เขาแต่งงานกับเธอเพราะผลประโยชน์ แต่เธอแต่งงานกับเขาเพราะรัก อีกทั้งพี่สาวยังเป็นแฟนเก่าของเขา....
คฤหาสน์ อัศวภัชรกุล
“แกเลิกกับหนูเมลแล้วงั้นเหรอ?” พิสุทธิ์เอ่ยออกมาอย่างตกใจกับข่าวที่ได้รับจากลูกชาย เช่นเดียวกับภรรยาอย่างมาราตรีและสุพรรณิสาผู้เป็นแม่
“มันเกิดอะไรขึ้น เมื่อวานก่อนย่ายังเห็นรักกันดีอยู่นิ”
แทนคุณนั่งเงียบขรึม มือทั้งสองข้างประสานกันมั่นใต้หว่างขา ราวกับกำลังข่มกลั้นอารมณ์บางอย่าง โดยไม่สนใจสายตาของครอบครัวที่มองมาอย่างกดดัน รอคำตอบที่ชัดเจน
“ที่เลิกกันคิดดีแล้วเหรอลูก” ถึงขั้นเลิกกันอย่างปุ๊บปั๊บคงทะเลาะกันเรื่องร้ายแรงพอสมควร ที่ผ่านมาทั้งสองไม่มีสัญญาณว่าจะเลิกรักกันเลยแม้แต่น้อย
“…”
“ว่ายังไงแทนคุณ?” ไร้ซึ่งคำตอบจากแทนคุณ มาราตรีจึงทวนถามลูกชายอีกครั้ง ด้วยน้ำเสียงที่จริงจังกว่าเดิม
“ครับ คิดดีแล้ว”
“เหตุผลล่ะ?” พิสุทธิ์ถามจ้องลูกชายแววตาเด็ดขาด อย่างต้องการคำตอบให้ได้
“หมดรักกัน” แทนคุณเงยหน้าสบตากับผู้เป็นพ่อ โป้ปดออกไปประโยคสั้น ๆ ทั้งที่ความเป็นจริง เขาไม่เคยหมดรักเธอคนนั้นเลย แต่เพราะเธอมันไม่รู้จักพอ
“ย่าไม่อยากให้แกเลิกกับหนูเมลเลยจริง ๆ” สุพรรณิสาทำหน้าเศร้า เมื่อหญิงสาวที่หมายมั่นว่าจะได้เป็นหลานสะใภ้ กลับหลุดมือไปอย่างน่าเสียดาย ต่อให้เธอถูกใจแฟนสาวของหลานชายมากเพียงใด แต่ก็ไม่สามารถบังคับฝืนใจทั้งสองให้แต่งงานกันตามใจตนได้
“ถึงแกจะเลิกกับหนูเมล ยังไงแกก็ต้องแต่งงานตามข้อตกลงในสัญญา ธุรกิจที่ทำร่วมกันจะได้เติบโตโดยไร้ซึ่งปัญหา”
“แล้วคุณจะบังคับให้ลูกแต่งงานกับหนูเมล ทั้งที่สองคนเลิกกันแล้วน่ะเหรอคะ” มาราตรีหม่นคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย เธอไม่เห็นด้วยหากลูกชายถูกคลุมถุงชน
“คุณตุลาไม่ได้มีลูกสาวแค่คนเดียวสักหน่อย”
แทนคุณขมวดคิ้วแน่นตวัดสายตามองผู้เป็นพ่อ พอจะเข้าใจความหมายที่ผู้เป็นพ่อกำลังสื่อ
“หนูเมษายังเด็กอยู่เลยนะคะ”
“ไม่ได้ให้แต่งกันเร็ว ๆ นี้หรอกน่าคุณ”
“คุณถามความเห็นจากลูกชายก่อนไหม?” มาราตรีถอนหายใจออกมาหนัก ๆ เอือมระอากับความคิดของสามี แต่ถึงอย่างไรเธอขอฟังเสียงลูกชายก่อน หากลูกชายคัดค้านเธอก็พร้อมอยู่เคืองข้างลูกชายหลังชนฝา
“อยู่ด้วยกันแค่ปีเดียวเท่านั้น หลังจากนั้น ถ้าแกกับหนูเมษาไม่ได้รักกัน จะหย่ากันก็ไม่ใช่ปัญหา”
“พูดง่ายดีนะคะ”
พิสุทธิ์ไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระกับถ้อยคำประชดประชันของภรรยา
“ปฏิเสธได้นะแทนคุณ แม่จะอยู่ข้างลูกเอง ไม่จำเป็นต้องแต่งก็ได้ ยังไงซะหุ้นบริษัทรากุลก็เป็นของเราเกือบทั้งหมด”
“สัญญามีให้ทำตาม ไม่ใช่มีไว้เพื่อผิดสัจจะ”
“แต่เราไม่มีสิทธิ์ไปบังคับลูกนะคะ”
“ว่ายังไงตาแทน?” พิสุทธิ์ไม่สนใจเสียงหรือสายตาดุของภรรยา แต่โยนคำถามไปที่ลูกชายแทน
“เอาตามที่พ่อต้องการเลย”
คำตอบของแทนคุณ ทำให้พิสุทธิ์ถึงกับยิ้มหน้าบาน ในขณะที่มาราตรีและสุพรรณิสา ต่างก็ไม่เข้าใจเหตุผลของลูกชาย ที่มีนิสัยใจร้อน ดื้อด้าน ไม่ยอมใคร แต่ตอนนี้กลับดูใจเย็น ยินยอมผู้เป็นพ่อเอาง่าย ๆ ทั้งที่กำลังถูกบังคับ และ ขัดต่อความรู้สึกของตัวเอง
…
หลายปีต่อมา (ปัจจุบัน)
คฤหาสน์ พีรพัฒน์
มาริษาหน้าตาน่ารักสดใส อยู่ในชุดไทยสีชมพูกลีบบัวขัดผิวให้ขาวผ่องมีออร่า เกลาผมทรงต่ำประดับด้วยปิ่นปักผมสีทอง เธอยิ้มปริ่มยืนมองตัวเองอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ โดยผู้เป็นแม่ยืนช้อนด้านหลังดูความเรียบร้อยของชุดอีกรอบ
“วันนี้ลูกสาวแม่สวยที่สุดเลยนะ”
“ขอบคุณค่ะ”
“ว่าแต่ หนูอยู่ที่นี่กับพี่เขาได้จริง ๆ ใช่ไหม ถ้ายังไม่…แม่จะพูดกับพ่อให้ รอหนูอายุครบยี่สิบแล้วค่อยย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกัน”
“อยู่ได้ค่ะ” น้ำเสียงมั่นคงและแววตาแน่วแน่ของลูกสาว ทำให้เธอรู้สึกวางใจมากขึ้น อย่างไรเสียครอบครัวทั้งสองฝ่ายก็รู้จักมักจี่กันมานาน
“จ้ะ ถ้าไม่สบายใจหรืออึดอัดกลับบ้านเราได้นะ”
“ค่ะแม่”
แกรก
บานประตูห้องแต่งตัวถูกผลักเข้ามาด้วยฝีมือของหญิงสาวร่างเพรียว ใบหน้าสะสวยอยู่ในชุดเดรสสีขาว
“ถึงเวลาแล้วสา” เมลพี่สาวของมาริษา เธอไล่สายตามองน้องสาวตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดา
“ค่ะ”
ภายในงานแต่งงานเล็ก ๆ มีเพียงคนในครอบครัวของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวเท่านั้น โดยไร้ซึ่งญาติมิตร เพื่อนฝูงหรือคนรู้จัก
“ไปรับน้องสิแทน”
แทนคุณเลื่อนสายตามองไปทางบันได พบกับเจ้าสาวของตัวเองที่กำลังก้าวขาเดินลงมา วันนี้เธอดูสวยสะดุดตาเป็นพิเศษ แต่สุดท้ายสายตาเขากลับหลุดโฟกัส มองไปที่พี่สาวของเธอแทนอย่างไม่สามารถห้ามได้
“น้องสวยจนอึ้งไปเลยใช่ไหมล่ะ”
เสียงเอ่ยแซวของผู้เป็นแม่ทำให้แทนคุณหลุดออกจากภวังค์ความคิด สาวเท้าเดินตรงไปหาเจ้าสาวทันที โดยไม่ได้ต่อบทสนทนากับผู้เป็นแม่
“ฝากน้องด้วยนะแทนคุณ” วิจิตตรานำมือลูกสาววางบนฝ่ามือใหญ่ ส่งต่อให้เป็นหน้าที่ของเจ้าบ่าว
“ครับ”
มาริษาช้อนตาขึ้นมองสบตากับแทนคุณเพียงครู่ ก่อนจะเป็นฝ่ายหลุบตามองต่ำอย่างเขินอาย สาวเท้าเดินไปเข้าพิธีพร้อมผู้ชายที่แอบรักมานาน
แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นเรื่องจริง ที่เธอและเขาได้แต่งงานใช้ชีวิตร่วมกัน
---------------------
" ฉันจะทำให้พี่เธอรู้จักการสูญเสียเหมือนที่มันทำกับพี่ชายฉัน คนทรยศ อย่างมันต้องตาย หรือการตายสำหรับมันจะง่ายไป เธอคิดว่าไงล่ะ ? " "อย่าทำอะไรพี่ชายลินเลยนะคะ "
" ถ้าฉันยังไม่เบื่อเธอก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ...นอกจากเธอจะนอนถางขาให้ฉันเอาจนกว่าฉันจะเบื่อไปเอง! "
“โดนกูเปิดบริสุทธิ์ตั้งแต่คืนเข้าหอ จนถึงตอนนี้มี คxx ของไอ้ตัวไหนกระแทกส่วนนั้นของมึงบ้างแล้วล่ะ?”
พระเอกซึ่งเป็นหมอเจ้าของโรงพยาบาล และ เป็นมาเฟีย เขาถูกบังคับให้หมั้นกับนางเอก เธอเป็นนักเขียนนิยายอยู่ในสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง ทั้งคู่เคยเจอกันมาก่อนแล้ว
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀