เพราะคืนที่พลาดพลั้งทำให้มิจฉาชีพสาวอย่างปาลิน ถูกลูกค้าจอมปลอมใช้เล่ห์กลมาลวงหลอก จนต้องมาเสียตัวทำสัญญาทาสกับคนแปลกหน้า เพียงเพราะแค่เขาอยากจะพิสูจน์ให้เพื่อนเห็น ว่าโลกใบนี้มันหมุนได้ด้วยเงิน “ข้อเสนอน่าสนใจดีนะคะ ว่าแต่..ฉันจะไม่ดูเหมือนเมียน้อยลับๆ ของคุณเหรอคะ เพราะนอนกับใครก็ไม่ได้” “เหอะ! เราไม่ได้รักกันมันจะเป็นสถานะนั้นได้ยังไง คุณกับผมต่างก็ได้ประโยชน์ร่วมกัน คุณได้เงิน ได้สิ่งที่ต้องการก็เท่ากับคุณทำสัญญาซื้อขายกับผมแค่คนเดียว ส่วนผมก็ไม่ต้องแต่งงานหรือหมั้นกับใคร เพราะผมไม่ชอบการผูกมัด”
ปาลิน หรือ นาเดียร์ หญิงสาวผู้เกิดมาพร้อมกับความด่างพร้อยในชีวิตถูกตราหน้าว่าเป็นเด็กเหลือขอที่เกิดจากหญิงสาวขายบริการที่พลาดพลั้งตั้งท้องกับลูกค้า เพราะความยากจน แม่ของเธอจึงต้องมาทำอาชีพนี้หาเลี้ยงตนเองและครอบครัว ทำให้มีปาลินโดยไม่ได้ตั้งใจ หล่อนตั้งท้องกับลูกค้าชาวต่างชาติคนหนึ่งซึ่งลูกค้ารายนี้ก็ไม่เคยรู้เลย ว่าตนเองได้สร้างเลือดเนื้อเชื้อไขทิ้งไว้กับหญิงขายบริการคนนี้ ผู้คนที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้นต่างก็พากันหัวเราะเย้ยหยัน ว่าเป็นแค่หญิงขายบริการริจะจับลูกค้ารวยๆ ทำผัว ใครที่ไหนมันจะไปเอา ผ่านศึกมาไม่รู้ตั้งกี่ดุ้น อย่าคิดฝันกลางวันแสกๆ
ถึงกระนั้นประภาก็ไม่เคยคิดใส่ใจกับคำดูถูกดูแคลนพวกนั้นเลย แม้เด็กคนนี้จะเกิดจากความผิดพลาดแต่ประภาก็ไม่ใจกล้ามากพอที่จะเอาเด็กคนนี้ออก ส่วนหนึ่งเลยก็คือเธอมีความฝันลมๆ แล้งๆ เหมือนที่ใครๆ พูดมานั่นแหละ เพราะประภาดันไปตกหลุมรักลูกค้าชาวต่างชาติรายนี้เข้า เขาเรียกใช้บริการเธออยู่บ่อยครั้งและติดใจจนขอเหมาให้เธอมาบริการเขาเพียงแค่คนเดียว แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผู้ชายคนนั้นก็ไม่กลับมาใช้บริการที่ร้านอีกเลย เขาหายไป ไม่บอกหรือกล่าวคำอำลาสักคำ เธอมารู้ตัวว่าตั้งครรภ์กับเขา ผู้ชายคนนั้นก็ไม่กลับมาอีกแล้ว หล่อนรอแล้วแล้วรอเล่าจนกระทั่งคลอดลูก ก็ไม่มีวี่แววของเขาคนนั้น ในที่สุดประภาก็เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งปากมดลูก
“นางปาลิน แกมีเงินให้ฉันยืมบ้างไหม”
“ไม่มีอะ เงินเดือนลินยังไม่ออก”
“จะไม่มีได้ไง แกทำงานทุกวัน มันก็ต้องมีเก็บบ้างสิ!”
มาลีพี่สาวแท้ๆ ของประภาแม่ของปาลินเอ่ยปากถามหลานสาวในไส้น้ำเสียงแข็งกร้าว เธอเลี้ยงดูปาลินมากับยายแก้วตั้งแต่ปาลินอายุได้ 7 ขวบ ประภาแม่ของเธอก็หนีตายจากไปก่อน ซึ่งมาลีก็ไม่ได้เลี้ยงดูปาลินดีอะไรเลย กลับกันเหมือนเอาหล่อนมาใช้ประโยชน์ให้เป็นคนรับใช้คอยทำความสะอาดบ้านเป็นนางก้นครัวทำกับข้าวให้คนในบ้านทาน
“แล้วฉันไม่ต้องกินต้องใช้เหรอป้า อีกอย่างฉันใช้จ่ายค่าเทอมกับค่ารักษายายไปหมดแล้ว ไม่เหลือเก็บหรอก”
มาลีสะดุดกับคำว่า “ค่าเทอม” ปาลินไปแอบเรียนหนังสือมาอย่างนั้นหรือ? หล่อนพยายามขัดขวางการเรียนของปาลินมาโดยตลอด คุณยายแก้วเองก็ไม่ค่อยสบาย ปาลินจึงไม่ได้เอาเรื่องนี้ไปบอก เธอพยายามเก็บเงินเพื่อส่งตัวเองให้เรียนจบ ป.ตรี และแน่นอนว่ามาลีไม่ต้องการอย่างนั้น
“นี่แกแอบเรียนหนังสืออีกแล้วเหรอ! ฉันบอกแกแล้วไงว่าไม่ต้องเรียน น้ำหน้าอย่างแกไปทำงานเป็นช็อกกะรีเหมือนแม่แกโน่น ให้ยายมัทเรียนคนเดียวก็พอ” มาลีจิ้มศีรษะหลานสาวอย่างแรงเพราะไม่ต้องการให้ใครมาเหนือกว่ามัทนาโดยเฉพาะปาลิน
“ทีไอ้มัทมันยังเรียนได้ แล้วทำไมลินถึงเรียนบ้างไม่ได้ ค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ลินก็หามาเองทั้งนั้น ไม่ได้เดือดร้อนเงินในกระเป๋าลุงกับป้าเลยสักนิด เผลอๆ ลุงกับป้าก็ยังเกาะฉันกินอยู่เลย โคตรไม่ยุติธรรม”
เพี้ยะ!! ฝ่ามือของมาลีฟาดเข้าที่ใบหน้านวลอย่างจัง
“นางปาลิน! นี่แกกล้าทวงบุญคุณพวกฉันเหรอ หนอย ปีกกล้าขาแข็งเข้าหน่อย ทำเป็นอวดดี ชีวิตแกมันจะไปได้สักกี่น้ำ! ถ้าไม่เดินตามรอยอาชีพเก่าของแม่แก! กำพืดแม่มันเป็นยังไง ลูกมันก็เป็นอย่างนั้นแหละ! ไม่พ้นขายตัวกิน”
“ป้ามาลี!!”
“ทำไม! แกโกรธเหรอ? ก็แม่แกมันขายตัวจริงๆ นี่ ดีเท่าไหร่แล้วที่ฉันอุตส่าห์ชุบเลี้ยงแกจนโตป่านนี้ ถ้าแม่แกมันรักแกจริง มันคงไม่ชิ่งหนีตายไปก่อน แล้วยังทิ้งภาระเน่าๆ อย่างแกไว้ให้พวกฉันเลี้ยงอีก! ที่พวกฉันต้องลำบากขนาดนี้ ก็เพราะแกนั่นแหละ แม่ก็สนใจแต่แกคนเดียว ไม่เคยสนใจใยดียัยมัทเลย แกน่ะมันตัวซวย รู้ไว้ซะด้วย!” มือของป้ายังคงผลักศีรษะหลานสาวด้วยความรังเกียจ
“นี่คือความในใจของป้าสินะ คงอยากไล่ฉันออกจากบ้านเต็มแก่แล้วละสิ หึ! ฉันมันตัวซวย หรือว่าป้ากลัวว่าลูกชายเจ้าของร้านทองจะมาสู่ขอฉันกันแน่ ไอ้มัทมันก็อยากได้เขาจนตัวสั่นไม่ใช่เหรอ”
ปาลินกล่าวโต้ตอบมาลีไม่มีหวาดกลัวเพราะที่ผ่านมาเธอยอมให้ตลอดเพราะเห็นแก่ยายแก้วเท่านั้น ตอนนี้ยายแก้วอาการทรุดหนักต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อรอรับการผ่าตัด แต่มันต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลปาลินจึงให้เงินเก็บกับป้าไม่ได้
ความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานในวัยเด็กมันสอนให้หญิงสาวแข็งแกร่งและหัดลุกขึ้นสู้กับโลกภายนอกที่โหดร้ายกับเธอขนาดนี้ หล่อนอดมื้อกินมื้อมาก็บ่อย ถ้าจะมาห้ามไม่ให้เรียนหนังสือเพื่อจะเอาเงินส่วนนี้ไปส่งลูกสาวป้าเรียนอีกปาลินไม่มีวันยอม
“นางปาลิน!”
“ป้าไม่ต้องกลัวหรอกว่าฉันจะแย่งลูกเขยป้าน่ะ เชิญป้าถวายมันขึ้นเสิร์ฟให้เขาได้เลย เพราะฉันก็ไม่ได้อยากได้เขาหรอก คนรวยกว่านี้มีอีกเพียบ หน้าตาสวยๆ อย่างฉันจะหาเมื่อไหร่ก็ได้”
“นางปาลิน! อวดดีนักใช่ไหม แกคงลืมรสมือรสตีนฉันไปแล้วสินะ ตอนนี้ถึงได้กล้าปากดีกับฉัน!”
ด้วยความโมโหมาลีก็เข้าทุบตีปาลินเพื่อหลีกเลี่ยงความสนใจของหญิงสาว เพราะวันนี้เธอกำลังจะมาเอาเงินเก็บไปจ่ายค่าผ่าตัดให้กับคุณยายแก้ว ซึ่งมัทนารู้มาว่าปาลินแอบเก็บเงินไว้ในห้อง เธอจึงอยากให้แม่ตนเองช่วยดึงความสนใจของปาลินตนจะได้เข้าไปขโมยเงินออกมา มาลีเข้าทุบตีทำร้ายร่างกายปาลินเหมือนอย่างที่เคยทำซึ่งปาลินโดนหล่อนกระทำแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว
เธอเกลียดปาลินนัก หน้าตาก็สะสวย ผิวพรรณก็ดี แถมยังได้รับความเอ็นดูจากยายแก้วอีกต่างหาก บ้านที่พวกเขาอาศัยอยู่นี้ ก็เป็นสมบัติชิ้นเดียวที่ยายแก้วมี สองผัวเมียจึงอยากได้มันมาเพื่อจะเอาไปขายทอดต่อแล้วเอาเงินมาใช้สบายๆ แต่ติดตรงที่ยายแก้วนั้นเอ็นดูปาลินมากกว่า ทุกคนจึงระแวงและกลัวว่าปาลินจะเป็นคนได้บ้านหลังนี้ไป
“ปากดีนักใช่ไหมนางปาลิน!” เพี้ยะ!
ปาลินฮึดสู้ เธอทนมามากพอแล้ว ทั้งโดนตีทำร้ายร่างกาย ถูกใช้ทำงานสารพัด ข้าวปลาก็กินไม่เคยอิ่มเพราะมาลีจะแอบจิ๊กเก็บไว้ให้มัทนากินคนเดียวเสมอ บางวันปาลินแทบไม่มีอะไรตกถึงท้องเพราะถูกกลั่นแกล้งจากมัทนาที่เกลียดเธอเข้าไส้ ไม่เคยเห็นว่าปาลินเป็นพี่น้องตนเองเลย เพี้ยะ!!
“นี่ นางปาลิน! แกกล้าตบฉันเหรอ!”
“เออ! มากกว่านี้ฉันก็กล้า! พอกันที! ฉันทนมามากพอแล้ว ป้ารู้ไหมว่าพวกป้ามันยิ่งกว่าปลิงหรือเห็บหมัดที่เกาะอยู่บนตัวสัตว์ซะอีก ถ้าไม่ใช่เพราะยาย ฉันก็ไม่อยู่หรอกไอ้บ้านหลังนี้น่ะ! บ้านแบบนี้มันเรียกว่านรก! ไม่ใช่บ้าน!”
“นางปาลิน!! อีหลานอกตัญญู!”
ปาลินทั้งโกรธและโมโหที่จู่ๆ พอกลับมาถึงบ้านก็ถูกหาเรื่องโดยไม่รู้สาเหตุ ความอดทนของหล่อนมันก็ถึงขีดสุดจึงได้โพล่งความอัดอั้นทั้งหมดออกมา จากนั้นเธอก็หนีออกจากบ้านแล้วไปพักอยู่ในหอพักนักศึกษา ปีนี้เป็นปีสุดท้ายแล้วที่เธอเรียนจบ กว่าจะได้ใบปริญญาบัตรมาเลือดตาแทบกระเด็น เพราะต้องหาเงินส่งตัวเองเรียนไม่พอ ยังต้องหาไว้เผื่อค่ารักษาโรคมะเร็งตับระยะที่ 4 ของยายแก้วอีก
“เป็นไงแม่? มันไปยัง”
“ไปแล้ว หู้ย! แล้วนี่แกค้นเจออะไรในห้องมันบ้าง เงินที่แกบอกน่ะ มีจริงๆ หรือเปล่า”
มัทนานำบางสิ่งออกมาจากที่ซ่อนด้านหลังตนเอง มาลีฉงนใจเล็กน้อยเพราะมันคือลูกกุญแจที่มัทนาไปเจอมันซ่อนเอาไว้ในกล่องเก็บดินสอ เนื่องจากตอนที่หล่อนกำลังค้นห้องอยู่นั้น ด้วยความหงุดหงิดจึงปัดเครื่องเขียนบนโต๊ะทำงานทิ้งจึงไปเจอกุญแจนี่เข้า
เมื่อสองแม่ลูกนำมันไปไขตู้เสื้อผ้าและค้นทุกอย่างในตู้จึงได้พบกับเงินจำนวนมากมายที่วางเรียงรายกันเป็นชั้นๆ ทั้งสองตาลุกวาวไม่คิดว่าปาลินจะมีเงินมากมายขนาดนี้ เงินสดแบงค์สีเทาที่วางเรียงกันเป็นปึกๆ ถูกมัทนาและมาลีหอบจับชื่นชมด้วยความตื่นเต้นระคนดีใจจากนั้นก็ขนมันออกไปจากตู้ทั้งหมด โดยไม่คิดเห็นใจปาลินเลยว่าเงินก้อนนั้นเธอหามายากเย็นขนาดไหน
สองแม่ลูกนำเงินของปาลินไปใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย มาลีเอาไปลงทุนเล่นพนันจนหมดตัวและยังติดหนี้เพิ่มมาอีกหลายแสนจนเกินเลยถึงขั้นทำในเรื่องที่ไม่น่าให้อภัยได้ ส่วนมัทนาก็เอาไปซื้อเสื้อผ้าชิ้นใหม่ พวกเครื่องสำอางและของใช้จิปาถะทั่วไปรวมถึงแจกจ่ายให้เพื่อนๆ ได้ใช้ด้วย เพื่อให้ทุกคนมองว่าเธอร่ำรวย โดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่าเงินที่ได้จากมัทนานั้นเป็นเงินที่ถูกขโมยมา
“ลิน มีปัญหาที่บ้านอีกแล้วเหรอ?”
มีล่าเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของปาลินเอ่ยถามหญิงสาวขึ้น เพราะเวลาเห็นเพื่อนมีอาการหัวเสียหรือหงุดหงิดเข้าห้องมาทีไรก็มักจะมีแต่เรื่องในครอบครัวที่ทำให้หล่อนเป็นแบบนี้
“อืม ก็เรื่องเดิมๆ นั่นแหละ ว่าจะกลับไปเอาเงินเก็บที่ห้องสักหน่อย แต่ดันมีเรื่องซะก่อน นี่ยังดีนะที่ไอพักอยู่ในห้องเดียวกันกับยู ถ้าให้เช่าอยู่คนเดียวไอตายแน่ๆ นี่หมอก็จะนัดวันผ่าตัดยายแล้วเนี่ย โชคดีที่เงินเก็บไอยังพอมี ไม่งั้นไอก็ไม่รู้แล้ว ว่าจะไปหาเงินจากไหนมาเป็นค่าผ่าตัดให้ยาย”
ปาลินบ่นอุบขึ้นมาชีวิตของเธอมันมีแต่ทางเดินที่เต็มไปด้วยขวากหนาม เดินแต่ละทีไม่มีหรอกจะได้สบายกับเขาทุกการย่างก้าวมักจะต้องเหยียบหนามอุปสรรคพวกนั้นเสมอ แถมเธอยังเดินเท้าเปล่าอีกไม่ได้มีเครื่องอำนวยความสะดวกอะไรสักอย่าง โชคดีที่สวรรค์ยังพอเห็นใจให้เธอมีใบหน้าและผิวพรรณที่งดงาม ปาลินจึงใช้มันมาทำในเรื่องที่ไม่ดีบ้างในบางครั้งบางคราวเวลาจนตรอกจริงๆ และหล่อนก็กำลังจะเดินกลับไปเส้นทางนั้นอีกครั้ง
“ยังมีพรุ่งนี้เสมอ วันนี้ยูพักผ่อนเอาแรงก่อน ไหนไอขอดูแผลหน่อย นี่ยูโดนครอบครัวทำแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว”
“เหอะ! ตั้งแต่จำความได้มั้ง แค่นี้จิ๊บๆ เพราะตอนเด็กไอโดนหนักกว่านี้อีก”
"วีรยา" หญิงสาวผู้มีฝันและความหวังถูกโชคชะตาบีบคั้นจากหนี้สินของบิดา เธอถูกบังคับให้เป็นนางบำเรอชั่วคราวเพื่อชดใช้หนี้ที่ครอบครัวก่อไว้ แต่แทนที่จะเป็นน้องสาวอย่างที่พ่อเลี้ยงต้องการ กลับกลายเป็นเธอที่ต้องเสียสละในครั้งนี้ ความรักและการเสียสละ...จะเพียงพอหรือไม่ที่จะช่วยเธอให้รอดพ้นจากพันธนาการแห่งโชคชะตา หรือเธอจะต้องจมอยู่กับความทรมานนี้ไปตลอดชีวิต? หรือความรักที่ผิดที่ผิดเวลา อาจเป็นทั้งยาพิษและยาชูกำลังให้กับหัวใจ...
กฤษณะต้องมาปกป้องนักโทษคนหนึ่งที่พัวพันกับเจ้าพ่อค้ายารายใหญ่ให้รอดพ้นจากการถูกตามล่า หากแต่เธอคนนี้คือน้องสาวของฆาตกรที่ ฆ่/หั่nศwแฟนสาวของเขาอย่างโหดเหี้ยม แต่ยังไม่ทันได้แก้แค้นมันก็ชิ่งต/ยก่อน ความแค้นทั้งหมดจึงมาลงที่เธอเพียงคนเดียว นานวันเข้าความใกล้ชิดและผ่านอุปสรรคมาด้วยกันตลอดทางความรู้สึกนั้นก็แปรเปลี่ยนจากความแค้นเป็นความรัก "ปากนายนี่มันเลี้ยงสุนัขไว้ในนั้นกี่ตัวกันฮะ! ว่างๆก็แวะไปให้หมอฟันง้างปากลากมันออกมาปล่อยบ้างนะ” “พูดมากอยู่นิ่งๆแล้วก็มาทายาให้ฉันด้วยเพราะเธอคนเดียวฉันถึงได้เจ็บตัวแบบนี้”
เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"
หลังจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เจียงหว่านฉือตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด ทีแรกเธอยังคิดว่าสามีของเธอที่แต่งงานกันมาเป็นเวลาสามปีนั้นมาที่นี่เพื่อดูอาการของเธอ แต่ไม่คิดเลยว่า ชายคนนั้นกลับเดินไปที่ห้องผู้ป่วยข้างๆ เพื่อดูแลผู้หญิงอีกคนหนึ่ง และเพื่อผู้หญิงคนนั้นแล้ว เขายังต้องการส่งเธอเข้าคุกด้วย "2500 ล้าน เพื่อแลกกับการตบผู้หญิงของคุณหนึ่งฉาด"เจียงหว่านฉือมองไปที่เขาอย่างเย็นชา "เราหย่ากันเถอะ"" เธอรับใช้เขาอย่างอดทนมาเป็นเวลาตั้งสามปี ตอนนี้ เธอขอไม่ทำเรื่องโง่ ๆ แบบนั้นอีกต่อไปแล้ว เธอจะกลับไปสืบทอดมรดกมหาศาลของตระกูล
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
เว่ยเว่ย นักศึกษาฝึกงานทะลุมิติ เว่ยเว่ยขับเวสป้าตกเหว แต่ดันทะลุมิติตกน้ำอยู่ตรงหน้าชายหนุ่ม ที่กำลังหาปลาอยู่ที่บึงน้ำ ลู่เหวินเยียนอาศัยกับมารดาอยู่ที่กระท่อมเชิงเขา บิดาเสียชีวิตในสนามรบ เขามักจะออกไปล่าสัตว์ป่ามาขาย วันนี้เขามาดูกับดักปลาและบังเอิญเห็นบางสิ่งตกลงมาจากฟ้าต่อหน้าต่อตาเขา คำเตือน นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นตามจินตนาการของผู้แต่ง บุคคล สถาน องค์กรและเนื้อเรื่องทั้งหมดในนิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องสมมติ ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ทางปัญญาตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์พ.ศ.2537และเพิ่มเติมพ.ศ.2538 ห้ามทำการคัดลอก หรือดัดแปลงเนื้อหาของนิยายโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่เป็นผู้แต่งเป็นลายลักษณ์อักษร
ลู่เจียหง นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังในยุคปัจจุบัน จับผลัดจับพลูลงลิฟต์ก็โผล่ไปยังยุคโบราณ แถมยังอยู่ในชุดเจ้าสาวอีก ถ้าประหลาดแค่นั้นไม่พอคงไม่เป็นไร ถ้าไม่พบว่าตัวเองกำลังถูกตามล่าจากว่าทีสามีที่ยังไม่ทันเข้าหอ งานนี้นางถือคติไม่ยุ่งเกี่ยวต่างคนต่างอยู่ แต่ท่านอ๋องผู้นั้นก็เอาแต่วนเวียนอยู่ข้างตัวนางไม่หยุด แบบนี้นางจะหย่าสำเร็จได้ตอนไหนกัน!!
เมื่อสองปีที่แล้ว เพื่อช่วยคนรักในใจ พระเอกถูกบังคับให้แต่งงานกับนางเอก ในใจของเขา เธอเป็นคนน่ารังเกียจและแย่งคนรักของคนอื่น เขาเลยเย็นชาต่อเธอมาตลอด แต่กลับอ่อนโยนและเอาใจใส่กับคนรักในใจถึงเป็นเช่นนี้ เธอยังคงรักเขาอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาสิบปี ต่อมาตอนที่เธอรู้สึกเหนื่อยและอยากจะท้อแท้นั้น เขากลับตื่นตระหนก... เมื่อเธอกำลังจะตายขณะตั้งท้องลูกของเขา ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าผู้หญิงที่เขายอมเอาชีวิตตัวเองไปแลกนั้นก็คือเธอโดยตลอด