ดาวน์โหลดแอป ฮิต
หน้าแรก / เมืองแฟนตาซี / อมตะรักเหนือกาลเวลา
อมตะรักเหนือกาลเวลา

อมตะรักเหนือกาลเวลา

5.0
อ่านเลย

เกี่ยวกับ

สารบัญ

❝รัก❞ คำสั้น ๆ ที่ไม่ได้บอกออกไป ทิ้งไว้เพียงจดหมายซองเล็กที่สารภาพความรู้สึกในใจก่อนตาย คนจากไปก็ไปแล้ว... แต่คนรอก็ทรมานมานับสี่ร้อยปี

บทที่ 1 Chapter 1 : การพบเจอ

ค.ศ. 1989 ประเทศฝรั่งเศส

รถเบนซ์คันหรูสีดำทมิฬ ขับผ่านสวนสาธารณะคิงชิน สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ที่ผลิดอกบานสะพรั่ง ตกแต่งด้วยไฟสลัวหลากสีตามตรีมของเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ บ้านของชายหนุ่มมหาเศรษฐีถูกสร้างออกมาห่างจากตัวเมือง และอยู่ติดกับเขตสงวนเพราะเขาต้องการความเป็นส่วนตัว และเงียบสงบ แต่ทว่าห้าสิบปีมานี้ รัฐบาลได้จัดสรรให้เขตสงวนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวซึ่งเขาเองก็เพิ่งรู้

คฤหาสน์สีทองอร่ามบนพื้นกว้างหลายร้อยไร่ หญ้าสีเขียวถูกตัดแต่งสวยงาม ต้นโอนอ่อนพัดปลิวไปตามลม เขาสั่งให้คนขับเปิดกระจกรถเลื่อนลง

กลิ่นหอมอ่อนลอยโชยมาจากทุ่งกุหลาบสีขาวในลานใหญ่พิเศษ ปกคลุมคฤหาสน์ทั้งหลัง

เวเฟียส ชายผู้อายุสี่ร้อยกว่าปีในคราบชายหนุ่มหล่อเหลาผิวกายขาวซีด เจ้าของเส้นผมสีแดงเพลิงดวงตาสีรัตติกาลดั่งเจ้าชายผู้ไร้ซึ่งแสงแดดอาจเอื้อมถึง ความร่ำรวยมหาศาลทำให้เขามีบ้านสีทองอร่ามอยู่ทุกประเทศทั่วโลก ผู้บริหารหนึ่งเดียวของธุรกิจเพชร เป็นทั้งเจ้าของเหมืองเพชร โรงงานผลิตส่งออกเพชร รวมถึงเป็นนักอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของโลก แต่นั่นกลับไม่มีใครรู้ว่าเป็นเขาเพราะนิสัยที่ลึกลับ แสนจะเย็นชา และไม่ใช่มนุษย์ ทำให้เขาไม่สามารถปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนได้

“ยินดีต้อนรับกลับค่ะนายน้อย” เมื่อรถเบนซ์ขับเข้ามาจอดนิ่งอยู่หน้าประตู

สีทองบานใหญ่ คนในบ้านต่างวิ่งกรูเข้ามารอต้อนรับเขา ชายหนุ่มเจ้าของเส้นผม

สีแดงสง่าก้าวขายาวลงจากรถ หันมองแม่บ้านที่ยืนอยู่หน้าแถว สังเกตเห็นเส้นผมของเธอที่ขาวหงอกเต็มหัวก็ทำให้เขารู้ว่าเธอแก่ขึ้นมากแล้ว

“กลับมาคราวนี้จะอยู่กับพวกเรา...” เธอยังคงพูดถามต่อไป พร้อมสายตาของคนอื่น ๆ ซึ่งคาดหวังว่านายน้อยของพวกเขาจะอยู่ที่นี่นานสักหน่อย

"ตอบไม่ได้" แต่แล้วประโยคนั้นกลับเปล่งออกมาได้เพียงครึ่งหนึ่งคำตอบจากคนร่างสูงก็พลันสวนกลับไปในทันที

เธอพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะให้แม่บ้านคนอื่นมาช่วยยกของเข้าบ้าน แม่บ้านหญิงชรามองตามเจ้านายของตนกำลังเดินหายลับเข้าไปหยุดอยู่ที่สวนหลังบ้านเพียงลำพัง

ดวงตาสีรัตติกาลมองชื่นชมดอกไม้สีขาวที่มีผีเสื้อโบยบินล้อมรอบกุหลาบสีขาวบริสุทธิ์เหล่านั้น มือหนาเอื้อมจับสร้อยล็อกเกตสีเทาสวยบนคอ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเล็กน้อย

รุ่งเช้า ณ สวนสาธารณะคิงชิน

ทั้งที่เป็นฤดูใบไม้ผลิแต่กลับมีหมอกหนา แสงแดดไม่สาดส่อง ชายหนุ่ม

ร่างสูงออกมาเชยชมบรรยากาศในสวนสาธารณะใกล้บ้าน สองเท้าเดินมาหยุด

อยู่บนสะพานข้ามแม่น้ำขนาดเล็กสีแดงสวย หันไปมองน้ำที่กำลังไหลออกไปอย่างมีทิศทางที่ชัดเจน ใบไม้ร่วงหล่นลอยบนผิวน้ำ และเงาสะท้อนของต้นไม้รอบข้าง

เกิดเป็นแสงระยิบระยับกระทบดวงตาสีรัตติกาลของเขา ลมเบาบางพัดสัมผัส

เส้นผมสีแดงสดให้ปลิวไสว เขายืนนิ่งเหม่อมองแม่น้ำ จนกระทั่งมีชายหนุ่มอีกคน

ที่กำลังวิ่งเหยาะ ๆ ผ่านมา ดวงตากลมโตสีฟ้าใสหันมองชายเส้นผมสีแดงที่ยืน

อยู่บนสะพานสีเดียวกันนี้

'เส้นผมของเขามีสีแดงสด โดดเด่นรับกับสันจมูกโด่ง และใบหน้าหล่อของเขา ทำไมเด็กสมัยนี้โตไวจังเลยนะ’ สีแดงภายในดวงตาเด่นชัดบนนัยน์ตา

สีฟ้า ดั่งไฟกับน้ำที่ตัดกันอย่างชัดเจน โอเชี่ยนคิดในใจ เขายังคงก้าววิ่งสายตาไม่ได้มองทางเพราะมัวแต่จับจ้องเด็กหนุ่มคนนั้น

โครม!!!

‘วันนี้ผมจะเจอเรื่องซวยอะไรอีกไหมนะ ซุ่มซ่ามตั้งแต่เช้าเลย’ ความไม่ระมัดระวังทำให้เขาไถลลงไปกับทางต่างระดับ คนล้มลงไม่ร้องออกมาแม้สักนิด แต่กลับบ่นตัวเองอุบอิบอยู่ภายในใจ

หลังจากล้มลงไปก้นจ้ำเบ้า เขาก็รีบมองสำรวจตัวเอง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาเข้ากับชายหนุ่มที่หันมามองจ้องเขาอยู่เช่นกัน ใบหน้าหล่อหันมามองก่อนจะชะงักไปครู่หนึ่ง เขายังคงค้ำแขนอยู่ที่สะพานก่อนจะถอยออกมาแล้วก้าวขายาวเดินมาหยุดยืนตรงหน้าของโอเชี่ยน นัยน์ตาสีรัตติกาลถ่ายทอดความรู้สึกออกมาอย่างเผลอตัวเมื่อได้เห็นคนตรงหน้า ความอ่อนโยน ห่วงหา ความดีใจเหล่านั้นถูกกลบทับด้วยความเศร้า มือเรียวของคนด้านล่างเอื้อมออกไปเพราะคิดว่าชายหนุ่มต้องมาช่วยเขาแน่

“เป็นอะไร”

'ผมคิดว่าเขาจะช่วยพยุงผมสักหน่อยแต่ว่า... ผมคงคิดผิดไปเอง' ไม่เพียงไม่ยื่นมือออกมาช่วยพยุง เขายังเอามือสอดเข้าไปในกางเกงทั้งสองข้าง แล้วเอ่ยถามคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่กลับดูคล้ายเป็นการตอกย้ำว่าคนด้านล่างซุ่มซ่ามมากแค่ไหน

“ผมไม่เป็นไร ผมสบายดี” คนตัวเล็กเจ้าของเส้นผมสีชมพูเห็นพฤติกรรมของเด็กหนุ่มก็ถึงกับคิ้วขมวดเล็กน้อย มือเรียวถอยเลื่อนกลับลงมาด้วยความ

เขินอาย รีบลุกขึ้นปัดฝุ่นบนตัวเล็กน้อย พร้อมรีบกล่าวปฏิเสธ

‘เป็นเด็กที่ดูดีจริง ๆ มองใกล้ ๆ เขายิ่งหล่อกว่าเดิม’

ส่วนสูงที่ห่างกันเพียงสี่เซนติเมตร เป็นความพอดีของระยะสายตาเมื่อ

คนทั้งคู่มองสบประสานกัน คนร่างสูงยืนนิ่งไม่พูดอะไรดวงตาสีรัตติกาลหางตาคมเฉี่ยวจ้องมองคนตัวเล็กกว่าอย่างไม่ละสายตา ทำเอาโอเชี่ยนทำตัวไม่ถูก

“หน้าของนาย สีตาของนาย...” เด็กหนุ่มพึมพำออกมา

'เขามองหน้าผมอยู่จริงด้วย ตั้งแต่ตอนล้มเมื่อกี้แล้ว' โอเชี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะถามกลับ

“มีอะไรติดหน้าของผมงั้นเหรอครับ” มือเรียวข้างหนึ่งยกจับที่ข้างแก้มของตัวเอง

“ไม่มีอะไร”

“ดะ... เดี๋ยวสิ” โอเชี่ยนร้องตามหลัง คนร่างสูงที่ก้าวเดินลับหายไปอย่างรวดเร็วไม่ทันให้เขาได้วิ่งตามไป คนถูกทักเรื่องใบหน้าจึงรีบหยิบโทรศัพท์เปิดกล้องขึ้นส่องมองหน้าเรียวของตัวเอง

“ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติเลยนี่นา” หลังจากมองดูแล้วไม่พบสิ่งที่แปลกไปจึงเลื่อนโทรศัพท์ลงด้วยความงุนงง เขาได้แต่บ่นพึมพำออกมา

คฤหาสน์สีทอง

ชายเส้นผมสีแดงเจ้าของบ้าน เปิดประตูเข้าห้องนอนของตัวเองก่อนจะทิ้งกายใหญ่ลงนอนบนเตียงใหญ่สีเพลิง ภาพในหัวปรากฏผู้ชายร่างบางเจ้าของดวงตาสีฟ้าทะเล ใบหน้าน่ารักสวยหวาน เส้นผม และผิวกายคนนั้น ที่ทำให้เขาก้าวเข้าหาคนแปลกหน้าอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

เวเฟียสวางหลังมือขึ้นปิดเปลือกตาก่อนจะเผลออมยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว

'ทำไมถึงรู้สึก... มีความสุข'

1 สัปดาห์ต่อมา

ครืด ครืด

"ฮัลโหล” คนมือหนากดรับโทรศัพท์สายหนึ่งที่โทรเข้ามา

“สวัสดีครับคุณคิงเวเฟียส ยินดีต้อนรับกลับนะครับ วันนี้จะแวะเข้ามาตรวจงานใช่ไหมครับ”

“อืม” คุณคิงเวเฟียสที่ปลายสายกล่าวเรียก ตอบกลับเสียงเรียบตามบุคลิกของเขาก่อนจะตัดสายไป

14.00น.

"จริง ๆ ไม่ต้องลำบากนายท่านลงมาจากรถหรอกนะครับ" น้ำเสียงของชายมีอายุคนหนึ่งดังขึ้นจากทางเบาะหน้า เขาก้าวออกจากรถพร้อมกับหยิบร่ม

สีดำคันใหญ่รีบวิ่งมาเปิดประตูพร้อมกางออกให้กับนายท่านของเขา

ชายหนุ่มสวมแว่นตาสีดำเดินลงจากรถโดยมีเลขาพยายามก้าวไวตามมา และคอยระวังผิวกายของนายท่านที่เขาเรียกนั้น ไม่ให้กระทบแสงแดดแม้แต่น้อย

"ที่นี่คือที่สุดท้ายแล้วล่ะครับ เขาเพิ่งมาเช่าใหม่เห็นว่าติดท็อปร้านอาหารยอดนิยมประจำปี ผมว่าจะซื้อฝากภรรยาสักหน่อย" เมื่อทั้งคู่ก้าวหยุดอยู่ที่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง เลขาจอร์นพูดยิ้ม ๆ แล้วหุบร่มลง

"สวัสดีค่ะ เชิญด้านในได้เลยค่ะ รับอะไรดีคะ" เปิดเข้ามาภายในร้าน

มีพนักงานต้อนรับกล่าวทักทาย ร้านเรียบหรูโทนสีฟ้า กว้างขวาง และถูกออกแบบสวยงามน่าใช้บริการ

"เจ้าของร้านอยู่ไหมครับ" เลขาจอร์นกล่าวถามพนักงานสาว

"เชฟเข้าครัวอยู่ค่ะ ต้องการพบใช่ไหมคะ"

"ครับ เดี๋ยวผมสั่งอาหารไปด้วยเลย นายท่านสั่งอะไรไปทานด้วยไหมครับ" เลขาตอบรับพนักงานพร้อมทั้งหันกลับมาถามเจ้านายของเขาที่นั่งกอดอกพิงเก้าอี้ ไม่พูดอะไร แต่แล้วเลขาจอร์นก็ต้องยิ้มแห้งเพราะรู้ตัวว่าพูดผิดไป เลยลุกลี้ลุกลนเล็กน้อย กลัวคนตรงหน้าจะโกรธ

"ขอโทษด้วยครับ" เลขาจอร์นกล่าวขอโทษ และหันไปสั่งอาหารที่มียอดขายดีอันดับหนึ่งของร้านไปหลายรายการ พร้อมแจ้งเรื่องธุระไปเรียบร้อย

ห้องครัว

"เชฟคะ ออเดอร์ล่าสุดลูกค้าแจ้งว่ามาเรื่องสัญญาเช่าค่ะ" หญิงสาวเปิดม่านเข้ามาด้านใน ตะโกนบอกเจ้าของร้านที่ง่วนกับการทำอาหารอย่างตั้งใจ

"ขอบคุณครับ แจ้งเขาว่าผมจะออกไปพร้อมกับอาหารชุดนี้"

"รับทราบค่ะ"

40 นาทีต่อมา [Talk Ocean]

เจ้าของร้านถอดชุดเชฟสีขาวสะอาดออก ก่อนจะเดินมาที่โซนหน้าร้าน แวะพูดคุยกับพนักงานเล็กน้อย

ชายหนุ่มนั่งมองสำรวจรอบร้านกว้างโทนสีฟ้าอ่อน ก่อนจะหันไปเห็น

คนที่คุ้นหน้าคุ้นตา คนตัวเล็กเส้นผมสีชมพูสดใส ยืนพูดคุยออกคำสั่งพนักงานด้วยสีหน้าจริงจัง สลับกับยิ้มแย้มดูเป็นมืออาชีพ รอยยิ้มของเขาสดใสจนทำให้คนที่กำลังจ้องมองแทบละสายตาไม่ได้

"ให้เขาเซ็นสัญญาระยะยาวที่ยอดเงิน 0 ยูโรแล้วไม่ต้องบอกว่าฉันมาด้วย" คนร่างสูงออกเสียงสั่งตามใจตน ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ มือหนาคว้าร่มดำ

เดินออกไปจากร้านในทันที

“ทำไมล่ะครับนายท่าน?” เวเฟียสไม่สนใจเสียงร้องถามของเลขาจอร์นแม้แต่น้อย ทิ้งไว้เพียงความงุนงง เลขาหันไปมองตามนายของตัวเองที่เดินออกไปจากร้าน

‘เมื่อกี้เขาพูดผิดหรือผมฟังผิดกันแน่ ศูนย์ยูโรเนี่ยนะ เขาจะได้อะไร?' สถานการณ์พลิกผัน และพฤติกรรมของเจ้านายที่แปลกไปจากที่เคย ทำให้ชายสูงวัยแบบเขาไม่สบายใจเพราะกลัวที่จะทำงานผิดพลาด เลขาจอร์นได้แต่คิดก่อนจะหลุดจากภวังค์เมื่อมีเสียงชายหนุ่มอีกคนกล่าวทักทาย

"สวัสดีครับ คุณจอร์นทำไมมาคนเดียวล่ะครับ ไหนว่าเราจะเซ็นสัญญากันไม่ใช่เหรอครับ" ผมเดินเข้ามาเห็นเขานั่งอยู่คนเดียว ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเขาแจ้งว่าจะมีการเซ็นสัญญาฉบับจริงเมื่อเจ้านายของเขามาด้วย

"ครับคุณโอเชี่ยน พอดีนายท่านติดประชุม เขาแจ้งว่าให้คุณเซ็นสัญญาฉบับนี้ได้เลยครับ" เลขาจอร์นพูดขึ้นพร้อมจัดวางเอกสารลงบนโต๊ะด้านหน้าของผม

"คือว่า...ยอดเงินผิดหรือเปล่าครับ" ผมมองจ้องที่ช่องตัวเลขอยู่ครู่ใหญ่ มันมีเพียงตัวเลขกลม ๆ หนึ่งหน่วยในช่องประนั้น

"ถูกแล้วครับ" เลขาจอร์นยิ้มบาง ๆ ให้กับผม

‘มีแบบนี้ด้วยเหรอ ให้เช่าตึกฟรี’

“มันจะดีเหรอครับ ช่วยบอกเหตุผลหน่อยได้ไหมครับ”

“ผมแค่ทำตามหน้าที่ครับ เรื่องเหตุผลผมไม่ทราบ อย่าทำให้ผมเดือดร้อนเลยนะครับ” เจ้าของเส้นผมสีหวานนั่งนิ่งไป เพราะไม่เคยเจอเรื่องราวแบบนี้มาก่อน และคิดไปว่ามันจะเป็นผลดีกับธุรกิจของเขาในระยะยาวจริง ๆ งั้นเหรอ

“นายท่านรวยมาก เขาอาจจะอยากช่วยคุณ ยังไงก็ช่วยลงนามให้ผมด้วยนะครับ” เลขาจอร์นสังเกตเห็นความกังวลของโอเชี่ยนจึงพูดเพื่อให้เขาสบายใจ แม้ตนจะไม่รู้ถึงเหตุผลที่แท้จริงด้วยเช่นกัน

'ไม่เซ็นคงไม่ได้ เลขาจอร์นเขาจริงจังกับงานไม่น้อยเลย' โอเชี่ยนเซ็นชื่อลงก่อนจะเลื่อนกระดาษส่งคืน'

“ขอบคุณครับ เรื่องสัญญาเรียบร้อยแล้วนะครับ” ชายในชุดสูทรีบจัดเก็บเอกสารใส่ซองทันที

"ขอบคุณที่มาอุดหนุนทางร้านของเรา ยังไงเมนูนี้ผมฝากให้เจ้านายของคุณลองชิมด้วยนะครับเป็นเมนูใหม่ที่ผมทดลองทำ" โอเชี่ยนกล่าวขอบคุณพร้อมยื่นถุงอาหารให้กับเขา

‘ผมไม่รู้ว่าเจ้านายของเขาเป็นคนยังไง ทำไมรูปแบบสัญญาดูเหมือนจะเป็นผมที่ได้ประโยชน์อยู่ฝ่ายเดียว หรือเขาอาจจะเป็นคนที่ใจดีมากคนหนึ่งนะ’

อ่านต่อ
img ไปดูความคิดเห็นเพิ่มเติมที่แอป
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY