ดาวน์โหลดแอป ฮิต
หน้าแรก / นิยายสั้น / ทายาทหญิงหวนคืน ผู้ไม่ใช่ เอพริล เมย์โย คนเดิม
ทายาทหญิงหวนคืน ผู้ไม่ใช่ เอพริล เมย์โย คนเดิม

ทายาทหญิงหวนคืน ผู้ไม่ใช่ เอพริล เมย์โย คนเดิม

5.0

เจ็ดปีเต็มที่ฉันยอมสละชีวิตทายาทตระกูลใหญ่ เพื่อมาอยู่ในบ้านหลังเล็กๆ กับผู้ชายที่เคยช่วยชีวิตฉันไว้ และลูกชายของเรา ฉันเลือกความรัก... ทิ้งอาณาจักรไว้เบื้องหลัง แต่ทางเลือกนั้นกลับพังทลายลงในคืนที่เขากลับบ้านมาพร้อมกับกลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงคนอื่น เขาเรียกชู้รักของเขาว่า "การควบรวมธุรกิจ" แต่พาดหัวข่าวกลับเล่าเรื่องจริงทั้งหมด เขากำลังเลือกอำนาจ... ทิ้งครอบครัวของตัวเอง แม่ของเขาเรียกเราไปที่คฤหาสน์ของตระกูล เพียงเพื่อประกาศว่าเมียน้อยของเขากำลังตั้งท้อง "ทายาทโดยชอบธรรมเพียงคนเดียว" ต่อหน้าทุกคน เธอยื่นข้อเสนอให้ฉันทำงานเป็นคนใช้ และบอกว่าลูกชายของฉันจะอยู่ที่นี่ต่อได้ในฐานะเด็กกำพร้าที่รับมาเลี้ยง ส่วนคู่ชีวิตของฉัน ผู้ชายที่ฉันยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อเขา กลับยืนอยู่ข้างๆ แม่ของเขาและไม่พูดอะไรสักคำ ในขณะที่แม่ของเขากำลังลบเราสองคนแม่ออกจากชีวิตของเขาต่อหน้าสาธารณชน ลูกชายวัยห้าขวบของฉันเงยหน้าขึ้นมองฉัน เสียงของเขาสั่นเทา และถามคำถามที่บดขยี้หัวใจชิ้นสุดท้ายของฉันจนแหลกละเอียด "แม่ครับ... ถ้าผู้หญิงคนนั้นกำลังจะมีน้อง... แล้วผมล่ะครับ... ผมเป็นอะไรเหรอครับ?" แต่ฟางเส้นสุดท้ายขาดสะบั้นลงในวันเกิดของเขา เมียน้อยของเขาหลอกให้เราไปร่วมงานหมั้นของพวกเขา ที่นั่น... เขาผลักลูกชายของเราจนล้มลงกับพื้นและปฏิเสธสายเลือดของตัวเอง ขณะที่ครอบครัวของเขากำลังรุมทำร้ายฉัน ลูกชายของฉันกลับร้องขอความช่วยเหลือจากเขา... โดยเรียกเขาว่า "คุณผู้ชาย" ในวินาทีนั้น ผู้หญิงที่เขารู้จักได้ตายไปแล้ว ฉันจูงมือลูกชาย เดินออกจากชีวิตเฮงซวยนั่นไปตลอดกาล และโทรศัพท์กลับไปยังอาณาจักรที่ฉันเคยทอดทิ้ง ถึงเวลาแล้วที่โลกใบนี้ต้องจดจำชื่อจริงของฉันอีกครั้ง

สารบัญ

บทที่ 1

เจ็ดปีเต็มที่ฉันยอมสละชีวิตทายาทตระกูลใหญ่ เพื่อมาอยู่ในบ้านหลังเล็กๆ กับผู้ชายที่เคยช่วยชีวิตฉันไว้ และลูกชายของเรา ฉันเลือกความรัก... ทิ้งอาณาจักรไว้เบื้องหลัง

แต่ทางเลือกนั้นกลับพังทลายลงในคืนที่เขากลับบ้านมาพร้อมกับกลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงคนอื่น เขาเรียกชู้รักของเขาว่า "การควบรวมธุรกิจ" แต่พาดหัวข่าวกลับเล่าเรื่องจริงทั้งหมด เขากำลังเลือกอำนาจ... ทิ้งครอบครัวของตัวเอง

แม่ของเขาเรียกเราไปที่คฤหาสน์ของตระกูล เพียงเพื่อประกาศว่าเมียน้อยของเขากำลังตั้งท้อง "ทายาทโดยชอบธรรมเพียงคนเดียว" ต่อหน้าทุกคน เธอยื่นข้อเสนอให้ฉันทำงานเป็นคนใช้ และบอกว่าลูกชายของฉันจะอยู่ที่นี่ต่อได้ในฐานะเด็กกำพร้าที่รับมาเลี้ยง

ส่วนคู่ชีวิตของฉัน ผู้ชายที่ฉันยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อเขา กลับยืนอยู่ข้างๆ แม่ของเขาและไม่พูดอะไรสักคำ ในขณะที่แม่ของเขากำลังลบเราสองคนแม่ออกจากชีวิตของเขาต่อหน้าสาธารณชน

ลูกชายวัยห้าขวบของฉันเงยหน้าขึ้นมองฉัน เสียงของเขาสั่นเทา และถามคำถามที่บดขยี้หัวใจชิ้นสุดท้ายของฉันจนแหลกละเอียด

"แม่ครับ... ถ้าผู้หญิงคนนั้นกำลังจะมีน้อง... แล้วผมล่ะครับ... ผมเป็นอะไรเหรอครับ?"

แต่ฟางเส้นสุดท้ายขาดสะบั้นลงในวันเกิดของเขา เมียน้อยของเขาหลอกให้เราไปร่วมงานหมั้นของพวกเขา ที่นั่น... เขาผลักลูกชายของเราจนล้มลงกับพื้นและปฏิเสธสายเลือดของตัวเอง ขณะที่ครอบครัวของเขากำลังรุมทำร้ายฉัน ลูกชายของฉันกลับร้องขอความช่วยเหลือจากเขา... โดยเรียกเขาว่า "คุณผู้ชาย"

ในวินาทีนั้น ผู้หญิงที่เขารู้จักได้ตายไปแล้ว ฉันจูงมือลูกชาย เดินออกจากชีวิตเฮงซวยนั่นไปตลอดกาล และโทรศัพท์กลับไปยังอาณาจักรที่ฉันเคยทอดทิ้ง ถึงเวลาแล้วที่โลกใบนี้ต้องจดจำชื่อจริงของฉันอีกครั้ง

บทที่ 1

เมษา มโนรมย์ POV:

ครั้งแรกที่ฉันรู้... รู้ซึ้งถึงแก่น... ว่าชีวิตของฉันมันจบสิ้นแล้ว มันเริ่มต้นจากกลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงคนอื่น มันไม่ใช่กลิ่นน้ำหอมราคาถูกหรือฉุนจนเวียนหัว แต่มันเป็นกลิ่นที่แพงระยับ กลิ่นมะลิกับกุหลาบที่ติดอยู่บนปกเสื้อของผู้ชายที่ฉันยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อเขา

เจ็ดปีเต็มที่ฉันใช้ชีวิตในฐานะ เมษา มโนรมย์ ผู้หญิงที่ไม่มีที่มาที่ไป ใช้ชีวิตเรียบง่ายในบ้านหลังเล็กๆ กับ เอมเมอรัล กิตติวงศ์ ซีอีโอหนุ่มสมองเพชรแห่งบริษัทเทคโนโลยีที่กำลังมาแรง และลูกชายของเรา ดีน แต่ก่อนหน้านั้น ฉันคือ เมษา อัศวโภคิน ทายาทเพียงคนเดียวแห่งอาณาจักรอัศวโภคิน โลกแห่งความมั่งคั่งและอำนาจที่ฉันเดินจากมาโดยไม่คิดเสียดาย ฉันเลือกความรัก ฉันเลือกเขา

แต่คืนนี้ ทางเลือกนั้นกลับให้ความรู้สึกเหมือนหลุมศพที่ฉันขุดฝังตัวเอง

กระเป๋าเดินทางของฉันถูกจัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้าของดีน คำพูดของพ่อเมื่อเจ็ดปีก่อนดังก้องอยู่ในหัว เหมือนความเจ็บปวดที่ไม่มีวันจางหาย "เขาไม่ใช่คนระดับเดียวกับเรานะลูกเมษา ความทะเยอทะยานคือพระเจ้าของเขา สักวันหนึ่งมันจะเรียกร้องเครื่องสังเวย และลูกนั่นแหละที่จะต้องเป็นของเซ่นไหว้" ตอนนั้นฉันหาว่าท่านมองโลกในแง่ร้าย แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าท่านพูดถูกทุกอย่าง

ฉันนอนอยู่บนเตียง แกล้งทำเป็นหลับ พยายามรวบรวมความเป็น 'อัศวโภคิน' ที่ควรจะไหลเวียนอยู่ในสายเลือด ทายาทผู้เหี้ยมโหดคนนั้นหายไปไหนแล้วนะ? ตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนเป็นแค่ผีในเรื่องเล่าของคนอื่น สิ่งเดียวที่ฉันรู้สึกได้คือความว่างเปล่าในอกข้างซ้ายที่ที่เคยมีหัวใจอยู่

ประตูห้องนอนแง้มเปิดออก เอมเมอรัล ก้าวเข้ามา เงาร่างของเขาปรากฏเด่นชัดท่ามกลางแสงไฟจากโถงทางเดิน เขาก้าวเดินด้วยความมั่นใจอย่างเงียบเชียบ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยทำให้หัวใจฉันเต้นระรัว แต่ตอนนี้มันกลับทำให้ฉันรู้สึกปั่นป่วนในท้อง กลิ่นมะลิกับกุหลาบฟุ้งกระจายไปทั่วห้อง เหมือนหมอกพิษ

เขาคิดว่าฉันหลับไปแล้ว ฉันรู้สึกได้ถึงเตียงที่ยุบลงเมื่อเขานั่งลงข้างๆ นิ้วของเขาปัดปอยผมออกจากแก้มฉันอย่างแผ่วเบา สัมผัสของเขาที่เคยเป็นดั่งที่หลบภัย ตอนนี้กลับให้ความรู้สึกเหมือนถูกล่วงละเมิด

"เมษา?" เขากระซิบ เสียงทุ้มต่ำชวนฝัน "หลับแล้วเหรอ?"

ฉันไม่ขยับตัว ฉันควบคุมลมหายใจให้สม่ำเสมอ ช้าๆ และมั่นคง ขัดกับพายุอารมณ์ที่โหมกระหน่ำอยู่ข้างใน ฉันเพิ่งเห็นพาดหัวข่าวในมือถือเมื่อชั่วโมงที่แล้ว "เอมเมอรัล กิตติวงศ์ นักธุรกิจไอทีดาวรุ่ง และ โคลเอ้ จิรโชติ ไฮโซสาวชื่อดัง: คู่สร้างคู่สมแห่งวงการธุรกิจ?" ข่าวนั้นมาพร้อมกับรูปของพวกเขาสองคนที่กำลังเดินออกจากร้านอาหารหรูระดับห้าดาว มือของโคลเอ้สอดอยู่ในวงแขนของเขาอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ รอยยิ้มของเธอดูเหมือนผู้ชนะ ส่วนรอยยิ้มของเขา... ดูเหนื่อยล้า

กลิ่นน้ำหอมมะลิกับกุหลาบไม่ได้ติดอยู่แค่บนปกเสื้อของเขา มันติดอยู่ที่ผมของเขา บนผิวของเขา ซึมลึกเข้าไปในทุกอณูของตัวตนเขา มันคือกลิ่นของโคลเอ้ จิรโชติ

ฉันรู้ว่าเขาใช้เวลาตอนกลางคืนอยู่กับหล่อนมาหลายสัปดาห์แล้ว ภายใต้ข้ออ้างเรื่องการปิดดีลควบรวมกิจการระหว่าง กิตติวงศ์ อินโนเวชั่นส์ และ จิรโชติ อินดัสทรีส์ เขาเรียกมันว่าเรื่องธุรกิจ เรื่องจำเป็นที่เลี่ยงไม่ได้

ฉันขยับตัว เหมือนคนกำลังจะตื่น แล้วปัดมือเขาออก "ตัวเหม็นชะมัด" ฉันพึมพำ เสียงขุ่นข้นไปด้วยความรังเกียจที่เสแสร้งเพียงครึ่งเดียว "ไปอาบน้ำเลยไป"

เขาชะงัก ฉันรู้สึกได้ถึงความตึงเครียดที่แผ่ออกมาจากตัวเขา "เมษา ผม... ผมขอโทษนะ การประชุมกับโคลเอ้มันเลิกดึก คุณก็รู้ว่าหล่อนเป็นยังไง หล่อนแทบจะอาบน้ำหอมนั่นอยู่แล้ว"

เขาเอ่ยชื่อหล่อนออกมาอย่างง่ายดาย โคลเอ้ ไม่ใช่คุณโคลเอ้ แต่เป็นโคลเอ้

"เดี๋ยวผมไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้แหละ" เขาพูด เสียงเครียด เขา đứngขึ้นแล้วเดินไปที่ห้องน้ำ ท่าทางดูอับอายเล็กน้อย อีกไม่กี่นาที เขาก็จะกลับมาพร้อมกับกลิ่นสบู่ของฉัน แชมพูของฉัน พยายามจะล้างกลิ่นของหล่อนออกจากตัว และแกล้งทำเป็นว่าเขาเป็นของที่นี่ เป็นของฉัน

แต่เขาไม่ใช่คนของที่นี่อีกต่อไปแล้ว ผู้ชายที่ต้องพึ่งพาอิทธิพลและอำนาจของผู้หญิงคนอื่น จะมาเป็นของฉันอย่างแท้จริงได้อย่างไร? เขาเป็นซีอีโอหรือเป็นแค่สัตว์เลี้ยงในชุดสูทของหล่อนกันแน่?

สำหรับโลกภายนอก ฉันเป็นแค่เมษา มโนรมย์ ผู้หญิงธรรมดาที่ไม่มีความสำคัญอะไร เป็นเด็กกำพร้าที่เขาเก็บมาเลี้ยง ได้รับพรให้มีชีวิตที่สงบสุขอย่างไม่สมควรจะได้รับ ไม่มีใครรู้ว่าฉันคือผู้หญิงที่ถือกุญแจสู่อาณาจักรที่สามารถกลืนกินกิตติวงศ์ อินโนเวชั่นส์ ได้โดยไม่เหลือแม้แต่ระลอกคลื่น

เสียงฝักบัวดับลง ไม่กี่อึดใจเขาก็ออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูที่พันไว้หมิ่นเหม่บนสะโพก หยดน้ำเกาะพราวอยู่บนแผงอกกำยำ เขายังคงดูดีอย่างร้ายกาจ ผู้ชายคนเดียวกับที่ดึงฉันออกมาจากซากรถเมื่อเจ็ดปีก่อน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความห่วงใยอย่างแรงกล้าจนฉันแทบลืมหายใจ

ตอนนั้นฉันกำลังหนีจากการแต่งงานที่ถูกคลุมถุงชน หนีจากโลกที่น่าอึดอัดของพ่อ รถของฉันเสียหลักบนพื้นน้ำแข็งแล้วพลิกคว่ำ เขาเป็นคนแรกที่มาถึงที่เกิดเหตุ เป็นคนแปลกหน้าที่ใช้มือเปล่ากระชากประตูรถจนหลุดออกมาเพื่อช่วยฉัน

เขาอุ้มฉันไปที่กระท่อมของเขา มือของเขาอ่อนโยนขณะทำแผลให้ฉัน ฉันยังจำพละกำลังบนบ่าของเขาได้ ความมุ่งมั่นในดวงตาสีเข้มของเขา เขาไม่เหมือนพวกผู้ชายขัดมันจอมเจ้าเล่ห์ในโลกของฉัน เขาคือของจริง

"คุณเป็นของผมแล้ว" เขาคำรามในคืนแรกนั้น เสียงแหบพร่าเต็มไปด้วยความรู้สึกเป็นเจ้าของที่ทำให้ฉันตื่นเต้น "ผมเจอคุณ คุณต้องเป็นของผม"

เขาสัญญาว่าจะอยู่กับฉันตลอดไป เขาเคยสาบานว่าฉันจะเป็นคู่ชีวิตเพียงคนเดียวของเขา เป็นแม่ของลูกๆ เป็นผู้หญิงที่จะยืนเคียงข้างเขาในขณะที่เขาสร้างตำนานของตัวเอง

ตอนนี้ เขาสอดตัวเข้ามาในเตียง ผิวของเขาอุ่นและสะอาด และพยายามจะดึงฉันเข้าไปในอ้อมแขน แต่ภาพหลอนของกลิ่นมะลิกับกุหลาบยังคงติดอยู่ในความทรงจำ ฉันสะดุ้งและหันหลังให้เขา

"เมษา เป็นอะไรไป?" เขากระซิบ ลมหายใจร้อนรดต้นคอ

"เปล่าค่ะ ฉันเหนื่อย"

เขาไม่ใช่ผู้ชายที่เคยช่วยชีวิตฉันอีกแล้ว ผู้ชายคนนั้นได้ตายไปแล้ว ถูกแทนที่ด้วยคนแปลกหน้าที่ส่งกลิ่นของความทะเยอทะยานและการทรยศ

เสียงเคาะประตูหน้าบ้านดังขึ้นอย่างแรงและร้อนรน ทำลายความเงียบที่ตึงเครียดลง นี่มันเกือบจะตีสองแล้ว

เอมเมอรัลถอนหายใจอย่างหัวเสีย "อยู่ตรงนี้นะ"

ฉันได้ยินเสียงฝีเท้าของเขา เสียงประตูหน้าเปิดออก แล้วก็เสียงกระซิบกระซาบอย่างเร่งรีบของพ่อบ้านของโคลเอ้ "คุณเอมครับ ต้องขออภัยด้วย แต่คุณโคลเอ้ไม่สบาย ท่านเรียกหาคุณครับ"

เลือดในกายฉันเย็นเฉียบ

ฉันได้ยินคำตอบของเอมเมอรัลทันที โดยไม่ลังเล ไม่คิดถึงฉันหรือลูกชายที่กำลังหลับอยู่เลย "เดี๋ยวผมไปเดี๋ยวนี้"

เขากลับเข้ามาในห้อง สวมเสื้อเชิ้ต เขาไม่แม้แต่จะมองฉัน "โคลเอ้ไม่สบายน่ะ หล่อนชอบปวดหัวไมเกรนรุนแรง ผมต้องไป"

เขาพูดอย่างสบายๆ ราวกับกำลังพูดถึงเพื่อนร่วมงาน แต่ความสนิทสนมที่ไม่ได้ตั้งใจมันหลุดออกมา "หมอของหล่อนบอกว่าความเครียดทำให้อาการแย่ลง และผมเป็นคนเดียวที่นวดขมับให้หล่อนได้ถูกจุด"

เขาหยุดที่ประตู แววตารู้สึกผิดฉายวาบผ่านใบหน้า "เดี๋ยวผมก็กลับมานะเมษา โคลเอ้แค่... อ่อนแอน่ะ"

เขาคาดหวังให้ฉันรอ ให้ฉันนั่งรออยู่บนเตียงของเรา ในบ้านของเรา ขณะที่เขาไปปลอบผู้หญิงคนอื่น เขาคาดหวังให้ฉันเป็นเมษาที่อดทนและเข้าใจเสมอ

ฉันหันหน้าบนหมอนแล้วส่งยิ้มเล็กๆ ที่ดูฝืนๆ ให้เขา รอยยิ้มของวิญญาณ "แน่นอนค่ะ ไม่ต้องรีบ"

ความโล่งใจฉายชัดบนใบหน้าของเขา เขาช่างตาบอดสิ้นดี เขาเห็นรอยยิ้มของฉันแล้วคิดว่ามันคือการยอมรับ เขาไม่เห็นน้ำแข็งที่ก่อตัวขึ้นในดวงตาของฉัน ไม่เห็นเหล็กกล้าที่กำลังทำให้กระดูกสันหลังของฉันแข็งแกร่งขึ้น

เขาจากไป ประตูหน้าปิดลง ทิ้งฉันกับดีนไว้ในความเงียบที่น่าอึดอัดของบ้านที่ไม่ใช่บ้านอีกต่อไป

เขาคาดหวังให้ฉันรอ

เขาคิดผิด ฉันจะไม่รอเขาอีกต่อไปแล้ว

---

อ่านต่อ
img ไปดูความคิดเห็นเพิ่มเติมที่แอป
ออกใหม่ล่าสุด: บทที่ 9   เมื่อวานซืน17:37
img
img
บทที่ 1
29/10/2025
บทที่ 2
29/10/2025
บทที่ 3
29/10/2025
บทที่ 4
29/10/2025
บทที่ 5
29/10/2025
บทที่ 6
29/10/2025
บทที่ 7
29/10/2025
บทที่ 8
29/10/2025
บทที่ 9
29/10/2025
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY