แล้วเสียงของคินก็ดังขึ้น เย็นเยียบราวกับน้ำแข็งขั้วโลก
“เลิกดราม่าซะทีเถอะ ก็น่าจะแค่ขับรถเฉี่ยวขอบทางล่ะสิ ฟ้าต้องการฉัน”
เขาวางสาย
เขาเลือกผู้หญิงคนนั้นแทนที่จะเป็นฉัน แทนที่จะเป็นพี่ภรรยา และแทนที่จะเป็นลูกในไส้ของตัวเอง
ฉันตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาลพร้อมกับความจริงสองอย่าง
พี่สาวของฉัน ชบา นักเปียโนชื่อดังระดับโลก จะไม่มีวันได้เล่นเปียโนอีกต่อไป
และลูกชายของเรา ลูกที่ฉันอุ้มท้องมาแปดเดือนเต็ม... ได้จากไปแล้ว
พวกเขาคิดว่าเราเป็นแค่ความเสียหายข้างทางในชีวิตอันสมบูรณ์แบบของพวกเขา
แต่พวกเขากำลังจะได้รู้ว่า... เราคือการเอาคืน
บทที่ 1
มุมมองของแก้ว:
สายแรกที่โทรหาสามีเข้าฝากข้อความ
สายที่สองก็เช่นกัน
ในสายที่สาม ขณะที่แสงไฟหน้าขยายใหญ่ขึ้นจนกลายเป็นดวงอาทิตย์ที่แผดเผา ทำให้เราตาพร่าอยู่ข้างถนนเปลี่ยว ในที่สุดฉันก็เข้าใจ
ชีวิตแต่งงานของฉันมันเป็นเรื่องโกหก
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ฉันกับชบายังเป็นดาวเด่นที่เปล่งประกายอยู่บนหน้าสังคมของนิตยสารไฮโซในกรุงเทพฯ
สองพี่น้องตระกูลจิระอนันต์ ผู้เป็นที่อิจฉาของผู้หญิงทุกคนที่ฝันถึงตอนจบแบบเทพนิยาย
เราแต่งงานกับฝาแฝดตระกูลคณารักษ์ คินกับคราม ทายาทของอาณาจักรธุรกิจที่สามารถซื้อขายประเทศเล็กๆ ได้
ชีวิตของเราควรจะมั่นคง อยู่ในกรงทองที่สะดวกสบายและเต็มไปด้วยความรัก
แต่คืนนี้ สีทองได้ลอกออก เผยให้เห็นเพียงเหล็กราคาถูกที่ขึ้นสนิม
“พวกเขาไม่ยอมหยุดรถเลย แก้ว” ชบากระซิบ เสียงของเธอตึงเครียดด้วยความกลัวที่สะท้อนความรู้สึกของฉัน
มือของเธอ มือที่มีพรสวรรค์ซึ่งประกันไว้ด้วยเงินหลายล้านบาท ที่สามารถบรรเลงเปียโนได้ไพเราะจนคนฟังหลั่งน้ำตา บัดนี้กำลังกำพวงมาลัยรถที่จอดนิ่งอยู่แน่น
ฉันกำโทรศัพท์ไว้แน่น นิ้วโป้งจ่ออยู่เหนือชื่อของคิน
ความคลื่นไส้ที่รุนแรงและขมปร่าตีขึ้นมาในลำคอ ไม่เกี่ยวกับอายุครรภ์แปดเดือนที่ทำให้ฉันเคลื่อนไหวอุ้ยอ้ายเลย
ลูกน้อยในท้องของฉัน ชีวิตเล็กๆ ที่ดิ้นเบาๆ เตะเข้าที่ซี่โครงของฉันราวกับสัมผัสได้ถึงความตื่นตระหนกของแม่
รับสิ คิน ได้โปรด รับสายที
กระแสจิตที่เคยเชื่อมถึงกัน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นกระแสธารแห่งความคิดและอารมณ์ที่สดใส ตอนนี้กลับเงียบสนิท
มันไม่ได้เป็นแบบนี้มาตลอด
ในช่วงแรก จิตใจของเขาเปิดกว้างสำหรับฉันเหมือนหนังสือที่เปิดอ่านได้ เต็มไปด้วยคำปลอบโยนและความรักที่รุนแรงหวงแหนซึ่งฉันเข้าใจผิดว่าเป็นการอุทิศตน
แต่พักหลังมานี้ โดยเฉพาะตั้งแต่ฟ้า น้องสาวต่างมารดาของเขากลับมา ความเชื่อมโยงของเราก็เริ่มขาดๆ หายๆ แล้วก็เงียบลง และตอนนี้... ก็ไม่มีอะไรเลย
มันเหมือนกับการตะโกนใส่ความว่างเปล่า
รถบรรทุกเร่งความเร็วขึ้น
มันไม่ได้หักหลบเพื่อเลี่ยงเรา
แต่มันตั้งใจพุ่งเข้าหาเรา
ลมหายใจของฉันสะดุด “ลองโทรหาครามอีกทีสิ” ฉันเร่งชบา เสียงสั่นเทา
เธอส่ายหน้า ข้อนิ้วของเธอขาวซีด “ฉันโทรแล้ว เขาพูดเหมือนคินเลย ว่าพวกเขายุ่งอยู่”
ยุ่ง
คำพูดนั้นเหมือนการตบหน้า
ยุ่งอยู่กับการปลอบใจฟ้าเพราะเธอทะเลาะกับแฟนเก่าเล็กน้อย
เสียงของคินจากการโทรครั้งล่าสุดที่สั้นและหงุดหงิดดังก้องอยู่ในหูของฉัน
“ให้ตายเถอะ แก้ว แค่ยางแบนจัดการเองไม่ได้เหรอ? ฟ้ากำลังแพนิก เธอสำคัญที่สุดตอนนี้”
ความต้องการของเธอ
เล็บหักคือโศกนาฏกรรมสำหรับฟ้า
การยกเลิกนัดชอปปิงคือวิกฤต
และสามีของฉันกับสามีของพี่สาว กลับปฏิบัติต่อเรื่องดราม่าไร้สาระของเธอราวกับเป็นเรื่องความมั่นคงของชาติ
ในขณะที่ภรรยาที่กำลังตั้งท้องของพวกเขาติดอยู่บนทางหลวงที่มืดมิดและถูกลืม
ตอนนี้แสงไฟหน้าสาดส่องจนหลีกเลี่ยงไม่ได้ เสียงเครื่องยนต์ดังสนั่นจนหูอื้อสะเทือนไปทั่วพื้นรถของเรา
ไม่มีเวลาพอที่จะออกไป ไม่มีเวลาพอที่จะทำอะไรได้นอกจากเตรียมตัวรับแรงกระแทกที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง
ชบากรีดร้องเรียกชื่อฉัน เสียงแหลมที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวถูกกลืนหายไปกับเสียงยางบดถนนและเสียงโลหะที่บิดเบี้ยวดังลั่น
หัวของฉันกระแทกเข้ากับกระจกข้างอย่างแรง
ความเจ็บปวดที่ขาวโพลนและทำให้ตาพร่าระเบิดขึ้นหลังดวงตา
โลกเอียง หมุนคว้าง แล้วทุกอย่างก็กลายเป็นเพียงบทเพลงแห่งความพินาศ
เสียงกระจกแตกละเอียด เสียงเหล็กบิดเบี้ยว และเสียงหอบหายใจของฉันเอง เมื่อแรงมหาศาลเหวี่ยงฉันกระแทกกับเข็มขัดนิรภัย
สายรัดบาดลึกเข้าไปในท้องที่นูนใหญ่ของฉันอย่างโหดร้าย
ความเจ็บปวดระลอกใหม่ที่น่าสะพรึงกลัวฉีกกระชากผ่านร่างของฉัน มันอยู่ต่ำและลึก
เป็นการบีบตัวที่รุนแรงจนแทบเป็นไปไม่ได้ มันขโมยลมหายใจของฉันไป
“ลูก” ฉันเค้นเสียงออกมา มือรีบกุมท้อง มันแข็งเป็นหิน “ชบา... ลูก”
แต่ชบาไม่ตอบ
เธอฟุบอยู่บนพวงมาลัย นิ่งสนิทผิดปกติ
คราบสีเข้มกำลังแผ่ขยายบนแขนเสื้อของเธอ และมือที่สวยงามและเปี่ยมพรสวรรค์ของเธอบิดเบี้ยวในมุมที่ทำให้ฉันคลื่นไส้
รถบรรทุกคันนั้น เมื่อทำหน้าที่ของมันเสร็จสิ้น ก็เร่งความเร็วหายไปในความมืดโดยไม่เหลียวแล
เราอยู่กันตามลำพัง
เลือดไหลอาบ
ร่างกายแหลกสลาย
และความเงียบจากปลายสายของสามีฉันดังยิ่งกว่าเสียงซากรถเสียอีก
ฉันคลำหาโทรศัพท์ นิ้วมือลื่นเพราะของเหลวอุ่นๆ
หน้าจอแตก แต่ยังคงมีแสงสว่าง
ฉันกดเบอร์ของคินอีกครั้ง สวดภาวนาต่อพระเจ้าที่ฉันไม่แน่ใจว่ายังเชื่ออยู่อีกต่อไปหรือไม่
มันดังหนึ่งครั้ง สองครั้ง
แล้วก็มีเสียงของเขา ไม่ใช่เสียงห่วงใย แต่เป็นเสียงรำคาญ
“แก้ว ฉันบอกแล้วไงว่าอยู่กับฟ้า มีอะไรสำคัญนักหนาถึงต้องโทรมาไม่หยุด?”
เสียงสะอื้นหลุดออกจากลำคอของฉัน ดิบเถื่อนและสิ้นหวัง
“คิน... อุบัติเหตุ... เราถูกชน... ชบาเจ็บ ฉันว่าเธอสลบไปแล้ว และลูก... ลูกเป็นอะไรก็ไม่รู้”
มีความเงียบชั่วครู่
เพียงเสี้ยววินาที ส่วนที่โง่เขลาและไร้เดียงสาในตัวฉันคาดหวังว่าจะได้ยินเสียงตื่นตระหนก ได้ยินเขาสั่งการเสียงดังลั่น ได้รู้สึกถึงความห่วงใยของเขาที่พุ่งผ่านกระแสจิตของเรา
แต่กลับได้ยินเสียงของฟ้าอยู่เบื้องหลัง เป็นเสียงกระซิกที่น่าสมเพชและเสแสร้ง
“คินคะ ฟ้าปวดหัวจังเลย เหมือนจะอ้วกเลยค่ะ”
น้ำเสียงของคินอ่อนลงทันที เป็นเสียงพึมพำอ่อนโยนที่ตั้งใจให้เธอได้ยินเท่านั้น
“ไม่เป็นไรนะฟ้า พี่อยู่นี่แล้ว หายใจเข้าลึกๆ”
เขากลับมาคุยกับฉัน เสียงเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง
“นี่ เลิกทำตัวเป็นนางเอกเจ้าน้ำตาซะทีเถอะ ก็น่าจะแค่ขับรถเฉี่ยวขอบทางล่ะสิ โทรเรียกช่างสิ ฉันทิ้งฟ้าไปตอนนี้ไม่ได้ เธอต้องการฉัน”
“นางเอกเจ้าน้ำตา?” คำพูดนั้นมันช่างไร้สาระและโหดร้ายเหลือเกิน มันรู้สึกเหมือนโดนตบอีกครั้ง
“คิน รถพังยับเลยนะ! ฉันเลือดออก! ได้โปรดเถอะ คุณต้องช่วยเรา!”
“เธอชอบทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องของตัวเองเสมอเลยนะ? ฟ้าเป็นคนเปราะบาง ไม่เหมือนเธอ จัดการเองแล้วกัน และไม่ต้องโทรมาอีก นอกจากว่าโลกจะแตกจริงๆ”
สายถูกตัดไป
เขาวางสาย
เขาเลือกผู้หญิงคนนั้น
เลือกเธอแทนที่จะเป็นฉัน
แทนที่จะเป็นพี่ภรรยา
แทนที่จะเป็นลูกในไส้ของตัวเอง
ความจริงถาโถมเข้ามา เย็นและหนักอึ้งราวกับผ้าคลุมศพ
นี่ไม่ใช่แค่การละเลย
นี่คือการทอดทิ้งโดยเจตนา
เราไม่ใช่คนสำคัญของเขา
เราไม่ได้อยู่ในรายชื่อของเขาด้วยซ้ำ
คลื่นแห่งความเจ็บปวดที่รุนแรงยิ่งกว่าความเจ็บปวดทางกายใดๆ ซัดสาดเข้ามา
ฉันมองไปที่ชบาที่นิ่งเงียบ แล้วก้มลงมองท้องที่แข็งเกร็งของฉัน ที่ซึ่งการดิ้นอย่างบ้าคลั่งได้หยุดลงแล้ว
ความเปียกชื้นที่น่าสะพรึงกลัวกำลังซึมผ่านชุดของฉัน
สีแดง
แดงฉานไปหมด
เด็กที่ฉันอุ้มท้องมาแปดเดือน เด็กที่ฉันรักด้วยทุกอณูของชีวิต กำลังหลุดลอยไปจากฉัน
และพ่อของเขาก็ไม่สนใจใยดี
น้ำตาไหลอาบใบหน้า ร้อนและไร้ประโยชน์
ฉันพยายามเอื้อมมือไปหาชบา พยายามทำอะไรสักอย่าง แต่ร่างกายของฉันรู้สึกเหมือนเต็มไปด้วยตะกั่ว
สติของฉันเริ่มเลือนลาง ความมืดมิดกำลังกวักมือเรียก
ในวินาทีนั้น ขณะที่นอนอยู่ในซากรถ ซากพี่สาว และซากชีวิตของฉัน ฉันได้ให้คำสัตย์ปฏิญาณ
ถ้าฉันรอดไปได้ คิน คณารักษ์จะต้องชดใช้
พวกเขาทุกคนจะต้องชดใช้
ความคิดสุดท้ายของฉันไม่ใช่เรื่องของสามี แต่เป็นเรื่องของลูกที่ฉันกำลังจะสูญเสียไป
ลูกชายตัวน้อยของฉัน
เสียงกรีดร้องเงียบๆ เพื่อเขาดังก้องอยู่ในซากปรักหักพังของหัวใจฉัน
ในที่สุดโลกก็ดับมืดลง