ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"
ณ เมืองหยุน
ในย่านเมืองเก่า มีไฟไหม้ในบ้านของตึกเก่าหลังหนึ่ง เปลวเพลิงลุกลามไปอย่างรวดเร็วด้วยแรงลม เผาผลาญอย่างรุนแรงจนเปลวไฟและควันดำปกคลุมตึกไปกว่าครึ่ง
“ช่วยออกมาแล้ว! ช่วยออกมา……”
เจียงหว่านถูกเจ้าหน้าที่ดับเพลิงอุ้มออกมาวางตรงริมถนน
ใบหน้าที่งดงามของเธอเปื้อนคราบเขม่าเต็มไปหมด ดวงตารูปทรงดอกท้อที่เคยสดใสกลับนิ่งเฉย มองไปข้างหน้าอย่างว่างเปล่าราวกับบ่อน้ำนิ่ง
เมื่อได้สติ ความโชคดีที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์นี้ทำให้เธอไม่ใส่ใจเรื่องมารยาทตามปกติที่ได้รับการปลูกฝังมาแต่อย่างใด เธอเพียงกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ดับเพลิงด้วยเสียงแหบพร่า ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหมายเลขที่จำได้ขึ้นใจด้วยท่าทีรีบร้อนและสั่นเทาในทันที
“ขออภัยค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้ง……”
เสียงโทรศัพท์ดังอยู่สองสามครั้งก่อนจะถูกตัดสายไป ความขมขื่นที่เอ่อล้นออกมาถูกกลืนกลับไปติดอยู่ในลำคอ ก่อนที่ความโศกเศร้าจะแพร่กระจายไปทั่วร่าง
“ปัง!”
ทันใดนั้นเอง เสียงระเบิดดังสนั่นกลบเสียงตอบรับจากระบบอัตโนมัติ เจียงหว่านเงยหน้าขึ้นขวับและได้เห็นบ้านที่เธออยู่เมื่อครู่ระเบิดกระจุย
ชิ้นส่วนมากมายกระเด็นออกมาพร้อมกับแรงระเบิด
ทุกคนในที่นั้นต่างตกใจกลัว โดยเฉพาะผู้รอดชีวิตที่เพิ่งได้รับการช่วยออกมา บางคนกรีดร้องและกอดกันไว้เพื่อปลอบใจอีกฝ่าย ซึ่งทำให้เจียงหว่านที่นอนอยู่บนเปลตามลำพังดูโดดเดี่ยวมากขึ้นไปอีก
“เผยเสี้ยน……” เจียงหว่านกัดริมฝีปาก และพยายามโทรออกอีกครั้งอย่างไม่ยอมแพ้
แต่ปลายสายยังคงตัดการเชื่อมต่อหลังดังเพียงไม่กี่ครั้ง
ในขณะนั้น การแจ้งเตือนจากเวยป๋อก็ปรากฏขึ้นมา
“แฟนหนุ่มเศรษฐีผู้ลึกลับของดาราสาวชื่อดังเหยียนเสวี่ยหนิงถูกจับภาพไว้ได้?”
บัญชีข่าวซุบซิบเปิดเผยว่า:โปรดิวเซอร์รายการหนึ่งชวนเหยียนเสวี่ยหนิงไปทานอาหาร แต่เธอไม่ยอมดื่มฉลอง สองฝ่ายจึงเกิดมีปากเสียงกัน แฟนหนุ่มที่เป็นประธานจอมเผด็จการของเธอเดินผ่านมาและพาเหยียนเสวี่ยหนิงออกไปทันที โดยไม่ไว้หน้าโปรดิวเซอร์คนนั้นเลยแม้แต่น้อย
โพสต์ดังกล่าวบรรยายเหตุการณ์ได้อย่างถึงพริกถึงขิง ราวกับผู้อ่านได้เห็นเองกับตาว่า ท่านประธานจอมเผด็จการได้ปกป้องภรรยาคนสวยของเขาไว้
อย่างไรก็ตาม อาจเป็นเพราะสถานะของฝ่ายชาย รูปถ่ายที่หลุดออกมาจึงมีเพียงภาพด้านหลังของเขา โดยไม่มีการเปิดเผยใบหน้า ส่วนเหยียนเสวี่ยหนิงที่อยู่ด้านหลังชายคนนั้นสวมเสื้อสูทที่ใหญ่เกินตัว เธอมีรอยยิ้มสดใสราวกับดอกไม้ขณะเดินตามเขาไป พร้อมกับยื่นมือไปหาชายคนนั้น คล้ายกับกำลังจะจับมือกัน
เจียงหว่านมองหน้าจออย่างเหม่อลอย สายตาของเธอจับจ้องไปที่ภาพถ่ายนั้น
เป็นเผยเสี้ยน!
เธอจำเสื้อสูทตัวใหญ่ที่เหยียนเสวี่ยหนิงสวมอย่างไม่พอดีตัวได้ในพริบตา
ทุกชุดสูทของเผยเสี้ยนถูกสั่งตัดพิเศษโดยช่างฝีมือจากราชวงศ์อิตาลี แต่ละชุดล้วนเฉพาะตัวและไม่ซ้ำใคร เธอคุ้นเคยกับชุดพวกนั้นเกินกว่าที่จะจำพลาด
เธอกำโทรศัพท์ในมือแน่นจนข้อนิ้วขาวซีดไร้สีเลือด เธอหึงหวงแทบจะเป็นบ้าแล้ว หัวใจเหมือนถูกบีบคั้นจนทั้งเจ็บและปวดไปหมด
ในช่วงเวลาที่เธอต้องเผชิญกับความเป็นความตาย เขากลับตัดสายโทรศัพท์ของเธอและไปอยู่เคียงข้างเหยียนเสวี่ยหนิง
สองปีของการแต่งงานนั้น มันมีค่าอะไรบ้าง?
ในเวลานี้ น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้มานานกลับพุ่งทะลักออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
เจียงหว่านแหงนหน้าขึ้นสูง แต่หยาดน้ำตาก็ยังคงไหลลงมาอย่างห้ามไม่อยู่
เหยียนเสวี่ยหนิงเป็นรักแรกของเผยเสี้ยน ตามข่าวลือในสังคม เหล่าคนตระกูลเผยไม่ยอมรับเธอ เพราะเธอเป็นเพียงหญิงสาวที่มาจากครอบครัวธรรมดา ๆ
สุดท้ายทั้งสองก็ถูกตระกูลเผยกีดกันให้เลิกรากัน โดยเหยียนเสวี่ยหนิงเป็นฝ่ายเสนอให้จบความสัมพันธ์
หลังจากนั้น เผยเสี้ยนมุ่งมั่นทำงานหนัก จนขึ้นมาเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำของตระกูลเผย
เดิมที เขาคิดว่าหลังจากนั้นจะได้กลับมาคบกับเหยียนเสวี่ยหนิง แต่กลับพบว่าเธอมีคนรักใหม่ไปแล้ว
ไม่มีใครรู้ว่าเป็นเพราะเขาจงใจประชดตระกูลเผยหรือไม่ ชายหนุ่มจึงเลือกแต่งงานกับเจียงหว่าน หญิงสาวธรรมดา ๆ ที่ไม่มีอะไรเลยเหมือนกัน และให้เธอครองตำแหน่งคุณนายเผย เพื่อขัดขวางแผนการของคนในครอบครัวที่พยายามจะส่งผู้หญิงที่พวกเขาเลือกมาให้
ในตอนนั้น เจียงหว่านเองก็กำลังเผชิญกับแรงกดดันจากพ่อเจียงที่ต้องการให้เธอแต่งงานกับลูกชายเศรษฐีผู้เอาแต่ใจ เพื่อหาเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่แสนแพงของคุณยาย
ทั้งสองคนต่างฝ่ายต่างมีจุดประสงค์ จึงตกลงแต่งงานกันตามสัญญา
การแต่งงานมีเงื่อนไขเพียงแค่หนึ่งปี แต่เมื่อครบกำหนด สถานะสมรสกลับดำเนินต่อไป ซึ่งทั้งสองยังคงรักษาชีวิตแต่งงานไว้โดยไม่พูดถึงข้อตกลง จนถึงตอนนี้ เวลาล่วงเลยกว่าที่เคยตกลงกันไว้มาก เจียงหว่านคิดว่าเธอได้กลายเป็นคุณนายเผยจริง ๆ แล้ว แต่สุดท้าย ทุกอย่างกลับเป็นเพียงภาพลวงตาที่เธอคิดไปเอง
เมื่อครู่เธอเกือบต้องเอาชีวิตไปทิ้งในกองเพลิง เธอพยายามโทรหาเขาถึงสองครั้ง แต่เขากลับตัดสายทุกครั้ง ที่แท้เพราะไปอยู่เคียงข้างเหยียนเสวี่ยหนิง……
ความรักจอมปลอมที่เธอเคยคิดว่ากลายเป็นจริงไปแล้ว พอเหยียนเสวี่ยหนิงปรากฏตัวขึ้น เธอก็ถูกลากออกมาจากความฝันสู่ความจริงที่โหดร้าย เธอตื่นจากฝันหวานด้วยความเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด
เธอไม่ใช่แม้แต่ตัวแทนด้วยซ้ำ เธอเป็นเพียงเครื่องมือที่เผยเสี้ยนใช้เพื่อประชดคนในครอบครัวเท่านั้นเอง
เจียงหว่านนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่ดวงตาของเธอจะเริ่มแดงก่ำขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้
บางทีอาจถึงเวลาที่เธอควรยอมแพ้ได้แล้ว ควรเลิกหลอกตัวเองด้วยความหวังลม ๆ แล้ง ๆ เสียที
……
เจียงซุ่ยแต่งงานกับยู่จินเฉินมาเป็นเวลาสามปี เธอยอมทำงานบ้านทุกอย่างเพื่อเขา ทั้งซักผ้า ทำอาหาร และถูพื้น แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้หัวใจของเขาสลายลงได้ เธอเริ่มตระหนักและตัดสินใจหย่ากับผู้ชายที่เธอรักสุดหัวใจมาเป็นเวลาสามปี เพื่อให้เขาได้ไปอยู่กับผู้หญิงที่เขารักจริง หลังจากที่เธอหย่าแล้ว คนในแวดวงไฮโซล้วนรอดูเรื่องตลกของเธอและล้อเล่นกับเธอว่า"เจียงซุ่ย ทำไมถึงหย่ากับคุณยู่น่ะ" เจียงซุ่ยยิ้ม"เพราะฉันจะกลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลไง ผู้ชายอย่างเขาไม่คู่ควรกับฉันหรอก" อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครเชื่อคำพูดของเธอ วันรุ่งขึ้น ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในโลกปรากฏตัวในข่าวและกลายเป็นว่าเป็นภรรยาเก่าขอยู่จินเฉินด้วย ทุกคนล้วนตกตะลึงไปหมด เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้งหลังจากการหย่าร้าง ยู่จินเฉินมองไปที่ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดคนนั้นซึ่งกำลังถูกรายล้อมไปด้วยหนุ่มหล่อไฮโซมากมาย ใบหน้าของเขาก็มืดมนลงทันที "คุณเจียง คุณรวยขนาดนี้ ควรหาแฟนที่มีฐานะเสมอกันสิ อย่างผมนี่ ผมยอมให้ทุกอย่างที่ผมมีให้คุณนะ"
จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - -
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."