หญิงสาวตามจับผิดอาเขยแต่โดนเขาตลบหลังกลับจนเกิดความสัมพันธ์ลับ เธอรู้สึกผิดและอยากหนีแต่สุดท้ายก็หนีหัวใจตัวเองไม่พ้น
หญิงสาวตามจับผิดอาเขยแต่โดนเขาตลบหลังกลับจนเกิดความสัมพันธ์ลับ เธอรู้สึกผิดและอยากหนีแต่สุดท้ายก็หนีหัวใจตัวเองไม่พ้น
“พี่คะขับตามรถคันไปเลยค่ะ” ผู้โดยสารที่นั่งอยู่บนเบาะหลังบอกกับคนขับแท็กซี่วัยกลางคนที่กำลังขับรถเข้ามาจอดบริเวณหน้าบ้านหลังใหญ่
“แต่นี่มันถึงบ้านที่น้องบอกแล้วนะคะหรือว่าน้องมาผิดบ้าน” คนขับถามเพราะคิดว่าผู้โดยสารบอกทางมาบ้านของตนเองผิด
“หนูไม่ได้มาผิดบ้านหรอกค่ะพี่ แต่หนูอยากตามรถคันนั้นไปมากกว่า ถ้ายังไงพี่ช่วยขับตามให้หนูหน่อยได้ไหมเดี๋ยวหนูให้เงินพิเศษจากค่าแท็กซี่นะคะ” หญิงสาวบอกคนขับรถแท็กซี่ซึ่งเป็นผู้หญิงวัยกลางคนอย่างรวดเร็ว
คนขับหันมามองหน้าผู้โดยสารและเมื่อเห็นสีหน้าจริงจังก็รีบขับตามรถยนต์คันนั้นไป รถคันหน้าขับด้วยความเร็วปกติ ทำให้รถแท็กซี่ขับตามทางได้อย่างสบาย
ตอนนี้คนอยู่เบาะด้านหลังนั่งแทบไม่ติดเพราะอยากจะรู้ว่าเวลาดึกขนาดนี้แล้วอาเขยของตนเองจะออกบ้านไปไหนนี่ไม่ใช่คืนแรกที่เธอเห็นเขาออกจากบ้านเวลากลางคืน ตั้งแต่เธอกลับมาอยู่ที่เมืองไทยเกือบจะหนึ่งเดือนก็เห็นอาเขยออกจากบ้านเวลาดึกอยู่หลายครั้ง ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องที่ผู้ชายมีครอบครัวและมีภรรยากำลังตั้งครรภ์จะทำแบบนั้นเลย
รถคันหน้าขับไปยังคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง
“หนูจะเอายังไงกันต่อ จะให้พี่ขับตามเข้าไปไหม” คนขับแท็กซี่หันมาถาม
“หนูว่ารอตรงนี้ก่อนค่ะ”
“แล้วถ้าเขาไม่ขับออกมาล่ะ”
“เรารอสักสิบนาทีนะคะพี่ ถ้าเขาไม่กลับเขามาพี่ค่อยวนไปส่งที่บ้านก็ได้ค่ะ” ไอศิกาบอกกับคนขับรถแท็กซี่
แต่เธอรอไม่ถึงห้านาทีรถคันนั้นก็ขับออกมา
“พี่คะขับตามไปเลยค่ะ พี่ว่าในรถมันมีคนนั่งมาด้วยมั้ยคะ หนูมองไม่ถนัด” หญิงสาวยื่นหน้ามาถามขณะที่ตาก็จ้องเข้าไปในรถ
“เหมือนจะมีคนขึ้นมานั่งเพิ่มอีกคนนะคะ หนูจะให้พี่ขับแซงไหมจะได้เห็นชัด”
“ไม่เป็นไรค่ะ ขับตามไปก่อน”
คนขับแท็กซี่ทำตามที่ไอศิกาบอก เธอเว้นระยะห่างเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต เธอขับตามจนรถคันนั้นเลี้ยวเข้าไปจอดในบริเวณโรงแรม
“พี่จอดตรงนี้ก็ได้ค่ะ”
ไอศิกาเห็นอาเขยของตนเองเดินลงจากรถเลยหายเข้าไปในโรงแรมพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่ง เธอรีบยื่นธนบัตรใบล่ะหนึ่งพันให้คนขับ
“ขอบคุณค่ะ แล้วหนูจะให้พี่รอรับไหม”
“หนูไม่รู้ว่าต้องรอนานไหม”
“ถ้าจะให้พี่มารับก็เบอร์โทรที่แปะไว้ข้างหลังนะ”
“ได้ค่ะ” ไอศิกาหยิบโทรศัพท์มือถือถ่ายรูปเบอร์โทรศัพท์ของคนขับรถด้านจากนั้นก็รีบเปิดประตูและเดินเข้ามาในโรงแรม แต่เพราะเสียเวลาคุยกับแท็กซี่ก็เลยไม่เห็นว่าเขาไปทางไหน
“ขอโทษนะคะเมื่อกี้มีผู้หญิงกับผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาที่นี่หนูอยากรู้ว่าเขาไปทางไหนคะ” เธอถามพนักงานที่แผนกต้อนรับ
“ต้องขอโทษด้วยนะคะเราบอกไม่ได้หรอกค่ะเพราะมันเป็นความลับของแขกค่ะ”
“หนูขอร้องล่ะค่ะพี่ช่วยบอกหนูหน่อยได้ไหมว่าเขาไปทางไหน”
“คุณเป็นอะไรกับสองคนนั้นเหรอคะ” พนักงานถามเพราะเห็นว่าหญิงสาวมีท่าทางร้อนรนมาก
“หนูเป็นหลานสาวค่ะ”
“ถึงหนูจะเป็นหลานสาวแต่เราก็บอกไม่ได้จริงๆ ค่ะ”
“แต่หนูเป็นหลานสาวของเขาจริงๆ นะคะหนูอยากจะคุยกับเขาถ้าไม่เชื่อคุณดูรูปนี้สิคะ” ไอศิกายื่นรูปของตนเองที่ถ่ายรวมกันทั้งครอบครัวให้กับพนักงาน
“ถึงจะมีรูปมาให้ดูแต่เราก็บอกไม่ได้จริงๆ ค่ะ ถ้ายังไงคุณลองโทรติดต่อคุณอาของคุณดูสิคะ”
หญิงสาวทำตามที่พนักงานแนะนำแต่ไม่ว่าจะโทรเท่าไหร่ก็โทรไม่ติด
“หนูโทรไม่ติดเลย พี่ช่วยหนูไม่ได้เหรอคะ”
“ไม่ได้จริงๆ ค่ะ มันผิดกฎ”
“หนูขอนั่งรอตรงนั้นได้ไหมคะ” ไอศิกาชี้ไปยังโซฟาด้านหน้าซึ่งตอนนี้ไม่มีใครนั่งอยู่เลย
“ได้ค่ะ” เมื่อติดต่ออาเขยไม่ได้และพนักงานไม่ยอมบอกว่าเขาพักที่ห้องไหนหญิงสาวก็เลยต้องนั่งรอ แต่ไม่รู้ว่าจะต้องรอนานเท่าไหร่ จะเดินไปทางพนักงานคิดว่าเขาคงไม่ตอบแน่ๆ หญิงสาวเลยตัดสินใจโทรศัพท์หาเพื่อน
“ฮัลโหล ไอซ์มีอะไรหรือเปล่าตอนนี้เวลาที่ไทยมันดึกแล้วนะหรือไอซ์กลับมาอังกฤษแล้ว”
“เปล่า ไอซ์ยังไม่กลับแต่มีเรื่องอยากถามอลันนิดหน่อย”
“เรื่องด่วนใช่ไหม”
“อือ”
“ถามมาเลย”
“ไอซ์อยากรู้ว่าเวลาผู้ชายพาผู้หญิงเข้าโรงแรมเขาใช้เวลาอยู่ในโรงแรมนานแค่ไหน”
“ถามทำไมเนี่ยอย่าบอกนะว่ามีผู้ชายชวนเข้าโรงแรม”
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอกอลัน ตอบมาก่อนว่าเวลาอลันพาผู้หญิงเข้าโรงแรมส่วนใหญ่จะใช้เวลานานแค่ไหน”
“อย่างต่ำก็ชั่วโมงแต่ไม่น่าจะเกินสามชั่วโมงแล้วไอซ์ถามทำไม”
“เอาไว้วันหลังไอซ์จะเล่าเรื่องนี้ให้ฟังนะ ขอบใจมาก” เธอรีบวางสายจากเพื่อนจากนั้นก็นั่งเล่นโทรศัพท์มือถือและคิดว่าถ้าเขาเดินออกมาพร้อมกับผู้หญิงเธอจะถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน
ไอศิกาเคยสังเกตว่าอาเขยของเธอมักจะออกจากบ้านเวลาประมาณสามถึงสี่ทุ่มและเขาก็จะกลับไปนอนที่บ้านทุกครั้ง แต่เธอไม่แน่ใจว่าเขากลับเข้าไปตอนไหน
ที่มานั่งรอแบบนี้ก็เพราะอยากจะคุยกับเขาที่นี่เพราะถ้าไปคุยที่บ้านก็กลัวว่าคุณอาสาวของตนเองจะไม่สบายใจและมันจะกระทบต่อเด็กที่อยู่ในท้อง
ความผิดพลาดในคืนนั้นทำให้ชีวิตของวิรัลพัชรเปลี่ยนไปเมื่อรู้ว่าตัวเองตั้งท้อง เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำใครคือผู้ชายคนนั้นเป็นใคร แต่เขาจำได้และเมื่อรู้ว่าเธอกำลังท้องลูกของเขาชายหนุ่มก็ก้าวเข้ามาในชีวิตเพียงเพื่อต้องการลูกของเธอเท่านั้น
นานนับปีแล้วที่อรณิชาไม่ได้รับความสุขจากสามี เขาอ้างว่าเพราะงานแต่จริงๆ แล้วเขามีคนอื่นโดยที่อรณิชาไม่รู้ หญิงสาวจึงให้เวลาเขาและเธอหนึ่งเดือนเพื่อจัดสินใจว่าจะเอายังไงต่อกับชีวิตคู่ หญิงสาวจึงกลับมาที่เมืองไทย และได้เจอกับอดีตคน รักความสุขความผูกพัน ทางใจในอดีตกับกลายเป็นความสัมพันธ์ทางกายในปัจจุบัน ความใกล้ชิดในช่วงเวลาสั้นๆ ทำให้ทั้งสองเผลอใจก้าวข้ามเส้นที่ขีดไว้ไม่สนใจทถูกผิดมองแค่บนเตียงเพียงอย่างเดียว
ความสัมพันธ์ระหว่างนายหัวหนุ่มและนักศึกษาสาว ที่ห่างกันทั้งอายุและระยะทางนายหัวหนุ่มจะทำให้เธอรักเขาได้อย่างที่เขารักเธอหรือไม่คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
ในคืนที่โดนแฟนเอายาปลุกเซ็กซ์ใส่เครื่องดื่ม เธอขอให้ชายคนหนึ่งช่วย พอเช้ามาถึงได้รู้ว่าเขาคือเพื่อนสมัยเรียนเขาขู่ให้เธอยอมเป็นคู่นอนของเขาโดยบอกว่ามีคลิปในคืนนั้นเธอยอมเพราะคำขู่แต่เมื่อรู้ว่าเขาไม่มีคลิปทุกอย่างระหว่างเขากับเธอก็จบแต่เขาไม่ยอมจบเพราะตอนนี้คิดกับเธอมากไปกว่าคู่นอนไปแล้ว
สายตาที่ประสานกันมันบอกอย่างชัดเจนว่าตอนนี้ชายหนุ่มนั้นลืมคำว่าผู้ปกครองกับเด็กในปกครองไปแล้ว **************** หญิงชายสมัยนี้มันเท่าเทียมกันนะบัว เธอคิดว่าจะนอนกับฉันและทิ้งฉันไปง่ายๆ แบบนั้นเหรอ ไม่มีทางหรอก เธอต้องรับผิดชอบทั้งตัวฉันและความรู้สึกของฉัน
เพราะคู่หมั้นของเธอเป็นต้นเหตุทำให้น้องสาวของเขาเสียชีวิต เธอจึงเป็นหมากตัวสำคัญในการแก้แค้นของเขา แต่ทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คิด กลายเป็นเขาที่รู้สึกผิดและทำทุกอย่างให้หมากตัวนี้เป็นของตนเอง
'เจ้าเป็นว่าที่ชายาของข้า จะต้องให้บอกอีกกี่ครั้ง หรือต้องให้ข้าเสกทายาทเข้าท้องเสียก่อน’ ใครจะไปคิด ว่าการบังเอิญไปเก็บดอกไม้ที่ใครบางคนเผลอทำตกเอาไว้จะมีแวมไพร์มา 'จองรัก' จองผลาญไปตลอดกาล หากกล่าวถึงกุหลาบ หลายคนอาจนึกถึงเรื่องราวโรแมนติกประหนึ่งนิยายหวานซึ้งเพียงเท่านั้น แต่สำหรับหญิงสาวอย่าง ลินิน การได้มาพบกุหลาบดอกหนึ่งเข้าโดยบังเอิญกลับทำให้ชีวิตของเธอพลิกผันไปตลอดกาล เมื่อมันนำพาเธอไปพานพบกับเจย์เดน แวมไพร์ ที่มีอยู่มานานหลายศตวรรษ นอกจากนี้ เขายังหวงของรักมากเสียด้วยสิ แต่การมาของเขานั้นก็นำคำสาปรักมาสู่เธอด้วย
เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
เกิดใหม่ในชาตินี้ นางแค่ต้องการอยู่อย่างสงบสุขปกป้องครอบครัวจากเรื่องร้ายที่จะเกิดขึ้น นางไม่อยากตกอยู่ในบ่วงรักอันทำให้ครอบครัวต้องพบกับวิบัติอีกต่อไปแล้ว... คำเตือน นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักโรแมนติก ดราม่า มีฉากความรุนแรง ฉาก NC และมีฉากเศร้าสะเทือนใจ โปรดพิจารณาก่อนดาวโหลดนะคะ กราบขอบพระคุณค่ะ
© 2018-now MeghaBook
บนสุด