นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้น ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคล และสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนา อ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ ………. นิยายเรื่องนี้… ไม่มีแก่นสารสารัตถะอะไรนักหนา ทั้งเรื่องขับเคลื่อนด้วยอารมณ์อันมืดดำของมนุษย์ ดำเนินเรื่องด้วยตัณหาราคะสุดร้อนแรง ท่านใดที่ไม่ชอบโปรดหลีกเลี่ยง *เราเตือนท่านแล้ว*
เซตนี้ประกอบด้วย คุณอาเถื่อนและคุณอาน่าหม่ำ
ผู้เขียน : กาสะลอง
นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้น
ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคล
และสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนา
อ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ
……….
นิยายเรื่องนี้… ไม่มีแก่นสารสารัตถะอะไรนักหนา
ทั้งเรื่องขับเคลื่อนด้วยอารมณ์อันมืดดำของมนุษย์
ดำเนินเรื่องด้วยตัณหาราคะสุดร้อนแรง
ท่านใดที่ไม่ชอบโปรดหลีกเลี่ยง
*เราเตือนท่านแล้ว*
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ พ.ศ.2537
ไม่อนุญาตให้สแกนหนังสือหรือคัดลอกเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของหนังสือเท่านั้น
คุณอาเถื่อน
เมื่อเดินทางมาถึงศาลาวัดแห่งหนึ่ง ‘ลูกแก้ว’ สาวน้อยในวัยใกล้แตะยี่สิบ รู้สึกตัวเบาหวิว ในสมองของหล่อนโหวงๆ ใจหาย มือไม้อ่อนเปลี้ยไร้เรี่ยวแรง ก้าวลงมาจากรถตู้พร้อมกับความรู้สึกสูญเสียที่ยากจะบรรยาย
“ฮือๆ… คุณพ่อคะ… คุณพ่อทิ้งแก้วไปกะทันหันแบบนี้แก้วจะอยู่กับใครคะ… ฮือๆ”
สาวน้อยร้องไห้จนตาแดงก่ำ เดินตรงไปยังโลงซึ่งฉาบเอาไว้ด้วยสีทองอร่าม สลักเสลาเป็นลวดลายเครือเถาและประจำยามวิจิตรบรรจง รอบๆ โลงศพประดับประดาไว้ด้วยดวงไฟเล็กๆ หลากสีสัน กระพริบพราวไปกับดอกกุหลาบสีขาว ประดับประดาเอาไว้อย่างสวยงาม เคียงขนาบด้วยพวงหรีดมากมาย ตั้งเรียงรายออกไปทั้งซ้ายขวา
มีพวงหรีดดอกกุหลาบสีขาวช่อใหญ่ สะดุดตาของลูกแก้วเข้าอย่างจัง ตั้งไว้บริเวณด้านหน้าสุด ที่มุมด้านล่างคาดเฉียงไว้ด้วยตัวอักษรสีขาวบนพื้นสีดำ มีข้อความเขียนเอาไว้ชัดเจนว่าพลตรี ‘เถื่อนทิศ’ นายตำรวจผู้เป็นเจ้าภาพของงานสวดพระอภิธรรมในคืนนี้
เถื่อนทิศยืนมองอยู่ห่างๆ รู้สึกสงสารหญิงสาวขึ้นมาจับใจ ‘ดาบยิ้ม’ พ่อของหล่อนเป็นลูกน้องของเขาที่ต้องมาจบชีวิตเพราะความผิดพลาดในการวางแผนจับกุมขบวนการยาเสพติดรายใหญ่
“แก้ว… ”
เถื่อนทิศเดินเข้ามาหา เรียกชื่อหล่อน หญิงสาวหันมายกมือไหว้
“ไม่ต้องร้องไห้นะลูก… ต่อไปอาจะเป็นคนดูแลหนูเอง”
หนุ่มใหญ่ ตัวใหญ่ ใบหน้าหล่อเหลาสะดุดตา กล่าวกับสาวน้อยที่ยังตกอยู่ในอาการเศร้าโศกไม่คลาย ด้วยก่อนตาย ดาบยิ้มบิดาของหล่อนได้สั่งเสียเอาไว้ ฝากให้เถื่อนทิศช่วยดูแลลูกสาวของเขาต่อไป เพราะว่าตอนนี้ลูกแก้วไม่มีญาติที่ไหน
“ขอบคุณค่ะคุณอา… ฮือๆ”
หญิงสาวโผเข้ากอดร่างกำยำเอาไว้แน่น แนบใบหน้าซุกอกกว้างในเครื่องแบบสีกากีสุดองอาจของนายตำรวจหนุ่มใหญ่
“คนดี… ไม่ต้องร้องไห้”
หนุ่มใหญ่โอบกอดร่างเล็ก ลูบหลังปลอบประโลมด้วยความสงสารลูกกำพร้าจับใจ ด้วยตอนนี้ลูกแก้วไม่มีทั้งพ่อและแม่
“หนูไม่คิดว่าคุณพ่อจะจากไปเร็วแบบนี้”
พูดแล้วน้ำตาของลูกแก้วก็ไหลออกมาอีก แม้ตอนนี้อยากจะกอดร่างไร้วิญญาณของผู้เป็นบิดาสักแค่ไหน หากก็ทำได้เพียงก้มกราบด้วยธูปดอกเดียวในมือซึ่งสั่นน้อยๆ
ลูกแก้วไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าการได้เจอหน้าดาบยิ้มผู้เป็นบิดาเมื่อวานเย็น… จะเป็นครั้งสุดท้ายของการพบกัน
“อย่าร้องไห้เลยนะ คุณพ่อของหนูไปดีแล้ว… อาสัญญาว่าจะดูแลหนูตลอดไปให้ดีที่สุด”
อีกสามเดือนต่อมา
เถื่อนทิศตัดสินใจเกษียณตัวเองออกมาจากอาชีพตำรวจที่ทำด้วยความรักมาตลอดหลายปี ด้วยไม่อาจทนอยู่กับฝันร้ายที่มักจะผุดเข้ามาหลอกหลอน รบกวนจิตใจเขาอยู่เสมอทั้งในยามหลับนอน
เขายังไม่ลืมภาพเหตุการณ์ในครั้งนั้น วันที่ตำรวจชั้นผู้น้อยหลายรายต้องมาเสียชีวิตลงเพราะการวางแผนจับกุมพ่อค้ายาเสพติดระดับชาติที่เกิดความผิดพลาด
ตำรวจเหล่านั้นมีลูกเมียให้ต้องดูแล แม้ว่าทางการจะช่วยเหลือเยียวยาด้วยการเลื่อนชั้นยศให้ผู้เสียชีวิต แต่ก็ไม่อาจลบล้างรอยแผลในใจของเถื่อนทิศ ในฐานะผู้สั่งการจู่โจม ด้วยประเมินศักยภาพของคนร้ายต่ำเกินไป หารู้ไม่ว่าพวกมันมีอาวุธสงครามราวกับคลังแสง สาดกระสุนตอบโต้ตำรวจจนเกิดการสูญเสียอย่างที่เห็น
ภายหลังอำลาจากชีวิตตำรวจ เถื่อนทิศตัดสินใจมาซื้อที่ดินหลายไร่ในจังหวัดเชียงรายเพื่อทำไร่กาแฟ
แม้ว่าทุกวันนี้เขาสามารถใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ ได้อย่างสุขสบายไปทั้งชาติด้วยเงินบำนาญโดยไม่ต้องทำงาน แต่เถื่อนทิศก็เลือกที่จะย้ายบ้านไปอยู่เชียงราย เขาอยากหนีอดีตเก่าๆ ออกไปให้พ้นจากความทรงจำเก่าๆ อยากมีบั้นปลายชีวิตเงียบสงบอยู่กับป่าเขาลำเนาไพร
กรุงเทพฯ มหานคร ตอนเช้า ที่ห้องรับแขกของบ้านหลังใหญ่ เสียงพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างลูกสะใภ้กับเพื่อนสาวของหล่อนที่อยู่ปลายสาย ทำให้ พ่อเลี้ยง ‘เพลิง’ ถึงกับชะงัก ต้องแอบฟังอย่างเสียมารยาท เพราะมันเหมือนเป็นการหยามเกียรติของลูกชายจนเขาทนไม่ได้
ทีปต์อุทานเบาๆ กับภาพที่เห็น… มาลิลล์กำลังนอนหงายอยู่บนเตียง ในสภาพเปลือยเปล่าล่อนจ้อน โดยมีหมอนสีขาวสองใบรองไว้ที่แผ่นหลัง ทำให้สองเต้าคัพเอฟอวบใหญ่มหึมา นูนเด่นอวดสายตาของทีปต์ และสิ่งที่ทำเอาเลือดกำเดาของทีปต์แทบสาดทะลักออกมา ก็คือของดีที่กำลังเปิดเปลือยอยู่ระหว่างเข่าสองข้างตั้งชัน มือข้างหนึ่งจับกล้วยหอมดุนดันเข้าออกเป็นจังหวะ “อ่า… ลุงทีปต์จ๋า กระแทกหนูเถอะค่ะ… อูย… ของลุงใหญ่เหลือเกิน… ซี้ดดดด… เห็นแล้วอยากสุดๆ” มาลิลล์หลับตาพริ้ม…
“ไม่ให้เลียข้างล่าง... งั้นผมดูดข้างบนนะที่รัก” อดัมส์ยังมีอารมณ์ขี้เล่น แม้ในตอนจะร่วมรัก เขารีบผละออกมาจากง่ามขา จูบไซ้ขึ้นมาที่ท้องน้อย กระทั่งถึงเต้านมของหล่อน ครอบริมฝีปากดูดเลียอย่างโหยหาเอาเป็นเอาตาย “อุ๊ย... วันนี้คุณดำซาดิสม์จัง” อรทัยสะดุ้งเฮือก เมื่อทรวงอกอวบโดนมือใหญ่ของสามีบีบขยำอย่างแรง จากนั้นก็เกลือกใบหน้าฟอนฟัดอย่างไม่ลืมหูลืมตา อรทัยเสียวซ่านสุดๆ รีบบีบนมยัดปากเขาที่ค้อมลงมาดูดเลียหัวนมอย่างตะกละตะกลาม อดัมส์ดูดเลียสลับไปมาระหว่างยอดอกทั้งสองข้างเสียงดังซ่วดๆ เหมือนกำลังซดกลืนของอร่อย ทำเอาสาวน้อยที่แอบยืนดู เกิดอาการเสียวซ่านขึ้นมาที่ยอดอกของตัวเองอย่างควบคุมเอาไว้ไม่ได้ รู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังโดนพี่เขยดูดนม
แก้วตาพึมพำในใจ มองพี่เขยจัดหนักพี่สาวของหล่อน ยิ่งมอง… ก็ยิ่งตื่นเต้นมีอารมณ์ หน้าขาหนีบแน่น บิดไปบิดมาจนรู้สึกได้ว่ามีน้ำหล่อหลื่นเหนียวๆ หลั่งชุ่มออกมาแฉะแพนตี้ตัวน้อย พอเอามือเอื้อมลงมาแตะที่ง่ามขา ก็รู้ว่ามีน้ำใสๆ ไหลเยิ้มเป็นยางย้อยติดนิ้ว ‘อุ๊ย… ’ แก้วตาตกใจ หลังจากแอบดูจนน้ำเดิน ด้วยภาพที่เกิดขึ้นในห้องนอน อยู่ห่างจากสายตาของหล่อนเพียงช่วงแขนกระมัง จึงเห็นทุกอย่าง ชัดเจนเต็มสองตาทั้งภาพทั้งเสียง คมชัดปานว่ากำลังมองผ่านจอภาพระบบเอชดี “อ๊าย... ผัวจ๋า... เมียเสียว... เมียทรมาน” ใบหน้าของลีนาบิดเบะ สะบัดไปด้วยความซ่านสยิว ก้นอวบขาวดีดเด้ง แอ่นส่ายไปตามอารมณ์กระเจิดกระเจิง โดนกระแทกกระทั้นดุเดือดขนาดนี้ไม่ว่าเป็นใครก็คงเคลิบเคลิ้มไม่ต่างจากหล่อน ลีนาเปล่งเสียงร้องครางออกมาตลอดเวลาที่ท่อนเอ็นคัดแข็งเป็นลำเหมือนดุ้นมะระจีนใหญ่ๆ ของสามีกระแทกใส่จนมิดสุดโคนพวงสวรรค์ บลั่กๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
“ไม่ไหวแล้วครับ… ผมแข็งแทบระเบิดแล้ว… ไม่เชื่อก็ลองจับ… ” บอสหื่นดึงมือข้างหนึ่งของเลขามาทางด้านหลังเธอจึงต้องไล้ลูบสัมผัสความเป็นชาย ใหญ่ยาวน่าสะพรึง ยิ่งลูบไล้ของเขา… มือเธอยิ่งสั่น ใบหน้าร้อนผะผ่าว ความเสียวซ่านแล่นวาบเข้ามาตรงกึ่งกลางกาย ใจเต้นระทึก มือยังจับท่อนเนื้อยาวใหญ่ของบอส ใหญ่มากจนมือกำไม่รอบ
“ซี้ด... เสียวเหลือเกิน... อ๊า... ” ปั้นหยาทรมาน ใบหน้าบิดเบะเหมือนจะขาดใจ แต่ก็ไม่อยากให้เขาหยุด ไทเกอร์เหลือบตาขึ้นมองใบหน้าซ่านเสียว ขณะเสียบลิ้นลงในรอยแยก กระตุ้นความเสียวซ่านทะยานขึ้นตามระดับของอารมณ์โลดแรง หล่อนยิ่งร้องคราง เขาก็ยิ่งกระดกลิ้นรัวๆ
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
ว่าที่ลูกสะใภ้ไฟแรงสูงเธอต้องเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับว่าที่พ่อผัวหม้ายร้างเมียมานายอรมปี
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ