เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!
ในความพร่ามัวราวกับความฝัน ฉินหร่านกลับรู้สึกถึงความหรรษาอย่างที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน ดวงตาที่หนักอึ้งพยายามลืมตาขึ้นแต่ไร้ความหมาย เธอรู้สึกเหนื่อยล้าจนไม่อาจลืมตาขึ้นมาได้ สัมผัสบนเรือนร่างกลับชัดเจนในความรู้สึกเหมือนจริงจนรู้สึกหวาดกลัว
ทว่าความอบอุ่นอ่อนโยนที่ถูกมอบให้ ทำให้เธอล่องลอยอย่างสุมสม เธอเหมือนเรือลำน้อยที่ถูกคลื่นทะเลตงไห่ซัดสาดไปมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทำได้แต่ปล่อยให้เรือลำน้อยล่องลอยไปตามคลื่นลมที่โหมกระหน่ำอย่างรุนแรง และเฝ้าหวังว่าความฝันอันเลือนรางนี้จะจบลงด้วยดี
ราตรีกาลผ่านพ้นไป รุ่งอรุณมาเยือนจนแสงสีเหลืองทองสาดส่องเข้ามาภายในห้อง ฉินหร่านลืมตาขึ้นมองแสงยามเช้าสาดส่องดวงตาอย่างสับสน เธอกวาดตามองรอบห้องที่เป็นเพียงห้องที่เก่ามาก เครื่องเรือนที่แทบจะไม่มีภายในห้องนอนเล็กๆ แห่งนี้
ฉินหร่านผุดลุกขึ้นนั่งอย่างตกใจ ก่อนจะนิ่วหน้าด้วยความปวดร้าว เรือนร่างของเธอเวลานี้ปวดร้าวไปทั้งตัวโดยเฉพาะส่วนล่างที่รู้สึกเจ็บจนต้องเม้มปากแน่น ทันใดนั้นความทรงจำที่ไม่ใช่ของเธอหลั่งไหลเข้ามาราวกับสายน้ำเซี่ยวกราก เธอพยายามอดทนกับความเจ็บปวดที่ศีรษะ โชคดีที่ความเจ็บปวดนี้ใช้เวลาไม่นาน
แต่สิ่งที่เธอเรียบเรียงได้กลับทำให้ตื่นตกใจ เหตุการณ์เมื่อคืนที่เธอคิดว่าเป็นเพียงความฝันกลับเป็นความจริง เจ้าของร่างนี้มีชื่อว่าฉินหร่านเช่นเดียวกับเธอ และถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด ซึ่งย้ายมาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านไม่นาน ด้วยราคาเพียงแค่หนึ่งตำลึงทองเท่านั้น และร่างนี้มีอายุเพียงแค่สิบหกปีที่พึ่งผ่านพ้นวัยปักปิ่นมา
อีกทั้งเมื่อคืนเป็นคืนที่ต้องเข้าหอ แต่โชคร้ายที่เด็กน้อยฉินหร่านคนนั้นหวาดกลัวจนช็อกตาย และเธอก็เข้ามาแทนที่พอดี มือเล็กผอมบางยกมือขึ้นนวดหน้าผากตัวเองอย่างสับสน จำได้ว่าเธอนอนอยู่บนเตียงของตัวเองทำไมถึงมาโผล่อยู่ที่นี่ หากบอกว่าเป็นความฝัน ทว่าความเจ็บปวดตอนนี้กลับหลอกเธอไม่ได้
“เจ้าตื่นแล้ว”
ฉินหร่านหันไปมองคนพูดอย่างตกใจ ใบหน้าคนตรงหน้าหล่อเหลาคมคาย ทว่าดวงตาทั้งสองข้างกลับปิดสนิท เรือนร่างสมส่วนอยู่ในอาภรณ์สีน้ำเงินเข้มเก่าๆ คนตรงหน้าคือฉีเยี่ยนสามีของร่างนี้ และเป็นคนที่เธอร่วมสัมพันธ์เมื่อคืนนี้ ใบหน้าแดงระเรื่อ เมื่อคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ อย่างไรเธอก็เป็นสาวโสดมากว่ายี่สิบแปดปีและเมื่อคืนก็เป็นครั้งแรกของเธอเช่นกัน
“ลุกไหวหรือเปล่า จะได้มากินข้าวกัน” น้ำเสียงอ่อนโยนของชายตาบอดที่ยืนอยู่หน้าประตู ทำให้ฉินหร่านรีบลุกขึ้นยืนแต่เพราะความหักโหมจากเมื่อคืน ทำให้เธอทรุดกลับไปนั่งที่เดิม เธอเม้มปากแน่นหน้าแดงระเรื่อแต่ถึงกระนั้นชายตาบอดก็ไม่สามารถมองเห็นได้
“ท่านพี่ทานก่อนเถอะเจ้าค่ะ”
ฉินหร่านเอ่ยบอก แม้เธอจะหิวแต่สังขารตอนนี้กลับไม่อำนวยความสะดวกให้เธอเลย ร่างนี้ผ่ายผอมเกินไปอีกทั้งเมือคืนนี้โดนจัดหนักทำให้ไม่มีแรงจะลุกเดินได้ ร่างสูงไม่ได้ตอบอะไรแต่กลับหมุนกายจากไป เธอมองตามอย่างขัดเคือง ถึงอย่างไรคนที่ทำให้นางมีสภาพนี้ก็คือชายตาบอดนั่น
ขณะที่กำลังบ่นในใจชายตาบอดก็กลับมาอีกครั้ง พร้อมโจ๊กในมือ ฉินหร่านมองตามอย่างสนใจแต่เมื่อเห็นโจ๊กข้าวที่แทบไม่มีเมล็ดข้าว อีกทั้งยังเป็นสีเหลืองและกากข้าวบางส่วนก็ทำให้อดที่จะเงยหน้ามองสามีหมาดๆ ไม่ได้
“กินอะไรสักหน่อยก่อนแล้วค่อยนอนพัก”
ฉินหร่านมองถ้วยที่ถูกยื่นมาตรงหน้าอย่างไม่แน่ใจ ว่ามันสามารถกินได้จริงๆ ใช่หรือไม่ ตั้งแต่เธอเป็นเชฟระดับห้าดาวมาไม่เคยกินอะไรแบบนี้มาก่อนเลย ทว่าเมื่อเห็นสีหน้ากังวลของคนร่างสูงก็อดที่จะรับมาถือไว้ไม่ได้
เมื่อลองชิมคำแรก เธออยากจะร้องไห้กลับบ้านเดิมทันที มันจืดมากและยังเป็นกากข้าวผสม ที่กลืนลงท้องแทบบาดคอลงไป ใบหน้าเล็กๆ เต็มไปด้วยน้ำตาเอ่อล้นอย่างไม่รู้ตัว เกิดมาตั้งแต่จำความได้ไม่เคยกินอะไรแบบนี้มาก่อน
“เจ้าฝืนกินไปก่อน เดี๋ยวข้าจะหาอาหารที่ดีกว่านี้มาให้” เมื่อไม่ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวของคนบนเตียงจึงได้เอ่ยบอก ฝีมือทำอาหารของเขาคงแย่มากนางถึงกินไม่ลงเช่นนั้น
“อือ ขอบคุณ”
ฉินหร่านเอ่ยบอกเสียงแผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน แต่ท้องที่ร้องหิวและร่างกายที่อ่อนแอ ทำให้พยายามกลืนอาหารมื้อเช้าอย่างจำใจ จากนั้นจึงยื่นถ้วยข้าวคืนเจ้าของ ก่อนจะล้มตัวลงนอนอีกครั้ง
ตอนนี้เธอต้องการเวลาที่จะทำใจและปรับตัวกับโลกใบใหม่ให้ได้เสียก่อน แต่น่าเสียดายที่ความรู้ของร่างเดิมมีน้อยมาก และยังอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้อีกด้วย ฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอจะต้องเรียนรู้
ฉีเยี่ยนยืนมองภรรยาตัวน้อยด้วยความรู้สึกแปลกๆ แม้จะไม่ลืมตาก็รู้ว่าวันนี้นางให้ความรู้สึกว่าไม่เหมือนเดิม แม้จะยังสงสัย แต่ก็หมุนกายจากไปเพื่อให้นางพักผ่อน เพราะเมื่อคืนเขาตักตวงความสุขจากนางอย่างเอาแต่ใจ แต่จะโทษเขาไม่ได้ เพราะนางช่างเย้ายวนเสียขนาดนั้น
ฉินหร่านมองตามชายหนุ่ม ที่หน้าตาราวอายุประมาณยี่สิบปีด้วยสายตาครุ่นคิด เขามองไม่เห็นแล้วใครทำโจ๊กที่เธอกิน หรือว่าจะเป็นฝีมือเขาจริงๆ เช่นนั้นคงไม่แปลกที่จะออกมาสภาพนั้น และรสชาติจืดชืดขนาดนี้ แม้เธอจะไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงมาอยู่ที่นี่
แต่ต่อไปนี้เธอไม่สิ ต้องเป็นนางแล้ว...
นางคือฉินหร่าน ภรรยาของชายตาบอดผู้นั้นแล้ว และคงต้องใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ต่อไป...
------
เวลาที่ใช้ในเรื่อง เมื่อเทียบกับเวลาสากลแล้ว หนึ่งยาม เท่ากับ สองชั่วโมง และในหนึ่งวันมีสิบสองยาม ดังนี้
ยาม จื่อ เท่ากับเวลา 23.00 น. จนถึง 24.59 น.
ยาม โฉ่ว เท่ากับเวลา 01.00 น. จนถึง 02.59 น.
ยาม อิ๋น เท่ากับเวลา 03.00 น. จนถึง 04.59 น.
ยาม เหม่า เท่ากับเวลา 05.00 น. จนถึง 06.59 น.
ยาม เฉิน เท่ากับเวลา 07.00 น. จนถึง 08.59 น.
ยาม ซื่อ เท่ากับเวลา 09.00 น. จนถึง 10.59 น.
ยาม อู่ เท่ากับเวลา 11.00 น. จนถึง 12.59 น.
ยาม อุ้ย(เว่ย) เท่ากับเวลา 13.00 น. จนถึง 14.59 น.
ยาม เซิน เท่ากับเวลา 15.00 น. จนถึง 16.59 น.
ยาม อิ่ว เท่ากับเวลา 17.00 น. จนถึง 18.59 น.
ยาม ซวี เท่ากับเวลา 19.00 น. จนถึง 20.59 น.
ยาม ไฮ่ เท่ากับเวลา 21.00 น. จนถึง 22.59 น.
คำว่า “ยาม” คืนหนึ่งเราแบ่งเป็น 4 ยาม ยามละ 3 ชั่วโมง
ตั้งแต่ย่ำค่ำ คือ 18 นาฬิกา ถึง 3 ทุ่ม (21 นาฬิกา) เป็นยามที่ 1
หลังจาก 21 นาฬิกา หรือ 3 ทุ่ม ไปถึง 24 นาฬิกา หรือ เที่ยงคืน เราเรียกว่า ยาม 2 หรือ 2 ยาม
หลัง 24 นาฬิกา ไปถึงตี 3 (3 นาฬิกา) เราเรียกว่า ยาม 3
และหลังจากตี 3 ไปจนย่ำรุ่ง หรือ 6 นาฬิกา เราเรียกว่า ยาม 4 ซึ่งเป็นยามสุดท้ายของคืน
มาตราการวัดระยะทาง
ชุ่น หรือ นิ้ว : 1 ชุ่น = 2.27 – 2.31 เซนติเมตร
ฉื่อ หรือ เชี๊ยะ : 1 ฉื่อ = 10 ชุ่น = 22.7 – 23.1 เซนติเมตร
จ้าง : 1 จ้าง = 10 ฉื่อ ประมาณ 2.27 – 2.31 เมตร
ลี้ 1 ลี้ = 500 เมตร และ 1 ลี้ = 150 จ้าง ควรอยู่ในราว 345 เมตร
การวัดพื้นที่
1 ไร่เทียบเท่ากับ 2.4 หมู่ (亩) เพราะ1ไร่มี 1,600 ตารางเมตร ส่วน1หมู่ 亩 มีเพียง 666.66 ตารางเมตร
หน่วยเงิน
1000 อีแปะ คือ 1 ตำลึงเงิน
10,000 ตำลึงเงิน = 1 ตำลึงทอง
มารตราการวัดชั่งตวงน้ำหนัก
ผิง ping : ๑ ผิง = ๓.๓ เมตร
เค่อ ke : 1 เค่อจะกินเวลาประมาณเกือบ 15 นาที
จิน jin : ชั่ง : 1 ชั่ง = 500 กรัม
ฉื่อ chi : 1 ฉื่อ = 10 นิ้ว = 22.7 - 23.1 เซนติเมตร
ลี้ li : 1 ลี้ = 500 เมตร
ชั่วยาม shichen : สือเชิน คือหน่วยเรียกเวลา 1 ชั่วยาม = 2 ชั่วโมง
ทั่วทั้งแคว้นอ้ายคงมีเพียงบุรุษเช่นหัวหน้ากลุ่มต้าหยางเท่านั้นที่ยอมแต่งเข้าบ้านภรรยา เพราะนั่นมันเท่ากับว่าเขายอมอยู่ใต้บารมีของภรรยา และยอมให้ภรรยาเป็นใหญ่ ทว่าบุรุษที่อกหักมาสิบครั้งอย่างเขา ไม่อยากจะอกหักเป็นครั้งที่สิบเอ็ดแล้วนี่นา อีกทั้งคุณหนูใหญ่กู้หลินฟางเองก็ใจตรงกัน เรื่องธรรมเนียมอะไรนั่นก็ช่างมันเถิด เทียนจื่อซานแทบจะถูกเรียกว่าเป็นบุรุษอาภัพในรัก ด้วยเพราะเวลาไปเกี้ยวสตรีบ้านไหน จุดจบก็หนีไม่พ้นการถูกปฏิเสธ จนกระทั่งเขาได้มาเจอกับกู้หลินฟาง ไม่แน่ใจว่าเป็นเมตตาจากท่านเทพบนสวรรค์ หรือเทพมารต้องการให้เขาทำลายสถิติอกหักอีกครั้งกันแน่ แต่เขา... เทียนจื่อซานไม่ขอยอมแพ้ และจะเกี้ยวคุณหนูใหญ่กู้หลินฟางอีกสักครั้ง
เธอตายจากโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้ จู่ ๆ ดันได้กลับมาเกิดใหม่เป็นสาวน้อยวัยห้าขวบ ฐานะยากจนที่ถูกญาติมิตรรังแก ถึงเวลาแล้วที่ฉินหลิวซีจะถลกแขนเสื้อรื้อฟื้นโชคชะตา "ข้าจะพาครอบครัวร่ำรวยมั่งคั่งให้ได้"
จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - -
จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - -
จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - - ตัวอย่างในเล่ม “ดูสิ ฉันจะได้อะไร” หลิวตานถูมืออย่างตื่นเต้น ก่อนจะบอกระบบว่าเริ่มสุ่มวงล้อ “ระบบเริ่มสุ่มวงล้อได้เลย” ทันใดนั้นหน้าจอโปร่งใสก็ปรากฏตรงหน้าเธอ ดวงตาคู่งามมองวงล้อสุ่มของรางวัลที่หมุนไปมาด้วยความประหม่า เพราะมันเป็นของรางวัลชิ้นแรกที่เธอคาดหวัง ไม่รู้มันจะสามารถทำอะไรได้บ้าง แต่ขอให้ช่วยสี่แม่ลูกได้ยิ่งดี “เมล็ดพันธุ์ผักกาด?” หลิวตานมองภาพตรงหน้าแล้วได้แต่น้ำตาตกในเมื่อของรางวัลที่แลกมากับการไปตัดหญ้ามาให้หมูคือเมล็ดพันธุ์ผักกาด!
ไป่จวิ้นเดิมทีก็เป็นเพียงทหารชั้นผู้น้อย ที่ไม่น่าจะได้รับความสนใจอะไรในกองทัพ ทว่าเมื่อสงครามจบลง และกลับมาพร้อมชัยชนะ เขาจึงได้เงินรางวัลมาจำนวนหนึ่ง ส่วนหนึ่งเพื่อปลอบขวัญที่ต้องจากบ้านไปเป็นระยะเวลานาน อีกส่วนก็เป็นสินน้ำใจตอบแทนที่เขาต้องกลายเป็นคนที่ไม่ต่างจากคนพิการ เดินเหินไปไหนก็ไม่คล่องแคล่วเช่นเมื่อก่อน และเรื่องนี้ก็สร้างความกลัดกลุ้มให้กับมารดาของเขาอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะส่งเทียบดูตัวไปสักกี่ครั้งต่างก็ถูกปฏิเสธ ทว่ามีเพียงสตรียากจนที่เป็นเพียงบุตรสาวของชาวนาจน ๆ คนหนึ่งเท่านั้นที่ยินยอมแต่งเข้าสกุลไป่ แรกทีเดียวไป่จวิ้นไม่ใคร่จะชอบใจภรรยาของตนนัก ด้วยคิดว่านางยินยอมแต่งกับชายพิการเช่นเขาเพียงแค่เพราะเรื่องเงินทอง แต่ความอ่อนโยนและมุ่งมั่นที่จะดูแลเขาของ จางอวี๋จิง’กลับค่อย ๆ ละลายน้ำแข็งในใจของชายหนุ่มลงอย่างช้า ๆ ส่วนทางจางอวี๋จิง นางก็เริ่มมองเห็นความอบอุ่นของสามีที่นางไม่คิดว่าจะรักได้คนนี้เพิ่มขึ้นทุกวัน และนางก็ได้ตั้งปณิธานอันแน่วแน่ว่า จากนี้ไปจะขอเป็นภรรยาที่ซื่อสัตย์ต่อเขาไปจนชั่วชีวิต สามีของนางพิการเดินเหินไม่สะดวกแล้วอย่างไร นางจะขอเป็นแขนขาให้แก่เขาเอง
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
ว่าที่ลูกสะใภ้ไฟแรงสูงเธอต้องเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับว่าที่พ่อผัวหม้ายร้างเมียมานายอรมปี
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ