอิงเป็นถึงนักเรียนที่เรียนจบมัธยมปลายในอำเภอ บ้านสามสกุลหานจึงมาสู่ขอกัวเหม่ยอิงไปเป็นสะใภ้ใหญ่ที่มีสามีเป็นทหาร สร้างความไม่พอใจให้กับบ้านใหญ่สกุลหานเป็นอย่างมาก กัวเหม่ยอิงถูกบ้านใหญ่สกุลหานมาทาบทามไปเป็นสะใภ้หลายครั้งแต่ถูกปฎิเสธ
เพราะบ้านกัวให้เหตุผลว่าบ้านใหญ่สกุลหานมีสมาชิกมากเกินไป หากให้นับแล้วบ้านใหญ่สกุลอยู่รวมกันสี่รุ่นแล้ว แต่ไม่ยอมแยกบ้านออกมาอยู่ข้างนอก ยกเว้นบ้านสาม ที่พ่อสามีเห็นว่าบ้านตัวเองทำงานหนักกว่าบ้านอื่น ๆ จึงหาทางแยกบ้านออกมาจนสำเร็จ แต่ก็ไม่วายถูกมายืมเงินและจับฉวยของไปทุกครั้งที่มีโอกาส
กัวเหม่ยอิงแต่งเข้าสกุลหานเมื่อห้าปีก่อน ในวัยยี่สิบปี แต่เพิ่งจะคลอดหลานสาวให้บ้านสามสกุลหานได้ไม่กี่เดือนก็เจอข่าวร้าย สามีของเธอที่ถูกคัดเลือกไปเป็นทหารตั้งแต่อายุยังไม่เข้าเลขสองจนตอนนี้อายุสามสิบ ไปทำภารกิจด่วนแต่ล้มเหลวจนเกิดการบาดเจ็บหลายคนและหนึ่งในนั้นมีน้องชายคนกลางของสามีด้วย สามีของกัวเหม่ยอิงที่เข้าช่วยเหลือน้องชายจึงไม่สามารถรักษาชีวิตตัวเองได้
กัวเหม่ยอิงลงแปลงนามาตลอดระยะที่แต่งเข้าสกุลหาน แต่ตั้งแต่เด็กจนโตเธอไม่เคยได้รับความยากลำบากแบบนี้มาก่อนจึงเกิดการล้มป่วยและมีร่างกายอ่อนแอ ในเวลาที่เกิดการตั้งครรภ์เธอบำรุงร่างกายก็จริงแต่ก็ยังลงแปลงนาอยู่ตลอด
และเมื่อคลอดลูกสาวจากที่ร่างกายไม่ค่อยดีอยู่แล้วร่างกายก็อ่อนแอลง ยิ่งสัปดาห์ก่อนได้ข่าวว่าสามีเสียชีวิตแล้วอาการที่ไม่ดีก็ทรุดลงไปอีกรอบ
จนกระทั่งเมื่อคืนเธอได้เสียชีวิตข้าง ๆ ลูกสาววัยเดือนเศษ โดยที่ไม่มีใครรู้ และถิงถิงก็เข้ามาอยู่ในร่างนี้ด้วยความมึนงง
แต่ก่อนอื่นถิงถิงหรือตอนนี้ก็คือกัวเหม่ยอิงไม่มีเวลาคิดอะไร เธออุ้มเด็กทารกที่น่าจะชื่อว่าเสี่ยวลู่ขึ้นมากินนมบนเต้าอย่างกระอักกระอ่วน เธอไม่เคยมีลูกมาก่อนแต่เหมือนร่างกายนี้จะเคยชินเธอจึงสามารถอุ้มลูกได้อย่างถนัดมือ
คิดแล้วก็อยากจะร้องไห้ อีกไม่กี่เดือนเธอก็จะเรียนจบแล้วแท้ ๆ ไม่รู้ว่าเคราะห์กรรมอะไรที่ทำให้เธอได้มาอยู่ที่นี่
‘กัวเหม่ยอิงเธอไม่ต้องห่วง ต่อไปนี้ฉันจะดูแลลูกสาวของเธอเอง’
‘หานหรงเจ๋อ ฉันจะดูแลครอบครัวของคุณแทนคุณเอง
กัวเหม่ยอิงให้นมลูกสาวเสร็จก็เผลอหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า รู้สึกตัวอีกทีก็เช้าวันใหม่ที่สะใภ้รองเข้ามาเคาะประตู
“พี่สะใภ้จ๊ะ”
“ฉันตื่นแล้ว!” กัวเหม่ยอิงร้องตอบกลับคนที่ยืนอยู่หน้าประตู
กัวเหม่ยอิงเดินไปปลดล็อกกลอนประตูให้คนข้างนอกเข้ามาเอาลูกสาวออกไป ด้วยความที่กัวเหม่ยอิงมีร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงน้ำนมจึงไม่มากพอที่จะให้เด็กดื่ม ถางเจียลี่หรือสะใภ้รองจึงเป็นคนรับหน้าที่เอาน้ำต้มข้าวป้อนเด็ก
หลังจากที่สะใภ้รองอุ้มหานเมิ่งลู่ออกไป กัวเหม่ยอิงก็เดินไปเปิดหน้าต่างให้ระบายกลิ่นอับชื้นในห้องจางลง พอเปิดหน้าต่างออกก็ทำให้เธอได้เห็นภายในห้อง ห้องนี้เล็กกว่าห้องพักนักศึกษาของเธอเป็นเท่าตัว
ไม่รู้ว่าที่นี่อยู่กันได้ยังไง อีกอย่างภายในห้องก็มีเพียงเตียงเตาและตู้เล็ก ๆ แค่นั้น
จากความทรงจำกัวเหม่ยอิงคนก่อนแล้ว บ้านหลังนี้เป็นบ้านดินทั้งหลังมีเพียงสี่ห้องนอน หนึ่งห้องครัวและหนึ่งห้องโถงเท่านั้น บ้านสามสกุลหานหากไม่ให้เงินบ้านใหญ่หยิบยืมไปตอนนี้คงจะมีเงินมากพอสมควร
พ่อสามี สามีของกัวเหม่ยอิงและน้องชายคนรองของบ้านเป็นทหารได้หลายปีแล้ว แต่ตอนนี้ที่บ้านเหลือเพียงสตรีที่อาศัยอยู่
น้องชายรองที่บาดเจ็บพวกเธอไม่ได้รู้ข่าวอะไรอีกเลยหลังจากที่มีการแจ้งว่าสามีเสียชีวิต และไม่สามารถกู้ร่างได้ ส่วนลูกชายคนเล็กของบ้านตอนนี้กำลังเรียนมัธยมปลายในอำเภอ ที่บ้านจึงเหลือเพียงแม่สามีที่พิการ สะใภ้ใหญ่แม่ลูกอ่อนอย่างเธอ และสะใภ้รองที่ร้องไห้มาหลายวันเมื่อได้ยินข่าวของสามีที่ได้รับบาดเจ็บหนัก แต่ก็คงดีกว่ากัวเหม่ยอิงที่สามีเสียชีวิต
กัวเหม่ยอิงนำฟูกที่แทบจะเหลือแค่ผ้าออกจากห้องนอนแล้วนำมาตากแดดที่หลังบ้านเพื่อไล่กลิ่นอับ ไม่รู้ว่าพ่อสามีคิดไว้แล้วหรือเพราะที่ดินพื้นนี้ถูกที่สุดจึงปลูกบ้านห่างจากบ้านคนอื่นหลายจั้ง ไม่เชิงว่าห่างมาก แต่ก็ห่างกว่าบ้านอื่นที่อยู่ติดกันเกือบห้าเมตร โดยที่บ้านถูกล้อมด้วยรั้วไม้เพื่อป้องกันไก่หรือสัตว์อื่น ๆ เข้าบ้าน สำหรับถิงถิงที่มาจากอนาคตแล้วเธออยากจะร้องไห้เป็นรอบที่ร้อยของเช้าวันนี้
ที่บ้านมีแต่คนชรา เด็กแล้วก็ผู้หญิงก็ว่าอันตรายแล้ว บ้านยังไม่สามารถป้องกันอันตรายจากอะไรได้อีก
“เสี่ยวลู่หลับแล้วค่ะ พี่สะใภ้กินข้าวมื้อเช้าก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันไปซักผ้าที่เหลือให้” สะใภ้รองที่ไม่รู้ว่าออกมาตอนไหนเอ่ยบอกกับกัวเหม่ยอิงที่ยืนเหม่อมองบ้านอยู่
สะใภ้รองของบ้านในยามนี้ทำแทบจะทุกอย่างภายในบ้าน อาหารในแต่ละมื้อ ป้อนข้าวผู้เป็นแม่สามี ดูแลหลานสาว ทำความสะอาดภายในบ้านทุกอย่าง
อันที่จริงแล้วหน้าที่ดูแลแม่สามีแต่ก่อนและซักผ้านั้นเป็นหน้าที่ของกัวเหม่ยอิง แต่หลังจากคลอดลูกแล้วร่างกายของเธอไม่ดี สะใภ้รองจึงอาสาทำเอง
นับว่าสวรรค์ยังเมตตาเธออยู่บ้างที่มีน้องสะใภ้เป็นคนดี ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าสะใภ้รองเป็นแบบคนอื่นในนิยายที่เคยอ่านผ่าน ๆ มา ตอนนี้เธอจะเป็นยังไง
ข้าวที่ว่ามันเป็นเพียงน้ำต้มข้าวก้นหม้อเท่านั้น เรียกว่าข้าวไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่กัวเหม่ยอิงก็กลั้นใจฝืนกิน ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีอะไรให้กินแล้ว รอให้เธอปรับตัวกับที่นี่ให้ได้ก่อนเถอะ เธอไม่ยอมกินแบบนี้ไปตลอดแน่ ๆ
กินข้าวเสร็จก็เดินสำรวจในบ้านต่อ โดยเฉพาะอย่างแรกก็คือห้องครัว เครื่องปรุงมีเพียงเกลือที่เหลืออยู่หยิบเดียวกับน้ำมันที่เหลืออยู่ก้นไห นอกจากนั้นก็ไม่มีเครื่องปรุงอะไรอีก หันไปเปิดไหที่มีผ้าปิดไว้กัวเหม่ยอิงก็อยากจะร้องไห้ ข้าวเหลือไม่ถึงชั่งจะให้พวกเธอทำยังไง! คงจะมีเพียงธัญพืชที่ยังจะพอมีบ้าง
กัวเหม่ยอิงไม่เห็นลูกสาวในห้อง สะใภ้รองคงจะให้หลานสาวนอนในห้องตัวเองเพราะห้องนี้เธอเพิ่งจะเอาฟูกไปตาก
“โอ้!” กัวเหม่ยอิงอุทานในลำคอ
เพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไร จะนอนก็ไม่กล้าพอที่จะนอนบนเตียงเตาแข็ง ๆ อย่างสุดท้ายจึงมีเพียงเปิดตู้เสื้อผ้าที่อยู่ในห้อง แต่มันก็ทำให้เธอต้องอุทานขึ้นมา
ภายในตู้เสื้อผ้าเต็มไปด้วยข้าวสารและธัญพืชหลายชั่ง โดยมีผ้าอีกหลายผืนห่อหุ้มเอาไว้ ข้างล่างยังมีกล่องเล็ก ๆ อีกต่างหาก
“มีอะไรกัน” กัวเหม่ยอิงพลิกกล่องสี่เหลี่ยมในมือไปมา ข้างในมันมีเสียงตีกันของอะไรบางยังดังขึ้นต่อเนื่องเมื่อถูกเขย่า
“อู้วว!!”
คราวนี้มันทำให้กัวเหม่ยอิงต้องตาโตขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเปิดกล่องแล้วข้างในเต็มไปด้วยคูปอง ธนบัตร
และเหรียญเต็มกล่อง จากที่ตกใจจำนวนเงินในกล่องกัวเหม่ยอิงก็รีบวิ่งไปปิดหน้าต่างลงให้มีเพียงแสงเข้าเท่านั้น
หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง บ้านของพวกเธอห่างกับคนอื่นก็จริงแต่ก็ไม่ได้ห่างมาก และหากเหลียวมองก็สามารถมองเห็นได้ง่าย ๆ
กัวเหม่ยอิงนำเงินทั้งหมดออกมานับพร้อมกับคิดถึงเงินพวกนี้ แต่ในความทรงจำของเธอแล้ว เงินพวกนี้ไม่เคยอยู่ในความทรงจำของกัวเหม่ยอิงเลย และเป็นไปได้ว่าไม่ใช่กัวเหม่ยอิงแน่ ๆ ที่เป็นคนเก็บซ่อนมันเอาไว้จากทุกคน
หากเป็นกัวเหม่ยอิงซ่อนไว้ เงินทุกหยวนคงจะถูกส่งไปให้บ้านใหญ่สกุลหานทั้งหมด ไม่ใช่ว่าเธออยากจะให้ แต่เธอไม่อยากมีปัญหากับบ้านใหญ่ของสามีที่มีกันหลายสิบคน หากไม่ให้พวกเธอก็ต้องถูกด่าว่าอกตัญญู และบางทีถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน
และยิ่งบ้านกัวของเธอก็มีจำนวนน้อยหากจะเข้าช่วยก็จะถูกคาดโทษไปด้วย อีกอย่างนี้ก็เป็นเรื่องของสกุลหานจึงไม่มีใครเข้ามาช่วย
“สามพันเจ็ดสิบห้า”
“สามพันหกร้อย”
“สามพันหกร้อยเก้า”
“สามพันแปดร้อยห้าสิบสาม”
“สามพันเก้าร้อยสอง”
“สี่พันหนึ่งร้อย”
“สี่พันหนึ่งร้อยเจ็ด”
“สี่พันเก้าร้อยสิบหก”
“ห้าพัน”
“ห้าพันสามร้อยเจ็ดสิบเก้าหยวน!”
เงินทั้งหมดที่อยู่ในกล่องมีมากถึงห้าพันหยวน! เงินจำนวนมากในยุคแบบนี้สามารถใช้เลี้ยงปากเลี้ยงท้องได้มากกว่าสิบคนหลายสิบรุ่นเลยก็ว่าได้ แต่ทำไมบ้านสามสกุลหานของพวกเธอถึงมีมันได้? อีกอย่างทำไมมันถึงรอดจากเอื้อมมือของบ้านใหญ่สกุลหานมาได้เยอะขนาดนี้
ชีวิตของลิลลี่เป็นชีวิตที่ใครหลาย ๆ คนใฝ่ฝันอยาจะเป็นแบบเธอ แต่คนอื่นไม่เคยรู้เลยว่ามันโดดเดี่ยวมากแค่ไหน เกิดในตระกูลหมื่นล้านครอบครัวค่อย ๆ จากไปทีละคน อายุเพียงยี่สิบอาชายผู้ที่เป็นญาติผู้ใหญ่คนสุดท้ายที่เหลืออยู่ดวลจากไป ลิลลี่ ลลิลิล จึงกลายเป็นทายามเพียงคนเดียวของตระกูล มีแล้วอย่างไรสุดท้ายคนเราต้องจากไป มีเงินหมื่นล้านยื้อชีวิตใครไม่ได้สักคน ลิลลี่ในวัยยี่สิบปีเธอรู้ว่าธุรกิจของตระกูลไม่อาจสานต่อได้ ขายหุ้นให้คนอื่นรอรับเพียงเงินปันผลก็เพียงพอ ยี่สิบสามเรียนจบปริญญาตรีด้านแฟชั่นก่อนเรียนต่อปริญาเอก ปริญญาโท ในปีที่สามสิบของชีวิตลิลลี่ประสบความสำเร็จในด้านดีไซเนอร์ เป็นดีไซเนอร์ที่มีชื่อเสียง ยังไม่ทันได้ใช้ชีวิตหลังเรียนจบก็เสียชีวิตจากความเครียดที่สะสมมาตลอด คิดว่าหลังความตายคงจะถูกบรรพบุรุษสาปแช่งที่ดูแลตระกูลไม่ได้ ใครจะรู้ว่าลืมตาแล้วจะมาอยู่ในร่างของคนอื่น วันที่เจ็ดเดือนมกราคมปี 1980 ลิลลี่ตื่นขึ้นในในร่างของลูกสาวคนโตของบ้านฉิน ฉินเสี่ยวหราน มีน้องสาวหนึ่งคน พ่อเป็นทหารหารเพิ่งได้รับเลื่อนขั้นเป้นพันตรี แม่เป็นหญิงในชนบท ฉินเสี่ยวหรานเป็นนักเรียนมัธยมปลายชั้นปีสุดท้าย ส่วนฉินเสี่ยวหลิงเป็นนักเรียนมัธยมต้นชั้นปีสุดท้ายที่จะขึ้นมัธยมปลาย
เป็นเพียงขยะไร้ค่าของตระกูลจะสู้หลานชายสุดที่รักของคุณปู่ได้อย่างไร ติณณ์เดินออกจากตระกูลไปยังประเทศเกรย์ดัชตามคำบอกเล่าของเพื่อนสาว แต่เข้าประเทศเขาวันแรกดันปากดีใส่องค์รัชทายาทจนโดนหมายหัว
แป้งร่ำสาวใหญ่วัยสี่สิบ ชีวิตของเธอเต็มไปด้วยงานจนกระทั่งเพิ่งรู้ตัวว่าไม่มีใครเคียงข้าง หลังจากทบทวนชีวิตดีแล้วจึงยื่นขอลาออกจากบริษัท และนับตั้งแต่นั้นมาชีวิตของเธอก็เปลี่ยน ระบบเส็งเคร็งนี่คืออะไร! .
ซุนลี่เป็นหนึ่งเกรียงไกร แผ่นดินยิ่งยงไพศาล ใต้หล้าสยบชั่วกาล ว่านอี้ครองราชย์...ประชาร่มเย็น ว่านอี้ครองราชย์...ประชาร่มเย็น คำนี้มีความจริงเจือจางอยู่กี่มากน้อยกันแน่? เรื่องเหล่านี้คงเป็นเพียงบทเรียนในวังหลังที่จารึกให้คนท่องจำ ไปอย่างสูญเปล่า เพราะสำหรับตัวนางแล้ว คำกล่าวนี้ดูห่างไกลความจริง จนสุดหล้าทีเดียว
อดีตที่ยากจน แม่เลี้ยงสามีที่เอาเปรียบบ้านใหญ่ บ้านรอง ของพวกเธอต้องชดใช้!
ตายด้วยเงื้อมมือของเพื่อนร่วมสาขา เนเน่ เนตรนภา จึงทะลุมิติมาอยู่ในร่างเด็กน้อยวัยสิบหนาวที่ป่วยตาย นามเซี่ยซูเหยา มีบิดา พี่สาว พี่ชายที่เป็นห่วงนางมากกว่าสิ่งใด
ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก
เมื่อถูกคู่หมั้น(ที่ไม่ได้รัก แต่หมั้นเพราะผู้ใหญ่) หักหลังด้วยการซ่อนผู้หญิงเอาไว้ข้างหลังเป็นหางว่าว ทำให้อัปสรสวรรค์ รู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก ผู้หญิงเก่งรอบด้านอย่างเธอทำไมถึงถูกหักหน้าเช่นนี้ได้ หญิงสาวไปดื่มเหล้ากลบความโมโห แต่ดันดื่มมากเกินไปจึงเมาเละ มารู้สึกตัวตื่นอีกทีก็แดดแจ๋ฟ้าแจ้งจางปางแล้ว อาการปวดหัวตึบ ๆ ยังไม่น่าช็อคซีนีม่า เท่ากับมีผู้ชายหน้าตาเหมือนเทวดาแปลงกายนอนอยู่ข้างๆ แถมเนื้อตัวและสภาพเตียงก็ทำให้คิดดีไม่ได้เลย! เธอรีบหนีออกมาโดยพลันและคิดว่าเรื่องคงจบแล้ว แต่ไหงเจ้ากรรมนายเวรในรูปแบบผู้ชายหล่อโฮกกกยังตามติดมาถึงบริษัทล่ะ แถมยังข่มขู่ว่าถ้าไม่รับเขาเข้ามาเป็นผู้ช่วยส่วนตั๊วส่วนตัว จะแฉวีรกามบนเตียงของเธอให้โลกรู้ แล้วแบบนี้เธอมีทางเลือกอื่นไหมล่ะ ก็ไม่มี๊ นอกจากยอมให้เจ้ากรรมนายเวรสุดหล่อมาอยู่ใกล้ๆ ประดุจดั่งหอกข้างแคร่ ที่พร้อมเสียบพร้อมแทงทุกที่ทุกเวลา แม้แต่บนระเบียงก็แทงจนยับไม่มีละเว้น ใครก็ได้... มาอันเชิญเจ้ากรรมนายเวรตนนี้ไปสักทีเถอะ เธอไม่ไหวแล้ว เมื่อยขามาก!
แปดปีก่อน วินเซียนเล่อเป็นคุณหนูจากตระกูลร่ำรวยที่ไม่เคยต้องทำงานบ้าน หยิ่งยโสและเอาแต่ใจ; ส่วนซางซือซวี่เป็นหนุ่มจากครอบครัวยากจนที่ถูกคุณหนูเลี้ยงดู ชีวิตลำบากแต่มีความเย็นชาและสง่างาม แปดปีต่อมา วินเซียนเล่อกลับกลายเป็นคุณหนูที่สูญเสียทุกสิ่ง ชีวิตถูกคนอื่นควบคุมและต้องทนทุกข์อย่างโดดเดี่ยว; ในขณะที่ซางซือซวี่กลายเป็นผู้มีอิทธิพลในวงการธุรกิจที่ไม่มีใครกล้าหาเรื่อง เมื่อได้พบกันอีกครั้ง เขามองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธที่ข้างหูของเธอ พูดด้วยความโกรธว่า "เพราะความเกลียดชังที่มีต่อคุณวินเท่านั้นที่ทำให้มีซางซือซวี่ในวันนี้" เธออดกลั้นน้ำตาและยิ้มอย่างไม่หวั่นไหว "ถ้าเช่นนั้นฉันก็คงเป็นผู้ที่ทำให้คุณประสบความสำเร็จ คุณจะตอบแทนฉันอย่างไรดี ?" ในคืนฝนตกต่อมา เขากลับมาดันเธอที่ประตูห้องน้ำด้วยความโกรธและโมโห "วินเซียนเล่อ คุณห้ามแต่งงานและมีลูกกับคนอื่น! คุณเป็นของฉันคนเดียว!"
"อ๊ะ..ที่ไหนนี่มืดจัง อึดอัดจังเลย โอ้ย !!ใครถีบหัววะ" "ฮูหยินคลอดแล้วเป็นคุณชายน้อยเจ้าค่ะ ยังมีอีกคนเจ้าค่ะ เบ่งอีกเจ้าคะ " "อุ๊แว" "เป็นคุณหนูเจ้าค่ะฮูหยิน"
ลู่จื้อ อาศัยอยู่ในไต้หวัน เธอเป็นเจ้าของคาสิโนขนาดใหญ่ ที่ส่งต่อมาจากพ่อบุญธรรมที่รับเธอมาเลี้ยงจากบ้านเด็กกำพร้า เธอวางมือคืนอำนาจให้ญาติพี่น้องของพ่อบุญธรรม แต่พวกเขากลับตามฆ่าเธอ
เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด