ฝากดีเอ็ม ณดาด้้วยนะค่ะ (วิศวะรุ่นน้อง) "ฉันไม่มีวันหมั้นกับผู้ชายมักมากนิสัยเสียอย่างนาย ไม่มีวัน" ณดาเอ่ยพร้อมกับเชิดหน้าใส่ ขณะที่เธอนั้นพยายามดันตัวออกจากการรัดกุมของดีเอ็ม "ทำไม คนอย่างฉันมันทำไม" ร่างสูงเอ่ยถามพร้อมกับจ้องใบหน้าสวยใส ด้วยสีหน้าและแววตาดุดัน "มักมากและสำส่อน เอาไม่เลือกอย่างนาย ต่อให้เหลือนายแค่คนเดียวฉันก็ไม่เอา" ณดาเอ่ยกับคนใจร้ายอย่างเหลืออด "สงสัยที่ปากเก่ง เถียงฉอดๆ แบบนี้ ไม่อยากเป็นแค่ว่าที่คู่หมั้น แต่อยากข้ามขั้นเป็นเมียฉันแทน" ร่างสูงเอ่ยจบ ก็ระดมจูบคนตัวเล็กไปทั่วทั้งใบหน้าและลำคอด้วยท่าทีโมโหสุดๆ เขารู้ว่าเธอนั้นเกลียดเขาเข้าใส้ แต่ทำไงได้ละในเมื่อครอบครัวดันเสนอตัวเธอมาให้กับเป็นคนของเขา แบบนี้ใครจะปล่อยให้โง่ละ มันก็ต้องลองกันหน่อย
"ฉันไม่มีวันหมั้นกับผู้ชายมักมากนิสัยเสียอย่างนาย ไม่มีวัน" ณดาเอ่ยพร้อมกับเชิดหน้าใส่ ขณะที่เธอนั้นพยายามดันตัวออกจากการรัดกุมของดีเอ็ม
"ทำไม คนอย่างฉันมันทำไม" ร่างสูงเอ่ยถามพร้อมกับจ้องใบหน้าสวยใส ด้วยสีหน้าและแววตาดุดัน
"มักมากและซ่ำซ่อน เอาไม่เลือกอย่างนาย ต่อให้เหลือนายแค่คนเดียวฉันก็ไม่เอา" ณดาเอ่ยกับคนใจร้ายอย่างเหลืออด
"สงสัยที่ปากเก่ง เถียงฉอดๆ แบบนี้ ไม่อยากเป็นแค่ว่าที่คู่หมั้น แต่อยากข้ามขั้นเป็นเมียฉันแทน" ร่างสูงเอ่ยจบ ก็ระดมจูบคนตัวเล็กไปทั่วทั้งใบหน้าและลำคอด้วยท่าทีโมโหสุดๆ เขารู้ว่าเธอนั้นเกลียดเขาเข้าใส้ แต่ทำไงได้ละในเมื่อครอบครัวดันเสนอตัวเธอมาให้กับเป็นคนของเขา แบบนี้ใครจะปล่อยให้โง่ละ มันก็ต้องลองกันหน่อย
พา ดีเอ็มผู้ชาย หนุ่มฮอตคนที่สองของกลุ่มมาเปิดตัว
คำเตือน พระเอก หล่อ รวย เลว ร้ายๆ ใครไม่ชอบพระเอกสายนี้ ผ่านไปได้เลยจ้า อ่านแล้วไม่ถูกจริต ไม่ทิ้งคอมเมนท์แย่ๆ ให้กับนักเขียนนะคะ เพื่อเซฟความรู้สึกนักเขียน ฝากเอ็นดู ดีเอ็ม ณดา กันเยอะๆ ด้วยนะคะ กดไลท์และคอมเม้นต์ให้ไรท์กันด้วยนะคะ
++++++++++++ ใบหน้าอันหล่อเหลาโน้มเข้าหาหวังจะจูบคนตัวเล็ก แต่เธอกับหลับตา “หยี่ สกปรกปาก ไม่รู้ไปจูบกับใครมาบ้าง” “ไง...ไม่อยากร่วมด้วยเหรอ” “เฮ้ย... กล้าดียังไงมาว่าฉันอยากร่วม ปากสกปรกแบบนี้กรุณาถอยไปไกลๆ” “ว่า ฉัน” “ที่นี่มีหมาอีกตัวไหมละ” ร่างบางที่กำลังจะสาวเท้าหนีกับถูกมือหนากระชากเข้าหาตัว “หึ...พูดผิดพูดใหม่ได้นะคนสวย ฉันให้โอกาสเธอพูดอีกที” ใบหน้าอันหล่อเหลาของหนุ่มเพลย์บอยเสยิ้มให้กับคนตรงหน้า มะปรางถึงกับถอยหนี “อย่านะ...นี้นายคิดจะทำอะไร” “ก็เห็นแวดๆ อยากลองไหมละ ห้องนั้นยังว่างนะ” รามไม่พูดเปล่า แต่ใบหน้าอันหล่อเหลาผิวเนียนใส จมูกโด่งกับโน้มเข้าหาคนตัวเล็ก !! ตึก ตึก !! ด้านมะปรางที่ถูกรามเข้าใกล้ในระยะประชิดตัว ร่างบางถึงกับใจสั่นเต้นแรงขึ้นมาอย่างทราบสาเหตุ “งั้นเหรอ” เธอเอ่ยกับเขาอย่างท่าทาย !! โป๊ก !! แต่นั้นกับรองเท้าส้นสูงไซส์ 37 กับเตะเข้าส่วนสำคัญของคนตัวสูงถึงกับทรุดตัวลงกับพื้นเขาจุกขดจนตัวงอ “อึก...โอ้ย เธอ...ยัย” รามที่ถูกยัยหน้าสวยบ้าพลังเตะเข้าส่วนสำคัญถึงกับหน้าแดงตัวงอ “ชวนเข้าห้องไม่ใช่เหรอ อ่อนแบบนี้ ห้องไหนดีละ ห้อง ICU หรือห้องดับจิต” มะปรางไม่พูดเปล่าร่างบางเอ่ยจบก็โบกมือบายๆ ให้กับผู้ชายปากเสียด้วยสีหน้าสะใจ เหอะมีอย่างที่ไหนมาชวนฉันเข้าห้องด้วย รู้จักฉันน้อยไปซะแล้ว รู้จักสนิทหรือไงถึงได้มาชวนฉันเข้าไปเล่นสยิวในห้อง บ้าไปแล้วไหม ร่างบางเดินสะบัดตัวไปอย่างสวยๆ ด้านรามที่ถูกสาวสวยเตะเข้าเจ้ามังกรยักษ์ถึงกับหน้าแดง อ่า...ยัยบ้านี้ กล้าดียังไงเตะเขาไอ้นั้นแทบหัก แล้วยังมีหน้ายิ้มเยาะเยิ้ยสะใจ เจ็บตัวไม่เท่า เจ็บหนักตรงที่มาว่าเขาอ่อนนี้สิ หึ...! เกิดมาพึ่งเคยพบเคยเจอ สวยสเปคเลยแต่บ้าพลังชิบหาย รามน้อยไม่หักก็บุญเท่าไหร่แล้ว “หึ...ฝากไว้ก่อนเถอะ” ยัยนี้เด็กคณะไหนว่า สวยคับ สวยชิบหาย แต่ร้ายไม่เบา เท้านี้จะหนักไปไหนเหอะ หึ...แบบนี้แหละสเปคเลย เล่นตัว ยากๆ แบบนี้แหละชอบครับ ชอบมาก คอยดูเถอะอย่าหลงเสน่ห์รามคนนี้ขึ้นซะมาละ ระวังจะหาว่าพี่รามไม่เตือน ของหวงนายรุ่นพี่เป็น ผลงานเซต ราม น้องชายแฝด โรม (พยศรักร้ายนายมาดนิ่ง โรม x นานิล) มีให้อ่านจบเรื่อง มะปราง เพื่อนสนิท โรราน้องสาว โรม ราม (หวงรักร้ายนายวิศวะ โรรา x ดีเทล) มีให้อ่านจบเรื่อง ราม เพื่อนสนิทกลุ่มเดียวกับ แทคิณ (เสี่ยงรักร้ายนายเพื่อนสนิท แทคิณ x พรีน เพื่อนนานิล) มีให้อ่านจบเรื่อง นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นตามจิตนาการของผู้เขียน ไม่มีเจนตนามุ่งร้ายต่ออาชีพ สร้างความเสียหาย แตกแยก ชื่อ ตัวละคร สถานที่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงเหตุการณ์สมมติเท่านั้น อ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้น มาอ่านฟินๆ จิกหมอนไปกับคิมได้เลยคะ อายุต่ำกว่า18 ปีควรได้รับคำแนะนำ
“ช่วยหน่อย พาฉันออกไปจากตรงนี้” “แล้วฉันจะได้อะไรจากนาย” พรีนต่อลองกับเขาคนหน้าขรึม “เธอ....” สายตาคมคู่ดุจ้องมองคนตรงหน้าด้วยสีหน้าไม่พอใจ เขาเสียเวลาที่เธอต่อลองกับเขามากพอแล้ว “เหอะ คิดว่าหล่อ เป็นไอดอลแล้วไง ใช่ว่าสาวๆ จะชอบนายจะทุกคนหรอกนะ” พรีนเอ่ยพร้อมเชิดหน้าใส่แทคิณ ไอดอลแล้วไง ถึงนายนี้จะหล่อตรงสเปกฉันมากก็เถอะ เล่น ตัวไปสิคะ ใบหน้าอันหล่อเหลาโน้มเข้าหาคนตรงหน้า พร้อมกับหลุดรอยยิ้มที่มุมปาก “ไม่ชอบ เกลียดฉัน” เขาแสยิ้มถามคนตรงหน้า “ก็ไม่ขนาดนั้น” “จะช่วยไม่ช่วย” เขาเอ่ยเสียงเข้ม แต่นั้นภายในหัวของพรีนกับคิดอะไรขึ้นมา “ฉันไม่เคยช่วยใครฟรี อะไรดีน๊า นาฬิกานั้นก็แบรนด์หรู แหวนที่นิ้วนายนั้นก็สวย” นัยน์ตาเจ้าเล่ห์ของคนใบหน้าสวยจงใจเหลือบมองที่แขนและข้อมือของเขามาอย่างตั้งใจ นาฬิกานั้นก็สวย แหวนที่ใส่ในนิ้วนั้นก็แบรนด์ดังด้วยสิ แต่น่าเสียดายที่เธอมีมันหมดแล้ว “อะไร ดีน๊า ที่สาวๆ ทั้งประเทศอยากได้จากนายกัน” เธอเอ่ยอย่างเชิดหน้า เหอะเขาคงคิดว่าฉันอยากได้ อย่างสาวๆ คนอื่นๆ อยากได้ละสิ ในเมื่อเขาให้โอกาสแล้ว แต่เธอกับไม่เลือกมัน ได้เขานี้แหละจะยัดเยือดสิ่งนี้ให้เธอเอง !! พรึบ !! มือหนากระชากแขนคนตรงหน้าเข้าแนบชิดตัว ตาจ้องตา จมูกโด่งคมสันโน้มแตะเข้าที่จมูกเรียวคนตัวเล็ก ทั้งสองสบตารับรู้ลมหายใจอุ่นๆ ตาคมสบตาเข้ากับนัยน์ตาคู่สวยเปล่งประกายตรงหน้า “ในเมื่อไม่ยอมเลือก ฉันจะเลือกให้เธอเอง” รอยยิ้มอันร้ายกาจผุดขึ้นมาบนใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ริมฝีปากอันร้ายกาจประทับลงที่ปากอวบอิ่มนุ่มนิ่มลงอย่่าง อ่อนโยน จูบนี่ฉันพรีนรดาอย่างฉันลืมไม่ลง
+++++++++++++++ “แอบฟังแล้วคิดว่าฉันจะปล่อยผ่านไปง่ายๆ งั้นเหรอ” “ฉันไม่ได้แอบ” “แต่เธอได้ยิน” “ช่วยไม่ได้นายกับแฟนนายอยากจะคุยเรื่องลับๆ ของพวกนายตรงนี้เอง และฉันขอบอกไว้ตรงนี้ว่าไม่ได้แอบฟัง” “ใครสน” โรมไม่พูดเปล่าแต่มือหนากับหยิบแว่นตาทรงกลมออกจากใบหน้าของคนตัวเล็ก กลิ่นน้ำหอมเจือจางที่ลอยมาแตะจมูกของคนตัวโต ยัยพิษสุนัขบ้านั้นตัวหอมชะมัด สายตาคมคู่ดุจ้องมองใบหน้าสวยใสไร้กรอบแว่นตาอย่างใกล้ชิดพิจารณา ราวกับถูกใบหน้าสวยหวานตรงหน้านั้นต้องมนต์สะกดเข้าอย่างจัง “แว่นฉันนั้นนายจะเอาไปไหน เอาคืนมานะ” “รับปากกับฉันว่าเธอจะไม่เอาเรื่องที่ได้ยินไปพูดที่ไหน ห้ามเอาเรื่องของฉันไปเผยแพร่เด็ดขาด” โรมเอ่ยกับคนตรงหน้าเสียงเข้ม “ทำไมรับไม่ได้ อายเหรอ” นานิลเอ่ยอย่างเชิดหน้า นี้เหรอโรม บริหารปี 3 ที่สาวๆ คลั่งไคล้นักหนา แต่น่าเสียดายหน้าตาก็ดี แต่ไม่คิดจะหน้าตัวเมีย “ไม่ใช่...เรื่องของเธอ แค่ทำตามที่ฉันสั่ง” “เป็นใครมาสั่งฉัน” เธอสวนกลับเขาทันที แต่นั้นกับถูกฝ่ามือหนาบิดเข้าที่เอวเล็ก นานิลถึงกับรู้สึกได้ “ไม่รับปาก แต่จะพยายามปิดปากให้เงียบละกัน” นานิลเชิดหน้าใหเกับเขา เธอตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำว่าไม่รับปาก นั้นยิ่งทำให้โรมนั่นหัวเสียอยู่ไม่น้อยกับคำตอบของนานิล สายตาคมเข้มสำรวจใบหน้าสวย จมูกโด่งคมสันโน้มเข้าหาอย่างใกล้ชิด จมูกโด่งคมสันโน้มแตะเข้าที่จมูกคนตัวเล็ก ทั้งสองสบตารับรู้ลมหายใจอุ่นๆ ตาคมสบตาเข้ากับนัยน์ตาคู่สวยเปล่งประกายตรงหน้า “จะว่าไปของแปลกๆ อย่างเธอก็น่าสน น่าลองดีเหมือนกันนะ” รอยยิ้มอันร้ายกาจผุดขึ้นมาบนใบหน้า อยากสั่งสอน หรืออยากลอง ในเมื่อตนมองปากบางจิ้มลิ้มตรงหน้าไม่ไหว เห็นทีน่าจะอย่างหลังมากกว่า
เขาเป็นคนรักใครรักยาก ในเมื่อเธอเข้ามาทำให้รักแล้ว ยากที่จะปล่อยเธอไป "มาทำให้ฉันรัก แล้วคิดจะออกไปจากฉันง่ายๆ งั้นเหรอ ไม่มีวัน" พูดจบ มือหนาก็กระชากคนตัวเล็กเข้ามาระดมจูบเข้าใบหน้าสวย อย่างหนักหน่วง จูบที่ดิบเถื่อน และรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เขาเป็นคนรักใครรักยาก แต่ในเมื่อยัยตัวแสบเข้ามาทำให้รักแล้ว ก็ยากที่จะปล่อยเธอไป ปากหยักหนาถอนจูบออกจากคนตัวเล็ก และอุ้มเดินไปยังลานจอดรถ "...พี่ธีร์นี้พี่จะทำอะไร ปะ...ปล่อยฉันนะ" "ของเคยๆ กันอยู่จะกลัวไปทำไม" ธีร์ณัฐจ้องมองคนตรงหน้าที่แสนจะพยศ "อย่านะพี่ธีร์ ไม่..." หึ... รอยยิ้มอันร้ายกาจผุดขึ้นมาที่มุมปากหยัก "เด็กแสบๆ อย่างเธอจะได้ไม่กล้า มาบอกเลิกฉันอีก" ธีร์ณัฐตะเบ่งเสียงด้วยท่าทีโกรธจัด พร้อมกับโน้มใบหน้าเข้าไปจัดการปิดเสียงอันน่ารำคาญที่ออกจากปากคนตัวเล็ก (ธีร์ณัฐ พี่ชายดีเทล เรื่องหวงรักร้ายนายวิศวะ) (ข้าวตัง เพื่อนสนิทโรรา เรื่องหวงรักร้ายนายวิศวะ)
"มีฉันเป็นผัวคนเดียวมันไม่พอหรือไง ถึงอยากได้ไอ้แทคิณเป็นผัวเพิ่ม" ดีเทลตะเบ่งเสียงด้วยท่าทีโกรธจัด พร้อมกับดึงคนตัวเล็กเข้าหา "สงสัยพี่จะเข้าใจอะไรผิด คนที่ฉันรักคือพี่แทคิณ...พี่ใช่พี่" โรราเอ่ยมาเช่นนั่น แต่นั้นกับยิ่งทำให้ ดีเทลโมโหและโกรธหนักเข้าไปอีก คนตัวโตถึงกับกดคนใต้ร่างลงให้จมเตียงนอน "ฉันไม่สนว่าเธอจะรักใคร ตราบใดที่เธอเป็นของฉันๆ ไม่มีทางที่เธอจะเป็นของใครหน้าไหนทั้งนั้น" "คนเลว..." โรราเอ่ยด้วยเสียงอันโกรธจัด ดีเทลจ้องมองคนใต้ร่างด้วยความรู้สึกโกรธและโมโห "กับผู้หญิงสำส่อนอย่างเธอ ฉัน เลว...ได้มากกว่าที่เธอคิด" ดีเทลเอ่ยจบร่างสูงก็ระดมจูบคนดื้อ ที่แสนจะพยศไปทั่วทั้งใบหน้า "มะ...ไม่นะ พี่ดีเทล" โรราเอ่ยออกมาด้วยเสียงสั่น
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
นาธัชชาถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจจากผู้เป็นพ่อ เพียงเพราะเธอมีส่วนทำให้แม่ต้องตาย ใครจะคิดว่าชีวิตเด็กเจ็ดขวบ จะถูกโชคชะตาเล่นตลกครั้งแล้วครั้งเล่า และพลิกผันจนกลายเป็น 18 มงกุฏ เพื่อความอยู่รอดของชีวิต ฟาเบียน (อายุ 35 ปี) ชายหนุ่มรูปหล่อทายาทคนโตแห่งมาร์ตินกรุ๊ป เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีธุรกิจโรงแรมทั้งที่ไทยและฝรั่งเศส ชีวิตของเขามีพร้อมทุกอย่างแต่กลับไร้เงาของสาวข้างกาย ใครๆ ก็พูดว่าเขาตั้งมาตรฐานผู้หญิงที่จะมาเป็นคู่ชีวิตไว้สูง บางคนบอกว่าระดับเขาต้องได้ผู้หญิงระดับนางงามที่มีมงกุฏการันตีความสวย ซึ่งมันก็คงจะจริง เพราะสาวที่เข้ามาพัวพันเป็นสาวสวยที่มีมุงกุฏการันตี และไม่ได้มีแค่มงกุฏเดียว เพราะเธอเป็น 18 มงกุฏ นาธัชชา (อายุ 20 ปี) นาธัชชาหรือหนูนา เด็กหญิงผู้เผชิญกับชีวิตที่แสนรันทดตั้งแต่อายุแค่เจ็ดขวบ เธอถูกพ่อแท้ๆ ยัดเยียดให้เป็นตัวซวย เพียงเพราะมีส่วนทำให้แม่ต้องตาย ชีวิตของเธอต้องพลิกผันซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นกราฟชีวิตที่มีแต่จะตกต่ำ จนถึงขั้นต้องเป็น 18 มงกุฏ เพียงเพราะความอยู่รอดของชีวิต ความแตกต่างและความห่างชั้นทางสังคม จะชักนำให้เขาและเธอมาเจอกันได้อย่างไร เรามาติดตามไปพร้อมๆ กันค่ะ - ฟาเบียน ลูกชายคนโตของ เซดริก และมาลารินทร์ จากเรื่อง Malalin of love ร้อยรักมาลารินทร์ - นาธัชชา หรือหนูนา ตัวละครใหม่ คำเตือน -นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น มิได้มีเจตนาชี้นำหรือเป็นตัวอย่างให้นำไปใช้ในชีวิตจริง -นิยายอาจมีเนื้อหาบางช่วงบางตอนที่ไม่เหมาะสม ทั้งเรื่องเพศ และมีคำหยาบคาย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน - นิยายเรื่องนี้เหมาะสมกับผู้อ่านที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป
หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...
อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป