รองประธานหนุ่มต้องมาเจรจากับอินฟลูเอนเซอ์ เพื่อให้เธอช่วยแก้ข่าวเรื่องอุบัติเหตุแต่พอได้เจอหน้า เขากลับยื่นข้อเสนอให้เธอเป็นแฟนของเขา
รองประธานหนุ่มต้องมาเจรจากับอินฟลูเอนเซอ์ เพื่อให้เธอช่วยแก้ข่าวเรื่องอุบัติเหตุแต่พอได้เจอหน้า เขากลับยื่นข้อเสนอให้เธอเป็นแฟนของเขา
“คุณธีคะแย่แล้วค่ะ” ทิพย์สุดาเลขาวัยกลางคนรีบพูดทั้งที่ตัวเองยังเดินไม่ถึงโต๊ะทำงานของเจ้านายเลยด้วยซ้ำ
“มีอะไรคุณทิพย์ ใจเย็นค่อยๆ พูดก็ได้”
“ใจเย็นไม่ได้แล้วค่ะคุณธีตอนนี้โรงแรมเรากำลังเป็นข่าวดังในโซเชียลเลยนะคะ”
“ข่าวดังอะไรเหรอคุณทิพย์หรือว่ามีดาราดังจากต่างประเทศเข้ามาพักล่ะ” ธีธวัชพูดแล้วหัวเราะให้กับเลขาหน้าห้องที่ดูท่าทางจะตื่นเต้นกว่าทุกครั้ง
ปกติแล้วโรงแรมหรูระดับห้าดาวของเขาจะมีทั้งดารา นักร้อง เซเลบริตี้และคนที่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะชาวไทยหรือชาวต่างชาติเข้ามาพักอยู่เป็นประจำและเลขาของเขาก็มักจะตื่นเต้นแบบนี้อยู่ทุกครั้ง
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะคุณธีธวัชครั้งนี้ข่าวมันไปในแง่ลบ”
“ข่าวอะไร” พอได้ฟังคำว่าแง่ลบจากปากของเลขาวัยกลางคนธีธวัชก็หน้าเครียดขึ้นมาทันที
“คุณธีดูนี่สิคะ” เลขาสาวส่งแท็บเล็ตในมือตัวเองที่เปิดเพจบันเทิงเพจหนึ่งค้างไว้
‘อินฟลูเอนเซอร์สาวชื่อดังได้รับบาดเจ็บที่ขาขณะเข้าพักโรงแรมหรูย่านทองหล่อ หวังจะพักผ่อนให้สบายใจแต่กลับไม่เป็นอย่างนั้น ขณะที่กำลังนอนหลับอยู่หลอดไฟบริเวณปลายเตียงก็เกิดระเบิดขึ้นมาจนสะเก็ดของหลอดไฟกระเด็นมาบาดข้อเท้าเป็นแผลยาว ซึ่งตอนนี้กำลังเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งไม่รู้ว่าขาสวยๆ ชองเธอจะเป็นแผลเป็นหรือเปล่า’
“เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไงแล้วเกิดตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมไม่มีใครรายงานเรื่องนี้มาเลย” ธีธวัชหันมาถามเลขาด้วยอารมณ์ขุ่นมัวเพราะข่าวนี้มันทำให้โรงแรมของเขาเสียชื่อเสียง ถึงแม้ในข่าวจะไม่ได้บอกชื่อโรงแรมแต่ทุกคนก็รู้เพราะก่อนหน้านั้นอินฟลูเอนเซอร์เช็กอินที่โรงแรมของเขา
“ทิพย์ถามผู้จัดการโรงแรมมาแล้วค่ะเขาบอกว่าคืนวันเกิดเหตุอินฟลูเอนเซอร์คนนั้นไม่ได้บอกเราเลยค่ะว่าเธอมีบาดแผลที่ไหนเธอบอกแค่เธอตกใจและขอเช็กเอาท์ทันที”
“แล้วทำไมข่าวแบบนี้มันถึงหลุดออกไปได้ ไม่มีการเจรจากับคู่กรณีก็เลยเหรอ”
“พนักงานที่ทำงานกะดึกบอกว่าพวกเขาเสนอให้เปลี่ยนห้องแต่เธอก็รีบกลับไปก่อน”
“ตอนนี้เธอรักษาตัวอยู่ที่ไหน มีคนของเราตามไปดูแลหรือเปล่า”
“ตอนนี้น่าจะยังค่ะเพราะข่าวเพิ่งออก”
“คุณไปสืบมาว่าเธอรักษาตัวอยู่ที่ไหน แล้วสั่งกระเช้าของเยี่ยมให้ผมด้วย”
“คุณจะไปเยี่ยมเธอเหรอคะ”
“เรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้วผมไปคุยกับเธอเองน่าจะดีกว่า”
“คุณธีรอสักครู่นะคะเดี๋ยวทิพย์จะตามเรื่องให้”
“อย่าช้านะคุณทิพย์เราต้องจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดและเงียบที่สุด”
“ค่ะคุณธี”
เมื่อเลขาออกไปแล้วธีธวัชก็หยิบแท็บเล็ตของตัวเองขึ้นมาเปิดเพจข่าวที่เลขาบอกเมื่อครู่ ซึ่งตอนนี้ใต้ข่าวนั้นมีคนเข้ามาวิจารณ์กันอย่างสนุกปาก
เรื่องนี้มันก็ฟังดูเหมือนเป็นแค่อุบัติเหตุธรรมดาเท่านั้น ถ้าหากคนที่มาเข้าพักไม่ใช่อินฟลูเอนเซอร์ที่มีคนตามหลักล้าน การเจรจาตกลงค่าเสียหายและรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลก็น่าจะเป็นอะไรที่ง่ายมาก แต่ตอนนี้ข่าวมันแพร่กระจายไปเป็นวงกว้าง หลายคอมเมนต์ที่พูดถึงความไม่ปลอดภัยของโรงแรม ซึ่งมันอาจจะส่งผลกระทบกับโรงแรมในเครือ Mega Heaven Plus อีกหลายสาขาทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศก็ได้
ธีธวัชคิดว่าเขาจะต้องรีบไปเยี่ยมหญิงสาวให้เร็วที่สุดเพราะถ้าหากช้าข่าวก็คงกระจายไปถึงสาขาต่างประเทศแน่ๆ
เมื่อเจอเธอแล้วเขาจะขอโทษเธอ และแสดงความรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องค่ารักษาพยาบาลและค่าเสียเวลารวมถึงค่าทำขวัญชายหนุ่มคิดว่าถ้าเขาขอโทษและแสดงความรับผิดชอบอย่างจริงใจเรื่องนี้ก็จะจบลงโดยง่าย
การที่มีข่าวแบบนี้เกิดขึ้นในโรงแรมมันไม่เป็นผลดีเลยเพราะตอนนี้กำลังจะเปิดตัวโรงแรมแห่งใหม่ ธีธวัชคิดว่าบางทีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันจะอาจจะไม่ใช่อุบัติเหตุเพราะเขาเคยเจอเหตุการณ์ลักษณะคล้ายกันแบบนี้และพอสืบลึกลงไปก็พบว่าคู่แข่งทางธุรกิจเป็นคนจ้างให้คนเข้ามาทำลายชื่อเสียง ซึ่งเขาจะนิ่งเฉยไม่ได้เพราะสมัยนี้ข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้นทางโซเชียลมันมีผลกระทบและกระจายไปอย่างรวดเร็ว บางคนแทบจะไม่ฟังความจริงด้วยซ้ำ พวกเขาเชื่อแค่สิ่งที่ได้อ่านครั้งแรกและเมื่อแถลงข่าวแก้ตัวหรืออธิบายเหตุผลพวกเขาก็แทบจะไม่สนใจเพราะได้เชื่ออะไรไปแล้วก็จะเชื่อไปตามนั้น
ระหว่างรอข้อมูลจากทิพย์สุดาธีธวัชก็ดูข้อมูลของผู้หญิงคนที่เกิดอุบัติเหตุเธอมีคนติดตามในแต่ละแพลตฟอร์มเยอะมากซึ่งเขาเองเป็นคนไม่สนใจสื่อพวกนี้เลยแค่ทำงานเวลาในแต่ละวันก็เกือบจะไม่พอ
ธีธวัชตัดสินใจสมัครบัญชีเฟชบุ๊กเพื่อจะได้ตามเข้าไปดูเพจที่หญิงสาวเป็นเจ้าของ
เขาเผลอยิ้มโดยไม่รู้ตัวเมื่อเห็นคลิปที่หญิงสาวรีวิวคาแฟ่แห่งหนึ่งซึ่งดูแล้วเธอมีความสุขกับการถ่ายรูปและการรับประทานอาหารเอามากๆ
นอกจากหญิงสาวจ๊ะรีวิวร้านอาหารคาเฟ่แล้วยังขายสินค้าออนไลน์ลงช่อง TikTok อีกทั้งบางครั้งก็สวมชุดว่ายน้ำถ่ายรูปอีกด้วย
สายตาเจ้าชู้ของธีธวัชมองรูปมองผู้หญิงตัวเล็กผิวขาวที่สวมบิกินี่น้อยชิ้นด้วยนัยน์ตาเป็นประกาย เธอเป็นผู้หญิงที่ไม่สูงมากแต่สัดส่วนของเธอนี่สิคือสิ่งที่สะดุดตาเขา เอวหญิงสาวคอดเล็กหากแต่สะโพกผาย หน้าอกที่แทบจะล้นทะลักออกจากบีกินี่ตัวจิ๋ว
เพียงแค่เห็นมันก็ทำให้เลือดในกายของชายหนุ่มพลุ่งพล่านนานแล้วที่ไม่เคยถูกใจใครเพียงแค่เห็นรูปแบบนี้มาก่อนผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่น่าสนใจมากๆ และเขาแทบจะทนรอที่จะพบเธอไม่ไหว
ความผิดพลาดในคืนนั้นทำให้ชีวิตของวิรัลพัชรเปลี่ยนไปเมื่อรู้ว่าตัวเองตั้งท้อง เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำใครคือผู้ชายคนนั้นเป็นใคร แต่เขาจำได้และเมื่อรู้ว่าเธอกำลังท้องลูกของเขาชายหนุ่มก็ก้าวเข้ามาในชีวิตเพียงเพื่อต้องการลูกของเธอเท่านั้น
นานนับปีแล้วที่อรณิชาไม่ได้รับความสุขจากสามี เขาอ้างว่าเพราะงานแต่จริงๆ แล้วเขามีคนอื่นโดยที่อรณิชาไม่รู้ หญิงสาวจึงให้เวลาเขาและเธอหนึ่งเดือนเพื่อจัดสินใจว่าจะเอายังไงต่อกับชีวิตคู่ หญิงสาวจึงกลับมาที่เมืองไทย และได้เจอกับอดีตคน รักความสุขความผูกพัน ทางใจในอดีตกับกลายเป็นความสัมพันธ์ทางกายในปัจจุบัน ความใกล้ชิดในช่วงเวลาสั้นๆ ทำให้ทั้งสองเผลอใจก้าวข้ามเส้นที่ขีดไว้ไม่สนใจทถูกผิดมองแค่บนเตียงเพียงอย่างเดียว
ความสัมพันธ์ระหว่างนายหัวหนุ่มและนักศึกษาสาว ที่ห่างกันทั้งอายุและระยะทางนายหัวหนุ่มจะทำให้เธอรักเขาได้อย่างที่เขารักเธอหรือไม่คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
ในคืนที่โดนแฟนเอายาปลุกเซ็กซ์ใส่เครื่องดื่ม เธอขอให้ชายคนหนึ่งช่วย พอเช้ามาถึงได้รู้ว่าเขาคือเพื่อนสมัยเรียนเขาขู่ให้เธอยอมเป็นคู่นอนของเขาโดยบอกว่ามีคลิปในคืนนั้นเธอยอมเพราะคำขู่แต่เมื่อรู้ว่าเขาไม่มีคลิปทุกอย่างระหว่างเขากับเธอก็จบแต่เขาไม่ยอมจบเพราะตอนนี้คิดกับเธอมากไปกว่าคู่นอนไปแล้ว
สายตาที่ประสานกันมันบอกอย่างชัดเจนว่าตอนนี้ชายหนุ่มนั้นลืมคำว่าผู้ปกครองกับเด็กในปกครองไปแล้ว **************** หญิงชายสมัยนี้มันเท่าเทียมกันนะบัว เธอคิดว่าจะนอนกับฉันและทิ้งฉันไปง่ายๆ แบบนั้นเหรอ ไม่มีทางหรอก เธอต้องรับผิดชอบทั้งตัวฉันและความรู้สึกของฉัน
เพราะคู่หมั้นของเธอเป็นต้นเหตุทำให้น้องสาวของเขาเสียชีวิต เธอจึงเป็นหมากตัวสำคัญในการแก้แค้นของเขา แต่ทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คิด กลายเป็นเขาที่รู้สึกผิดและทำทุกอย่างให้หมากตัวนี้เป็นของตนเอง
เมื่อย้อนเวลามาอยู่ในยุคโบราณที่ผู้ชายล้วนมีสามภรรยาสี่อนุ จื่อรั่วอิงจึงมองหาบุรุษที่จะทำให้นางใช้ชีวิตอย่างสงบสุขและได้รู้ว่ามีอ๋องผู้หนึ่งไร้ภรรยาและตาบอดเขาคือคนไม่มีใครเอา"สวรรค์ให้ทางรอดข้าแล้ว" นิยายเรื่องนี้เป็นแนวสุขนิยม ปมเบา ๆ ไม่หนัก นะคะ พระเอกมีเมียเดียว พระเอกสายซึนคลั่งรักนางเอกแต่ไม่รู้ตัว นางเองจอมตื๊อเพื่อทำให้สามีรักสามีหลงขนความฮามาพร้อม ๆ กับบ่าวรับใช้และครอบครัว แนวขบขัน สายฮา สายตลกไม่ควรพลาดค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
เรื่องราวของใบหม่อนที่ทะลุมิติไปยังโลกสุดแปลกและสุดแสนจะแฟนตาซี ที่สำคัญดันไปเกิดใหม่ในตอนที่กำลังจะคลอดลูก ในชีวิตที่แล้วแม้แต่แฟนยังไม่มีแต่ทำไมพอได้เกิดใหม่ทั้งที ถึงให้เกิดมาในตอนที่กำลังจะคลอดลูกพอดี แล้วสาวโสดอย่างเธอจะทำยังไงดี คลอดลูกออกมาเป๋นแฝดสามว่าลำบากแล้ว แต่ครอบครัวนี้กลับยากจนข้นแค้น นี่ไม่ใช่ว่าพระเจ้ากลั่นแกล้งเธอเหรอ เธอไปทำอะไรให้พระเจ้าโกรธเคืองกัน
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
เนี่ยหลิง ตายแบบ งงๆ และได้ไปเกิดใหม่แบบ งงๆ ในโลกลมปราณของผู้ฝึกตนและพร อีก สอง ข้อ พร้อมธนู และลูกธนูหนึ่งชุด แหวนมิติเก็บของหนึ่งวง อย่าถามหา เหตุผล ว่าทำไม เนี่ยหลิงก็ไม่รู้เช่นกัน หวังว่า มันจะดี
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด