หย่ากันแล้วไยต้องรักท่าน ไป๋ชิงนางแต่งเข้าสกุลลู่อย่างเต็มใจ หากแต่สามีนาง ลู่เฉิน กลับทำร้ายจิตใจนางซ้ำแล้วซ้ำเล่า นำพาอนุเข้าเรือนไม่เว้นแต่ละวัน จนสุดท้ายนางทนไม่ไหวก็ขอ "หย่า" "ก็ตามใจเจ้า" นางเจ็บแค้นใจสาหัส เดินจากมาด้วยน้ำตา หากแต่เดินออกจากสกุลลู่ได้ไม่นาน เหตุใดเขาถึงกลับมาตามนางกลับ ********* คนอย่างนางมีแต่เดินหน้าไม่หวนคืน หย่ากันแล้วอย่าคิดจะมีคืนดี เป้าหมายนางคือ "สามีใหม่" เท่านั้น มาทำให้ใต้หล้าเห็นว่า หญิงหม้ายก็มิได้ร้างรักแต่อย่างใด ******************************* นิยายเรื่องนี้มีเป้าหมายคือหาสามีใหม่ ใครมิชอบใจรักผัวเก่าขัดใจผ่านไปก่อนได้เลยค่ะ
กิ่งต้นหลิวกำลังถูกสายฝนพัดจนใบไม้ปลิวลงไปตามสายลม จนกระทั่งกิ่งโยกเอนขยับไปมาราวกับเสียงร้องในใจนางในตอนนี้ อนงค์ร่างบางอรชร ใบหน้าเรียวรูปไข่ขับรับกับดวงตาหงส์ คิ้วเรียวดัง กิ่งหลิว ริมฝีปากดั่งดอกบัวแรกแย้ม
ดวงตานางหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า สามปีที่ผ่านมาสำหรับนางแล้วเหมือนสามสิบปี ตั้งแต่ก้าวเข้ามาสกุลลู่ ในใจนางแต่ละวันล้วนไม่ได้อยู่สงบสุข
ประตูใหญ่ด้านหน้าไหว้ฟ้าดินรับนางเข้ามา
หากแต่ประตูเล็กกลับรับอนุมาเช่นกัน
ในคืนเข้าหอที่ควรเป็นของนาง แต่อนุที่ต่ำกว่ากลับช่วงชิงไปได้ ชีวิตรักที่จะสงบก็ไม่เคยมีนับตั้งแต่นั้น นางคิดว่าหากนางทำตัวเป็นภรรยาที่มีความเมตตาต่อภรรยาคนอื่นๆ ของสามี ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี สามีนางก็คงจะยกย่องนางและให้ความเคารพบ้าง แต่สามปีที่ผ่านมา นางเหมือนตกอยู่ในนรกไม่เว้นวัน
เขาเอาแต่สร้างเรื่องเอาอนุเข้าเรือนไม่เว้นแต่ละวัน อย่างที่เขาบอกว่ามีหนึ่งก็ต้องมีสอง มีสองก็ต้องมีสาม ในเมื่อนางเป็นหนึ่ง นางก็ปล่อยให้อนุพวกนั้นตบตีกันเอง
ตบตีกันไปมา ในที่สุดสามปีนางก็เหลืออนุที่ผ่านสนามรบพวกนั้น และแยกย้ายต่างคนต่างอยู่เพียงสองคน ถึงสองคน แต่สำหรับนางแล้ว ก็ไม่ต่างจากนรกเหมือนเคย
ทุกวันผ่านไปอย่างยากลำบาก เจ็ดวันต้องแบ่งไปให้อนุแล้วสี่วัน เหลือให้นางเพียงสามวัน หากแต่สามวันนั้นสำหรับนางนั้น...
หึ นางเค้นหัวเราะกับชะตาที่ตัวเองได้รับ เฉกเช่นวันนี้ที่ต้องพบกับความจริงที่แสนเจ็บปวด สายฝนยังคงกระหน่ำเทลงมา นางทอดมองไปยังเรือนฝั่งตรงข้ามที่มีแสงเทียนดวงเล็กจุดอยู่ ทำให้เห็นเงาด้านในนั้น
สองคนนั้นกำลังเล่นรักโดยมิกลัวฟ้ากลัวสวรรค์จักลงโทษ คนหนึ่งนั้นคือคนที่นางต้องทนมาตลอดสามปี สามีนาง “ลู่เฉิน” ส่วนคนที่สองนั้นนางเคยเห็นเป็นดั่งน้องสาวที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่วัยเยาว์ สาวใช้ของนาง “จางจิ้ง”
มือบางกำแน่นจนเล็บจิกลงไปในเนื้อจนเลือดไหลออกมา หากแต่มันกลับไม่ได้เจ็บเลยสักนิด สามปีนี้สำหรับนาง สิ่งที่ทั้งสองกระทำนั้นเหมือนมีดที่กรีดลงกลางใจ จนในที่สุดตอนนี้หัวใจนางก็ตายไปแล้ว
นางเฝ้ารอสองคนที่นางรักทำกิจจนเสร็จ รอจนกระทั่งสายฝนที่พัดกระหน่ำหลงเหลือเพียงแค่หยดน้ำบนหลังคา มือนางยกขึ้นไปรองรับน้ำฝนที่ตกลงมา แล้วน้ำตาของนางก็หยดลงบนแก้ม
ถึงเวลาแล้วที่นางควรจะรักตัวเองมิใช่คนอื่น ควรจะเลือกหนทาง ที่ถูกต้อง เมื่อคิดได้ก็ลืมตาขึ้นอีกครั้ง แล้วก้าวเท้าผ่านหลังคาที่หลบฝน หยดฝนที่โปรยปรายเหลือเพียงน้อยนิดนั้น ตกลงมากระทบกับเรือนผม ที่ยาวจนถึงสะโพก ยามเท้าย่างกรายไปนั้นก็พัดเอนไปมาราวกับลิ่วลม ฝีเท้านางยามก้าวไปนั้นคล้ายกับต้นไผ่ที่ไม่อาจสู้แรงต้นหลิวที่มั่นคงได้
แต่ละก้าวเต็มไปด้วยบาดแผลในใจ ยามที่ได้ยินเสียงหัวเราะดังออกมาจากในนั้นราวคมมีดกรีดลงลึกไป
“พวกท่านใจร้ายกับข้าเกินไปแล้ว”
นั่นน่ะหรือน้องสาวที่ข้ารัก นั่นนะหรือสามีที่รักภักดี เหยียบย่ำกันพอหรือยัง
ไป๋ชิงหยุดฝีเท้ายืนอยู่หน้าประตู หากแต่นางกลับไม่กล้าที่จะเคาะเรียกสองคนนั้นออกมาให้บาดตาบาดใจ แต่แล้วก็มีเสียงสนทนาดังออกมาจากด้านในราวกับว่าจงใจให้นางได้ยิน
“คุณชาย หากคุณหนูรู้เข้า คุณหนูจักต้องเสียใจแน่”
จางจิ้งกล่าวด้วยน้ำเสียงขวยเขิน พลางออดอ้อนซบแผ่นอกลู่เฉินโดยไม่มีท่าทีที่จะเสียใจอย่างคำพูดสักนิด
ส่วนลู่เฉินนั้นก็หัวเราะในลำคอ “ชิงเอ๋อร์จะเสียใจเยี่ยงไรกันเล่า ในเมื่อต่อไปข้าย่อมต้องมาเยือนเรือนของนางทุกวันอยู่แล้ว ข้าได้กับเจ้า ก็ดีกว่านำอนุนอกเรือนเข้ามาเป็นไหนๆ”
จางจิ้งได้ยินแบบนั้นก็ผละออกจากอก แล้วกำหมัดตีแผ่นอกเบาๆ “คุณชายมิคิดจริงจังกับข้าใช่หรือไม่ เห็นข้าเป็นเพียงสาวใช้เท่านั้น”
มือหนาเขานั้นจับกุมมือจางจิ้งที่กำลังทุบตีอกเอาไว้ แล้วดึงนางมากอดเช่นเคย “ในใจข้าไม่ได้มองเจ้าเป็นเช่นนั้น แต่รอหน่อย ให้พ้นวันเกิดท่านแม่ก่อน ข้าจะขอเจ้าเป็นอนุคนที่สาม ไม่ให้เจ้าเป็นสาวใช้ตลอดไปแน่ แต่เจ้าต้องรับปากข้าว่าจะดูแลไป๋ชิงเช่นเดิม”
จางจิ้งได้ยินชื่อก็แค้นในใจ ตั้งแต่เล็กก็เติบโตมาพร้อมกับคุณหนูไป๋ชิง หากแต่ตนคือสาวใช้ ส่วนนางก็คือบุตรีของบัณฑิตสกุลเหว่ย อาจารย์ที่เป็นที่นับถือของเหล่าบัณฑิตในเมืองนี้
ตั้งแต่เล็กนางล้วนเห็นว่าคุณหนูดีกว่าตนทุกอย่าง คุณสมบัติของนางที่โดดเด่นเหนือบุรุษ อ่านหนังสือออกตั้งแต่สามขวบ สอบเทียบข้ามรุ่นได้ตั้งแต่เด็ก พิณ ขลุ่ย กลอน โคลงกวีก็ไม่แพ้ใคร ตลอดจนงานบ้าน เย็บปักถักร้อยก็โดดเด่นเสมอ
สำหรับจางจิ้งแล้ว คุณหนูเปรียบเหมือนเทพเซียนที่ลงมาจากสวรรค์ ส่วนนางเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาที่ยืนอยู่บนดินมิอาจเทียบได้ หากแต่ตอนนี้นางทำสำเร็จแล้ว เมื่อนางมีสามีคนเดียวกับเทพเซียน องค์นั้น
เมื่อคิดได้นางก็ยืดคออีกหน่อย “ให้ข้าเป็นอนุแล้วยังต้องรับใช้นางอีก เช่นนั้นแล้วข้าจะนอนกับท่านเพื่ออันใด ท่านก็หาสาวใช้คนใหม่ มาแทนเถอะ” น้ำเสียงนางแง่งอน ปากนิดปากหน่อยยื่นออกมาราวกับนกแก้วนกขุนทอง
ลู่เฉินรู้สึกสนุกจึงก้มลงจูบริมฝีปากนั้นอย่างเอาใจ ทำให้เกิดเสียงหัวเราะขึ้นอีกครั้ง จนกระทั่งเสียงหนึ่งดังขึ้น
“ไม่จำเป็นต้องหาสาวใช้ให้ข้าใหม่หรอก”
สองคนที่อยู่ในห้องมองหน้ากันแล้วตกใจ จางจิ้งรีบผละออกจากอกของลู่เฉิน จากนั้นก็ควานหาเสื้อผ้ามาใส่ หากแต่เมื่อคิดว่าตอนนี้ นางเป็นใคร ก็พวกเราล้วนใช้สามีคนเดียวกัน แล้วนางจะกลัวไป๋ชิงไปทำไม เมื่อคิดได้ก็ยืนทั้งที่สวมชุดชั้นในชั้นเดียว มองลู่เฉินที่ลงจากเตียงเดินไปเอาผ้าคลุมมาให้นางอย่างเอาใจ
ยิ่งลู่เฉินทำแบบนี้นางก็ยิ่งได้ใจ จึงเชิดหน้าขึ้นแล้วเป็นฝ่ายไปเปิดประตูเอง
เอี๊ยด เสียงประตูเปิดออกพร้อมกับเสียง เพียะ!!
มือไป๋ชิงตบเข้าที่หน้าจางจิ้งเสียงดัง “คุณ...” หนู คำท้ายนั้น หยุดไปเมื่อคิดได้ว่าตัวเองเป็นใครแล้วตอนนี้ ก่อนลุกขึ้นแล้วหันกลับไปซบคุณชายลู่เฉิน “คุณชายเจ้าคะ ช่วยบ่าวด้วยเจ้าค่ะ”
ท่าทางเช่นนั้นยิ่งทำให้นางรู้สึกเจ็บปวด นี่หรือคนที่เติบโตมาพร้อมกับนาง แล้วมองสามีที่หันมาตวาดใส่
“ฮูหยิน เจ้าอย่าลืมคำว่าสี่คุณธรรมของภรรยาเด็ดขาด กระทำการเช่นนี้ก็เท่ากับไม่ให้เกียรติข้า ประพฤติผิดต่อสามีไม่เท่ากับผิดข้อปฏิบัติ สี่คุณธรรม!!”
“ข้าไม่สนใจสี่คุณธรรมพวกนั้นแล้ว หากท่านเอาสี่คุณธรรมมาอ้าง แล้วท่านเล่า กระทำตัวเป็นสามีที่ดีหรือไม่”
“ไป๋ชิง เจ้าชักจะหาญกล้ามากไปแล้ว” เขาปลดมือของสาวใช้ออก จากนั้นก็เดินมายังหน้าภรรยาตน ยกมือขึ้นแล้วตบ
เพียะ! เสียงนั้นดังสะเทือนจนคนถูกตบล้มลงไปบนพื้น คนถูกกระทำยกมือขึ้นจับแก้มตัวเอง มองสีหน้าสามีที่กำลังแสดงอำนาจ หันมองสาวใช้ตนที่กำลังยิ้มเยาะสะใจ สองมือนางก็กำแน่น ในใจก็คิดว่า
‘สี่คุณธรรมห่าเหวอันใดเล่า ข้าไม่สนอะไรทั้งนั้น’
เจียซินที่อยู่ในชีวิตปั่นปลายนั้น กลับต้องรู้สึกเสียใจที่เลือกเส้นทางรักผิด เมื่อเลือกหนทางใหม่ได้ เธอก็จะเลือกหนทางที่ดีที่สุด และเขาชายที่เธอเคยละทิ้งไปก็กลายมาเป็นคู่ชีวิต ที่พร้อมจะร่ำรวยไปด้วยกัน
ชมดาวต้องทนรับสภาพสถานะเลขาของเจ้านายและสถานะบนเตียงมาตลอดห้าปี เธอคิดว่าอีกไม่นานเขาก็จะขอเธอแต่งงาน หากแต่ว่าเขากลับเห็นเธอเป็นเพียงสถานะรองเท่านั้น จนกระทั่งวันหนึ่งเขาก็ต้องแต่งงาน ไม่ใช่กับเธอแต่เป็นคนอื่น เธอจะเลือกจำยอมอยู่ในความลับต่อไป หรือเลือกที่จะเดินออกมาพร้อมกับเด็กในท้อง!!
ลู่เจียหง นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังในยุคปัจจุบัน จับผลัดจับพลูลงลิฟต์ก็โผล่ไปยังยุคโบราณ แถมยังอยู่ในชุดเจ้าสาวอีก ถ้าประหลาดแค่นั้นไม่พอคงไม่เป็นไร ถ้าไม่พบว่าตัวเองกำลังถูกตามล่าจากว่าทีสามีที่ยังไม่ทันเข้าหอ งานนี้นางถือคติไม่ยุ่งเกี่ยวต่างคนต่างอยู่ แต่ท่านอ๋องผู้นั้นก็เอาแต่วนเวียนอยู่ข้างตัวนางไม่หยุด แบบนี้นางจะหย่าสำเร็จได้ตอนไหนกัน!!
จ้าวเหม่ยซื้อนิยายมาอ่าน พระเอกของเรื่องเป็นทรราชที่ได้รับการยกย่อง บ้าไปแล้วเป็นทรราชจะดีได้อย่างไร ปากบ่นไปสมองก็ด่าไปดันถูกเครื่องทำน้ำอุ่นช็อตตายไป ฟื้นมาอีกทีก็กลายเป็นสนมของทรราชผู้นั้น!! งานนี้เธอจะสามารถกลับออกจากนิยายได้ไหม หรือว่าต้องอุ้มให้ทรราชผู้นั้นตลอดไป ไปลุ้นกันค่ะ ****************** จบดีมีความสุขค่ะ
นราเป็นเพียงหญิงสาวยากชน ต้องทำงานแลกเงินแต่เธอก็มีตุลย์แฟนหนุ่มที่มีฐานะดีคอยช่วยเหลือตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งเธอก็พบว่าตัวเองตั้งครรภ์ ในขณะที่อีกฝ่ายก็มีคนที่ดีพร้อมไว้ข้างกายเช่นกัน เพราะรักจึงยอมเลิก เธอจึงเลือกที่จะหอบลูกในท้องจากไปเพื่อให้เขามีอนาคตที่ดีขึ้น ดีกว่าที่จะอยู่กับคนแบบเธอแม้หัวใจจะเจ็บปวดมากเท่าไรก็ตาม
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!