เรื่อง...คุณหมอสะดุดรัก คำโปรย พริ้งพราวเพื่อนลากให้ไปเที่ยวผับแต่เธอดันถูกยาปลุกเซ็กเข้า แล้วบังเอิญมาเจอกับเขา คุณหมอหนุ่มวัย35ปี แล้วคุณหมอจะมีวิธีช่วยเธออย่างไร... แนะนำตัวละคร วายุภักษ์ ภักดีวัฒนากุล (วายุ) อายุ 35 ปี เขาเป็นผู้ชาย ขี้เล่น อารมณ์ดี และที่สำคัญเขายิ้มเก่งมากๆ วายุเป็นผู้บริหารโรงพยาบาลสาขาที่เชียงใหม่และยังพ่วงด้วยตำแหน่งคุณหมอโรคหัวใจ เขาเป็นลูกชายคนโตของ เจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่มีสาขาอยู่หลายแห่งของประเทศไทย วายุมีความจำเป็นต้องย้ายมาจากสาขาที่เชียงใหม่ เพราะน้องชายที่ประจำอยู่เกิดอุบัติเหตุ วายุเลยมาประจำอยู่สาขาที่กรุงเทพแทนเป็นการชั่วคราว กมลเนตร ธนพัฒน์ธาดา (พริ้งพราว) หญิงสาวบริสุทธิ์ อายุ 24 ปี ทำงานในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพ และเหตุการณ์ในวันนั้นทำให้เธอกับเขาอยู่ด้วยกันและค่อยๆ สนิทกัน เหนือเมฆ ภักดีวัฒนากุล (เมฆ) น้องชายคนเดียวของวายุ ตั้งแต่เขาประสบอุบัติเหตุเดินไม่ได้ เขาก็กลายเป็นคนอารมณ์ร้อน พยาบาลพิเศษที่จ้างมาดูแล ไม่มีใครสามารถอยู่กับเขาได้ จนได้มาเจอกับ...ข้าวหอม ศศินาทิพย์ คงเจริญ (ข้าวหอม) พยาบาลจบใหม่ เธออยู่ในช่วงทดลองงาน ถูกทางโรงพยาบาลขอร้องให้ไปดูแลคนป่วยที่บ้านตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีเงื่อนไข และเงื่อนไขนั้นทำให้เธอยอมตอบตกลงรับทำงานนี้ @@@@@@
ตอนที่1
วายุภักษ์ ภักดีวัฒนากุล คุณหมอหนุ่มไฟแรง เขาเป็นคุณหมอรักษาทางด้านโรคหัวใจ และยังพ่วงตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดสาขาที่เชียงใหม่อีกด้วย
"สวัสดีครับ คุณหมอ" คนไข้เอ่ยทักทายคุณหมอหนุ่ม ที่มาดูแลเขาอย่างดีเป็นประจำทุกวัน
"สวัสดีครับ วันนี้ดีขึ้นกว่าเมื่อวานมั้ยครับ" คุณหมอวายุกำลังเดินตรวจคนไข้ยามเช้าเป็นประจำในทุกๆวัน ก่อนที่วายุจะลงไปตรวจคนไข้รายใหม่ วายุจะต้องมาตรวจผู้ป่วยในก่อนเสมอ ถึงคุณหมอวายุจะเป็นคุณหมอที่รักษาคนไข้แล้ว เขายังต้องนั่งโต๊ะผู้บริหารโรงพยาบาลแห่งนี้อีกด้วย
"ดีขึ้นมากเลยครับคุณหมอ" คนไข้ที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยตอบคำถามคุณหมอหนุ่มแล้วยิ้มให้
"เก่งอย่างนี้อีกสองวันก็กลับบ้านได้แล้วมั้งครับ" คุณหมอวายุก็ยิ้มให้คนไข้เช่นกัน วายุเป็นผู้บริหารที่ไม่เคยถือตัวกับคนไข้ของเขา เขาเป็นคนใจดี ลูกน้องต่างรักไข้
"ครับ ผมก็อยากกลับบ้านจะแย่แล้วครับ" คนป่วยก็อย่างนี้แหละ อยากจะกลับแต่บ้านซึ่งคุณหมอก็เข้าใจ แต่ก็คงต้องรอให้หายดีก่อนเขาถึงจะอนุญาตให้กลับได้
"งั้นหมอขอให้คนไข้หายไวๆนะครับ บ่ายๆหมอจะขึ้นมาดูอาการอีกรอบนะครับ" วายุใส่ใจคนไข้ของเขาดีเสมอ ดีแบบนี้ทุกคน เพราะโรงพยาบาลของเขานั้นเน้นบริการดีเยี่ยม ซึ่งเขาก็เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกน้องทุกคนในโรงพยาบาลได้ดูเป็นตัวอย่างอีกด้วย
"ขอบคุณ คุณหมอมากนะครับที่ดูแลผมเป็นอย่างดี" โรงพยาบาลของเขานั้นเป็นโรงพยาบาลเอกชน คนที่เดินเข้ามารักษาต้องควักเงินในกระเป๋าจ่ายเองไม่เหมือนกับโรงพยาบาลของรัฐบาล เพราะฉะนั้นการให้บริการรักษาคนไข้ด้วยหัวใจของความเป็นหมอ ต้องดีที่สุดและมาก่อนทุกสิ่งเสมอ
"มันเป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้ว ไม่ต้องเกรงใจนะครับ" วายุเอ่ยกับคนไข้ของเขาอย่างยิ้มแย้มและเป็นกันเอง
"ครืดดดด ครืดดดด ครืดดดด" เสียงโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อกาวสีขาวของคุณหมอวายุดังขึ้น
"งั้นหมอขอตัวก่อนนะครับ" คุณหมอวายุเดินออกจากตรงนั้นเพื่อไปรับสายเมื่อสักครู่นี้ที่โทรเข้ามา
"สวัสดีครับคุณแม่" เขากรอกเสียงลงไปในมือถือราคาแพง ที่หยิบขึ้นมาจากกระเป๋าแล้วกดรับ มันเป็นสายจากคุณแม่ของเขานั่นเอง
"วายุหรือลูก"
"ครับคุณแม่มีอะไรหรือเปล่าครับ เสียงคุณแม่แปลกๆ นะครับวันนี้" วายุรู้สึกได้จากน้ำเสียงของคุณแม่ของเขาที่ฟังดูแล้วเหมือนเสียงจะสั่นๆ
"เมฆเกิดอุบัติเหตุน่ะลูก ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล" เหนือเมฆคือน้องชายเพียงคนเดียวของวายุ ที่ดูแลโรงพยาบาลสาขาที่กรุงเทพ ส่วนสาขาอื่นจะเป็นคุณเดชากรเป็นคนดูแล ท่านก็คือคุณพ่อของเขานั่นเอง
"แล้วไอ้เมฆเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับคุณแม่" วายุเริ่มใจไม่ดีที่น้องชายเพียงคนเดียวของเขาเกิดอุบัติเหตุ
"เห็นคุณพ่อบอกว่าขาข้างซ้าย กระดูกร้าว ส่วนอื่นไม่ได้เป็นอะไรมาก" คุณแม่ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล วายุรู้สึกได้ แต่สำหรับคนเป็นหมออย่างเขา วายุคิดว่าไม่น่าจะร้ายแรงอะไรมากนัก ถ้าตามที่คุณแม่พูดนะ
"กระดูกร้าวคงเดินไม่ได้นานเลยนะครับคุณแม่" มันก็อยู่ที่ว่าร้าวมากร้าวน้อย ดีที่ไม่แตกหรือหักก็บุญมากแล้ว
"วายุจะลงมาเยี่ยมน้องหน่อยมั้ยลูก"
"ไปครับๆ งั้นพรุ่งนี้ผมจะออกเดินทางสายๆคงถึงครับ" จากเชียงใหม่ไปกรุงเทพนั่งเครื่องแป๊บเดียวก็ถึง
"ถ้างั้น ค่อยคุยรายละเอียดกันนะลูก แม่ขอไปดูน้องก่อน"
"ครับ สวัสดีครับ" แล้วคุณหมอวายุก็วางสายของคุณแม่ของเขาไป จากนั้นวายุก็เดินมาหาผู้ช่วยของเขาที่ห้องทำงาน
"คุณโจ เดี๋ยวคุณช่วยจองตั๋วไปกรุงเทพให้ผมหน่อยนะครับ ขอเป็นพรุ่งนี้ตอนสายๆ ก็ได้" โจเป็นเลขาคอยดูแลงานเรื่องเอกสารช่วยวายุอีกแรง เป็นทั้งเพื่อน ผู้ช่วย คนสนิทและอะไรอีกหลายๆอย่าง แล้วแต่สถานะการณ์ที่วายุอยากจะให้โจเป็น
"พอใช้งานนี่พูดเพราะเลยนะครับคุณหมอ" คำว่าคุณโจ วายุเอาไว้เรียกเวลางาน ส่วนไอ้โจเอาไว้เรียกตอนมันกวนตีน มันคือเลขาหนุ่มอายุเพียง 30 ปี เท่านั้น วายุเป็นคนขี้เล่นแต่ถ้าเป็นเวลางานเขาก็จะทำเต็มที่และดีที่สุดด้วย
"เออ...จัดการให้ด้วย คุณโจครับฝากดูแลงานทางนี้สักอาทิตย์นะครับ" ไหนๆ ก็ใช้งานมันแล้ว ใช้ต่ออีกหน่อยแล้วกัน
"นั่นไงว่าแล้ว พูดเพราะแบบนี้ใช้งานเพิ่มนี่เอง" โจพูดอย่างรู้ทัน เขามักจะชอบพูดเล่นเป็นกันเองแบบนี้เป็นประจำ ถึงโจจะเป็นลูกน้องแต่วายุก็ไม่เคยถือสา เพราะโจทำงานดีแล้วก็เป็นคนที่ไว้ใจได้คนหนึ่ง
"เดี๋ยวเพิ่มโบนัทให้สามเท่า" มุขเดิมๆ ที่วายุมักจะใช้เวลาให้โจช่วยทำงานที่นอกเหนือจากงานประจำ
"คุณหมอมีอะไรจะใช้ผมอีกมั้ยครับ สั่งมาได้เลยนะครับผมยินดี" แล้วมันก็ใช้ได้ผลเหมือนเดิมแบบนี้ทุกครั้งไป
"อือ...ขอบใจมากถ้ามีอีกแล้วจะบอก" จากนั้นวายุก็เดินออกจากห้องทำงานเพื่อไปดูแลคนไข้ของเขาต่อ
ทางด้านกมลเนตร ธนพัฒน์ธาดา หรือ พริ้งพราว
เธอเป็นพนักงานข้อมูลในโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังในกรุงเทพ โรงพยาบาลนี้มีกฎต่างๆมากมาย เพื่อให้การบริการให้แก่คนไข้ได้รับการบริการที่พึงพอใจที่สุด ทำให้ในทุกๆวันพริ้งพราวต้องกลับห้องพักไปด้วยความเหนื่อยล้าสุดๆ
เธอเป็นคนต่างจังหวัด ถูกเลี้ยงดูมาโดยป้าแท้ๆของเธอ ส่วนพ่อแม่นั้นท่านได้เสียชีวิตไปตั้งแต่พริ้งพราวยังเรียนไม่จบมัธยมด้วยซ้ำ แล้วเธอก็ไม่มีพี่น้องจะมีก็แต่ครอบครัวของป้าเท่านั้น
เธอเช่าห้องอยู่กับเพื่อนสองคน พักหลังๆเพื่อนของเธอเริ่มมีแฟน กลับมาบ้างไม่กลับมาบ้าง พริ้งพราวเป็นคนกลัวผี ถึงจะรู้ว่ามันไม่มีอยู่จริงแต่เธอก็กลัวอยู่ดี
"ฮาโหล ต้นหอมวันนี้กลับห้องหรือเปล่า" พริ้งพราวโทรหาเพื่อนที่พักอยู่ด้วยกัน เพราะเธออยากรู้ว่าคืนนี้เพื่อนของเธอจะกลับมานอนด้วยหรือเปล่า ก็เธอกลัวผี ถ้าเพื่อนของเธอไม่กลับมาแสดงว่าเธอก็ต้องนอนคนเดียวอย่างกลัวๆ
"พราวนอนก่อนเลยนะ เรายังไม่รู้เลยว่าจะกลับหรือเปล่า วันนี้เรามาเที่ยว พราวสนใจมั้ย" ต้นหอมมักจะเอ่ยชวนพริ้งพราวไปเที่ยวด้วยกันเสมอ แต่พริ้งพราวก็ปฏิเสธทุกครั้งไป เพราะเธอไม่ชอบไปเที่ยว ในแบบที่เพื่อนของเธอชอบไปสักเท่าไหร่
"ไม่ล่ะ ต้นหอมเที่ยวให้สนุกเถอะ" ต้นหอมเป็นคนชอบเที่ยวกลางคืนแบบนี้คงไปเที่ยวผับอีกตามเคย วันนี้คงทิ้งให้พริ้งพราวต้องนอนคนเดียวอีกแล้ว กลัวก็กลัวเอาวะ รีบอาบน้ำแล้วนอนดีกว่าหลับให้ไวๆ พรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว
แค่เพียงสบตาความปรารถนาอันร้อนแรงของเขาก็ได้ก่อตัวขึ้น ในเมื่อแต่งงานกันแล้ว เขาย่อมมีสิทธิ์ในตัวเธอทุกประการ
คืน One Night Stand ของมาเฟียอิตาลีกับยัยขี้เมา เช้าวันนั้นเธอหายไป เขาจึงออกตามหา แต่เมื่อได้เจอกันเธอกลับจำหน้าเขาไม่ได้
เรื่อง...พ่อม่ายกับยัยพี่เลี้ยง คำโปรย...นักธุรกิจหนุ่มลูกติด มีปมชีวิตความใสซื่อและความดีของเธอทำให้เขาสนใจ ส่วนลูกชายที่ไม่ยอมไปโรงเรียนเพราะโดนเพื่อนล้อว่าไม่มีแม่ อยากได้เธอมาเป็นแม่ซึ่งเขาก็เห็นด้วยกับลูกชายเช่นกัน แนะนำตัวละคร คุณอาทิตย์ เจริญเดชาพงษ์ (คุณอาทิตย์) หนุ่มหล่อรวย เป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้ากลางใจเมือง และยังมีธุรกิจ ผลิต นำเข้า และส่งออก เกี่ยวกับสิ่งอิเล็กทรอนิกส์ รายใหญ่ที่สุดในประเทศอีกด้วย แต่อาทิตย์เขามีลูกติดชื่อน้องเกียร์เป็นเด็กผู้ชายอายุสามขวบ แม่เสียชีวิตตอนคลอดน้องเกียร์ออกมาได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เพราะเธอเสียเลือดมาก นันทิชา มงคลสวัสดิ์ (มิรา) หญิงสาวที่พึ่งเรียนจบมาใหม่ๆ เธอตกงาน ที่บ้านกำลังลำบาก เธอออกหางานทำเพราะต้องส่งน้องเรียน น้องเธออยู่มัธยมต้น เป็นผู้หญิงชื่อลิลิน พ่อแม่เสียไปนานแล้ว เหลือกันอยู่แค่สองคนพี่น้อง โดยได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านถึงรอดมาถึงทุกวันนี้ได้
เรื่อง...คุณหมออาสากับยัยเด็กบนดอย โปรย...ความรักมันไม่ได้เกี่ยวกับอายุ...แต่มันเกี่ยวอยู่ที่ใจ เขาไม่อยากมีลูกเพราะฉะนั้นเขาก็เลยไม่คิดที่จะมีเมีย ความรักเป็นเรื่องตลกไม่มีเขาก็อยู่ได้ แนะนำตัวละคร แสงเหนือ หรือ หมอแสง อายุ 32 ปี นิสัย ปากร้าย อารมณ์ดี ขี้เล่น อบอุ่นและขี้หึงสุดๆ แต่เขาไม่อยากมีลูกเพราะฉะนั้นเขาก็เลยไม่คิดที่จะมีเมีย ความรักเป็นเรื่องตลกไม่มีเขาก็อยู่ได้ ปิ่นงาม หรือ ปิ่น อายุ 20 ปี เธอสวย เก่ง เธอใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่บนดอยสูง เธอมีความสุขตามอัตภาพของเธอ แต่แล้วชีวิตของเธอก็ได้เปลี่ยนไปเมื่อมีเขาเดินเข้ามา ************* (เรื่องนี้เขียนต่อจากเรื่อง...คุณหมอเจ้าแผนการ) ปล.นิยายเรื่องนี้ทุกเหตุการณ์เป็นการสมมุติขึ้นทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเป็นอยู่ ศาสนา วัฒนธรรม หรืออะไรก็แล้วแต่ในเนื้อหาของเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้แต่งที่สมมุติขึ้นทั้งสิ้น
ความสวยสะดุดตา ความสดใสสะดุดใจ ปากที่บอกว่ายังไม่อยากมีใคร แต่ในใจกลับอยากได้เธอมาครอบครอง
เมื่อความผิดพลาดของเขาและเธอ ทำให้ทั้งสองได้เด็กมาเลี้ยง เขาได้เลี้ยงเด็กผู้ชาย ส่วนเธอได้เลี้ยงเด็กผู้หญิง แล้วทั้งสองก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย จนกระทั่งสี่ปีผ่านไป ทั้งสองกลับมาเจอกันอีกครั้ง ด้วยเงื่อนไขวุ่นๆของครอบครัว
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน