นางถือกำเนิดมาพร้อมกับโชคร้ายมารดาตาย ตั้งแต่นางลืมตาดูโลก ใครก็ช่างที่เห็นใบหน้างดงามของนางจะต้องมีอันเป็นไป
“ทำไมต้องเป็น เจิ้งอ้ายฉิง (เจิ้งแซ่ของมารดา อ้ายชิง-ความรัก) ”
“หวงเจิงอู๋ เจ้ากล้าขัดบัญชาข้าหรือไร”
“ฝ่าบาท ข้าเป็นถึงแม่ทัพไร้พ่ายอีกอย่าง นางแค่ลูกอนุเป็นชายารองท่านอ๋องอย่างข้าไม่นับว่ามากไปหน่อยหรือ”
“หวงเจิ้งอู๋จะมากไปแล้ว เมื่อไหร่จะเลิกดูถูกคนอื่นแล้วเปลี่ยนตัวเองเสียใหม่”
“ข้าไม่ขอรับ นางในตำแหน่งชายารอง”
หวงฉีจิ้งตบโต๊ะฉาดใหญ่
"หากไม่เห็นแก่หน้าฮองเฮาก็เชิญเจ้าปฏิเสธได้ในทันที"
หวงเจิ้งอู๋ประสานมือจากไป
จวน ขุนนางเหว่ยจื่อหยวน
“ท่านแม่ นางอัปลักษณ์เหตุใดจึงได้แต่งกับท่านอ๋องหวงเฉิงอู๋ที่รูปงาม”
“ต้องมีสิ่งใดผิดพลาด ไม่สิ ฮองเฮาเป็นถึง น้าสาวคนเล็กของนาง ก็คงไม่น่าจะผิดพลาดอะไร”
“ท่านแม่ นางจะเป็นที่โปรดปรานของท่านอ๋องหรือไม่”
“ไม่สิเจ้าดูนางเกิดมาพร้อมกับความโชคร้ายแม่ตายแล้วยังใบหน้าอัปลักษ์ ผู้คนล้วนหวาดกลัวเมื่อพบหน้านางเจ้าคิดว่าท่านอ๋องจะทรงโปรดปรานหญิงหน้าตาอัปลักษณ์หรือไร”
รอยยิ้มหยันบนใบหน้าสวยสด
“ท่านแม่เช่นนั้น ...อีกไม่นานนางคงถูกเฉดหัวออกจากจวนอ๋อง ว่ากันว่าชายาเอกของท่านอ๋อง น่ากลัวเกินใคร”
“คงต้องนับวันว่านางจะเข้าไปอยู่ในนั้นได้นานกี่วันจะเหมาะกว่า”
เจิ้งอ้ายฉิง ในอาภรณ์สีแดง มีผ้าคลุมหน้าสีเดียวกัน ปิดบังใบหน้าไว้ แม้รูปร่างอรชรทว่าใบหน้าด้านซ้ายอัปลักษณ์จนเหมือนภูติผี ก้าวขาลงจากเกี้ยวหลังเล็ก แหงนหน้ามองป้ายด้านบน
“จวนอ๋องไร้พ่าย”ไม่ได้แสดงสีหน้าว่าดีใจหรือตื่นตกใจอะไร
“คุณหนูรองข้าน้อยส่งได้เพียงเท่านี้”
เจิ้งอ้ายฉิงย่อกายลงตรงหน้าคนหามเกี้ยว
“โอ้คุณหนูรองอย่าทำแบบนี้ ข้าน้อยไม่อาจรับได้”
“ท่านลุงเป่ย อีกเท่าไหร่ถึงจะได้พบกัน ท่านลุงมีน้ำใจกับข้ายิ่งแล้ว คนอื่นล้วนไม่มีใครอยากมาส่งข้าที่นี่ เพราะกลัวจะพบกับความโชคร้ายและอัปยศ มีแต่ท่านลุงที่มีน้ำใจกับข้ายิ่งนัก อ้ายฉิงไม่มีเงินทองตอบแทนมีเพียง คำขอบคุณก็เท่านั้น” ลุงเป่ย ได้แต่ยิ้มเศร้าๆ
“คุณหนูแค่นี้ก็ซึ้งใจแล้ว คุณหนูรองโชคร้ายแต่ไม่เคยโทษคนอื่น พยายามที่จะ ให้คนอื่นยิ้มได้เสมอ ยายแก่เป่ยฝากลุงมาบอกกับคุณหนูเพราะนางไม่อาจหยุดร้องไห้ได้ เมื่อคุณหนูมาที่นี่”
“ท่านป้าดีกับข้ามาตลอดตั้งแต่ข้าเกิดมามีเพียงท่านป้าที่คอยห่วงใย”
“นางตอนนี้ก็ยังห่วงคุณหนูรองไม่เสื่อมคลาย กำชับให้ทำเหมือนที่เคยทำเป็นประจำห้ามละเลย จนกว่าคุณหนูจะพ้นเคราะห์”
เจิ้งอ้ายฉิงยิ้ม ก่อนจะหันหลังสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก้าวเดินผ่านธรณีประตูหน้าจวนอ๋อง
สาวใช้นางหนึ่ง ก้มหน้าไม่กล้ามองผ่านผ้าคลุมด้วยได้ยินคำเล่าขานมามากมายกับใบหน้าอัปลักษณ์ของเจิ้งอ้ายฉิง
“พระชายา ท่านอ๋องให้ข้าน้อยจัดห้องหับไว้ให้ท่านแล้วอยู่ด้านในสุด”
สาวใช้วัยอ่อนกว่ายื่นมือรับห่อผ้าในมือของเจิ้งอ้ายฉิง
“ไม่เป็นไรข้าถือเองได้”
“เชิญนายหญิง ด้านซ้าย”
สาวใช้ผายมือ ให้เจิ้งอ้ายฉิงเดินไปก่อน
“นายหญิงเจ้าขาข้าน้อย เจียวหยูรับหน้าที่ดูแลนายหญิงต่อจากนี้ตามคำสั่งท่านอ๋อง”
“ขอบใจเจ้ายิ่งนัก”
น้ำเสียงอ่อนโยนไม่ว่าจะพูดกับใครเป็นกิริยาที่ อ้ายฉิงทำจนกลายเป็นความเคยชิน
ห้องด้านซ้ายสุด ที่เหมือนจะเพิ่งได้รับการปัดกวาดด้วยร้างไร้มานาน
“นายหญิงข้าน้อยเพิ่งจะได้มาปัดกวาดให้ท่าน เมื่อวานด้วยงานในจวนมากมายกว่าจะปลีกตัวมาได้ นายหญิงคงพอจะหลับนอนได้”
จริงอย่างที่คิด ห้องนี้ถูกทิ้งร้างมานานจริงๆ
“ขอบใจเจ้าเหลือเกินแค่นี้ก็ดีแค่ไหนแล้วปกติ ข้าทำทุกอย่างด้วยตัวเองนี่ถือว่ายังมีเจ้า”
หวงเจิงอู๋ก้าวเท้ายาวๆ หยุดยืนตรงหน้า สีหน้าเรียบเฉย ยืนเอามือไพล่หลังด้วยความถือตัวใบหน้าหล่อเหลาเบือนหน้าหนีไม่อยากมองเจิ้งอ้ายฉิงแม้แต่น้อย เจิ้งอ้ายฉิง แอบมองใบหน้าหล่อเหลาราวเทพบุตร ที่มองเห็นเพียงเสี้ยวหน้า
“เจียวหยู ออกไปก่อน”
เจียวหยูย่อกายจากไป เจิ้งอ้ายฉิงนั่งก้มหน้ามองมือตัวเอง
“ข้าไม่ได้มาเปิดผ้าคลุมหน้ารับเจ้าเข้าจวนอย่างที่เจ้าคิด ข้าไม่ได้มาร่วมหอกับเจ้าอย่างที่เจ้าคิด เพราะฉะนั้นหากไม่พอใจในสิ่งที่ข้าทำ รุ่งเช้าเจ้าก็แค่ขอหย่ากับข้าเสีย”
เจิ้งอ้ายฉิงเงยหน้าอัปลักษณ์ขึ้นจ้องมองดวงหน้าของหวงเฉิงอู่ก่อนจะเปิดผ้าคลุมหน้า เผยให้เห็นใบหน้าหน้าอัปลักษณ์เต็มตา หวงเฉิงอู่ผงะถอยอ้าปากค้างใบหน้าซีกขวาแม้จะงดงาม จนไร้ที่ติแตกต่างกับใบหน้าซีกซ้าย ที่อัปลักษณ์จนเขาแทบจะเผลอสำรอกของเก่าออกมา
“คงต้องรบกวน ท่านอ๋องขอหย่ากับข้าเสียเอง”
เสียงดังระฆังแก้วกังวานเพราะพริ้งแม้จะอยู่ในอาการไม่พอใจก็ตาม
“เจ้ารู้คำตอบอยู่แล้วว่าข้าไม่อาจ ขอหย่าเจ้าได้ เจ้าจึงยื่นข้อเสนอแบบนี้คืนกลับมา เจ้าอัปลักษณ์เพียงนี้ก็น่าจะรู้ดีว่าไม่คู่ควรกับข้า”
“ข้ารู้ดี”
น้ำเสียงแปร่งในตอนท้าย คล้ายๆ กับยอมรับชะตากรรมของตัวเองเป็นอย่างดี
“รู้ก็ไปเสีย”
“ไม่ใช่ข้าที่ตัดสินใจได้เพียงลำพัง”
เหมือนจะร้องขอความเห็นใจ
“เจ้าก็รู้ว่าข้าต้องอับอายผู้คน และข้ารังเกียจเจ้าแค่ไหนกับเรื่องใบหน้าอัปลักษณ์ของเจ้า”
“ข้าก็เพียงทำตามบัญชาของฝ่าบาท”
“อ้าง บัญชาฝ่าบาท ใจจริงหากเจ้าไม่ยอมแต่งเพราะเห็นแก่ข้าที่ต้องมาแบกรับความอับอายให้เหล่าขุนนางและผู้คนในวังหลวงต้องหัวเราะเยาะ เจ้าก็ควรจะขัดบัญชาฝ่าบาทเสียมิใช่แต่งกับข้า หรือว่าเป็นเพราะเจ้าเองก็แอบดีใจที่ได้แต่งกับข้า”
“ข้าไม่เคยดีใจหรือเสียใจ”
“ดีข้าจะทำให้เจ้าเสียใจที่ต้องแต่งกับข้า และจะต้องขอหย่ากับข้าอีกไม่นาน”หวงเฉิงอู๋ก้าวขาสะบัดแขนจากไป เจิ้งอ้ายฉิงเอนกายพิงพนักเก้าอี้
จ้องมองกระจก เงาที่มีใบหน้าอัปลักษณ์ของตัวเองอยู่ตรงนั้น ยกมือขึ้นลูบใบหน้างดงามด้านขวา
สิบแปดปีก่อน
“นางถือกำเนิดมาพร้อมกับโชคร้ายมารดาตาย ตั้งแต่นางลืมตาดูโลก ใครก็ช่างที่เห็นใบหน้างดงามของนางจะต้องมีอันเป็นไป”
“ท่านเซียนแล้วข้าจะต้องทำอย่างไร”
ท่านป้าเป่ยตอนนั้นอายุอานามยังไม่เท่าไหร่นางเป็นสาวใช้ที่คอยรับใช้มารดาของเจิ้งอ้ายฉิงอีกที เอ่ยปากถามขึ้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ
“เจ้าก็แค่ ปิดบังใบหน้างดงามของนางเสีย เด็กน้อยคนนี้เมื่อเติบใหญ่ใบหน้าของนางหาก ปล่อยให้ผู้คนพบเห็น จะต้องเป็นฉนวนเหตุล่มเมืองล่มสวรรค์อย่างแน่นอน”
เจิ้งอ้ายฉิง ยกมือขึ้นลูบใบหน้าด้านซ้ายแสนอัปลักษณ์ที่มีวัตถุบางอย่าง ปิดบังไว้ก่อนจะยิ้มให้กับกระจกบางๆ
“เจ้าเหมาะกับ ความอัปลักษณ์อย่างนี้เจิ้งอ้ายฉิง”
พระเอกสายแอพ เฉยชาทว่าโบ๊ะบ๊ะภายใน โคตรรั่ว อัตราการแขวะ0.01วินาที ภายใต้หน้ากากสูงส่งบริสุทธิ์ ในนามปรมาจารย์ ที่ค้ำคอไว้ พบกับ พระเอกสายกาว ที่ไม่เอื้อนเอ่ย ใครกันจะรู้ภายในใจท่านคิดเช่นไร พบกับนิยายแนว ขุนเขาจอมยุทธ์ บุญคุณความแค้น แต่พระเอกสายฮา สะกดกลั้นความอาไว้ภายใต้หน้ากากหล่อเหลาอย่าเผลอนินทาอย่าเผลอหลงรัก เพราะปรมาจารย์ท่านนี้อ่านใจคนออก
เรื่องเล่าของท่าน อาจทำข้าสำราญ หรืออาจทำให้ทุกข์ตรมไปกับท่าน ถือว่าท่านจ่ายค่าตอบแทนแก่ข้าแล้ว เสพสุขจากความทุกข์ตรมกระทำได้เช่นนั้นหรือความทุกข์ตรมของผู้อื่น ทำให้เราหลุดพ้นความทุกข์ตรมของเราได้
บุตรีของขุนนางกบฏ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้บิดาแทนที่จะหนีไปไกลแสนไกลกลับพาตัวเองมาผูกพัน กับคนที่เป็นศัตรู แค้นฆ่าพ่อจือหรานจะสามารถทวงความเป็นธรรมให้บิดาได้หรือไม่ ..พบกับความรักความแค้นที่ฝั่งแน่น
ตำรวจหญิงมือดีดับอนาถแต่สวรรค์กลับให้โอกาสได้กลับไปแก้แค้น แทนหญิงโง่งมคนหนึ่งที่ถูกหักหลังเช่นกัน งานนี้จะต้องไม่ใครก็ใครสักคนจะต้องเสียน้ำตา
.....อามูเนส... .. ราชินีที่รักแห่งข้าขอเทพธิดาไอซิส มอบชีวิต อมตะให้ข้าและนาง ...รอ เจ้าอยู่ที่นี่ ตราบ ดวงอาทิตย์อับแสง ..รอเจ้าอยู่ร่วมเดินทางสู่ฟากฟ้า พร้อมกัน” คำขอครั้งสุดท้ายของ..โฮรัส.. ผู้เลื่องชื่อเทพแห่งสงคราม กับเจ้าหญิงผู้ซึ่งตกเป็นเชลย ด้วยจุดเปลี่ยนที่บิดาของอามูเนส ผู้เลอโฉมเลื่องลือไปไกล พ่ายแพ้ให้แก้ฟาโรห์โฮรัสเทพสงครามผู้ยิ่งใหญ่ เป็นจุดเริ่มต้นของ คำขอต่อเทพแห่งความเป็นอมตะไอซิส คำขอครั้งสุดท้ายจะเป็นจริงไหมและเอวาสาวสวยนักโบราณคดีที่ขุดค้นพบ คำขอนั้นของฟาโรห์โฮรัสจะ สามารถค้นพบความจริงต่างๆได้อย่างไร ล่องลอยไปกับดินแดน ไอยคุปต์ด้วยกันใน...มนตราฟาโรห์...
ขายตัวเข้ามาเป็นอี้จีฝึกหัด แต่ยังไม่ผ่านงานแรกด้วยซ้ำ สวรรค์ชังหรือนรกแกล้งให้เฟิ่งหลิว ต้องมาพบเจอคนใจร้ายเช่นนี้แล้วยังมาหาว่าเฟิ่งหลิวเป็นนางคณิกา กร้านโลกอีก ทั้งๆที่น้องแสนจะเดียงสา
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
ว่าที่ลูกสะใภ้ไฟแรงสูงเธอต้องเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับว่าที่พ่อผัวหม้ายร้างเมียมานายอรมปี
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก