ไม่รู้ว่ายาดีหรือดีเกินไป พอกินหมดแล้วนางกลับรู้สึกว่าหัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ แถมมือก็เย็นเฉียบราวกับถูกหิมะแช่แข็ง แต่เมื่อแตะสัมผัสมือเขากลับร้อนวูบ จนกระทั่งในที่สุดเหงื่อก็ออกตามใบหน้า เกาฟงเสินที่เห็นอาการผิดปกติก็รีบถาม “เจ้าเป็นอะไร” “ขะ ข้า” นางเองก็บอกไม่ถูก ไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์ยาหรือว่าฤทธิ์อะไรกันแน่ แต่ที่แน่ ๆ คือตอนนี้นางกลับมองใบหน้าเขาแล้วรู้สึกว่าใบหน้านั้นหล่อเหลาเหลือเกิน นางเริ่มครั่นเนื้อครั่นตัวอยู่ไม่สุข “เดี๋ยวข้าไปเอาน้ำชามาเพิ่มให้” เกาฟงเสินกำลังจะลุกขึ้น เพ่ยลู่เสียนก็จับมือเขาห้ามเอาไว้ ยิ่งจับมืออุ่นก็ยิ่งทำให้หัวใจนางเต้นเร็ว เพ่ยลู่เสียนยกมืออีกข้างขยับคอเสื้อเหมือนหายใจไม่ออก “บ่าวร้อนเหลือเกินนายท่าน” เสียงนางเป็นอะไร ทำไมมันถึงได้แหบเครือสั่นพร่าแบบนั้น แม้แต่เจ้าตัวยังตกใจแล้วนับประสาอะไรกับคนฟัง และยิ่งตกใจไปอีกเมื่อหญิงสาวเริ่มขยับถอดเสื้อแล้วบ่นไม่หยุดปาก “ข้าร้อนเหลือเกิน เสื้อผ้าพวกนี้ทำข้าปวดแสบปวดร้อนไปหมด” เกาฟงเสินถอยหลังสองก้าวไปทางประตู กำลังจะก้าวออกไปเพื่อให้คนตามหมอมาดูอาการนาง ร่างบางที่ยาเริ่มออกฤทธิ์ก็วิ่งไปคว้าเอวเขาเอาไว้ หนึ่งในซีรีส์ชุด สาวใช้อุ่นเตียง โดยในซีรีส์ชุดนี้จะประกอบด้วย - หลี่เฟิ่งเซียน สาวใช้อุ่นเตียงจวนราชครูจอมเนี้ยบ : (นามปากกา : Faang Faang) - เจียงหว่านหนิง สาวใช้อุ่นเตียงของจวนแม่ทัพ : (นามปากกา : องค์หญิงโนเนม) - อู๋สือซว่าน สาวใช้อุ่นเตียงจวนคหบดีเฉิน : (นามปากกา : เฉินคุน) - มู่ซีหว่าน สาวใช้อุ่นเตียงจวนเฉิงอานโหว : (นามปากกา : ต้ายวี่) - เพ่ยลู่เสียน สาวใช้อุ่นเตียงจวนนายอำเภอซ่ง : ( นามปากกา :จิรัฐติกาล)
เมืองซ่ง แคว้นฉางอัน บนเวทีลานประหารที่ตั้งอยู่กลางเมืองนั้น มีนักโทษประมาณสิบคนถูกจับปิดตามัดมือมัดเท้าอยู่ด้านบน ด้านหน้านักโทษเหล่านั้นล้วนมีเชือกผูกติดกับไม้ห้อยลงมาโดยรอบเวที
ส่วนด้านหลังมีเก้าอี้และโต๊ะนายอำเภอนั่งอยู่ บุรุษที่อยู่บนนั้นเอ่ยวาจาดังกึกก้องไปทั่วลานประหาร
“ครอบครัวผู้ตรวจการบัญชีสกุลเพ่ย รับสินบนจากพ่อค้าจางเพื่อไม่ให้บุตรชายของตนถูกเกณฑ์ไปรบกับเมืองต้าเหลียง กระทำผิดกฎของแคว้นฉางอัน มีโทษประหารทั้งตระกูล”
น้ำเสียงนั้นไม่มีความปรานีเลยสักนิด ในกลุ่มคนที่มุงดูนั้น มีคนผู้หนึ่งยืนน้ำตาไหลริน จ้องมองนายอำเภอเกาฟงเสิน จอหงวนคนล่าสุดของแคว้นฉางอัน ใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับแจกันเคลือบแก้ว ใบหน้าเรียบนิ่งไม่แสดงสีหน้า เขาเอื้อมหยิบไม้ตัดสินโทษขึ้นมา บนไม้สีแดงชาดนั้นมีคำว่า “ประหาร” ปรากฏอยู่
เพ่ยลู่เสียนเบิกตากว้าง น้ำตาเอ่อล้นออกมา ปากกำลังจะเอ่ยห้าม แต่ก็ถูกสาวใช้เอื้อมมือปิดปากเอาไว้ แล้วดึงไปหลบในซอกของร้านอาหารที่อยู่ใกล้กัน
“คุณหนูจะแสดงตัวไม่ได้นะเจ้าคะ”
“เหตุใดจะไม่ได้ ในเมื่อนายอำเภอเกาเข้าใจผิด ท่านพ่อข้าไม่เคยรับสินบน ตลอดสามสิบปีที่รับใช้ทางการล้วนซื่อสัตย์ เงินสักอีแปะก็ไม่เคยรับ”
เพ่ยลู่เสียนพูดไปน้ำตาไหลอาบแก้มไป แต่น้ำเสียงนั้นกลับแข็งกร้าวไม่ยอมคน พูดจบก็จะออกไปด้านนอก คิดจะตายในวันนี้ให้ได้
จิวฟง สาวใช้ของนางรีบดึงแขนเอาไว้ “คุณหนูจำที่นายท่านพูดไม่ได้แล้วหรือเจ้าคะ เป็นตายร้ายดียังไงคุณหนูก็ต้องมีชีวิตรอดเพื่อล้างมลทินให้ตระกูลเพ่ยให้ได้”
“สิบชีวิตแลกกับหนึ่งชีวิตของข้า จิวฟง เจ้าจะให้ข้าหลับตาลงนอนได้เยี่ยงไร ข้าไม่ใช่คนขี้ขลาดเยี่ยงนั้น” พูดจบก็จะออกจากที่ซ่อน แต่จิวฟงรีบกอดเอวเอาไว้
“คุณหนูอย่าให้ชีวิตนายท่านต้องสูญเปล่าเลยเจ้าค่ะ คำว่าแก้แค้นสิบปีไม่สาย คุณหนูต้องท่องเอาไว้นะเจ้าคะ” สองคนฉุดดึงกันไปมาจนกระทั่งได้ยินเสียงดังตึงด้านนอก เพ่ยลู่เสียนดิ้นเต็มแรงจนหลุดจากสาวใช้ เมื่อออกไปก็พบว่าบิดามารดา และครอบครัวสกุลเพ่ยล้วนถูกแขวนคอไปแล้ว
“มะ” ไม่ เสียงกรีดร้องนั้นหายไปเพราะถูกจิวฟงปิดปากไว้ทัน แล้วลากเข้าไปยังในซอกเดิม เพ่ยลู่เสียนน้ำตาอาบหน้าหวีดร้องทั้งที่มือของสาวใช้ยังปิดปากไว้ ก่อนจะทรุดลงพื้นดินมองชาวบ้านหยิบก้อนหิน ผัก และดินขึ้นมาปาใส่บิดาของนาง
สามสิบปีที่ท่านพ่อทุ่มเทกับงานที่ตัวเองทำ
สี่สิบปีกับการยึดมั่นในอุดมการณ์ของสกุลเพ่ย
ซื่อสัตย์ สุจริต มีเมตตา คือคำยึดมั่นของสกุลเพ่ยที่สืบทอดมายาวนาน ต้องถูกตัดสินโทษว่าเป็นคนติดสินบนทั้งที่ไม่ได้ทำ นายอำเภอเกาฟงเสินผู้นั้นมาถึงก็รีบสร้างผลงาน ไม่ตรวจสอบให้แน่ชัด ใช้หลักฐานปลอมใส่ร้ายสกุลเพ่ย ทำให้ถูกตัดสินประหารทั้งครอบครัว
นับจากนี้ ข้า เพ่ยลู่เสียนขอสาบาน แม้ตายถูกฝังอยู่ในหลุมก็จะฟื้นขึ้นมาลากเกาฟงเสินลงนรกไปด้วยกัน อย่าคิดว่าเขาจะได้อยู่สุขสบายบนกองเลือดสกุลเพ่ย
เจียซินที่อยู่ในชีวิตปั่นปลายนั้น กลับต้องรู้สึกเสียใจที่เลือกเส้นทางรักผิด เมื่อเลือกหนทางใหม่ได้ เธอก็จะเลือกหนทางที่ดีที่สุด และเขาชายที่เธอเคยละทิ้งไปก็กลายมาเป็นคู่ชีวิต ที่พร้อมจะร่ำรวยไปด้วยกัน
ชมดาวต้องทนรับสภาพสถานะเลขาของเจ้านายและสถานะบนเตียงมาตลอดห้าปี เธอคิดว่าอีกไม่นานเขาก็จะขอเธอแต่งงาน หากแต่ว่าเขากลับเห็นเธอเป็นเพียงสถานะรองเท่านั้น จนกระทั่งวันหนึ่งเขาก็ต้องแต่งงาน ไม่ใช่กับเธอแต่เป็นคนอื่น เธอจะเลือกจำยอมอยู่ในความลับต่อไป หรือเลือกที่จะเดินออกมาพร้อมกับเด็กในท้อง!!
ลู่เจียหง นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังในยุคปัจจุบัน จับผลัดจับพลูลงลิฟต์ก็โผล่ไปยังยุคโบราณ แถมยังอยู่ในชุดเจ้าสาวอีก ถ้าประหลาดแค่นั้นไม่พอคงไม่เป็นไร ถ้าไม่พบว่าตัวเองกำลังถูกตามล่าจากว่าทีสามีที่ยังไม่ทันเข้าหอ งานนี้นางถือคติไม่ยุ่งเกี่ยวต่างคนต่างอยู่ แต่ท่านอ๋องผู้นั้นก็เอาแต่วนเวียนอยู่ข้างตัวนางไม่หยุด แบบนี้นางจะหย่าสำเร็จได้ตอนไหนกัน!!
จ้าวเหม่ยซื้อนิยายมาอ่าน พระเอกของเรื่องเป็นทรราชที่ได้รับการยกย่อง บ้าไปแล้วเป็นทรราชจะดีได้อย่างไร ปากบ่นไปสมองก็ด่าไปดันถูกเครื่องทำน้ำอุ่นช็อตตายไป ฟื้นมาอีกทีก็กลายเป็นสนมของทรราชผู้นั้น!! งานนี้เธอจะสามารถกลับออกจากนิยายได้ไหม หรือว่าต้องอุ้มให้ทรราชผู้นั้นตลอดไป ไปลุ้นกันค่ะ ****************** จบดีมีความสุขค่ะ
นราเป็นเพียงหญิงสาวยากชน ต้องทำงานแลกเงินแต่เธอก็มีตุลย์แฟนหนุ่มที่มีฐานะดีคอยช่วยเหลือตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งเธอก็พบว่าตัวเองตั้งครรภ์ ในขณะที่อีกฝ่ายก็มีคนที่ดีพร้อมไว้ข้างกายเช่นกัน เพราะรักจึงยอมเลิก เธอจึงเลือกที่จะหอบลูกในท้องจากไปเพื่อให้เขามีอนาคตที่ดีขึ้น ดีกว่าที่จะอยู่กับคนแบบเธอแม้หัวใจจะเจ็บปวดมากเท่าไรก็ตาม
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย