"เป็นอะไรทำไมยืนนิ่งแบบนั้น แล้วในมือถือมีอะไร ทำไมถึงได้ยืนจ้องอยู่แบบนั้น”
“ก็ไม่มีอะไรหรอกเราโทรหาพี่เอนกไม่ติดน่ะ วันนี้ไม่เห็นมารับเรา แต่ถ้าพี่เขาติดงานปกติจะโทรมาบอกก่อนนี่ เรากลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพี่เขาหรือเปล่าน่ะ”
“ไม่มีอะไรหรอกอาจจะแบตฯหมดก็ได้อย่าพึ่งคิดไปไกลเลยนะ ไปทำงานกันเถอะ ไปถึงแล้วค่อยเดินไปดูพี่เขาที่แผนก”
“อืม ไปกันเถอะ เออ พร เมื่อคืนฉันฝันถึงยัยดาด้วยนะ”
“จริงดิ ฝันว่ายังไงเหรอ ยัยดามาบอกเธอเหรอว่าตายแล้วไปไหน”
“ใช่ ยัยดามาบอกว่า ตายแล้วยัยดาไปมีสามีแล้วก็ลูก สำหรับคนอื่นยัยดาบอกไม่รู้”
“บ้า เธอคิดมากจนเก็บเอาไปฝันน่ะสิ แล้วเรื่องงานแต่งเธอว่ายังไง พี่เอนกว่ายังไงบ้าง”
“พี่เขาขอเวลาหน่อยน่ะ บอกว่าตอนนี้กำลังซ่อมแซมปรับปรุงบ้านอยู่”
“อืม ยินดีกับเธอด้วยนะ เอ๋”
“ขอบใจเธอมากนะพร ตอนนี้ฉันก็ไม่เหลือใครแล้วนอกจากเธอและพี่เอนก”
“ว่าแต่ว่ายัยดา มาบอกเธอแบบนั้นจริง ๆ เหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ แถมยังมาขิงสามีของหล่อนให้ฉันฟังด้วยนะ ว่าสามีของหล่อนน่ะแซ่บมากแถมหล่อมากอีกด้วย”
“ฮ่า ๆ ๆ จริงเหรอเอ๋ เธอไม่ได้มโนไปเองหรอกนะ ยัยดานี่นะจะพูดเรื่องแบบนี้”
“ก็จริงน่ะสิ เสียดายที่ดันเช้าเสียก่อน เลยไม่รู้เลยว่ายัยดาไปมีสามีที่ไหน”
“พอ ๆ พอเลย ยัยเอ๋ ดึงสติค่ะเพื่อน”
ทั้งสองคนเดินมาจนถึงโรงงานทอผ้าซึ่งเป็นที่ทำงานของทั้งสองคน เมื่อมาถึงก็รีบตรงเข้าแผนกของตัวเองทันที ส่วนเอ๋ขอตัวเดินไปหาแฟนหนุ่มที่อยู่อีกแผนก ก็พบกับเอนกนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ที่โต๊ะทำงาน
“พี่เอนก พี่เป็นอะไรหรือเปล่า เอ๋โทรหาพี่ไม่ติดเลยนึกว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่เสียอีก”
“อ้าวเอ๋ พี่ขอโทษนะวันนี้ไม่ได้ไปรับพอดีแบตฯหมดด้วยเลยไม่ได้โทรบอก เอ๋อย่าโกรธพี่เลยนะ”
“เอ๋ไม่ได้โกรธค่ะ เอ๋แค่เป็นห่วงว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพี่เท่านั้น”
“แล้วนี่เอ๋มายังไง”
“เอ๋มากับพรค่ะ”
“อ่อ พี่ขอโทษนะพอดีช่วงนี้งานพี่เยอะมากน่ะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ พี่ไม่เป็นไรก็ดีแล้วเอ๋ขอตัวไปทำงานก่อน”
“จ้ะ เดินดี ๆ นะจ้ะ”
หลังจากวันนั้นมา เอนกก็ทำตัวแปลกขึ้นทุกวัน ทั้งผิดนัด ผิดสัญญาที่ให้ไว้ ไม่ใส่ใจเอ๋ จนคนในโรงงานเอาไปนินทาต่าง ๆ นานา เอ๋เสียใจมาก ยิ่งได้มารู้ว่าเอนกนอกใจเธอนานแล้ว และผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ภาณี เพื่อนในแผนกของเอ๋นั่นเอง
ตอนนี้ภาณีทำตัวโจ่งแจ้งมากว่าคบหากับเอนกอยู่ และพูดจากกระแนะกระแหนเอ๋อยู่เสมอ เอ๋เองก็เสียใจมาก เธอคิดว่าคนที่เธอรักจนหมดใจ จะรักเธอและไม่ทรยศเธอ แต่ไม่ใช่เลย
มันไม่ใช่กับผู้ชายคนนี้เลยตลอดเวลาเขาโกหกเธอสารพัด เพราะเชื่อใจเอ๋ถึงไม่เคยระแคะระคายอะไรเลย พรเองก็สงสารเอ๋มาก และสิ่งที่ตอกย้ำให้เอ๋ต้องเจ็บใจเสียใจมากที่สุดก็คือวันที่เอนกมาบอกเลิกกับเอ๋ เพราะภาณีท้อง
เขาบอกกับเอ๋ว่าเขาไม่สามารถแต่งงานกับเอ๋ได้ เพราะเขาทำภาณีท้องจึงจำเป็นต้องรับผิดชอบ แต่เขายังรักเอ๋เสมอถึงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถแต่งงานกับเอ๋ได้
“พี่ขอโทษนะเอ๋ พี่ไม่ได้อยากทำร้ายเอ๋ พี่ยังรักเอ๋ แต่พี่พลาดไปแล้ว”
“พี่อย่าพูดอีกเลยว่ารักเอ๋ ถ้าพี่รักเอ๋จริง ๆ พี่จะไม่ทำแบบนี้กับเอ๋ จะไม่นอกใจเอ๋ไปมั่วผู้หญิงคนอื่น”
“พี่ไม่ได้ตั้งใจ วันนั้นพี่เมามาก”
“พอเถอะค่ะ ให้มันจบกันแค่นี้เถอะ เอ๋ขออวยพรให้ชีวิตพี่มีความสุขในชีวิตก็แล้วกัน อย่าลืมว่าเวรกรรมมีจริง เอ๋ขอตัดขาดจากผู้ชายอย่างพี่ไม่ว่าจะชาตินี้หรือชาติไหน ๆ ขอให้เราอย่าได้พบเจอกันอีก ไม่ว่าจะเกิดเป็นคนหรือเป็นอะไรก็ตาม”
“เอ๋ อย่าให้ต้องถึงขนาดนั้นเลย พี่ขอร้อง”
“เก็บคำขอร้องไปใช้กับภรรยาของพี่เถอะค่ะ สำหรับเราสองคนคงพอแค่นี้”
เอ๋ เดินออกไปทันทีเธอกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา ถึงแม้เธอจะทำเป็นเข้มแข็งต่อหน้าเอนกแต่พอเธอกลับมาถึงห้อง เธอกลับร้องไห้ออกมาอย่างน่าสงสาร จนเพื่อนสนิทอย่างพรต้องร้องไห้ออกมาเพราะสงสารเพื่อน
หลังจากวันนั้น เอ๋ที่เป็นคนร่าเริงอยู่เสมอก็กลายเป็นคนเงียบขรึมพูดจาน้อยลง มีหลาย ๆ คนที่สงสารเอ๋ และมีหลายคนที่สมน้ำหน้าเธอ และมีคนหลาย ๆ คนซ้ำเติมเธอว่าเป็นเพราะเธอหวงความสาวจนจะกลายเป็นแม่ชีอยู่แล้ว
ไม่แปลกใจที่ผู้ชายจะไปหากินที่อื่นเพราะเอ๋ไม่ยอมให้เขามีอะไรด้วยจนกว่าจะแต่งงาน ผู้ชายที่ไหนจะทนได้ พรที่ได้ยินแบบนั้นก็ด่ากราดออกมาทันที จากคนที่เรียบร้อยพูดน้อยที่สุดแต่กลับด่าออกมาได้จนทิ่มแทงเข้าไปในใจคนเหล่านั้น
พรและเอ๋ทำเรื่องลาพักร้อน หัวหน้าแผนกเข้าใจและเห็นใจเธอ จึงให้ลาได้ 1 เดือนให้เธอได้ไปพักผ่อนและพักใจ จะได้กลับมาทำงานอีกครั้ง
ภาณีไม่พอใจมากเธอเข้าใจว่าการที่เธอแย่งคนรักของเอ๋มาได้ เอ๋จะเสียใจจนลาออกและเธอก็จะได้ตำแหน่งงานของเอ๋มาด้วย แต่กลับไม่ใช่ตอนนี้มันผิดแผนไปหมด
ตอนนี้เอนกเองก็ไม่ได้สนใจภาณีมากนัก เขาเองก็โทษตัวเองที่หลงระเริงไปจนทำให้เขารู้ว่าจริง ๆ แล้วคนที่เขารักคือเอ๋ไม่ใช่ภาณี ก็ในวันที่เอ๋มาบอกตัดขาดเขา เอนกและภาณีเริ่มมีปากเสียงกันเรื่อยมา
ด้วยความแค้นใจที่ภาณีมีต่อเอ๋ และเพราะความอิจฉาริษยาที่มี มันทำให้ภาณีได้วางแผนที่จะกำจัดเสี้ยนหนามอย่างเอ๋ให้พ้นทาง
เอ๋และพรเตรียมตัวจะออกไปเที่ยวพักผ่อนในขณะที่ทั้งสองกำลังยืนรอรถแท็กซี่อยู่หน้าหอพักเพื่อที่จะเดินทางไปสนามบินนั้น ภาณีที่ไม่รู้มาจากไหน ก็ผลักเอ๋ลงไปในถนนในตอนที่รถกำลังวิ่งมาด้วยความเร็ว
คนขับรถเบรกไม่อยู่และได้ชนเข้ากับร่างของเอ๋อย่างจัง ร่างของเธอกระเด็นไปไกลถึง 2เมตร และขาดใจตายทันที
“กรี๊ด ๆ ยัยเอ๋ ไม่นะ ยัยเอ๋ นี่แกทำบ้าอะไร แกเป็นบ้าหรอ”
พรหันมาตวาดใส่ภาณีที่ยืนทำหน้าไม่รู้สึกรู้สาอยู่ตรงนั้น เธอรีบวิ่งไปคว้าร่างของเอ๋มากอด ปากก็ตะโกนเรียกให้คนช่วย คนขับรถวิ่งลงมาดูด้วยความตกใจแต่ไม่สามารถช่วยยื้อชีวิตเอ๋เอาไว้ได้
เมื่อรถพยาบาลมาถึงเอ๋ได้สิ้นใจไปแล้ว และตำรวจก็จับภาณีผู้ก่อเหตุไปแล้ว พรร้องไห้เสียใจมาก ทำไมจะต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับเพื่อนของเธอ
หลังงานศพเอ๋ผ่านไป เอนกลาออกจากงานและบวชให้กับเอ๋เพื่อขออโหสิกรรม เขาตั้งใจจะบวชตลอดชีวิต ส่วนภาณีก็ไปรับกรรมของตัวเองในคุก พรลาออกจากงานและกลับไปอยู่กับครอบครัวที่ต่างจังหวัด เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่
ส่วนเอ๋นั้นหลังจากวิญญาณออกจากร่างและมองทุกอย่างอยู่ จนกระทั่งแน่ใจว่าตัวเองได้ตายแล้วจริง ๆ ถึงแม้จะเสียใจ แต่เธอจะไปตามหาคำตอบหลังจากนี้ ชีวิตหลังความตายยังไงล่ะ
“แล้วเราจะกลับมาบอกเธอนะพร ว่าตายแล้วไปไหน ลาก่อนเพื่อนรักขอให้เธอมีความสุขนะฉันจะคิดถึงเธอตลอดไป”
สิ้นเสียงเอ๋ที่เป็นวิญญาณพูดจบ พรก็ขนลุกซู่ขึ้นมาทันที
“นี่ยัยเอ๋คงไม่ได้จะมาบอกอะไรเราใช่ไหมเนี่ย”