เข้าเมืองโดยวิซ่าของพี่ชายฝาแฝดเพื่อหาเงินเรียนต่อ แต่กลับต้องไปพบกับองค์ชายอาหรับหล่อเข้มเต็มเหนี่ยว ที่วางแผนการหนึ่งเพื่อจงใจให้เธอเป็นส่วนหนึ่งของแผนการ
เข้าเมืองโดยวิซ่าของพี่ชายฝาแฝดเพื่อหาเงินเรียนต่อ แต่กลับต้องไปพบกับองค์ชายอาหรับหล่อเข้มเต็มเหนี่ยว ที่วางแผนการหนึ่งเพื่อจงใจให้เธอเป็นส่วนหนึ่งของแผนการ
ระรินเดินตัวลีบพยายามทำตัวเองให้เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้ เธอยังอยู่รั้งท้ายขบวนเหมือนเดิม เมื่อเดินผ่านประตูห้องเข้าไป ระรินถึงกับตาค้างกับความอลังการของ ห้องรับรองสุดหรู สายปะทะเข้ากับบุรุษตัวสูงหน้าตาคมสัน ทว่าสายตาเย่อหยิ่ง นั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟาแบบหลุยส์ สีทองอร่ามดูมีรสนิยม ส่วนคนที่นั่งข้างเป็นหญิงสาวหุ่นนางแบบสวยเฉียบสไตล์ฮอลลี่วู๊ด ชายหนุ่มล่ำบึกอีกสองคนซ้ายขวา สรุปแล้วในห้องมีผู้ชายทั้งหมดเกือบสิบคน เท่แข่งกันใหญ่ระรินคิด แว่นกันแดด ที่ปิดบังดวงตาช่างเข้ากันได้ดีกับสูทสีดำสนิท ระรินสงสัยนัก ไอ้พวกบอดี้การ์ดทำไมต้องใส่ชุดสีดำชายหนุ่มหล่อที่ยืนอยู่ทางขวามือขยับตัวมาตรงหน้าก่อนจะพูดเสียง
ดัง
“ทั้งสามคนนี้นะเหรอ เด็กรับใช้คนใหม่มิสเตอร์บุญสม"
ประโยคสุดท้ายหันไปทางชายสูงอายุ ระรินปิดปากหัวเราะคิกคัก แต่งตัวก็ดีท่าทางก็ดี ชื่อบุญสม ลุงบุญสมหันมาถลึงตาใส่ระรินก่อนจะโค้งคำนับ
“ครับท่าน องครักษ์ฮาฟซา”
“หนุ่มทางภูมิภาคของเจ้านี่ ท่าทางอ้อนแอ้นไม่มีหนวดเคราหน้าตาจืดชืดไม่สมเป็นชายดีหน่อยตรงมีความละเอียดรอบคอบ ซื่อสัตย์ไว้ใจได้”
แหวะ ตบหัวแล้วลูบหลังระรินอยากพูดเหลือเกินภูมิภาคของพวกเจ้าก็ไว้หนวดไว้เคราเหมือนมหาโจร ผิวก็คล้ำไม่หล่อใส
“ครับ ตามที่องค์ฟีรอสเลือกไว้ทั้งสามคนครับ เชิญสัมภาษณ์ได้เลย”
ชายผู้ที่นั่งอยู่บนโซฟา เหลือบตามองหลังจากที่ทำท่าไม่ยินดียินร้ายปล่อยให้เป็นหน้าที่ขององครักษ์
“ไม่ต้องสัมภาษณ์แล้ว เราเลือกเจ้าสองคนนั้น” ใบหน้าคมพยักหน้ามาทาง ระรินและหนุ่มหน้าจืดอีกคน ไอ้คนข้างๆฉีกยิ้มดีใจแบบปิดไม่มิด ระรินส่ายหน้าไปมา 1-2-3
“กระผม... กระหม่อม...เฮ้ย..ผม ...ขอสละสิทธิ์ครับ”
คำพูดละล่ำละลักแบบมีพิรุธ ลุงบุญสมหันมามองหน้าขยิบหูขยิบตา ฟีรอสหันมองเต็มตาพลางลุกจากที่นั่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าของระริน เขาใช้มือแข็งแรงจับคางมนให้เชิดขึ้น ระรินดิ้นรนส่ายหน้าไปมาฮึดฮัด
“เจ้ากล้าขัดคำสั่งเรารึ เจ้าหน้าอ่อน” ดวงตาคมจ้องมองเข้าไปในตากลมโตลุงบุญสมรีบถลาเข้ามาดึงแขน ระรินให้นั่งลงพร้อมกับกดหัวให้ก้มหน้า
“คงเมาเครื่องบินขอรับ พูดจาแปลกๆ ท่านฟีรอสโปรดอภัยด้วยซาลาม”
ลุงบุญสมเสียงสั่นระรัว ระรินลดตัวลงยอมนั่งลงแต่โดยดี ไม่คิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำจะร้ายแรงถึงเพียงนั้น
“นำ ทั้งสองคนไปที่วังทองคำให้รับใช้อยู่ใกล้ชิดเราส่วนคนที่ไม่ถูกเลือกให้ส่งไปยังบ้านของท่านพี่ซาเบีย”
คนพูดสะบัดตัว สาวสวยหุ่นนางแบบเดินตามแทบไม่ทันองครักษ์อีกสองสามคนสาวเท้าตามเร็วรี่ออกจากห้องรับรอง ลุงบุญสมบีบแขนระรินเบาเบา
“เกือบไปแล้ว แกนี่หาเรื่องใส่ตัว องค์ฟีรอสเขารู้กันทั้งประเทศว่า....ทรงไม่ชอบให้ใครขัดใจ”
ระรินน้ำตาร่วงพล่อย ซวยจริงๆล่ะที่นี้กลับก็ไม่ได้ไปต่อก็น่ากลัวเธอนั่งตัวแข็งอยู่กับที่
“ไปได้แล้ว ร้องไห้เป็นผู้หญิงไปได้ คราวหลังก็อย่าขัดใจท่านเป็นอันขาดจำไว้ เดี๋ยวจะพาไปทำความรู้จักกับวังทองคำ และเดี๋ยวลุงจะแนะนำหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบของแต่ละคน” ลุงบุญสมเปลี่ยนสรรพนามแทนตัวเอง ระรินรู้สึกว่าตอนนี้เธอมีเพียงลุงบุญสมคนเดียวที่เป็นมิตรยามยาก
แสงตะวันเคลื่อนคล้อย ระรินนั่งเหม่อมองไปทางทิศที่คิดว่าจากมา
ป่านนี้พี่ชายฝาแฝดของเธอที่บ้านคงวุ่นวายกับการหายตัวไปของเธอ แล้วสุดท้ายทุกคนก็จะรู้เองว่าระรินไปไหนพี่ชายฝาแฝดคงห่วงใยเธอน่าดู แต่แม่เลี้ยงของเธอคงดีใจจนเนื้อเต้น ส่วนพ่อก็คงไม่ยินดียินร้ายอะไรเหมือนเคย ในเมื่อแม่เลี้ยงมีความสามารถในการพูดโน้มน้าวจิตใจจนพ่อไม่สนใจไยดีเธอ เธอผสมยานอนหลับลงไปในนมสดให้พี่ชายดื่มก่อนนอน เพราะวันรุ่งขึ้นพี่ชายฝาแฝดที่เป็นที่พึ่งเดียวของเธอ กำลังจะจากไปทำงานต่างแดน ระรินหมดสิ้นหนทางแม้พี่ชายจะพูดว่าเพราะอนาคตของเธอเพื่อที่เธอจะได้เรียนมหาลัย
เธอจับผมยาวสลวยก่อนจะใช้กรรไกรคมกริบตัดฉับลงไปทันทีเพราะกลัวตัวเองจะเปลี่ยนใจ ใช้กรรไกรตกแต่งอีกนิดเดียวใบหน้าที่ละม้ายกันอยู่แล้ว แทบแยกไม่ออกว่าเป็นคนละคนกับพี่ชาย การปลอมตัวมันง่ายนิดเดียวเธอคิด ระรินยอมเป็นผู้จากมาดีกว่าผู้รอคอยแต่บัดนี้เธอรู้แล้วว่าตัวเองคิดผิด
“ใครอยู่ข้างนอก เข้ามาหน่อย”
เสียงลุงบุญสมทำเอาระรินสะดุ้ง เธอรีบก้าวเข้าไปในห้องทันที
พระเอกสายแอพ เฉยชาทว่าโบ๊ะบ๊ะภายใน โคตรรั่ว อัตราการแขวะ0.01วินาที ภายใต้หน้ากากสูงส่งบริสุทธิ์ ในนามปรมาจารย์ ที่ค้ำคอไว้ พบกับ พระเอกสายกาว ที่ไม่เอื้อนเอ่ย ใครกันจะรู้ภายในใจท่านคิดเช่นไร พบกับนิยายแนว ขุนเขาจอมยุทธ์ บุญคุณความแค้น แต่พระเอกสายฮา สะกดกลั้นความอาไว้ภายใต้หน้ากากหล่อเหลาอย่าเผลอนินทาอย่าเผลอหลงรัก เพราะปรมาจารย์ท่านนี้อ่านใจคนออก
เรื่องเล่าของท่าน อาจทำข้าสำราญ หรืออาจทำให้ทุกข์ตรมไปกับท่าน ถือว่าท่านจ่ายค่าตอบแทนแก่ข้าแล้ว เสพสุขจากความทุกข์ตรมกระทำได้เช่นนั้นหรือความทุกข์ตรมของผู้อื่น ทำให้เราหลุดพ้นความทุกข์ตรมของเราได้
บุตรีของขุนนางกบฏ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้บิดาแทนที่จะหนีไปไกลแสนไกลกลับพาตัวเองมาผูกพัน กับคนที่เป็นศัตรู แค้นฆ่าพ่อจือหรานจะสามารถทวงความเป็นธรรมให้บิดาได้หรือไม่ ..พบกับความรักความแค้นที่ฝั่งแน่น
ตำรวจหญิงมือดีดับอนาถแต่สวรรค์กลับให้โอกาสได้กลับไปแก้แค้น แทนหญิงโง่งมคนหนึ่งที่ถูกหักหลังเช่นกัน งานนี้จะต้องไม่ใครก็ใครสักคนจะต้องเสียน้ำตา
.....อามูเนส... .. ราชินีที่รักแห่งข้าขอเทพธิดาไอซิส มอบชีวิต อมตะให้ข้าและนาง ...รอ เจ้าอยู่ที่นี่ ตราบ ดวงอาทิตย์อับแสง ..รอเจ้าอยู่ร่วมเดินทางสู่ฟากฟ้า พร้อมกัน” คำขอครั้งสุดท้ายของ..โฮรัส.. ผู้เลื่องชื่อเทพแห่งสงคราม กับเจ้าหญิงผู้ซึ่งตกเป็นเชลย ด้วยจุดเปลี่ยนที่บิดาของอามูเนส ผู้เลอโฉมเลื่องลือไปไกล พ่ายแพ้ให้แก้ฟาโรห์โฮรัสเทพสงครามผู้ยิ่งใหญ่ เป็นจุดเริ่มต้นของ คำขอต่อเทพแห่งความเป็นอมตะไอซิส คำขอครั้งสุดท้ายจะเป็นจริงไหมและเอวาสาวสวยนักโบราณคดีที่ขุดค้นพบ คำขอนั้นของฟาโรห์โฮรัสจะ สามารถค้นพบความจริงต่างๆได้อย่างไร ล่องลอยไปกับดินแดน ไอยคุปต์ด้วยกันใน...มนตราฟาโรห์...
ขายตัวเข้ามาเป็นอี้จีฝึกหัด แต่ยังไม่ผ่านงานแรกด้วยซ้ำ สวรรค์ชังหรือนรกแกล้งให้เฟิ่งหลิว ต้องมาพบเจอคนใจร้ายเช่นนี้แล้วยังมาหาว่าเฟิ่งหลิวเป็นนางคณิกา กร้านโลกอีก ทั้งๆที่น้องแสนจะเดียงสา
เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"
เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"
เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"
เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
เมื่อเด็กที่อยู่ในอุปการคุณของผู้เป็นบิดาทำท่าว่าจะเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็นแม่เลี้ยงของเขา ภาคิม วัชรอาชา ผู้ชายที่แสนจะหยิ่งยโสจึงยอมไม่ได้ สู้ให้บิดามีนางบำเรอเป็นร้อยเหมือนกับนางในฮาเร็มของสุลต่านยังจะดีเสียกว่าให้เด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างนั้นมาร่วมสกุล เขาสลัดคู่ควงทุกคนทิ้งแทบจะทันทีแล้วหันมามุ่งมั่นกับการกำจัดว่าที่แม่เลี้ยงและจัดการลงทัณฑ์ผู้หญิงไม่เจียมตัวให้รู้สำนึกว่าอย่างมากเธอก็เป็นได้แค่ ‘นางบำเรอ’ เท่านั้น วิโรษณา ดุษยา เพื่อตอบแทนบุญคุณของผู้มีพระคุณ สาวน้อยไร้เดียงสาจึงต้องยอมตกเป็น ‘เมียบำเรอ’ ของผู้ชายกักขฬะไร้หัวใจโดยไม่ยอมปริปากบ่น และไม่แม้แต่จะเรียกร้องความสมเพชใดๆ จากเขา เพราะรู้ว่าในสายตาของซาตานร้าย ผู้หญิงข้างถนนอย่างเธอมีค่าไม่ต่างอะไรกับขยะชิ้นหนึ่งเท่านั้น “คุณภาคิม ได้โปรดอย่าทำกับปุ้มแบบนี้” “ฉันมีสิทธิ์ลงโทษเธอตามวิธีของฉันวิโรษณา” เสียงเขาแหบกระเส่า วิโรษณาดิ้นอย่างกระสับกระส่าย ทำไมเขาไม่ลงโทษเธอด้วยการเฆี่ยนตี หรือให้อดข้าวอดน้ำ ขังไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันก็ได้ เขาไม่รู้หรือไงว่าทำแบบนี้ร่างกายของเธอปั่นป่วนและกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ด้วยความทรมานอันแสนวาบหวาม ลิ้นร้อนดั่งไฟนาบจุมพิตทั่วทุกอณูเนื้อของดอกไม้แสนฉ่ำหวาน ก่อนจะแทรกลิ้นชื้นเข้าไปรุกรานความอ่อนนุ่มที่นิ้วเรียวของเขาได้สัมผัสมาแล้วก่อนหน้านี้ สาวน้อยพยายามตั้งสติไม่ปล่อยการกระทำไปตามอารมณ์เร่าร้อนที่กำลังรู้สึกอยู่ แต่ลิ้นอุ่นจัดของคนแสนชำนาญก็แทรกลึกเข้าไปในความอ่อนนุ่มกลางกายด้วยจังหวะอันร้ายกาจอย่างไม่หยุดหย่อน ใบหน้าสวยแดงซ่านด้วยอารมณ์ร้อนแรง มือเล็กจิกลงบนที่นอนและขยุ้มจนยับย่นเพื่อระบายความซ่านสยิวที่กำลังโรมรันกายสาวอย่างหน่วงหนัก ร่างบางกระตุกไหว คิ้วสวยขมวดนิ่วด้วยอารมณ์สะท้านซ่าน หลงใหลไปกับสัมผัสของเขาจนเผลอยกสะโพกขยับไปมาเบาๆ ปลายลิ้นหนาลากถูไถขึ้นลงตามกลีบกุหลาบแสนสวยที่เปียกชุ่มไปด้วยความฉ่ำหวาน สองขาเรียวสั่นระริกๆ เมื่อชายหนุ่มเริ่มออกแรงกดปลายลิ้นแตะต้องแรงขึ้น
© 2018-now MeghaBook
บนสุด