นราเป็นเพียงหญิงสาวยากชน ต้องทำงานแลกเงินแต่เธอก็มีตุลย์แฟนหนุ่มที่มีฐานะดีคอยช่วยเหลือตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งเธอก็พบว่าตัวเองตั้งครรภ์ ในขณะที่อีกฝ่ายก็มีคนที่ดีพร้อมไว้ข้างกายเช่นกัน เพราะรักจึงยอมเลิก เธอจึงเลือกที่จะหอบลูกในท้องจากไปเพื่อให้เขามีอนาคตที่ดีขึ้น ดีกว่าที่จะอยู่กับคนแบบเธอแม้หัวใจจะเจ็บปวดมากเท่าไรก็ตาม
ขณะที่ นรา นักศึกษามหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 4 คณะอักษรศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ กำลังนั่งทำข้อสอบวิชาสุดท้ายของการสอบกลางภาคอย่างตั้งอกตั้งใจเธอก็โดนอาจารย์ที่ปรึกษาเรียกออกไปหน้าห้องกลางคัน
“นรา หยุดทำข้อสอบแล้วตามอาจารย์ออกมาข้างนอก”
“ค่ะ” เจ้าของชื่อวางปากกาแล้วปิดข้อสอบที่ใกล้จะทำเสร็จอยู่แล้วลง
นักศึกษาสาวไม่แปลกใจเพราะสถานการณ์เช่นนี้เคยเกิดกับตัวเองบ่อยเกือบทุกเทอมจนแทบจะกลายเป็นความเคยชินที่ไม่น่าภาคภูมิใจนัก เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมชั้นที่ทำเพียงเงยหน้าขึ้นมามอง บางคนแอบกลั้นขำแล้วกลับไปก้มหน้าก้มตาทำข้อสอบต่อ ไม่มีใครให้ความสนใจราวสิ่งที่กำลังเกินขึ้นนี้เป็นเรื่องปกติ
นราเดินตามอาจารย์สาวออกมาหน้าห้อง...ปีแรก ๆ เธอยังรู้สึกอายที่โดนเรียก แต่พอเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเข้าปีที่สี่เธอก็ชาชินจนไม่รู้สึกอะไรเสียแล้ว จะเรียกว่าหน้ามันด้านจนชาก็คงไม่เกินจริงนัก
“หนูขอทำข้อสอบต่อให้เสร็จไม่ได้เหรอคะอาจารย์ นี่เป็นวิชาสุดท้ายของการสอบกลางภาคแล้ว เดี๋ยวสิ้นเดือนหนูจะรีบเอาเงินที่ได้จากการทำงานพิเศษไปจ่ายค่าเทอมนะคะ” นักศึกษาสาวยกมือไหว้ขอความเห็นใจ
เธอใกล้จะเรียนจบแล้ว ความหวังที่จะได้มีงานดี ๆ ทำ มีรายได้พอเลี้ยงปากเลี้ยงท้องและช่วยเหลือครอบครัวอยู่ใกล้แค่เอื้อม ขอเพียงแค่เธอผ่านเทอมนี้และเทอมสุดท้ายไปได้เท่านั้น...อีกแค่อึดใจเดียว
“แต่เธอก็ค้างมาหลายเดือนแล้วนะ ทางการเงินเขาแจ้งมาว่าไม่อนุญาตให้เธอเข้าสอบ อาจารย์ก็จนใจ”
“แต่ถ้าหนูไม่ได้สอบ หนูต้องติดเอฟวิชานี้แน่ ๆ เลยนะคะอาจารย์ อีกเทอมเดียวหนูก็จะเรียนจบแล้วด้วย...อาจารย์ช่วยหนูหน่อยไม่ได้เหรอคะ ขอกลับเข้าไปสอบให้เสร็จโดยยังไม่ต้องนับคะแนนก็ได้ค่ะ หนูจ่ายค่าเทอมครบเมื่อไหร่ค่อยนับ” นราไหว้ปรก ๆ พยายามต่อรองให้ได้กลับเข้าไปทำข้อสอบอย่างสุดความสามารถ
เนื่องจากนราเกิดในครอบครัวที่ยากจน พ่อแม่ทำงานรับจ้างรายวันอยู่ที่ตลาดในชุมชนแออัด ขนผักบ้าง รับจ้างทำความสะอาดบ้านตัดหญ้าบ้างแล้วแต่ชาวบ้านแถวนั้นจะจ้าง รายได้จึงไม่มากมายนัก การที่เธอจะมาเรียนมหาวิทยาลัยได้จึงต้องทำงานพิเศษอย่างหนัก ทั้งรับจ้างเฝ้าร้านกาแฟหลังมหาวิทยาลัย ทำเอกสารกวดวิชาขาย บางครั้งก็รับสอนพิเศษให้น้อง ๆ ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เรียกได้ว่าอะไรที่พอจะเปลี่ยนเป็นเงินได้นราเอาหมด
ความจริงเทอมนี้เธอเก็บค่าเทอมครบแล้ว แต่เพราะพ่อป่วยจึงต้องแบ่งเงินไปซื้อยาทำให้ค่าเทอมยังขาดไปนิดหน่อย ถ้าได้ค่าจ้างเดือนล่าสุดเมื่อไหร่ก็จะครบพอดี
“นะคะอาจารย์หนูขอร้อง ช่วยหนูด้วยเถอะค่ะ” นักศึกษาสาวเริ่มน้ำตาคลอ
คนเป็นอาจารย์ก็ใช่จะใจไม้ไส้ระกำกับลูกศิษย์ ที่สำคัญนราก็เป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน แม้จะไม่ค่อยมีเวลามาร่วมกิจกรรมกับเพื่อน ๆ ในคณะเพราะเจ้าตัวบอกว่าต้องทำงานแต่ผลการเรียนก็อยู่ในเกณฑ์ใช้ได้มาโดยตลอด...หากทำตามที่นักศึกษาเสนอให้เธอเข้าสอบให้เสร็จไปก่อนแต่ยังไม่เก็บคะแนนคงไม่เสียหายกระมัง
ระหว่างอาจารย์กำลังตัดสินใจนักศึกษาชายคนหนึ่งก็เดินเข้ามาในวงสนทนา
“สวัสดีครับอาจารย์” เขายกมือไหว้ก่อนดันแว่นสายตากรอบเหลี่ยมให้กลับไปอยู่บนสันจมูกโด่ง “ถ้าผมไปจ่ายค่าเทอมให้ตอนนี้อาจารย์จะอนุญาตให้นราเข้าสอบได้ใช่ไหมครับ” ตุลย์ถาม
“ตุลย์!” นาราเรียกแฟนหนุ่มอย่างตกใจ ไม่คิดว่าเขาจะมาหาเธอถึงที่คณะแล้วต้องมาเห็นภาพน่าอายพวกนี้...ไหนว่าวันนี้ก็มีสอบเหมือนกันอย่างไรล่ะ
ตุลย์เป็นนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ชั้นปีที่ 4 เขาเป็นแฟนหนุ่มของนราที่คบหากันมาได้สองปี ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดำเนินไปอย่างราบรื่นด้วยมีนิสัยหลายอย่างคล้าย ๆ กัน แทบไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง จะมีก็แต่นรานี่ล่ะที่ชอบเก็บงำหลายเรื่องเป็นความลับจนทำให้เขาน้อยใจอยู่บ่อย ๆ
เช่นเรื่องที่เธอมีเงินไม่พอจ่ายค่าเทอม เทอมล่าสุดเป็นต้น
“เธอเป็นญาติของนราเหรอ?” อาจารย์สาวถาม
“ผมเป็นแฟนครับ เดี๋ยวผมจะไปจ่ายค่าเทอมให้เดี๋ยวนี้เลย อาจารย์ปล่อยนราให้เข้าสอบเถอะครับ”
“ตุลย์แต่ว่า...” นราหมายจะห้าม เพราะที่ตุลย์เคยช่วยจ่ายให้เธอเมื่อเทอมก่อน ๆ เธอยังไม่ได้ใช้คืนเลย จะปล่อยให้เขาไปช่วยจ่ายอีกครั้งได้อย่างไร
“อย่าดื้อ” ตุลย์ดุแฟนสาวเสียงนุ่ม “รีบกลับเข้าไปสอบให้เสร็จแล้วออกมารอตุลย์หน้าห้อง ทำธุระเสร็จแล้วจะกลับมารับ”
ในที่สุดนราก็สามารถสอบกลางภาคได้เสร็จครบทุกวิชา เมื่อเธอออกมาจากห้องก็เห็นว่าตุลย์มานั่งอ่านหนังสือรออยู่แล้ว
“ตุลย์...” เธอเรียกเบา ๆ
“เป็นไง ทำข้อสอบได้ไหม?”
“เราขอโทษนะที่ทำให้ตุลย์เดือดร้อนอีกแล้ว” แทนที่จะตอบคำถามนรากลับเลือกที่จะขอโทษแทน เธอไม่ชอบเลยที่ตัวเองต้องกลายไปเป็นตัวภาระของแฟนหนุ่ม...ความจริงเธอควรวางแผนรับผิดชอบชีวิตของตัวเองให้ดีกว่านี้
“ขอโทษทำไม...” ว่าที่คุณหมอหนุ่มถอนหายใจ “เดือดร้อนเรื่องเงินทำไมไม่บอก ตุลย์เคยบอกนราแล้วใช่ไหมว่าไม่ต้องเกรงใจเงินแค่นี้เอง มันไม่ได้มากมายอะไรจนถึงขั้นต้องเอาอนาคตตัวเองเข้าแลก”
“มันไม่มากสำหรับตุลย์ก็จริง แต่มันมากสำหรับเรานี่”
นรารู้ว่าครอบครัวแฟนของตัวเองรวยจนเข้าขั้นเศรษฐี แต่นั่นก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่ทำให้เธอเอาเปรียบเขาได้...
ตุลย์เก็บหนังสือเรียนลงกระเป๋า เขาเดินไปลูบหัวแฟนสาวเบา ๆ นึกอยากหอมกระหม่อมเธอสักทีแต่พวกเขายังอยู่ในอาคารเรียนจึงยังไม่สามารถทำตามใจได้
เพราะนราไม่เคยคิดเอาเปรียบใคร เธอเป็นคนขยัน รักศักดิ์ศรีและภูมิใจที่ได้ยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง เรียกได้ว่าเป็นคนดีโดยเนื้อแท้ ไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่เขาเคยผ่านมาที่พอรู้ว่าเขารวยก็ร่ำร้องจะเอานั่นเอานี่ไม่หยุด...ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้จึงทำให้ตุลย์รักนราจนคิดจะจริงจังกับเธอมากกว่าใคร
“ถ้านราไม่สบายใจ เรียนจบได้งานทำเมื่อไหร่ก็กลับมาเลี้ยงดูนักศึกษาอย่างตุลย์ด้วยก็แล้วกัน ตุลย์ยังต้องเรียนอีกตั้งสองปีกว่าจะจบ” เขาบอกยิ้ม ๆ “เฮอ...อีกหน่อยก็จะได้มีแฟนเป็นสาวออฟฟิศแล้ว ตื่นเต้นจังเลย”
“ตุลย์ก็ เปลี่ยนเรื่องอีกจนได้...เราจะหาเงินมาคืนนะ เราจดเอาไว้ทุกบาททุกสตางค์เลย เราไม่เอาเงินตุลย์มาเฉย ๆ หรอก” นราบอกอย่างมุ่งมั่น
หลาย ๆ ครั้งความใจดีของตุลย์ก็ทำให้นราอดละอายใจไม่ได้
“ตามใจ...ว่าแต่ วันนี้วันอะไรนราจำได้หรือเปล่า” ตุลย์เปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากให้แฟนสาววนเวียนคิดถึงแต่เรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจ
“วันอะไร...ก็วันสอบวันสุดท้ายไง” หญิงสาวตอบพาซื่อ
“เฮอ ลืมจริง ๆ ด้วยสินะ”
ตุลย์จูงมือแฟนสาวออกไปที่ลานจอดรถหลังอาคารเรียนรวม รถยุโรปคันหรูสีน้ำเงินเข้มที่เขาได้เป็นของขวัญจากครอบครัวจอดเด่นเป็นสง่าที่สุดในลาน
ตอนแรก ๆ นราก็รู้สึกอายที่ต้องตกเป็นเป้าสายตาของนักศึกษาคนอื่น ๆ ในคณะที่มองมาทางเธอกับแฟนหนุ่ม แต่พอนานวันเข้าเธอก็เริ่มชิน...ใครจะมองหรือแอบนินทาว่าเธอจับผู้ชายรวย ๆ ก็ปล่อยให้พวกเขาพูดไป เพราะเธอรู้แก่ใจตัวเองดีว่าคบกับตุลย์เพราะเขาเป็นคนดี น่ารัก ไม่ใช่เพราะเงิน
ตุลย์ช่วยคาดเข็มขัดนิรภัยให้คนรักหลังจากพาเธอเข้ามานั่งในห้องโดยสารเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากรถคันนี้ติดฟิล์มดำ ตอนนี้จึงคล้ายกับทั้งโลกมีพวกเขาเพียงสองคน
“สรุปว่าเราลืมอะไรเหรอ...วันนี้ก็ไม่ใช่วันเกิดตุลย์นี่” นราเอียงคอถามด้วยท่าทางน่ารักที่สุดในสายตาของแฟนหนุ่ม
“ใช่วันนี้ไม่ใช่วันเกิดตุลย์ แต่เป็นวันเกิดของนราต่างหาก...” เขาเฉลยยิ้ม ๆ
“จริงด้วยสิ! เราลืมไปเลย ขอบคุณตุลย์มากเลยนะที่จำวันเกิดเราได้” นราเอ่ยน้ำตาคลออย่างซาบซึ้งใจ...ปีที่แล้วก็เป็นเขาที่พาเธอไปเซอร์ไพรส์ที่ริมทะเล ปีนี้ก็เป็นเขาอีกแล้วที่มาเตือน
ชายหนุ่มดีดหน้าผากคนรักเบา ๆ แล้วจูบตาม...คนอะไรลืมวันเกิดตัวเองก็ได้
“ตุลย์มีของขวัญอะไรจะให้”
“ของขวัญเหรอ...”
“อืม”
ตุลย์หยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงเลือดหมูทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขึ้นมาเปิดตรงหน้านรา ภายในบรรจุล็อกเกตทองคำขาวรูปหัวใจอันเท่าหัวแม่มือของหญิงสาวตัวเรือนประดับเพชรหลากสีพราวพรายเอาไว้
“สวยจังเลย” นราอุทานน้ำตาคลอ “แต่เราคงรับเอาไว้ไม่ได้หรอก...ราคามันคงแพงมาก แค่ตุลย์จำวันเกิดของเราได้ทุกปีเราก็ดีใจแล้ว” เธอบอกอย่างเกรงใจ
“คงไม่รับไม่ได้...ดูนี่สิ”
ตุลย์พลิกให้นราดูชื่อที่สลักอยู่ตรงตัวเรือนด้านหลัง มันเป็นอักษรภาษาอังกฤษ เขียนชื่อของตุลย์กับเธอเอาไว้คู่กัน
“เวลานราสวมมันจะได้รู้สึกว่ามีตุลย์อยู่ข้าง ๆ อีกไม่นานเราก็ต้องห่างกันมากกว่านี้ นราเข้าสู่ชีวิตวัยทำงาน ส่วนตุลย์ยังต้องเรียนต่อ เราไม่อยากให้นรารู้สึกว่าพวกเราไกลกัน...มาใกล้ ๆ สิ เดี๋ยวตุลย์สวมให้นะ”
ชายหนุ่มสวมสร้อยคอให้คนรัก ก่อนถอยห่างออกมามองเธออย่างมีความสุข
“สุขสันต์วันเกิดนะครับ ตุลย์ขอให้นรามีความสุขมาก ๆ ต่อจากนี้ไปขอให้ชีวิตมีแต่ความราบรื่น คิดหวังอะไรก็สมดั่งใจปรารถนา สุขภาพแข็งแรงเพราะมีหมอหล่อ ๆ อย่างตุลย์คอยดูแล...และที่สำคัญที่สุดขอให้รักให้หลงตุลย์คนเดียวไปนาน ๆ”
เจ้าของวันเกิดหัวเราะคิก “ข้อหลังนี่ชักจะแปลก ๆ นะว่าไหม”
“ไม่เห็นแปลกเลย ข้อสุดท้ายต่างหากที่สำคัญที่สุด”
ตุลย์ค่อย ๆ เคลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้แฟนสาว เขาเชยคางของเธอขึ้นเพื่อปรับองศาใบหน้าให้รับจุมพิตของเขาได้ถนัด สองหนุ่มสาวแลกเปลี่ยนความหวานหอมจากริมฝีปากของกันและกันอย่างไม่รู้เบื่อหน่าย
“ตุลย์รักนรามากนะ” เขากระซิบบอกกับริมฝีปากเธอ
“นราก็รักตุลย์เหมือนกัน”
“แฟนของเราสวยมาก” จู่ ๆ เขาก็ชมขึ้นมาดื้อ ๆ
“ตุลย์ก็พูดเกินไป เราสอบมาทั้งวันหน้ามันจนดูแทบไม่ได้...ยังจะมาชมว่าสวยอีก” เธอบอกอาย ๆ พลางหยิบเครื่องประดับที่ห้อยอยู่บนลำคอขึ้นมาพินิจอย่างมีความสุข
“ชอบสร้อยไหม?”
“ชอบมาก ๆ เลย ตั้งแต่เกิดมาเรายังไม่เคยมีเครื่องประดับที่สวยขนาดนี้มาก่อน อันนี้เป็นเส้นแรก” นราบอกตามประสาซื่อ
“ตุลย์ดีใจที่นราชอบนะ แต่ของขวัญวันเกิดปีนี้ของนรายังไม่หมด”
“ยังมีอีกเหรอ!”
“ใช่ วันพรุ่งนี้เราจะไปกินข้าวกับแม่ของตุลย์กัน ตุลย์นัดไว้แล้ว...นราแต่งตัวสวย ๆ รอตุลย์ไปรับที่บ้านเลยนะ”
“มันจะไม่เร็วเกินไปเหรอ” หญิงสาวยังไม่มั่นใจ
“ไม่เร็วไปหรอก ตุลย์อยากให้นรามั่นใจว่าตุลย์จริงจังกับความสัมพันธ์ของเรา ไม่ได้อยากคบเล่น ๆ อีกอย่างต่อไปพอนราไปเจอพวกรุ่นพี่พนักงานบริษัทหล่อ ๆ จะได้ไม่เปลี่ยนใจไปจากตุลย์ด้วยไง” ว่าที่คุณหมอเจ้าเล่ห์ยักคิ้ว...เขาวางแผนทุกอย่างเอาไว้หมดแล้ว
เจียซินที่อยู่ในชีวิตปั่นปลายนั้น กลับต้องรู้สึกเสียใจที่เลือกเส้นทางรักผิด เมื่อเลือกหนทางใหม่ได้ เธอก็จะเลือกหนทางที่ดีที่สุด และเขาชายที่เธอเคยละทิ้งไปก็กลายมาเป็นคู่ชีวิต ที่พร้อมจะร่ำรวยไปด้วยกัน
ชมดาวต้องทนรับสภาพสถานะเลขาของเจ้านายและสถานะบนเตียงมาตลอดห้าปี เธอคิดว่าอีกไม่นานเขาก็จะขอเธอแต่งงาน หากแต่ว่าเขากลับเห็นเธอเป็นเพียงสถานะรองเท่านั้น จนกระทั่งวันหนึ่งเขาก็ต้องแต่งงาน ไม่ใช่กับเธอแต่เป็นคนอื่น เธอจะเลือกจำยอมอยู่ในความลับต่อไป หรือเลือกที่จะเดินออกมาพร้อมกับเด็กในท้อง!!
ลู่เจียหง นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังในยุคปัจจุบัน จับผลัดจับพลูลงลิฟต์ก็โผล่ไปยังยุคโบราณ แถมยังอยู่ในชุดเจ้าสาวอีก ถ้าประหลาดแค่นั้นไม่พอคงไม่เป็นไร ถ้าไม่พบว่าตัวเองกำลังถูกตามล่าจากว่าทีสามีที่ยังไม่ทันเข้าหอ งานนี้นางถือคติไม่ยุ่งเกี่ยวต่างคนต่างอยู่ แต่ท่านอ๋องผู้นั้นก็เอาแต่วนเวียนอยู่ข้างตัวนางไม่หยุด แบบนี้นางจะหย่าสำเร็จได้ตอนไหนกัน!!
จ้าวเหม่ยซื้อนิยายมาอ่าน พระเอกของเรื่องเป็นทรราชที่ได้รับการยกย่อง บ้าไปแล้วเป็นทรราชจะดีได้อย่างไร ปากบ่นไปสมองก็ด่าไปดันถูกเครื่องทำน้ำอุ่นช็อตตายไป ฟื้นมาอีกทีก็กลายเป็นสนมของทรราชผู้นั้น!! งานนี้เธอจะสามารถกลับออกจากนิยายได้ไหม หรือว่าต้องอุ้มให้ทรราชผู้นั้นตลอดไป ไปลุ้นกันค่ะ ****************** จบดีมีความสุขค่ะ
อี้เฟยเป็นเพียงหญิงชาวบ้านริมทะเล วันหนึ่งเจอกับบุรุษริมทะเลที่บาดเจ็บจึงพากลับบ้านรักษาอย่างดี จนกระทั่งสองคนได้มีความรักต่อกัน หากแต่จู่ๆ บุรุษผู้นั้นก็หายไป พร้อมทิ้งลูกแฝดให้นางเลี้ยงดู อี้เฟยต้องเลี้ยงลูกสองคนท่ามกลางการกรนด่าจากชาวบ้าน อดทนรอว่าวันหนึ่งบุรุษผู้นั้นจะกลับมาโดยไม่รู้เลยว่าเขาเป็นใคร
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"
เธอเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย แต่ต้องประสบเคราะห์กรรมสูญเสียแม่ไปตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่มีวันอยู่เป็นสุขเลย พ่อแท้ ๆ และแม่เลี้ยงของเธอบังคับให้เธอแต่งงานกับชายที่เธอไม่รักแทนน้องสาวต่างมารดาของเธอ เธอไม่ยอมแพ้ต่อชะตากรรมของตน ในวันแต่งงาน เธอหนีออกจากบ้านไปและได้มีอะไรกับชายแปลกหน้าคนหนึ่งในคืนนั้น หลังจากนั้นเธอก็พยายามจะหนีไปแต่สุดท้ายก็ถูกพ่อเธอหาจนพบ และหนีไม่รอดชะตากรรมที่จะต้องแต่งงานแทนน้องสาว เธอจะพบว่าชายที่เคยมีอะไรกับเธอในคืนนั้นก็คือสามีของเธอหรือไม่ และเขานั้นจะรู้ว่าเธอเป็นแค่เจ้าสาวปลอมหรือไม่ ตลอดจนความลับเบื้องหลังของสามีคนจนจะเป็นเช่นไร ติดตามไปด้วยกันเลย
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"