/0/22514/coverbig.jpg?v=e2707a30b70f4ee4ee964a8383fb8cfa)
❝รัก❞ คำสั้น ๆ ที่ไม่ได้บอกออกไป ทิ้งไว้เพียงจดหมายซองเล็กที่สารภาพความรู้สึกในใจก่อนตาย คนจากไปก็ไปแล้ว... แต่คนรอก็ทรมานมานับสี่ร้อยปี
❝รัก❞ คำสั้น ๆ ที่ไม่ได้บอกออกไป ทิ้งไว้เพียงจดหมายซองเล็กที่สารภาพความรู้สึกในใจก่อนตาย คนจากไปก็ไปแล้ว... แต่คนรอก็ทรมานมานับสี่ร้อยปี
ค.ศ. 1989 ประเทศฝรั่งเศส
รถเบนซ์คันหรูสีดำทมิฬ ขับผ่านสวนสาธารณะคิงชิน สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ที่ผลิดอกบานสะพรั่ง ตกแต่งด้วยไฟสลัวหลากสีตามตรีมของเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ บ้านของชายหนุ่มมหาเศรษฐีถูกสร้างออกมาห่างจากตัวเมือง และอยู่ติดกับเขตสงวนเพราะเขาต้องการความเป็นส่วนตัว และเงียบสงบ แต่ทว่าห้าสิบปีมานี้ รัฐบาลได้จัดสรรให้เขตสงวนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวซึ่งเขาเองก็เพิ่งรู้
คฤหาสน์สีทองอร่ามบนพื้นกว้างหลายร้อยไร่ หญ้าสีเขียวถูกตัดแต่งสวยงาม ต้นโอนอ่อนพัดปลิวไปตามลม เขาสั่งให้คนขับเปิดกระจกรถเลื่อนลง
กลิ่นหอมอ่อนลอยโชยมาจากทุ่งกุหลาบสีขาวในลานใหญ่พิเศษ ปกคลุมคฤหาสน์ทั้งหลัง
เวเฟียส ชายผู้อายุสี่ร้อยกว่าปีในคราบชายหนุ่มหล่อเหลาผิวกายขาวซีด เจ้าของเส้นผมสีแดงเพลิงดวงตาสีรัตติกาลดั่งเจ้าชายผู้ไร้ซึ่งแสงแดดอาจเอื้อมถึง ความร่ำรวยมหาศาลทำให้เขามีบ้านสีทองอร่ามอยู่ทุกประเทศทั่วโลก ผู้บริหารหนึ่งเดียวของธุรกิจเพชร เป็นทั้งเจ้าของเหมืองเพชร โรงงานผลิตส่งออกเพชร รวมถึงเป็นนักอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของโลก แต่นั่นกลับไม่มีใครรู้ว่าเป็นเขาเพราะนิสัยที่ลึกลับ แสนจะเย็นชา และไม่ใช่มนุษย์ ทำให้เขาไม่สามารถปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนได้
“ยินดีต้อนรับกลับค่ะนายน้อย” เมื่อรถเบนซ์ขับเข้ามาจอดนิ่งอยู่หน้าประตู
สีทองบานใหญ่ คนในบ้านต่างวิ่งกรูเข้ามารอต้อนรับเขา ชายหนุ่มเจ้าของเส้นผม
สีแดงสง่าก้าวขายาวลงจากรถ หันมองแม่บ้านที่ยืนอยู่หน้าแถว สังเกตเห็นเส้นผมของเธอที่ขาวหงอกเต็มหัวก็ทำให้เขารู้ว่าเธอแก่ขึ้นมากแล้ว
“กลับมาคราวนี้จะอยู่กับพวกเรา...” เธอยังคงพูดถามต่อไป พร้อมสายตาของคนอื่น ๆ ซึ่งคาดหวังว่านายน้อยของพวกเขาจะอยู่ที่นี่นานสักหน่อย
"ตอบไม่ได้" แต่แล้วประโยคนั้นกลับเปล่งออกมาได้เพียงครึ่งหนึ่งคำตอบจากคนร่างสูงก็พลันสวนกลับไปในทันที
เธอพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะให้แม่บ้านคนอื่นมาช่วยยกของเข้าบ้าน แม่บ้านหญิงชรามองตามเจ้านายของตนกำลังเดินหายลับเข้าไปหยุดอยู่ที่สวนหลังบ้านเพียงลำพัง
ดวงตาสีรัตติกาลมองชื่นชมดอกไม้สีขาวที่มีผีเสื้อโบยบินล้อมรอบกุหลาบสีขาวบริสุทธิ์เหล่านั้น มือหนาเอื้อมจับสร้อยล็อกเกตสีเทาสวยบนคอ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเล็กน้อย
รุ่งเช้า ณ สวนสาธารณะคิงชิน
ทั้งที่เป็นฤดูใบไม้ผลิแต่กลับมีหมอกหนา แสงแดดไม่สาดส่อง ชายหนุ่ม
ร่างสูงออกมาเชยชมบรรยากาศในสวนสาธารณะใกล้บ้าน สองเท้าเดินมาหยุด
อยู่บนสะพานข้ามแม่น้ำขนาดเล็กสีแดงสวย หันไปมองน้ำที่กำลังไหลออกไปอย่างมีทิศทางที่ชัดเจน ใบไม้ร่วงหล่นลอยบนผิวน้ำ และเงาสะท้อนของต้นไม้รอบข้าง
เกิดเป็นแสงระยิบระยับกระทบดวงตาสีรัตติกาลของเขา ลมเบาบางพัดสัมผัส
เส้นผมสีแดงสดให้ปลิวไสว เขายืนนิ่งเหม่อมองแม่น้ำ จนกระทั่งมีชายหนุ่มอีกคน
ที่กำลังวิ่งเหยาะ ๆ ผ่านมา ดวงตากลมโตสีฟ้าใสหันมองชายเส้นผมสีแดงที่ยืน
อยู่บนสะพานสีเดียวกันนี้
'เส้นผมของเขามีสีแดงสด โดดเด่นรับกับสันจมูกโด่ง และใบหน้าหล่อของเขา ทำไมเด็กสมัยนี้โตไวจังเลยนะ’ สีแดงภายในดวงตาเด่นชัดบนนัยน์ตา
สีฟ้า ดั่งไฟกับน้ำที่ตัดกันอย่างชัดเจน โอเชี่ยนคิดในใจ เขายังคงก้าววิ่งสายตาไม่ได้มองทางเพราะมัวแต่จับจ้องเด็กหนุ่มคนนั้น
โครม!!!
‘วันนี้ผมจะเจอเรื่องซวยอะไรอีกไหมนะ ซุ่มซ่ามตั้งแต่เช้าเลย’ ความไม่ระมัดระวังทำให้เขาไถลลงไปกับทางต่างระดับ คนล้มลงไม่ร้องออกมาแม้สักนิด แต่กลับบ่นตัวเองอุบอิบอยู่ภายในใจ
หลังจากล้มลงไปก้นจ้ำเบ้า เขาก็รีบมองสำรวจตัวเอง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาเข้ากับชายหนุ่มที่หันมามองจ้องเขาอยู่เช่นกัน ใบหน้าหล่อหันมามองก่อนจะชะงักไปครู่หนึ่ง เขายังคงค้ำแขนอยู่ที่สะพานก่อนจะถอยออกมาแล้วก้าวขายาวเดินมาหยุดยืนตรงหน้าของโอเชี่ยน นัยน์ตาสีรัตติกาลถ่ายทอดความรู้สึกออกมาอย่างเผลอตัวเมื่อได้เห็นคนตรงหน้า ความอ่อนโยน ห่วงหา ความดีใจเหล่านั้นถูกกลบทับด้วยความเศร้า มือเรียวของคนด้านล่างเอื้อมออกไปเพราะคิดว่าชายหนุ่มต้องมาช่วยเขาแน่
“เป็นอะไร”
'ผมคิดว่าเขาจะช่วยพยุงผมสักหน่อยแต่ว่า... ผมคงคิดผิดไปเอง' ไม่เพียงไม่ยื่นมือออกมาช่วยพยุง เขายังเอามือสอดเข้าไปในกางเกงทั้งสองข้าง แล้วเอ่ยถามคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่กลับดูคล้ายเป็นการตอกย้ำว่าคนด้านล่างซุ่มซ่ามมากแค่ไหน
“ผมไม่เป็นไร ผมสบายดี” คนตัวเล็กเจ้าของเส้นผมสีชมพูเห็นพฤติกรรมของเด็กหนุ่มก็ถึงกับคิ้วขมวดเล็กน้อย มือเรียวถอยเลื่อนกลับลงมาด้วยความ
เขินอาย รีบลุกขึ้นปัดฝุ่นบนตัวเล็กน้อย พร้อมรีบกล่าวปฏิเสธ
‘เป็นเด็กที่ดูดีจริง ๆ มองใกล้ ๆ เขายิ่งหล่อกว่าเดิม’
ส่วนสูงที่ห่างกันเพียงสี่เซนติเมตร เป็นความพอดีของระยะสายตาเมื่อ
คนทั้งคู่มองสบประสานกัน คนร่างสูงยืนนิ่งไม่พูดอะไรดวงตาสีรัตติกาลหางตาคมเฉี่ยวจ้องมองคนตัวเล็กกว่าอย่างไม่ละสายตา ทำเอาโอเชี่ยนทำตัวไม่ถูก
“หน้าของนาย สีตาของนาย...” เด็กหนุ่มพึมพำออกมา
'เขามองหน้าผมอยู่จริงด้วย ตั้งแต่ตอนล้มเมื่อกี้แล้ว' โอเชี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะถามกลับ
“มีอะไรติดหน้าของผมงั้นเหรอครับ” มือเรียวข้างหนึ่งยกจับที่ข้างแก้มของตัวเอง
“ไม่มีอะไร”
“ดะ... เดี๋ยวสิ” โอเชี่ยนร้องตามหลัง คนร่างสูงที่ก้าวเดินลับหายไปอย่างรวดเร็วไม่ทันให้เขาได้วิ่งตามไป คนถูกทักเรื่องใบหน้าจึงรีบหยิบโทรศัพท์เปิดกล้องขึ้นส่องมองหน้าเรียวของตัวเอง
“ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติเลยนี่นา” หลังจากมองดูแล้วไม่พบสิ่งที่แปลกไปจึงเลื่อนโทรศัพท์ลงด้วยความงุนงง เขาได้แต่บ่นพึมพำออกมา
คฤหาสน์สีทอง
ชายเส้นผมสีแดงเจ้าของบ้าน เปิดประตูเข้าห้องนอนของตัวเองก่อนจะทิ้งกายใหญ่ลงนอนบนเตียงใหญ่สีเพลิง ภาพในหัวปรากฏผู้ชายร่างบางเจ้าของดวงตาสีฟ้าทะเล ใบหน้าน่ารักสวยหวาน เส้นผม และผิวกายคนนั้น ที่ทำให้เขาก้าวเข้าหาคนแปลกหน้าอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
เวเฟียสวางหลังมือขึ้นปิดเปลือกตาก่อนจะเผลออมยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว
'ทำไมถึงรู้สึก... มีความสุข'
1 สัปดาห์ต่อมา
ครืด ครืด
"ฮัลโหล” คนมือหนากดรับโทรศัพท์สายหนึ่งที่โทรเข้ามา
“สวัสดีครับคุณคิงเวเฟียส ยินดีต้อนรับกลับนะครับ วันนี้จะแวะเข้ามาตรวจงานใช่ไหมครับ”
“อืม” คุณคิงเวเฟียสที่ปลายสายกล่าวเรียก ตอบกลับเสียงเรียบตามบุคลิกของเขาก่อนจะตัดสายไป
14.00น.
"จริง ๆ ไม่ต้องลำบากนายท่านลงมาจากรถหรอกนะครับ" น้ำเสียงของชายมีอายุคนหนึ่งดังขึ้นจากทางเบาะหน้า เขาก้าวออกจากรถพร้อมกับหยิบร่ม
สีดำคันใหญ่รีบวิ่งมาเปิดประตูพร้อมกางออกให้กับนายท่านของเขา
ชายหนุ่มสวมแว่นตาสีดำเดินลงจากรถโดยมีเลขาพยายามก้าวไวตามมา และคอยระวังผิวกายของนายท่านที่เขาเรียกนั้น ไม่ให้กระทบแสงแดดแม้แต่น้อย
"ที่นี่คือที่สุดท้ายแล้วล่ะครับ เขาเพิ่งมาเช่าใหม่เห็นว่าติดท็อปร้านอาหารยอดนิยมประจำปี ผมว่าจะซื้อฝากภรรยาสักหน่อย" เมื่อทั้งคู่ก้าวหยุดอยู่ที่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง เลขาจอร์นพูดยิ้ม ๆ แล้วหุบร่มลง
"สวัสดีค่ะ เชิญด้านในได้เลยค่ะ รับอะไรดีคะ" เปิดเข้ามาภายในร้าน
มีพนักงานต้อนรับกล่าวทักทาย ร้านเรียบหรูโทนสีฟ้า กว้างขวาง และถูกออกแบบสวยงามน่าใช้บริการ
"เจ้าของร้านอยู่ไหมครับ" เลขาจอร์นกล่าวถามพนักงานสาว
"เชฟเข้าครัวอยู่ค่ะ ต้องการพบใช่ไหมคะ"
"ครับ เดี๋ยวผมสั่งอาหารไปด้วยเลย นายท่านสั่งอะไรไปทานด้วยไหมครับ" เลขาตอบรับพนักงานพร้อมทั้งหันกลับมาถามเจ้านายของเขาที่นั่งกอดอกพิงเก้าอี้ ไม่พูดอะไร แต่แล้วเลขาจอร์นก็ต้องยิ้มแห้งเพราะรู้ตัวว่าพูดผิดไป เลยลุกลี้ลุกลนเล็กน้อย กลัวคนตรงหน้าจะโกรธ
"ขอโทษด้วยครับ" เลขาจอร์นกล่าวขอโทษ และหันไปสั่งอาหารที่มียอดขายดีอันดับหนึ่งของร้านไปหลายรายการ พร้อมแจ้งเรื่องธุระไปเรียบร้อย
ห้องครัว
"เชฟคะ ออเดอร์ล่าสุดลูกค้าแจ้งว่ามาเรื่องสัญญาเช่าค่ะ" หญิงสาวเปิดม่านเข้ามาด้านใน ตะโกนบอกเจ้าของร้านที่ง่วนกับการทำอาหารอย่างตั้งใจ
"ขอบคุณครับ แจ้งเขาว่าผมจะออกไปพร้อมกับอาหารชุดนี้"
"รับทราบค่ะ"
40 นาทีต่อมา [Talk Ocean]
เจ้าของร้านถอดชุดเชฟสีขาวสะอาดออก ก่อนจะเดินมาที่โซนหน้าร้าน แวะพูดคุยกับพนักงานเล็กน้อย
ชายหนุ่มนั่งมองสำรวจรอบร้านกว้างโทนสีฟ้าอ่อน ก่อนจะหันไปเห็น
คนที่คุ้นหน้าคุ้นตา คนตัวเล็กเส้นผมสีชมพูสดใส ยืนพูดคุยออกคำสั่งพนักงานด้วยสีหน้าจริงจัง สลับกับยิ้มแย้มดูเป็นมืออาชีพ รอยยิ้มของเขาสดใสจนทำให้คนที่กำลังจ้องมองแทบละสายตาไม่ได้
"ให้เขาเซ็นสัญญาระยะยาวที่ยอดเงิน 0 ยูโรแล้วไม่ต้องบอกว่าฉันมาด้วย" คนร่างสูงออกเสียงสั่งตามใจตน ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ มือหนาคว้าร่มดำ
เดินออกไปจากร้านในทันที
“ทำไมล่ะครับนายท่าน?” เวเฟียสไม่สนใจเสียงร้องถามของเลขาจอร์นแม้แต่น้อย ทิ้งไว้เพียงความงุนงง เลขาหันไปมองตามนายของตัวเองที่เดินออกไปจากร้าน
‘เมื่อกี้เขาพูดผิดหรือผมฟังผิดกันแน่ ศูนย์ยูโรเนี่ยนะ เขาจะได้อะไร?' สถานการณ์พลิกผัน และพฤติกรรมของเจ้านายที่แปลกไปจากที่เคย ทำให้ชายสูงวัยแบบเขาไม่สบายใจเพราะกลัวที่จะทำงานผิดพลาด เลขาจอร์นได้แต่คิดก่อนจะหลุดจากภวังค์เมื่อมีเสียงชายหนุ่มอีกคนกล่าวทักทาย
"สวัสดีครับ คุณจอร์นทำไมมาคนเดียวล่ะครับ ไหนว่าเราจะเซ็นสัญญากันไม่ใช่เหรอครับ" ผมเดินเข้ามาเห็นเขานั่งอยู่คนเดียว ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเขาแจ้งว่าจะมีการเซ็นสัญญาฉบับจริงเมื่อเจ้านายของเขามาด้วย
"ครับคุณโอเชี่ยน พอดีนายท่านติดประชุม เขาแจ้งว่าให้คุณเซ็นสัญญาฉบับนี้ได้เลยครับ" เลขาจอร์นพูดขึ้นพร้อมจัดวางเอกสารลงบนโต๊ะด้านหน้าของผม
"คือว่า...ยอดเงินผิดหรือเปล่าครับ" ผมมองจ้องที่ช่องตัวเลขอยู่ครู่ใหญ่ มันมีเพียงตัวเลขกลม ๆ หนึ่งหน่วยในช่องประนั้น
"ถูกแล้วครับ" เลขาจอร์นยิ้มบาง ๆ ให้กับผม
‘มีแบบนี้ด้วยเหรอ ให้เช่าตึกฟรี’
“มันจะดีเหรอครับ ช่วยบอกเหตุผลหน่อยได้ไหมครับ”
“ผมแค่ทำตามหน้าที่ครับ เรื่องเหตุผลผมไม่ทราบ อย่าทำให้ผมเดือดร้อนเลยนะครับ” เจ้าของเส้นผมสีหวานนั่งนิ่งไป เพราะไม่เคยเจอเรื่องราวแบบนี้มาก่อน และคิดไปว่ามันจะเป็นผลดีกับธุรกิจของเขาในระยะยาวจริง ๆ งั้นเหรอ
“นายท่านรวยมาก เขาอาจจะอยากช่วยคุณ ยังไงก็ช่วยลงนามให้ผมด้วยนะครับ” เลขาจอร์นสังเกตเห็นความกังวลของโอเชี่ยนจึงพูดเพื่อให้เขาสบายใจ แม้ตนจะไม่รู้ถึงเหตุผลที่แท้จริงด้วยเช่นกัน
'ไม่เซ็นคงไม่ได้ เลขาจอร์นเขาจริงจังกับงานไม่น้อยเลย' โอเชี่ยนเซ็นชื่อลงก่อนจะเลื่อนกระดาษส่งคืน'
“ขอบคุณครับ เรื่องสัญญาเรียบร้อยแล้วนะครับ” ชายในชุดสูทรีบจัดเก็บเอกสารใส่ซองทันที
"ขอบคุณที่มาอุดหนุนทางร้านของเรา ยังไงเมนูนี้ผมฝากให้เจ้านายของคุณลองชิมด้วยนะครับเป็นเมนูใหม่ที่ผมทดลองทำ" โอเชี่ยนกล่าวขอบคุณพร้อมยื่นถุงอาหารให้กับเขา
‘ผมไม่รู้ว่าเจ้านายของเขาเป็นคนยังไง ทำไมรูปแบบสัญญาดูเหมือนจะเป็นผมที่ได้ประโยชน์อยู่ฝ่ายเดียว หรือเขาอาจจะเป็นคนที่ใจดีมากคนหนึ่งนะ’
ว่ากันว่าคนตายไปแล้วจะกลายเป็นเถ้าถ่าน กลายเป็นปุ๋ยอินทรีย์ให้ต้นไม้ใบหญ้า สิ้นสุดวงจรชีวิต ไม่มีวัฏสงสาร ไม่มีการเวียนว่ายตายเกิด ถ้านั่นเป็นความเชื่อในทางวิทยาศาสตร์น่ะนะ สายลมเคยเชื่อแบบนั้น ด้วยเป็นเด็กเรียนด้านวิทยามากระทั่งวันนี้ความคิดของเขาถึงได้เปลี่ยนไป “เจ้าเม่นน้อย ตื่นได้แล้วลูก” นั่นแหละครับ สายลมที่ควรจะตายไปตั้งแต่รถชนกระเด็นอัดเสาไฟฟ้าแม้เดินอยู่บนทางม้าลาย ...เช้านี้กลับได้ยินน้ำเสียงหวาน ๆ ปลุกให้ตื่นแล้วเรียกเขาว่าลูกอีกครั้ง...
สนุกมากไหมเรย์! ปั่นหัวพี่สนุกมากไหมครับ? แล้วถ้ายังดื้ออีกระวังน้ำหมดตัว!
ชายบาดเจ็บคนหนึ่งที่ผมช่วยไว้ หนีไปพร้อมหม้อข้าวต้มหมู วันต่อมาผมกลับได้เจอเขาอีกครั้งที่มหาวิทยาลัย มันประหลาด "คืนเดียวแผลหายได้ยังไง คนเดียวกันจริงงั้นเหรอ?"
ใครจะไปคิดว่าผู้ชายที่วิ่งมาหลบหลังฉัน เพราะหนีสาว ๆ ของตัวเองจะกลายมาเป็นเจ้านายของฉันกันล่ะ แถมยัง... ปากร้าย แต่ยังน้อยไป เจอฉันหน่อยแล้วกัน จะลอกคราบเสือให้สิ้นลายไปเลย “คนอย่างเธอแค่เงินก็พอสินะ งั้นมาเป็นเด็กในการดูแลของฉันสิ” “ฉันยอมทำงานไปจนตายดีกว่าเป็นเด็กของคุณ!” “เธอนี่... ไม่อ่อนโยนเหมือนผู้หญิงคนอื่นเลยนะ” “คนอื่นที่หมายถึงคือผู้หญิงของคุณน่ะเหรอคะ งั้นก็ขอโทษด้วยท่านประธาน ฉันไม่ใช่คนของคุณ ถ้าโหยหาความอ่อนโยนก็ไปหาสาว ๆ ของคุณ! แล้วช่วยเลิกยุ่งกับฉันสักที!”
“อิงฟ้า นี่คือองศา ต่อไปนี้เธอจะมาเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของลูก ไปไหนมาไหนก็จะไปพร้อมกับลูกยกเว้นแค่เวลานอนหลังจากที่ส่งลูกถึงคฤหาสน์ของเราแล้ว องศาจะต้องกลับบ้านไปและก็จะกลับมาในเช้าวันใหม่เพื่อรอรับลูกไปโรงเรียนแล้วเรียนรู้ธุรกิจ ทำกิจกรรม activity อะไรต่างๆ ก็จะต้องมีเขาไปด้วยตลอด” “แต่พ่อคะ อิงบอกแล้วไงว่าไม่เอาบอดี้การ์ด” “ลูกบอกแค่ว่ายังไงก็ไม่เอาบอดี้การ์ดผู้ชายเด็ดขาด ก็นี่ไงองศา ไม่ใช่ผู้ชาย ก็ตรงตามเงื่อนไขที่เราตกลงกันแบบนี้จะมาโวยวายไม่ได้นะอิงฟ้า” 'ชิ คนอะไรหน้าบูดบึ้งขนาดนั้น ถูกบังคับให้มาเป็นบอดี้การ์ดรึไง ทำให้เหม็นขี้หน้าตั้งแต่แรกเจอเลยจริง ๆ'
“ฟังเรานะ เราบอกว่า เลิกกันเถอะ เราไม่ได้รักเธอแล้ววิน…จบกันแค่นี้นะ” จากเพื่อนสนิทกลายเป็นคนรัก แต่เพราะความห่างเหินบางอย่างทำให้ความสัมพันธ์ของวินเทอร์และอบอุ่นเปลี่ยนไป แม้จะยอมปล่อยมือจนอบอุ่นไปคบใครอื่น ทว่าวินเทอร์กลับยังคงรักฝังใจ เป็นใครคนหนึ่งที่อบอุ่นคอยปรึกษาอยู่เสมอ เพียงแต่... อยู่ในสถานะลับ วินเทอร์เฝ้ามองอบอุ่นอยู่เสมอ ไม่กล้าเปิดเผยตัวตน ไม่กล้าพูดว่ายังรัก ในขณะที่อบอุ่นค้นพบหัวใจตัวเองในวันที่สาย ไม่รู้เลยว่าวินเทอร์จะให้โอกาสเธอได้อีกไหม เพราะเธอรู้ตัวว่าคนผิดคือเธอมาโดยตลอด เป็นเธอที่โยนทิ้งความรักดี ๆ
'คุณหมอเกี่ยวก้อย' บุกไปตามน้องชายที่ทำตัวเกเรเป็นลูกน้อง 'พุฒิธร' นักเลงหน้าหล่อขวัญใจสาวๆ แต่ตามไปตามมาดันพลาดท้องซะงั้น! ตัวอย่าง ขณะที่กำลังจะก้าวออกจากร้านกาแฟ ประตูร้านถูกผลักออกไปอย่างแรงโดยไม่ทันระวัง หมอเกี่ยวก้อยชนเข้ากับใครบางคนอย่างจัง "ขอโทษค่ะ!" เธอรีบกล่าวคำขอโทษทันทีทำให้เอกสารที่อยู่ในมือปลิวกระจัดกระจายไปทั่วพื้น "ไม่เป็นไรครับ ผมช่วยเก็บ" เสียงของชายคนนั้นฟังดูสุภาพและใจดีเกินกว่าที่เธอคาดไว้ เขาก้มลงช่วยเก็บเอกสาร เมื่อเงยหน้าขึ้นสบตากัน หัวใจของเธอแทบหยุดเต้น พุฒิธร! เขาคือพ่อของลูก! คนที่เธอพยายามหลีกเลี่ยงมาตลอดหลายปี ร่างสูงสวมเสื้อเชิ้ตแบรนด์หรู กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าหนัง ดูภูมิฐานราวกับคนละคนกับในอดีต เขาเคยเป็นนักเลงทวงหนี้แห่งบ้านดอนนาหอมแน่เหรอ "คุณ...มาที่นี่ได้ยังไง?" หมอเกี่ยวก้อยถามเสียงสั่น
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
ในฐานะที่เธอมีทรัพย์สินนับพันล้านและเป็นลูกสาวที่ได้รับการฝึกฝนอย่างลับๆ โดยรัฐบาล เฉียววานก็ถูกจัดสรรพ่อแม่ให้ในที่สุด แต่ไม่คาดคิด เธอถูกขับออกจากครอบครัวถึงสามครอบครัว การฝึกฝนความสัมพันธ์เป็นญาติพี่น้องก็ล้มเหลวซ้ำๆ จนกระทั่งเธอถูกตระกูลฮั่วรับอุปการะ เฉียววานที่น่าสงสารถูกพ่อแม่บุญธรรมทุ่มเงินให้ตามใจ แสดงความรักอย่างสุดโต่งจนดูเหนือจริง ทำให้บางคนอิจฉาจนบ้าคลั่ง ปล่อยข่าวลือว่า "เฉียววานไม่มีความสามารถใดๆ เลย ต้องอาศัยการทำตัวน่าสนสารเพื่อเรียกร้องความสนใจจากตระกูลฮั่ว!" แต่วันถัดมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศยืนต้อนรับด้วยตัวเอง “ศาสตราจารย์เฉียว ห้องแล็บของคุณเตรียมพร้อมแล้ว” มหาเศรษฐียื่นสัญญาให้ “บอส รายงานการเงินปีนี้กำไรเพิ่มขึ้น 300%!” องค์กรแฮกเกอร์นานาชาติก็เกิดความวุ่นวาย “พี่ใหญ่ ถ้าคุณไม่ออนไลน์ ระบบการเงินจะล่มแล้ว” เมื่อความลับของเฉียววานถูกเปิดเผยทีละอย่าง ทั้งโลกออนไลน์ก็เดือดดาล กู้ซือหาน ผู้ทรงอำนาจและเย็นชาแห่งเมืองจิง จู่ๆ ก็จับเธอไว้ที่มุมกำแพง นิ้วของเขาลูบไล้ริมฝีปากของเธอเบาๆ “คุณนายกู้ เล่นสนุกมากพอหรือยัง? ถึงเวลากลับบ้านไปมีลูกได้แล้ว” เฉียววานหน้าแดงก่ำ “ใคร ใครจะไปมีลูกกับคุณล่ะ” ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ และหยิบบัตรดำวงเงินไม่จำกัดใส่มือเธอ “มีลูกคนหนึ่ง จะมอบเกาะส่วนตัวให้ให้หนึ่งเกาะ”
เธอเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย แต่ต้องประสบเคราะห์กรรมสูญเสียแม่ไปตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่มีวันอยู่เป็นสุขเลย พ่อแท้ ๆ และแม่เลี้ยงของเธอบังคับให้เธอแต่งงานกับชายที่เธอไม่รักแทนน้องสาวต่างมารดาของเธอ เธอไม่ยอมแพ้ต่อชะตากรรมของตน ในวันแต่งงาน เธอหนีออกจากบ้านไปและได้มีอะไรกับชายแปลกหน้าคนหนึ่งในคืนนั้น หลังจากนั้นเธอก็พยายามจะหนีไปแต่สุดท้ายก็ถูกพ่อเธอหาจนพบ และหนีไม่รอดชะตากรรมที่จะต้องแต่งงานแทนน้องสาว เธอจะพบว่าชายที่เคยมีอะไรกับเธอในคืนนั้นก็คือสามีของเธอหรือไม่ และเขานั้นจะรู้ว่าเธอเป็นแค่เจ้าสาวปลอมหรือไม่ ตลอดจนความลับเบื้องหลังของสามีคนจนจะเป็นเช่นไร ติดตามไปด้วยกันเลย
© 2018-now MeghaBook
บนสุด