เขาแต่งงานกับเธอเพราะผลประโยชน์ แต่เธอแต่งงานกับเขาเพราะรัก อีกทั้งพี่สาวยังเป็นแฟนเก่าของเขา....
เขาแต่งงานกับเธอเพราะผลประโยชน์ แต่เธอแต่งงานกับเขาเพราะรัก อีกทั้งพี่สาวยังเป็นแฟนเก่าของเขา....
คฤหาสน์ อัศวภัชรกุล
“แกเลิกกับหนูเมลแล้วงั้นเหรอ?” พิสุทธิ์เอ่ยออกมาอย่างตกใจกับข่าวที่ได้รับจากลูกชาย เช่นเดียวกับภรรยาอย่างมาราตรีและสุพรรณิสาผู้เป็นแม่
“มันเกิดอะไรขึ้น เมื่อวานก่อนย่ายังเห็นรักกันดีอยู่นิ”
แทนคุณนั่งเงียบขรึม มือทั้งสองข้างประสานกันมั่นใต้หว่างขา ราวกับกำลังข่มกลั้นอารมณ์บางอย่าง โดยไม่สนใจสายตาของครอบครัวที่มองมาอย่างกดดัน รอคำตอบที่ชัดเจน
“ที่เลิกกันคิดดีแล้วเหรอลูก” ถึงขั้นเลิกกันอย่างปุ๊บปั๊บคงทะเลาะกันเรื่องร้ายแรงพอสมควร ที่ผ่านมาทั้งสองไม่มีสัญญาณว่าจะเลิกรักกันเลยแม้แต่น้อย
“…”
“ว่ายังไงแทนคุณ?” ไร้ซึ่งคำตอบจากแทนคุณ มาราตรีจึงทวนถามลูกชายอีกครั้ง ด้วยน้ำเสียงที่จริงจังกว่าเดิม
“ครับ คิดดีแล้ว”
“เหตุผลล่ะ?” พิสุทธิ์ถามจ้องลูกชายแววตาเด็ดขาด อย่างต้องการคำตอบให้ได้
“หมดรักกัน” แทนคุณเงยหน้าสบตากับผู้เป็นพ่อ โป้ปดออกไปประโยคสั้น ๆ ทั้งที่ความเป็นจริง เขาไม่เคยหมดรักเธอคนนั้นเลย แต่เพราะเธอมันไม่รู้จักพอ
“ย่าไม่อยากให้แกเลิกกับหนูเมลเลยจริง ๆ” สุพรรณิสาทำหน้าเศร้า เมื่อหญิงสาวที่หมายมั่นว่าจะได้เป็นหลานสะใภ้ กลับหลุดมือไปอย่างน่าเสียดาย ต่อให้เธอถูกใจแฟนสาวของหลานชายมากเพียงใด แต่ก็ไม่สามารถบังคับฝืนใจทั้งสองให้แต่งงานกันตามใจตนได้
“ถึงแกจะเลิกกับหนูเมล ยังไงแกก็ต้องแต่งงานตามข้อตกลงในสัญญา ธุรกิจที่ทำร่วมกันจะได้เติบโตโดยไร้ซึ่งปัญหา”
“แล้วคุณจะบังคับให้ลูกแต่งงานกับหนูเมล ทั้งที่สองคนเลิกกันแล้วน่ะเหรอคะ” มาราตรีหม่นคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย เธอไม่เห็นด้วยหากลูกชายถูกคลุมถุงชน
“คุณตุลาไม่ได้มีลูกสาวแค่คนเดียวสักหน่อย”
แทนคุณขมวดคิ้วแน่นตวัดสายตามองผู้เป็นพ่อ พอจะเข้าใจความหมายที่ผู้เป็นพ่อกำลังสื่อ
“หนูเมษายังเด็กอยู่เลยนะคะ”
“ไม่ได้ให้แต่งกันเร็ว ๆ นี้หรอกน่าคุณ”
“คุณถามความเห็นจากลูกชายก่อนไหม?” มาราตรีถอนหายใจออกมาหนัก ๆ เอือมระอากับความคิดของสามี แต่ถึงอย่างไรเธอขอฟังเสียงลูกชายก่อน หากลูกชายคัดค้านเธอก็พร้อมอยู่เคืองข้างลูกชายหลังชนฝา
“อยู่ด้วยกันแค่ปีเดียวเท่านั้น หลังจากนั้น ถ้าแกกับหนูเมษาไม่ได้รักกัน จะหย่ากันก็ไม่ใช่ปัญหา”
“พูดง่ายดีนะคะ”
พิสุทธิ์ไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระกับถ้อยคำประชดประชันของภรรยา
“ปฏิเสธได้นะแทนคุณ แม่จะอยู่ข้างลูกเอง ไม่จำเป็นต้องแต่งก็ได้ ยังไงซะหุ้นบริษัทรากุลก็เป็นของเราเกือบทั้งหมด”
“สัญญามีให้ทำตาม ไม่ใช่มีไว้เพื่อผิดสัจจะ”
“แต่เราไม่มีสิทธิ์ไปบังคับลูกนะคะ”
“ว่ายังไงตาแทน?” พิสุทธิ์ไม่สนใจเสียงหรือสายตาดุของภรรยา แต่โยนคำถามไปที่ลูกชายแทน
“เอาตามที่พ่อต้องการเลย”
คำตอบของแทนคุณ ทำให้พิสุทธิ์ถึงกับยิ้มหน้าบาน ในขณะที่มาราตรีและสุพรรณิสา ต่างก็ไม่เข้าใจเหตุผลของลูกชาย ที่มีนิสัยใจร้อน ดื้อด้าน ไม่ยอมใคร แต่ตอนนี้กลับดูใจเย็น ยินยอมผู้เป็นพ่อเอาง่าย ๆ ทั้งที่กำลังถูกบังคับ และ ขัดต่อความรู้สึกของตัวเอง
…
หลายปีต่อมา (ปัจจุบัน)
คฤหาสน์ พีรพัฒน์
มาริษาหน้าตาน่ารักสดใส อยู่ในชุดไทยสีชมพูกลีบบัวขัดผิวให้ขาวผ่องมีออร่า เกลาผมทรงต่ำประดับด้วยปิ่นปักผมสีทอง เธอยิ้มปริ่มยืนมองตัวเองอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ โดยผู้เป็นแม่ยืนช้อนด้านหลังดูความเรียบร้อยของชุดอีกรอบ
“วันนี้ลูกสาวแม่สวยที่สุดเลยนะ”
“ขอบคุณค่ะ”
“ว่าแต่ หนูอยู่ที่นี่กับพี่เขาได้จริง ๆ ใช่ไหม ถ้ายังไม่…แม่จะพูดกับพ่อให้ รอหนูอายุครบยี่สิบแล้วค่อยย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกัน”
“อยู่ได้ค่ะ” น้ำเสียงมั่นคงและแววตาแน่วแน่ของลูกสาว ทำให้เธอรู้สึกวางใจมากขึ้น อย่างไรเสียครอบครัวทั้งสองฝ่ายก็รู้จักมักจี่กันมานาน
“จ้ะ ถ้าไม่สบายใจหรืออึดอัดกลับบ้านเราได้นะ”
“ค่ะแม่”
แกรก
บานประตูห้องแต่งตัวถูกผลักเข้ามาด้วยฝีมือของหญิงสาวร่างเพรียว ใบหน้าสะสวยอยู่ในชุดเดรสสีขาว
“ถึงเวลาแล้วสา” เมลพี่สาวของมาริษา เธอไล่สายตามองน้องสาวตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดา
“ค่ะ”
ภายในงานแต่งงานเล็ก ๆ มีเพียงคนในครอบครัวของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวเท่านั้น โดยไร้ซึ่งญาติมิตร เพื่อนฝูงหรือคนรู้จัก
“ไปรับน้องสิแทน”
แทนคุณเลื่อนสายตามองไปทางบันได พบกับเจ้าสาวของตัวเองที่กำลังก้าวขาเดินลงมา วันนี้เธอดูสวยสะดุดตาเป็นพิเศษ แต่สุดท้ายสายตาเขากลับหลุดโฟกัส มองไปที่พี่สาวของเธอแทนอย่างไม่สามารถห้ามได้
“น้องสวยจนอึ้งไปเลยใช่ไหมล่ะ”
เสียงเอ่ยแซวของผู้เป็นแม่ทำให้แทนคุณหลุดออกจากภวังค์ความคิด สาวเท้าเดินตรงไปหาเจ้าสาวทันที โดยไม่ได้ต่อบทสนทนากับผู้เป็นแม่
“ฝากน้องด้วยนะแทนคุณ” วิจิตตรานำมือลูกสาววางบนฝ่ามือใหญ่ ส่งต่อให้เป็นหน้าที่ของเจ้าบ่าว
“ครับ”
มาริษาช้อนตาขึ้นมองสบตากับแทนคุณเพียงครู่ ก่อนจะเป็นฝ่ายหลุบตามองต่ำอย่างเขินอาย สาวเท้าเดินไปเข้าพิธีพร้อมผู้ชายที่แอบรักมานาน
แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นเรื่องจริง ที่เธอและเขาได้แต่งงานใช้ชีวิตร่วมกัน
---------------------
" ฉันจะทำให้พี่เธอรู้จักการสูญเสียเหมือนที่มันทำกับพี่ชายฉัน คนทรยศ อย่างมันต้องตาย หรือการตายสำหรับมันจะง่ายไป เธอคิดว่าไงล่ะ ? " "อย่าทำอะไรพี่ชายลินเลยนะคะ "
" ถ้าฉันยังไม่เบื่อเธอก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ...นอกจากเธอจะนอนถางขาให้ฉันเอาจนกว่าฉันจะเบื่อไปเอง! "
“โดนกูเปิดบริสุทธิ์ตั้งแต่คืนเข้าหอ จนถึงตอนนี้มี คxx ของไอ้ตัวไหนกระแทกส่วนนั้นของมึงบ้างแล้วล่ะ?”
พระเอกซึ่งเป็นหมอเจ้าของโรงพยาบาล และ เป็นมาเฟีย เขาถูกบังคับให้หมั้นกับนางเอก เธอเป็นนักเขียนนิยายอยู่ในสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง ทั้งคู่เคยเจอกันมาก่อนแล้ว
ครอบครัวเสิ่นเลี้ยงดูเซี่ยซางหนิงเป็นเวลา 20 ปี และเธอเองก็ถูกเอาเปรียบมาเป็นเวลา 20 ปีเช่นกัน วันหนึ่ง พวกเขาตามหาลูกสาวตัวจริงพบ และเซี่ยซางหนิงก็ถูกไล่ออกจากตระกูลเสิ่น ได้ยินมาว่าพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของเธอกำลังเผชิญกับความยากลำบากอย่างหนัก แต่ความเป็นจริง พ่อแม่ทางสายเลือดของเธอเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมืองไห่ เป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดที่ตระกูลเสิ่นไม่สามารถเอื้อมถึงได้ ตระกูลเสิ่นที่คอยดูว่าเซี่ยซางหนิงจะต้องตกอับอย่างน่าสมเพช แต่กลับต้องตกตะลึงซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับตัวตนของเซี่ยซางหนิง ผู้มีอิทธิพลในการเงินระดับโลก วิศวกรระดับแนวหน้า นักแข่งรถอันดับหนึ่งของโลก... เธอยังมีความสามารถที่ซ่อนอยู่อีกกี่อย่างกันแน่ คู่หมั้นยกเลิกการหมั้นกับเซี่ยซางหนิง อย่างไรก็ตาม เมื่อเซี่ยซางหนิงไปออกเดทกับพี่ชายฝาแฝดของเขา เขากลับปรากฏตัวขึ้นและสารภาพรักกับเธอ
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
เมื่อเธอโดนนอกใจจากคนที่รัก จึงหนีไปเริ่มต้อนชีวิตใหม่ที่ดูไบ และเธอก็ได้เจอกับหนุ่มอาหรับสุดแซ่บ ที่มายั่วยวนหลอกล่อให้เธอมีเซ็กส์ที่เร่าร้อนกับเขา และเขายังต้องการให้เธอท้องลูกของเขาอีก.... เรื่องย่อ.... “คุณอัสลาน… คุณออกไปห่างๆฉันหน่อยได้ไหม…ห้องครัวนี่มันก็กว้างมากเลยนะคุณ ทำไมคุณต้องมาใกล้ฉันขนาดนี้ด้วย…” “ก็ผมอยากจะดูว่าคุณใส่ยาเสน่ห์อะไรลงไปในอาหารหรือเปล่า เพราะช่วงนี้ผมรู้สึกโหยหาคุณตลอดเลย…” “ใครจะบ้ามาใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกินล่ะ แค่นี้ฉันก็แทบไม่ได้นอนแล้ว… ขืนใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกิน ฉันไม่นอนแกผ้าให้คุณเอาทั้งวันเลยเหรอ…” “หึๆ…ก็คุณมันน่ามั่นเขี้ยวนิ จะจับจะตบตรงไหนก็แน่นไปหมดเลย…แถมกลิ่นตัวก็หอมไปยันหอยเลย…อืม…พูดไปแล้วขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยสิ วันนี้ทำงานมาโคตรเหนื่อยเลย…” “อื้อ…คุณจะทำอะไรน่ะคุณฮัสลาน นี่มันในห้องครัวนะคุณ…เดี๋ยวพวกแม่บ้านเดินเข้ามาจะทำยังไงคะ…ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยค่ะ จะมาดมอะไรตรงนี้” “ก็ผมอยากดมตอนนี้ไงคุณ…เห็นหน้าคุณแล้วผมก็รู้สึกเสี้ยนจนทนไม่ไหวแล้วเนี่ย…ขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยเถอะ” “อ้ะ….คุณอัสลาน….อื้อ….ทำไมคุณมันหื่นแบบนี้เนี่ย….เอามือของคุณออกไปนะ เดี๋ยวคนมาเห็น….อ้ะ…ซี๊ด…อ่าส์….” อัสลาน ราเชด บรูฮัมนี อายุ 37 ปี “อัสลาน...” หนุ่มนักธุรกิจชาวอาหรับที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตรในนิยาย แต่ต้องมาคัดสรรหาเมียเพื่อจะมีลูกสืบทอดวงตระกูลตามคำสั่งของพ่อแม่ ทำให้เขานั้นเลี่ยงไม่ได้กับการที่จะหาเมียสักคนมารับหน้าที่นี้ แต่เขาดันไปถูกใจแม่สาวไทยใจแข็งเข้านี่สิ ไม่ว่าเขาจะเสนออะไรไปเธอก็ไม่ยอมที่จะมาเป็นเมียของเขาเลย เพียงเพราะว่าเขานั้นแก่กว่าเธอไม่กี่ปีเท่านั้น ทำให้เขาต้องใช้เล่ห์กลหลอกล่อเธอให้มาทำงานกับเขา ก่อนจะค่อยๆอ่อยแล้วก็รุกจัดการตะครุบเหยื่ออย่างเธอให้กลายมาเป็นนกน้อยในกรงทองของเขา…. มารียา เวทติวัตร อายุ 27 ปี “มีน มารียา…” สาวไทยหน้าคมที่มีหุ่นอวบอัดเป็นที่ยั่วน้ำลายของพวกหนุ่มนั้น กลับไม่ประสบความสำเร็จเรื่องความรักเอาซะเลย เธอจึงหนีจากความเสียใจแล้วมาหางานทำอยู่ที่ดูไบ...เพื่อจะลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอ และเธอก็ได้เจอกับเจ้านายขี้อ่อย ขี้ยั่ว ที่ไม่ว่าเธอจะทำอะไรหรือไปไหน เขาก็มักจะมายั่วน้ำลายทำให้หัวใจที่บอบช้ำของเธอนั้นปั่นป่วนอยู่เสมอ จนเธอถลำตัวมีอะไรกับเขาอย่างห้ามใจไม่อยู่ และเธอก็ได้รู้ว่าเขานั้นเป็นผู้ชายแก่ที่หื่นสุดๆเลย…แต่จะหื่นแค่ไหนต้องไปตามอ่านในนิยายนะคะ
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
เรื่อง สลับรักยัยเลขาฝาแฝด โปรย...หญิงสาวฝาแฝด ที่พบกันโดยบังเอิญ พวกเธอเกิดความสงสัยแล้วอยากจะหาความจริงกับเรื่องนี้ คนหนึ่งเก่งฉลาด อีกคนน่ารักเรียบร้อย แนะนำตัวละคร กัญญารัตน์ วัชรจิรกุล (กรีน) อายุ 26 ปี ลูกสาวคนเดียวของคุณภูมิพัฒน์ กับ คุณศิริวรรณ เรียนจบมาจาก เยอรมัน แต่ด้วยที่ว่าเธอเป็นลูกสาวคนเดียว จึงต้องมาเรียนรู้งานในไร่กาแฟ ตอนแรก เธอก็อยากจะไปหาประสบการณ์ ในสิ่งที่ตัวเองเรียนมา แต่ก็ถูกผู้เป็นมารดาขอร้องให้มาช่วยงานคุณพ่อซะก่อน เพราะพ่อของเธอก็อายุมากแล้ว เธอจึงยอมมาเรียนรู้งานในไร่กาแฟ ไร่ที่ทำให้เธอ ได้ไปเรียนเมืองนอก ไร่ที่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของครอบครัวเธอ และตอนนี้เวลาก็ผ่านมาเกือบปีแล้ว เธอได้มาทำงานแทนผู้เป็นบิดา ได้เต็มตัวแล้ว เธอมีเพื่อนที่สนิทคนหนึ่งชื่อ อคิณ เป็นเจ้าของไร่ชา ที่อยู่ติดกับไร่กาแฟของเธอ เควิน เตชะวงศ์วรากุล (คุณเค) อายุ 35 ปี นักธุรกิจหนุ่มหล่อ เป็นผู้ชายที่สาวๆ ต่างหมายปอง เขาทั้งหล่อ ทั้งรวย ก็ไม่แปลกที่จะมีสาวๆ เข้ามาหา "ผมเป็นผู้ชายนะครับ มีผู้หญิงมาทอดสะพานให้ถึงที่ ผมก็ต้องเป็นสุภาพบุรุษหน่อยสิครับ จะปล่อยผ่านได้ยังไง ผมขึ้นเตียงกับพวกเธออยู่บ่อยครั้ง แต่ทุกคนผมก็จะตกลงกับพวกเธอว่าไม่มีการผูกมัดใดๆ ทั้งสิ้น แฟนเหรอ...ผมไม่คิดจะมีหรอก แค่งานก็ปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว ขออยู่แบบโสดๆ แบบนี้ดีกว่า อีกอย่างผู้หญิงพวกนั้นเข้ามา ก็เพราะเงินของผมทั้งนั้น เวลาที่ผมนอนกับพวกเธอแต่ละคน ผมไม่ได้เอาฟรีๆ หรอกนะครับ ผมจ่ายหนักทุกครั้ง ส่วนยัยเลขาของผมก็งั้นๆ ผมไม่เคยคิดอะไรกับเธอ ถึงเธอจะสวย เธอเป็นคนวางตัวดี คนดีอย่างผมไม่กินไก่วัดหรอกครับ เธอทำงานกับผมมาสามปี ทำงานก็พอใช้ได้ก็ทั่วๆไป ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น ไม่ใช่ว่าเธอทำงานไม่ดีนะครับ แต่มาตรฐานของผมคงจะสูงไป" กัญญาณี วรกฤตติกา (แกรนด์) อายุ 26 ปี หญิงสาวตัวเล็กผิวขาวตาโต ขนตายาว เธอเป็นคนหน้าตาดีคนหนึ่ง เธอทำงานเป็นเลขาให้เควินมาสามปี เธอเป็นผู้หญิงเรียบร้อย อ่อนหวาน ไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใคร พูดน้อย ตั้งใจทำงานและเธอก็ทำงานของเธอได้เป็นอย่างดี ไหนจะงานราษงานหลวง แล้วแต่บอสของเธอจะสั่ง และเธอก็เบื่อชีวิตในเมืองหลวงมาก เมืองที่มีแต่ความแออัด รีบเร่ง วุ่นวาย รถก็ติดอากาศก็มีแต่มลพิษ แล้วก็งานเลขาที่มีเจ้านายเจ้าชู้ เข้มงวด เนียบ ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า เธออยากใช้ชีวิตที่สงบสุข ท่ามกลางธรรมชาติ เป็นชีวิตที่เธอใฝ่ฝัน อคิณ ทวีทรัพย์ธาดา (คิณ) อายุ 26 ปี "ผมอคิณ เจ้าของไร่ชา อายุอานามก็พอๆ กับกรีนนั่นแหละครับ เพราะผมกับกรีนเป็นเพื่อนกัน เราเรียนมาด้วยกัน พอโตมา เราก็สนิทกันเหมือนตอนเด็กๆ นั่นแหละครับ พูดถึงเพื่อนผม ความอ่อนหวานสักนิดก็ไม่มี ทำงานก็อย่างกับผู้ชาย แถมมันยังดุมากอีกด้วย เวลามันดุลูกน้องที่ทำงานผิดพลาดนะ ผมนี่ขนลุกเลย ถ้าผมเอามันมาเป็นเมียนะ ผมได้แม่เพิ่มมาอีกคนนึงแน่ ฮึ้ยยยย!! แค่คิดก็ขนลุก แต่ผู้ใหญ่นี่สิครับ รวมถึงไอ้น้องเวรของผมด้วย อยากได้เธอมาเป็นสะใภ้ แต่ผมไม่เล่นด้วยหรอกครับ ขอเป็นเพื่อนกับมันแบบนี้ไปนานๆ ดีกว่า" บทนำ ณ ไร่กาแฟที่เป็นบ้านเกิดของหญิงสาวที่มีนามว่ากรีน เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กผิวขาว หน้าตาน่ารัก ผมยาวรูปร่างทะมัดทะแมง เธอทำงานในไร่ ได้เหมือนคนงานคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ เธอทั้งสวยและเก่งแถมยังฉลาด พูดจาฉะฉาน กำลังเดินตรวจงานในไร่ ไร่ที่ผู้เป็นบิดาสร้างไว้ให้กับลูกสาวเพียงคนเดียวของท่าน ที่ท่านเลี้ยงมาตั้งแต่ตัวเล็กๆ กรีนเธอเป็นผู้หญิงเก่ง ถึงตัวเธอจะเล็กแต่เธอก็สู้งาน ทำงานในไร่ได้เสมือนกับลูกน้องของเธอทุกคน แต่ถึงอย่างนั้นด้วยความที่เธอเรียนจบจากต่างประเทศมา เธอก็อยากจะมีประสบการณ์ในการทำงานที่เธอได้ศึกษาเรียนรู้มา ที่ไม่ใช่ไร่ของเธอ เธอเรียนด้านบริหารธุรกิจ และยังพูดได้ตั้งหลายภาษาด้วยความเก่งและหัวดีของเธอ ทำให้เธออยากจะลองไปใช้วิชาที่ได้ร่ำเรียนมา และในขณะเดียวกันก็มีผู้หญิงที่หน้าตาเหมือนกับเธออย่างกับแกะมีนามว่า แกรนด์ เธออยู่เมืองหลวงของประเทศไทยตั้งแต่เกิด
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
© 2018-now MeghaBook
บนสุด