เพราะพี่สาวของนางต้องตายอย่างปริศนา ทำให้เหมยลู่อิงต้องเข้าวังเพื่อสืบหาความจริง แต่ภายใต้อันตรายนั้นกลับพบว่าในวังหลวงนั้นอันตรายไม่แพ้กัน มีคลื่นลมแห่งความแค้นพร้อมแย่งชิงบัลลังก์เลือดนั้น ไม่สนว่าต้องพรากวิญญาณผู้ใด นางจะเอาตัวรอดได้หรือไม่ ในเมื่อมังกรที่ยิ่งใหญ่ในวังหลวงนั้นไม่ได้หลอกง่ายอย่างที่คิด เหมือนเขาจะว่างงาน เพราะผ่านไปแค่สามวัน “...” เหมยลู่อิงมองข้าวของที่กองอยู่ตรงหน้า คนผู้นี้ต้องการอะไรกันแน่ จะแกล้งนางไม่เลิกเลยหรือไง ส่งของบรรณาการผ้าแพรสวยงามมาให้นาง แล้วจะให้นางใช้เล่ห์กลอะไรปฏิเสธได้อีก สรุปจะให้นางถูกรุมตายแน่ๆ สตรีทั้งหลายต่างมองตาเป็นมัน ความประหลาดของฝ่าบาทนี้ทุกคนเริ่มชิน ไม่เคยเรียกนางเข้าเฝ้า แต่ก็ขยันส่งของมาให้ คราก่อนเป็นรังนก นางก็เอาถวายเจ้าแม่กวนอิม มาครานี้ถึงกับส่งเสื้อสตรีมา คงคิดว่านางเอาไปถวายไม่ได้น่ะสิ ฉินกงกงพูดแล้วก็ยิ้ม เมื่อเห็นสีหน้ากลืนไม่ได้เข้าคายไม่ออกของนาง “คืนพรุ่งนี้ฮองเฮาจะมีงานเลี้ยงน้ำชาเหล่าสนมนางใน ฝ่าบาทจะเสด็จด้วย จึงพระราชทานชุดบรรณาการให้ตาอิ้งโดยเฉพาะ” ไม่ต้องย้ำคำว่าโดยเฉพาะก็ได้ คืนพรุ่งนี้มีงานเลี้ยงเลยมีความประสงค์จะให้นางสวมชุดบรรณาการ ไม่ส่งมีดมาเลยล่ะ กะว่าจะให้นางโดนรุมในวัง นางไปทำเวรทำกรรมอะไรกับฮ่องเต้คนนี้นะเนี่ย จะบ้าตาย
ท่ามกลางความมืดมิด เท้าเปล่าเปลือยคู่นั้นกำลังเร่งฝีเท้าวิ่งหนีจากความตายที่กำลังจะมาถึงตัว ในป่าไผ่ที่เต็มไปด้วยสัตว์ร้ายก็ยังดีกว่าในวังหลวงที่สวยงาม หากแต่เต็มไปด้วยยาพิษ
ร่างกายเริ่มอ่อนล้า เริ่มหอบหายใจด้วยความเหนื่อย นางเป็นแค่สตรีบอบบาง อีกทั้งยังถูกโบยสาหัส แต่เพราะคำว่ากลัวตาย นางจึงพยายามที่จะหนีให้ได้
นางเร่งฝีเท้าให้เร็วที่สุด มองทางข้างหน้าที่เป็นเหมือนความหวังสุดท้าย หากนางพ้นจากป่าไผ่แห่งนี้ได้ก็จะเข้าถึงหมู่บ้านคน เมื่อนั้นนางก็จะหลุดพ้นจากคนพวกนั้น
ทว่าวิ่งหนีไปได้ไม่นานก็มีเสียงฝีเท้าคนกลุ่มหนึ่งวิ่งตามหลังมา ดวงตานางเบิกกว้าง พยายามวิ่งให้เร็วกว่าเดิม “เหมยกุ้ยเหริน เจ้าต้องเร็วกว่านี้” นางพูดกับตัวเองเพื่อที่จะได้กลับไปหาครอบครัว บิดามารดา และน้องสาวที่รักของนาง
แต่แล้วความพยายามของนางก็เปล่าประโยชน์ ยิ่งวิ่งหนีพวกนั้นก็ยิ่งเข้าใกล้มากขึ้น จนสุดท้าย
“นายหญิงจะหนีไปไหน”
คนหนึ่งอ้อมเข้ามาด้านหลัง แล้วป้อนยาใส่ปากนาง ก่อนจะใช้ผ้าปิดปากนางไว้ ดวงตานางเบิกกว้าง ร่างกายชักเกร็ง ปากไม่มีแรงพูดออกไปเพราะเต็มไปด้วยเลือดที่กระอักออกมา ร่างบางล้มลงไปบนพื้นดวงตาเหลือกลานก่อนจะหมดลมหายใจ
คนผู้นั้นก้มลงปิดตานางให้สนิทแล้วเริ่มค้นตัว แต่กลับไม่พบสิ่งที่ค้นหา “ไร้ประโยชน์ ส่งร่างกุ้ยเหรินกลับสกุลเดิม บอกว่านางฆ่าตัวตายหนีความผิด เพราะถูกจับได้ว่าลอบมีความสัมพันธ์กับขันที”
สิ้นคำสั่งนั้นอีกคนก็รับคำ จากนั้นก็ส่งร่างของนางกำนัลผู้นี้กลับสกุลเดิมของนาง
เสียงปี่บรรเลงขบวนแห่ศพดังไปทั่วภูเขา เบื้องหลังคนเป่าปี่เป็นหีบศพที่ไร้วิญญาณ ด้านข้างของหีบศพเป็นบิดามารดา และญาติที่กำลังร่ำไห้ ส่วนท้ายสุดของขบวนเป็นสาวน้อยนางหนึ่งเดินอยู่
ดวงตามองจับนิ่งที่หีบศพเบื้องหน้า แค่ห้าปีนางก็ได้ร่างไร้วิญญาณพี่สาวกลับมา ช่างเป็นความหวังที่โง่เง่าสิ้นดี
ไหนเกียรติ ไหนชื่อเสียง ไหนเงินทอง
สุดท้ายก็มีแต่ความตายพร้อมกับข้อกล่าวหาว่าพี่สาวนางลอบมีความสัมพันธ์กับขันที จึงหนีความผิดด้วยการฆ่าตัวตาย
บุรุษที่ไม่มีอาวุธสืบพันธุ์แล้ว พี่สาวนางจะทำอย่างนั้นทำไม ดูแล้วข้อกล่าวหานี้เป็นการใส่ร้ายชัดๆ นางไม่มีวันเชื่ออย่างแน่นอน
รอยยิ้มที่สดใส กิริยาที่งดงามดุจใบหลิวลู่ลิ่วไปตามลม เหตุใดจึงได้จบชีวิตลงอย่างอนาถเช่นนี้ ด้านหลังกำแพงสีแดงมีอะไร ใครคือคนที่ทำให้พี่สาวนางเป็นเช่นนี้
แม้แต่ตอนนี้นางก็ยังหาคำตอบไม่ได้ ดวงตายังคงมองโลงศพ หากว่าก้าวเท้าเข้าไปแล้วต้องจบชีวิต สู้ให้พี่สาวนางแต่งกับหนุ่มชาวบ้านไม่ดีกว่าหรือ
บิดานางเป็นเพียงนายอำเภอเล็กๆ ในชนบท ฐานะอำนาจแทบจะไม่มี อยากจะแวะไปเยี่ยมก็ยังไม่ได้ พอจะเจอกันอีกครั้งก็กลายเป็นศพแล้ว
สองปีก่อนพี่สาวนางส่งจดหมายมาว่าได้รับการแต่งตั้งเป็นต้าอิง
ปีต่อมาก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นฉางฉ้าย
เมื่อต้นปีที่ผ่านมาก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นกุ้ยเหริน
ในจดหมายนั้นบอกว่าอีกไม่นานนางจะได้รับการแต่งตั้งเป็นผิน แล้วไหนเล่าชีวิตที่รุ่งโรจน์ของพี่สาวนาง
หรือห้าปีที่ผ่านมาเป็นเพียงแค่ภาพฝัน หรือว่าแท้จริงแล้วพี่สาวนางไม่ได้มีความสุขอย่างที่คิด เพียงแค่คิดว่าพี่สาวต้องถูกทรมานอยู่ที่นั่น นางก็แทบจะทนไม่ไหว
มือบางกำผ้าเช็ดหน้าบีบแน่นด้วยความแค้นใจ ในมือยังมีกำไลสีเลือดที่เป็นของติดตัวพี่สาวก่อนตาย ของขวัญล้ำค่านี้เป็นของผู้ใดกันนางจะต้องรู้ให้ได้ แม้จะพยายามคิดว่าคนตายก็ตายไปแล้ว นางควรจะปล่อยวางอย่างที่มารดาบอก
แต่เหตุใดจิตใจถึงไม่สงบ ยังรั้นจะรู้ให้ได้ว่าเป็นฝีมือใคร?
“เหมยลู่อิง ลูก” เสียงมารดาเรียกนางทำให้นางละจากความคิดแล้วเดินไปรับธูปจากมือมารดา
“ลาพี่สาวเจ้าเสีย” เสียงมารดายังสะอื้นแหบพร่า แต่ยังคิดถึงบุตรสาวเช่นนาง เหมยลู่อิงจึงคุกเข่าลง
ไม่สนใจว่าเสื้อผ้าจะเปื้อนดิน นางยกมือขึ้นแล้วเอ่ยความในใจ
“ความตายของท่านพี่ครั้งนี้ น้องจะขอทวงคืน มันผู้ใดที่ทำให้ท่านพี่ทรมาน น้องจะทรมานมัน มันผู้ใดทำให้ท่านพี่ตาย น้องจะขอเอาวิญญาณจากคนผู้นั้นมาชดใช้”
ความแค้นอัดแน่นในอก เหมยลู่อิงคำนับแล้วปักธูป ฤดูคิมหันต์ของปีนี้ร้อนระอุ แม้แต่ลมพัดก็ยังหาได้ยาก แต่ตอนนี้กลับมีลมแรงพัดทันทีที่ธูปปักลง
สตรีเจ้าของธูปหันมอง แม้แต่พี่สาวนางยังเห็นด้วย แล้วนางจะลังเลทำไม ในเมื่อตัดสินใจได้แล้ว เหมยลู่อิงก็ลุกขึ้นหันไปทางบิดามารดา
“ท่านพ่อท่านแม่ ข้าจะเข้าวัง”
ลมพัดผ่านไปอีกระลอก คราวนี้หนักกว่าเคย คนเป็นบิดามารดาได้แต่ถอนใจ “เจ้าอย่าได้เอาชีวิตไปแลกกับมันอีกเลย แม่ไม่อาจเสียเจ้าไปอีกคนได้”
แต่เหมยลู่อิงกลับไม่ละความพยายามที่จะทำเช่นนั้น พี่สาวนาง “ซิ่นหลาน” จะต้องไม่ตายเปล่า นางจะต้องสืบให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในนั้น
เจียซินที่อยู่ในชีวิตปั่นปลายนั้น กลับต้องรู้สึกเสียใจที่เลือกเส้นทางรักผิด เมื่อเลือกหนทางใหม่ได้ เธอก็จะเลือกหนทางที่ดีที่สุด และเขาชายที่เธอเคยละทิ้งไปก็กลายมาเป็นคู่ชีวิต ที่พร้อมจะร่ำรวยไปด้วยกัน
ชมดาวต้องทนรับสภาพสถานะเลขาของเจ้านายและสถานะบนเตียงมาตลอดห้าปี เธอคิดว่าอีกไม่นานเขาก็จะขอเธอแต่งงาน หากแต่ว่าเขากลับเห็นเธอเป็นเพียงสถานะรองเท่านั้น จนกระทั่งวันหนึ่งเขาก็ต้องแต่งงาน ไม่ใช่กับเธอแต่เป็นคนอื่น เธอจะเลือกจำยอมอยู่ในความลับต่อไป หรือเลือกที่จะเดินออกมาพร้อมกับเด็กในท้อง!!
ลู่เจียหง นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังในยุคปัจจุบัน จับผลัดจับพลูลงลิฟต์ก็โผล่ไปยังยุคโบราณ แถมยังอยู่ในชุดเจ้าสาวอีก ถ้าประหลาดแค่นั้นไม่พอคงไม่เป็นไร ถ้าไม่พบว่าตัวเองกำลังถูกตามล่าจากว่าทีสามีที่ยังไม่ทันเข้าหอ งานนี้นางถือคติไม่ยุ่งเกี่ยวต่างคนต่างอยู่ แต่ท่านอ๋องผู้นั้นก็เอาแต่วนเวียนอยู่ข้างตัวนางไม่หยุด แบบนี้นางจะหย่าสำเร็จได้ตอนไหนกัน!!
จ้าวเหม่ยซื้อนิยายมาอ่าน พระเอกของเรื่องเป็นทรราชที่ได้รับการยกย่อง บ้าไปแล้วเป็นทรราชจะดีได้อย่างไร ปากบ่นไปสมองก็ด่าไปดันถูกเครื่องทำน้ำอุ่นช็อตตายไป ฟื้นมาอีกทีก็กลายเป็นสนมของทรราชผู้นั้น!! งานนี้เธอจะสามารถกลับออกจากนิยายได้ไหม หรือว่าต้องอุ้มให้ทรราชผู้นั้นตลอดไป ไปลุ้นกันค่ะ ****************** จบดีมีความสุขค่ะ
นราเป็นเพียงหญิงสาวยากชน ต้องทำงานแลกเงินแต่เธอก็มีตุลย์แฟนหนุ่มที่มีฐานะดีคอยช่วยเหลือตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งเธอก็พบว่าตัวเองตั้งครรภ์ ในขณะที่อีกฝ่ายก็มีคนที่ดีพร้อมไว้ข้างกายเช่นกัน เพราะรักจึงยอมเลิก เธอจึงเลือกที่จะหอบลูกในท้องจากไปเพื่อให้เขามีอนาคตที่ดีขึ้น ดีกว่าที่จะอยู่กับคนแบบเธอแม้หัวใจจะเจ็บปวดมากเท่าไรก็ตาม
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
“ผู้หญิงคนนี้เป็นของมาร์โก ใครก็ห้ามมายุ่งอีกเด็ดขาด” เขาประกาศให้รับรู้ทั่วกัน แต่ถามว่าผู้หญิงของเขาตอนนี้มีสีหน้ายังไง ถามได้! เธอยังช็อกไม่หายปล่อยให้เขาจับจูงเข้าไปในห้องจนเหตุการณ์สงบแล้วเธอก็ยังไม่รู้ตัวเหมือนเดิม! พระเจ้านี่มันเรื่องบ้าอะไร! เธอกลายเป็นผู้หญิงของมาเฟียได้ยังไง เรื่องชักจะวุ่นวายเกินไปแล้ว เธอตามไม่ทันจริง... ตั้งสติไว้ยัยแอน เธอต้องตั้งสติ ตั้งสติบ้าอะไร เขาก็ประกาศอยู่ว่าเธอเป็นของเขา ไม่ ๆ ไม่ใช่ พวกเราแค่นอนด้วยกันคืนเดียว ยังไงก็แค่เรื่องเข้าใจผิด ยังไงเขาก็คงคิดจะขู่เล่น ๆ โธ่เอ้ยยัยโง่ เขาประกาศขนาดนั้น ลองไปสิเธอได้ถูกผูกติดกับเตียงแน่ ชาตินี้อย่าหวังจะไปไหนได้เลย เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าคนนั้นคือมาเฟียมาร์โก มาเฟียที่มีอิทธิพลสุดในเมืองนี้! เธอจะบ้าตายเพราะเถียงกับตัวเองนี่แหละ แถมยังต้องมานั่งเสียใจที่มาเจอคนที่น่ากลัวที่สุดในเมือง พระเจ้าแกล้งเธอเกินไปแล้ว แบบนี้เธอจะทำยังไงดี!!
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป
อารียา ถูกโชคชะตาชักนำไปสู่บทพิศวาสที่แสนเร่าร้อนบนความเข้าใจผิด ก่อเกิดเป็น ‘รักต้องห้าม’ ที่ไม่อาจต้านทานได้ แล้ว ชีควาคิล จะทำเช่นไร ที่จะทำให้ยอดหญิงที่เป็นดั่งดวงหฤทัย กลายเป็น ‘รักเดียว ตลอดกาล’ มันคงไม่ยากนัก หาก ‘เขา’ ซึ่งเป็นถึงองค์รัชทายาทจะทรงต้องการ ‘นางสนมในฮาเร็ม’ เพิ่มอีกสักคน ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ ‘เธอ’ ครูสอนภาษาที่เป็นดังกุหลาบงามที่ซ่อนหนามแหลมเอาไว้ภายใน แม้จะทรงมีอำนาจเหนือใคร ก็อย่าหมายมารังแกเธอได้ง่ายๆ แต่ทว่าเขากำลังถือ ‘ไพ่’ เหนือเธอ จึงทรงบังคับขืนใจด้วยไฟแค้น พันธนาการเธอเอาไว้ด้วยเพลิงพิศวาสที่แสนหวาน แล้วครูสาวไร้เดียงสาอย่างอารียา จะสามารถต้านทานบทสวาทขั้นเทพของชีคหนุ่มผู้กระหายในรสรักได้อย่างไร “อ๊ะ...ท่านชีค” เสียงหวานๆ ครางแผ่วออกมาอย่างลืมอายเมื่อท่านชีคผู้แสนจัดเจนในสนามรัก งัดกลยุทธพิชิตกายสาวออกมาใช้กับหญิงสาวอย่างไม่หมกเม็ด เจ้าของเรือนร่างงดงามดุจรูปปั้นเปลือยเปล่าของนักรบเทพเจ้ากรีก ได้จุดประกายไฟพิศวาสให้ลามเลียไปทั่วร่างร้อนผ่าวที่พร้อมจะติดไฟรักได้ทุกเมื่อ แล้วเมื่อใบหน้าหล่อเหลาดุจเทพบุตรแห่งสวรรค์ ฝังจมูกลงมาบนช่อดอกรักอวบอูมกลางกายสาว คนใต้ร่างก็ไม่อาจกลั้นใจ “ท่านชีค อย่าค่ะ ไม่...โอว” ร่างบอบบางบิดเร่าๆสะท้านไหว กลีบดอกไม้ลู่ไปตามทิศทางลมที่พัดโหมจนกลายเป็นพายุสวาทลูกใหญ่ซัดกระหน่ำแทรกลึกซอกซอนเข้าไปยังกลีบดอกรักแสนสวยจนเกสรสีหวานสั่นระรัวและบวมเป่งเพราะอารมณ์เสน่หา
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"