เพราะปาฏิหาริย์ทำให้ กัญญา' ครูสาวผู้แสนดีฟื้นขึ้นมาในร่างของ 'สรานี' ภรรยาที่ร้ายกาจของคุณนาวี เธอไม่คิดมาก่อนว่าเขาเกลียดภรรยาตัวเองมาก และพยายามหาทางหย่าเพื่อจบความสัมพันธ์อัน toxic นี้ "คุณนาวี" เสียงเรียกในลำคอกับรอยยิ้มเบาบางที่ค่อยๆ ปรากฏบนใบหน้าไฮโซสาว ภายในใจอยากตะโกนบอกให้เขารู้ว่าเธอไม่ใช่สรานี แต่เธอคือครูต่ายคนที่เขาช่วยหาบน้ำที่หมู่บ้านบนดอย แต่กลัวว่าเขาจะไม่เชื่อ ทว่าสีหน้าท่าทางของหญิงสาวที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลค่อนข้างแปลกจนทำให้ชายหนุ่มตรงหน้าถึงกับคิ้วขมวดมุ่น ที่ผ่านมาสรานีไม่เคยยิ้มให้เขาแบบนี้มาก่อน "ไหนว่าความจำเสื่อมไง ก็จำชื่อพี่ได้นี่" คำพูดที่ดูดุดันเย็นชาทำให้กัญญาชะงักไปชั่วขณะ คุณนาวีที่เธอรู้จักเป็นผู้ชายที่สุภาพ อ่อนโยน ไม่น่าพูดจาแข็งกร้าวราวกับเธอเช่นนี้ ที่สำคัญสายตาของเขาไม่เหมือนสายตาของคนใจดีที่เคยช่วยเหลือทุกคนบนหมู่บ้านบนดอย มีเรื่องอะไรที่ทำให้เขาเปลี่ยนไปกันนะ "คือฉัน" "ถ้าไม่ได้ความจำเสื่อมก็ดี งั้นก็เซ็นใบนี้ให้พี่ที" เขาหยิบใบหย่าที่พกติดตัวขึ้นมาวางบนโต๊ะรับแขกเพื่อให้สรานีเซ็น ห๊ะ! อะไรกันเนี่ย? หญิงสาวถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก จู่ๆ มาให้เซ็นใบหย่า แล้วเธอจะเซ็นได้อย่างไรในเมื่อเธอไม่ใช่คุณสรานี มันตัดสินใจแทนกันได้ที่ไหน ซวยชะมัดที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์บ้าๆแบบนี้ ตัวละครหลัก ‘นาวี’ ลูกชายวัยสามสิบของหม่อมหลวงอรัญเขาเป็นชายหนุ่มลูกผู้ดีผู้เพียบพร้อมทุกอย่าง ทว่าถูกบังคับให้แต่งงานกับ ‘สรานี’ ลูกสาวเจ้าสัวสายปาร์ตี้ซึ่งนิสัยต่างกันราวฟ้ากับเหว ความสัมพันธ์อัน TOXIC ทำให้เขาเกลียดเธอจนต้องขอหย่าให้ได้ ทว่าสรานีดันรถชนความจำเสื่อม เธอกลายเป็นอีกคน…. ‘กัญญา’ นักศึกษาจบใหม่วัยยี่สิบสามเธอขึ้นฟื้นขึ้นจากความตายมาอยู่ในร่างของคุณสรานี ก่อนหน้านี้เธอเป็นครูอาสาจากบนดอย อัธยาศัยดีหน้าตาน่ารัก สุภาพ อ่อนโยน มีโรคหัวใจเป็นโรคประจำตัว
จังหวัดนครปฐม
บริษัท ARAN ORCHIDS
หลังจากการประชุมกับลูกค้าชาวสวิตเซอร์แลนด์เรื่องการพัฒนาสายพันธุ์และส่งออกกล้วยไม้ รวมถึงไม้ดอกไม้ประดับหลากชนิดที่อยู่ในเครือบริษัท ARAN ORCHIDS หรือที่คนทั่วไปรู้จักกันในนาม ‘อรัญฟาร์ม’ ซึ่งเป็นหนึ่งในอาณาจักรฟาร์มกล้วยไม้ที่ใหญ่ที่สุด
การประชุมกินเวลาหลายชั่วโมงและจบลงในเวลาสี่โมงเย็นทำให้ประธานบริษัทอย่างนาวีรู้สึกสมองล้าไม่ใช่น้อย เพราะต้องใช้ทักษะการเจรจาโน้มน้าวใจให้ลูกค้าตอบตกลงกับการดีลราคาขนส่งที่สมเหตุสมผล
นาวีเดินกลับเข้ามาภายในห้องทำงานส่วนตัวซึ่งมีคุณกุลเป็นเลขาหน้าห้องที่งานร่วมกันมาได้ห้าปี กำลังนำน้ำผลไม้พร้อมกับแฟ้มเอกสารสำคัญเข้ามาให้เจ้านายตัวเอง
“ท่านประธานคะ กุลนำเอกสารของแผนกประชาสัมพันธ์ที่ทำเรื่อง csr ของบริษัทเดือนหน้าที่หมู่บ้านบนดอยวางไว้ตรงนี้นะคะ”
“ขอบคุณครับ” เขาตอบเพียงสั้นๆ ก่อนจะนำเอกสารที่วางกองค้างไว้บนโต๊ะทำงาน เซ็นอนุมัติให้เสร็จสิ้นทีละเรื่องไป
นาวีเป็นประธานบริษัทในวัยสามสิบที่ทุกคนให้การยอมรับเรื่องของความสามารถในการบริหาร นอกจากนี้รูปลักษณ์ภายนอกยังทำให้สาวๆ หลงใหลได้ปลื้มไม่น้อย
เขาเป็นคนที่สูงราวๆ 185 เซนติเมตร แต่งตัวเนี้ยบตั้งแต่หัวจรดเท้า มักใส่สูทที่สั่งตัดจากห้องเสื้อเก่าแก่ในลอนดอนอย่างประณีต
เส้นผมดำขลับทุกเส้นถูกเซ็ทเป็นอย่างดี ไม่มีตกหล่นลงมาบนหน้าผากแม้แต่เส้นเดียว รวมถึงองค์ประกอบของเครื่องหน้าที่ตาคม จมูกโด่ง ริมฝีปากหนาได้รูป หล่อสมกับเป็นลูกหลานตระกูลผู้ดีเก่า ที่สำคัญเหล้า บุหรี่ เครื่องดื่มมึนเมา นาวีไม่แตะเลยสักอย่าง
ในสายตาของเลขาสาว เจ้านายของเธอเป็นผู้ชายที่เพอร์เฟ็กต์ มีความเป็นสุภาพบุรุษให้เกียรติผู้หญิง ทุกครั้งที่นิตยสารไฮโซลงรูปเขาทีไร ยอดกดไลก์ถล่มทลายมักมาพร้อมกับคอมเมนต์
‘วาสนาใครหนอ…’
แต่ถึงอย่างนั้นนาวีก็ยังไม่ได้คบหาใครเป็นตัวเป็นตน ทุกคนรู้ดีว่าเขาเคยคบหากับคุณลิซ่าสาวไทยลูกครึ่งอังกฤษ เลิกราไปได้สี่ปี หลังจากนั้นเขาก็ไม่มีแฟนอีกเลย บ้างก็ลือกันว่าที่ไม่มีแฟนเพราะลืมแฟนเก่าไม่ได้จึงทำให้ชายหนุ่มผู้เพียบพร้อมอย่างเขาไม่ยอมเปิดใจให้ใครอีก
ผู้ชายที่ใจแข็งดั่งหินผาเวลาเจอมารยาหญิงมันก็ต้องมีใจอ่อนบ้างล่ะวะ
เลขาสาวรุ่นพี่ถอดเบลเซอร์ที่สวมทับด้านนอกออกเผยให้เห็นบราลูกไม้สีดำดันเนินหน้าอกใหญ่จนล้นทะลัก
ทันทีที่ท่านประธานเงยหน้าขึ้นมามอง ดวงตาคมเบิกกว้างด้วยความตกใจ ก่อนจะรีบเบนสายตาไปทางอื่นเพื่อเป็นการให้เกียรติคนตรงหน้า ร่างสูงตัดสินใจลุกจากเก้าอี้ก้มตัวลงเก็บเบลเชอร์และนำมาคลุมบ่าให้เลขาสาวดังเดิม
“คุณกุล ถอดเบลเซอร์ทำไมครับ?”
“ให้กุลเป็นผู้หญิงของคุณนาวีได้ไหมคะ กุลสัญญาว่าดูแลคุณนาวีให้ดีที่สุด กุลรักคุณนาวีนะคะ” ยังไม่ทันที่นาวีจะอ้าปากปฏิเสธ คุณกุลถือวิสาสะคว้าต้นคอของคุณนาวีลงมาประทับจูบพลางบดขยี้ไปมาเพื่อกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ร่วม
มือบางเลื่อนลงไปข้างล่างสัมผัสลูบคลำกับแกนกายที่ถูกกางเกงแบรนด์หรูปกปิดไว้ ถึงนาวีจะเป็นสุภาพบุรุษสักแค่ไหน แต่เขาก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูนที่จะสามารถอดทนกับการยั่วยวนของหญิงสาวหุ่นเซี๊ยะหน้าอกใหญ่ตรงหน้าได้
เขาเอื้อมมือไปลูบบ่าของเธอและค่อยๆ เลื่อนลงไปจนเกือบถึงหน้าอก ก่อนที่หยุดชะงัก
นาวีพยายามข่มใจอย่างถึงที่สุดเพื่อไม่ให้เรื่องเลยเถิดมากกว่านี้ เขาพอจะคาดเดาได้ว่าถ้ามีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับหญิงสาวตรงหน้าแค่เพียงครั้งเดียว เธอจะคงไม่หยุดแค่นี้แน่!
ฉะนั้นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลมเสียเนิ่นๆ จะเป็นผลดีต่อตัวเขาเองมากที่สุด
“พอเถอะครับ!”
เลขาสาวถึงกับหน้าเจื่อนที่ไม่สามารถยั่วยวนเจ้านายได้สำเร็จ เธอพยายามอีกครั้งแต่เขากลับผลักเธอออกห่าง
“คุณนาวีคะ ที่ผ่านมากุลทุ่มเททำงานกับคุณมาหลายปีไม่มีวันไหนที่กุลทำงานขาดตกบกพร่อง คุณให้โอกาสกุลเป็นมากกว่าเลขาไม่ได้หรอคะ”
“ขอบคุณนะครับสำหรับการทุ่มเทแรงกายแรงใจในการทำงานเพื่อบริษัท จากนี้ไปคุณจะได้พักผ่อนเต็มที่ ที่สำคัญคุณจะได้รับเงินชดเชยจากบริษัทตามที่กฎหมายกำหนด”
“คะ…คุณนาวีไล่กุลออก?”
“ผมขอโทษที่ไม่สามารถทำงานร่วมกับคุณได้อีกต่อไป”
คำสั่งจากท่านประธานอย่างเขาถือเป็นที่สิ้นสุด นาวีหยิบเบลเซอร์ที่ร่วงลงพื้นขึ้นมาสวมทับให้เลขาสาวเป็นครั้งที่สอง นี่คือสิ่งสุดท้ายที่เขาจะทำให้เลขารุ่นพี่ในฐานะประธานบริษัท จากนั้นนาวีเดินออกจากห้องทำงานโดยที่ไม่หันกลับมองคนที่ยืนสะอึกสะอื้นอีกเลย
ระหว่างลงลิฟต์นาวีคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกงพบว่าเขาลืมนัดกับคุณแม่ไปเสียสนิท ที่สำคัญข้อความของท่านยังดูแปลกๆ เหมือนกำลังให้เขาเตรียมตัวเตรียมใจรับมือกับบางสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
ปัณกรณ์'ต้องการที่ดินของ'ณิชา' เขาทำทุกอย่างโดยไม่สนวิธีการ วันที่เธอรู้ตัวว่ากำลังท้องและความจริงถูกเปิดเผยว่าเขาเข้ามาเพื่อประโยชน์ทำให้เธอเดินจากเขาไปด้วยความเสียใจ กระทั่งวนมาเจอกันอีกครั้ง! ตัวอย่าง "แม่ครับ โปรดจะได้มีพ่อเหมือนเพื่อนคนอื่นไหมครับ" "น้องโปรดครับ อยู่กับแม่ คุณตา คุณยาย แล้วก็น้าชยานิด มีความสุขไหมครับ" "มีครับ" "ถ้าอย่างนั้นเราอยู่กันแค่นี้ได้ไหมลูก" "ได้ครับ" ลูกชายสุดที่รักพยักหน้าหงึกเพราะรู้ว่ายังไงแม่ก็คงพาพ่อมาหาตัวเองไม่ได้ ภาพหญิงสาวจูงลูกชายที่สะพายกระเป๋าเป้ออกจากโรงเรียนทำให้ปัณกรณ์ที่นั่งสังเกตการณ์ในรถขมวดคิ้วชนกัน ความเคลือบแคลงสงสัยเริ่มก่อตัวขึ้นเรื่อย ๆ หากมองดูดี ๆ เด็กผู้ชายคนนั้นหน้าตาเหมือนเขาตอนเด็กไม่มีผิด
คุณปู่ตายทิ้งมรดกเป็นไร่สุดโทรม 500 ไร่ให้สาริน แต่ความรู้ไม่มีต้องปลอมตัวไปฝึกงานที่ไร่คู่แข่งกลับกลายเป็นการป่วนหัวใจของเขมราชเจ้าของไร่ที่ขึ้นชื่อว่า 'ดุยิ่งกว่าราชสีห์’ "การทำงานในไร่อาจจะไม่ง่ายอย่างที่คิด แต่การเรียนรู้เรื่องหัวใจ อาจจะยากยิ่งกว่า" ......................................................... หลังจากเขมราชฟื้นขึ้นจากการถูกตีบริเวณศีรษะ เขาหันไปถามพยาบาลประจำไร่สองคนด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวว่ายัยตัวต้นเรื่องที่ทำให้เขาบาดเจ็บอยู่ไหนซึ่งพวกเธอก็ชี้ไปด้านหน้าออฟฟิศ "เธอ..." เขาเอ่ยเสียงต่ำ แต่แฝงไปด้วยความเยือกเย็น ตอนนี้ชีวิตของเธอไม่ต่างจากลูกไก่ในกำมือเขา "ฉะ ฉัน... ฉันขอโทษค่ะ ก็เห็นคุณก้ม ๆ เงย ๆ คิดว่ามาขโมยของ" ริมฝีปากบางพยายามเอ่ยอธิบายทั้งที่ยังตื่นตกใจ เขมราชกัดฟันกรอด กำมือแน่น มองหน้าเธออย่างไม่เชื่อสายตา "ขโมยบ้าอะไร ฉันเป็นเจ้าของไร่ภูเคียงชล!" สารินหน้าซีด เธอรู้ว่าตัวเองทำพลาดครั้งใหญ่ ทีนี้จะทำอย่างไรดี หวังว่าเขาคงไม่ไล่ตะเพิดเหมือนที่คิดไว้ ทว่าคำพูดของเขาดันตรงกับสิ่งที่ตรงคิดไว้เป๊ะ "ออกไปจากไร่ฉันเดี๋ยวนี้" ซวยแล้วเขาไล่เธอจริง ๆ ด้วย สารินต้องรีบคิดหาวิธีขออยู่ต่อเพราะเธอไม่อยากสูญเสียโอกาสในการเรียนรู้การทำไร่ ในที่สุดสารินก็ทรุดตัวลงกอดขาของเขา "ฮืออออ คุณเขมราช!!! ได้โปรดเถอะค่ะ ฉันต้องการงานนี้จริง ๆ ฉันมาจากกรุงเทพ โดนไล่ออกจากงานแม่บ้านทำให้ต้องหางานที่นี่ ช่วยให้โอกาสฉันด้วย ฮึก ฮืออออออ" สารินแสร้งทำเป็นร้องไห้โฮทั้งที่ไม่มีน้ำตาสักหยด ไม่ว่าจะสาธยายความน่าสงสารของตัวเองมากแค่ไหน เขมราชก็ไม่สนใจ ตอนนี้เธอเหมือนคนบ้าในสายตาเขา รวมถึงคนงานคนอื่นที่มองมาอีกด้วย ตัวละครหลัก เขมราช ครองกิตติประเสริฐ หรือนายเขม อายุ 26 ปี เจ้าของไร่ภูเคียงชล หล่อ สูง หน้าคมเป็นผู้มีอิทธิพลและกว้างขวางในเขตภาคเหนือ เขาเป็นเจ้านายใจดี อ่อน โยนมีเมตตากับลูกน้อง ตั้งแต่อกหักรักจากนางเอกสาวทำให้เขาต้องเปลี่ยนเป็นคน ไม่ดูแลตัวเอง และดุขึ้นกว่าเดิม รอวันที่มีใครสักคนมาทลายกำแพงหัวใจ สาริน ปิ่นประดับเพ็ญ หรือ สา อายุ 23 ปี ดีไซเนอร์สาวถังแตกจากนอเวย์ ได้รับมรดกเป็นไร่ภิรมย์รินจากคุณปู่ แต่ทำไร่ไม่เป็นทำให้ต้องปลอมตัวไปฝึกงานในไร่คู่แข่งซึ่งการเจอกันระหว่างสารินกับเขมราชทำให้เขาสงสัยในตัวเธอและหาทางจับผิดสารพัด
"เควิน" เจ้าพ่อมาเฟียและนักสะสมของเก่าผู้ทรงอิทธิพลได้มาเจอกับ "นาลัน" นักศึกษาสาวฐานะยากจนที่ได้นำของปลอมมาขายให้เขา หลังจากที่ถูกจับได้ทำให้นาลันตกอยู่ในที่นั่งลำบาก เควินยื่นข้อเสนอให้นาลันจดทะเบียนสมรสกับเขาเพื่อแลกกับการที่ไม่ต้องมีคดีความ
คุณหนูไฮโซยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เขารัก แต่ก็สุดท้ายก็ไม่ได้ผล เธอยอมแพ้ และเลือกเดินจากไปพร้อมของขวัญที่เขาทิ้งไว้ให้คือลูกในท้อง! ตัวอย่าง อติกานต์มองไกลๆก็รู้สึกคลับคล้ายคลับคราผู้หญิงคนนั้นอย่างบอกไม่ถูก... มือหนาถอดแว่นกันแดดออก เขาขยี้ตาอีกครั้ง และพบว่าผู้หญิงที่กำลังคุยกับชาวต่างชาติคนนั้นคืออิงชนา! เธอก็กำลังท้องอยู่... ที่สำคัญเธอท้องโตจนใกล้จะคลอดแล้วด้วย! อติกานต์แทบทรุดเมื่อรู้ว่าอิงชนากำลังท้อง คำถามมากมายผุดขึ้นเต็มหัวไปหมด ทำไมเธอถึงไม่บอกเขาสักคำ ทั้งๆที่เด็กในท้องก็คือลูกเขาเช่นกัน!
'คุณหมอเกี่ยวก้อย' บุกไปตามน้องชายที่ทำตัวเกเรเป็นลูกน้อง 'พุฒิธร' นักเลงหน้าหล่อขวัญใจสาวๆ แต่ตามไปตามมาดันพลาดท้องซะงั้น! ตัวอย่าง ขณะที่กำลังจะก้าวออกจากร้านกาแฟ ประตูร้านถูกผลักออกไปอย่างแรงโดยไม่ทันระวัง หมอเกี่ยวก้อยชนเข้ากับใครบางคนอย่างจัง "ขอโทษค่ะ!" เธอรีบกล่าวคำขอโทษทันทีทำให้เอกสารที่อยู่ในมือปลิวกระจัดกระจายไปทั่วพื้น "ไม่เป็นไรครับ ผมช่วยเก็บ" เสียงของชายคนนั้นฟังดูสุภาพและใจดีเกินกว่าที่เธอคาดไว้ เขาก้มลงช่วยเก็บเอกสาร เมื่อเงยหน้าขึ้นสบตากัน หัวใจของเธอแทบหยุดเต้น พุฒิธร! เขาคือพ่อของลูก! คนที่เธอพยายามหลีกเลี่ยงมาตลอดหลายปี ร่างสูงสวมเสื้อเชิ้ตแบรนด์หรู กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าหนัง ดูภูมิฐานราวกับคนละคนกับในอดีต เขาเคยเป็นนักเลงทวงหนี้แห่งบ้านดอนนาหอมแน่เหรอ "คุณ...มาที่นี่ได้ยังไง?" หมอเกี่ยวก้อยถามเสียงสั่น
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
ว่าที่ลูกสะใภ้ไฟแรงสูงเธอต้องเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับว่าที่พ่อผัวหม้ายร้างเมียมานายอรมปี
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
เฉียวลู่ นักแสดงแถวหน้าของจีนมีข่าวฉาวออกมาทำให้ทางต้นสังกัดของเธอสั่งให้เธองดออกสื่อชั่วคราว จึงเป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับคนงานยุ่งตลอดทั้งปีของเธอที่จะได้พักผ่อน เฉียวลู่เดินทางกลับบ้านเกิดของเธอและการกลับไปครั้งนี้ทำให้ชีวิตของเฉียวลู่เปลี่ยนไปตลอดการ ฉีหมิงเยี่ยน อนุชาองค์เล็กของฮ่องเต้แห่งแคว้นฉี ถูกลอบปลงพระชนม์ระหว่างที่เดินทางมาทำหน้าที่เจรจาสงบศึกกับเเเคว้นเซียว เพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสทำให้ชินอ๋องความจำเสื่อมและได้รับการช่วยเหลือจากพ่อลูกตระกูลเฉียว เซียวยิ่น ฮ่องเต้แคว้นเซียวมีพระสนมมากมายเเต่กลับไม่สามารถให้กำเนิดพระโอรสได้โหรหลวงได้ทำนายเอาไว้ว่า ในอนาคตองค์รัชทายาทที่แท้จริงจะกลับมาเซียวยิ่นจึงมีรับสั่งให้ทหารออกตามหาพระโอรสและอดีตฮองเฮาของตนอย่างลับๆ ฉินอี้เหยา ได้รับบาดเจ็บสาหัสร่างลอยตามแม่น้ำมาพร้อมกับเด็กทารกในอ้อมแขนเมื่อฟื้นขึ้นมานางจึงแสร้งจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ เพื่อให้นางและบุตรชายมีชีวิตรอดต่อไป