เขายังไม่หยุดแค่นั้น
ในงานศพของน้องชายฉัน เขาสั่งให้ลูกน้องหักขาทั้งสองข้างของฉัน
และการกระทำที่โหดร้ายที่สุดของเขาคือการขโมยเสียงของฉันไป... เขาสั่งให้ผ่าตัดย้ายเส้นเสียงของฉันไปให้กับเฮเลน ทิ้งให้ฉันกลายเป็นใบ้และแตกสลาย
ผู้ชายที่เคยสัญญาว่าจะปกป้องฉันได้กลายเป็นผู้ทรมานฉันเสียเอง
เขาพรากทุกสิ่งทุกอย่างไปจากฉัน
ความรักที่ฉันเคยมีให้เขาอย่างท่วมท้น ในที่สุดก็แปรเปลี่ยนเป็นความเกลียดชังที่บริสุทธิ์และสมบูรณ์แบบ
เขาคิดว่าเขาทำลายฉันได้แล้ว แต่เขาคิดผิด
ฉันแกล้งตาย ปล่อยหลักฐานที่จะเผาอาณาจักรทั้งหมดของเขาให้ราบเป็นหน้ากลอง แล้วก็หายตัวไป
ผู้ชายที่ฉันแต่งงานด้วยได้ตายไปแล้ว
ถึงเวลาแล้วที่ฉันจะทำให้ปีศาจที่สวมหน้ากากของเขา ชดใช้ทุกอย่าง
บทที่ 1
มุมมองของเขมิกา โรจน์สกุล:
สิ่งแรกที่ฉันได้ยินเมื่อฟื้นขึ้นมาคือเสียงบี๊บถี่ๆ ของเครื่องวัดหัวใจและกลิ่นยาฆ่าเชื้อที่ฉุนกึกจนน่าคลื่นไส้
หัวของฉันปวดตุบๆ รุนแรงราวกับกะโหลกถูกผ่าออกแล้วแปะกลับเข้าไปอย่างลวกๆ
แต่ทั้งหมดนั้นไม่สำคัญเลย
สิ่งที่ฉันคิดถึงมีเพียงเสียงยางบดถนน เสียงโลหะบดขยี้ที่น่าสะพรึงกลัว และภาพสุดท้ายที่ฉันเห็นก่อนที่โลกจะดับวูบไป... จุลจักร สามีของฉัน... โถมตัวเข้ามาบังฉันไว้ในขณะที่รถของเราหมุนคว้างสู่ความมืดมิด
พยาบาลคนหนึ่งที่มีแววตาใจดีและใบหน้าเหนื่อยล้าปรากฏตัวขึ้นข้างเตียง
“คุณฟื้นแล้วนะคะ ตอนนี้คุณอยู่ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ คุณสมองกระทบกระเทือนรุนแรงและซี่โครงหักสองสามซี่ แต่คุณจะปลอดภัยค่ะ”
คำพูดของเธอควรจะปลอบโยน แต่สำหรับฉันมันเป็นแค่เสียงรบกวน
“สามีของฉัน” ฉันเค้นเสียงแหบพร่าออกมา ลำคอระคายเคือง “จุลจักร วรโชติ เขาอยู่ในรถกับฉันใช่ไหมคะ เขา... เขายังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า”
สีหน้าของพยาบาลอ่อนลงด้วยความสงสารที่ทำให้ท้องไส้ของฉันปั่นป่วน
“เขายังมีชีวิตอยู่ค่ะ” เธอบอกเบาๆ “ตอนนี้เขาอยู่ห้องไอซียู เขารับแรงกระแทกไปเต็มๆ ปาฏิหาริย์มากที่คุณทั้งคู่รอดมาได้”
ความโล่งใจถาโถมเข้าใส่ฉันรุนแรงราวกับถูกกระแทกอีกครั้ง มันทำให้ฉันอ่อนแรงและหายใจไม่ออก
จุลจักรยังมีชีวิตอยู่
ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่านี้อีกแล้ว
โลกภายนอกรู้จักจุลจักร วรโชติ ในฐานะเจ้าพ่อวงการเทคโนโลยี ซีอีโอผู้เหี้ยมโหดที่สร้างอาณาจักรขึ้นมาจากศูนย์ พวกเขาเห็นอัจฉริยะเจ้าเสน่ห์บนปกนิตยสาร
แต่ฉันรู้จักผู้ชายที่ฮัมเพลงเพี้ยนๆ ตอนทำแพนเค้กในเช้าวันอาทิตย์ ผู้ชายที่กอดฉันไว้เมื่อฝันร้ายมันดังเกินไป ผู้ชายที่รักฉันด้วยความรุนแรงที่เป็นทั้งสมอและพายุของฉัน
เก้าปีที่ผ่านมา ความรักของเราเป็นดั่งตำนาน เป็นเทพนิยายที่ถูกซุบซิบในแวดวงสังคมชั้นสูงด้วยความอิจฉา เขาคือมหาเศรษฐีผู้ทรงอิทธิพล และฉันคือสถาปนิกสาวผู้เฉลียวฉลาดที่เขาเทิดทูน
หมอให้ฉันนอนดูอาการ แต่ทุกวินาทีที่ตื่นอยู่คือการต่อสู้เพื่อไปหาเขา
ในที่สุด หลังจากที่รู้สึกเหมือนผ่านไปชั่วนิรันดร์ พวกเขาก็อนุญาตให้ฉันไปเยี่ยมเขาได้
ซี่โครงของฉันกรีดร้องประท้วงทุกย่างก้าว แต่ฉันแทบไม่รู้สึก
ฉันวิ่งไปตามทางเดินสู่ห้องไอซียู หัวใจเต้นระรัวอยู่ในอกที่บอบช้ำ
ฉันผลักประตูห้องของเขาเข้าไป
เขานั่งอยู่บนเตียง มีผ้าพันแผลรอบศีรษะ ใบหน้าหล่อเหลาซีดเซียว แต่ดวงตาของเขาเปิดอยู่
มันเป็นดวงตาสีเทาเข้มดุจพายุคู่เดิมที่ฉันตกหลุมรัก
“จุลจักร” ฉันพึมพำ น้ำตาเอ่อคลอจนภาพพร่ามัว “โอ้ ขอบคุณพระเจ้า”
ฉันรีบเข้าไปข้างๆ เขา ยื่นมือไปจับมือเขา แต่เขากลับสะดุ้งถอยราวกับสัมผัสของฉันเป็นกรด
ดวงตาของเขา... ดวงตาคู่สวยที่เคยมองฉันด้วยความรักมากมาย ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความสับสนที่เย็นชาและน่าหวาดหวั่น
เขามองฉัน กวาดสายตาไปทั่วใบหน้าของฉันโดยไม่มีแววของการจดจำแม้แต่น้อย
“คุณเป็นใคร?” เขาถาม เสียงเรียบเฉยไร้อารมณ์
คำพูดนั้นกระแทกฉันเหมือนถูกตบหน้า ฉันเซถอยหลัง มือยกขึ้นปิดปาก
“อะไรนะคะ? จุลจักร นี่ฉันเอง เขมิกาไงคะ ภรรยาของคุณ”
รอยยิ้มที่โหดร้ายและไร้ความขบขันบิดเบี้ยวบนริมฝีปากของเขา มันเป็นภาพล้อเลียนที่น่าสยดสยองของรอยยิ้มที่ฉันรัก
“ภรรยาของผม? ตลกดีนะ ผมจำไม่ได้ว่าเคยมีภรรยา”
เขาเอนตัวมาข้างหน้าเล็กน้อย ดวงตาหรี่ลงเป็นเส้นน้ำแข็ง
“แต่ผมจำคุณได้นะ เขมิกา โรจน์สกุล ผมจำได้ว่าคุณคือสาเหตุที่ทำให้ครอบครัวของผมพังพินาศ”
ลมหายใจของฉันขาดห้วง
เขากำลังพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสิบปีก่อน โศกนาฏกรรมของครอบครัวที่เขาเคยโทษฉันอย่างผิดๆ ก่อนที่เราจะตกหลุมรักกันเสียอีก เป็นความเข้าใจผิดที่เราได้ปรับความเข้าใจและก้าวข้ามมันไปเมื่อเก้าปีที่แล้ว
ความทรงจำของเขา... มันไม่ได้แค่เสียหาย แต่มันย้อนกลับไป มันลบฉันออกไป มันลบเราออกไป
“ไม่นะคะ จุลจักร นั่นมัน... นั่นมันนานมาแล้ว เราแก้ไขมันแล้ว เราตกหลุมรักกัน เราแต่งงานกันมาเก้าปีแล้วนะคะ”
ฉันหยิบมือถือออกมา มือสั่นจนแทบจะปลดล็อกไม่ได้ ฉันเลื่อนไปที่รูปวันแต่งงานของเรา รูปที่เขากำลังยิ้ม ดวงตาเปล่งประกายด้วยความสุขขณะที่เขากอดฉันไว้ในอ้อมแขน
“ดูสิคะ นี่คือเรา”
เขาเหลือบมองรูปถ่ายด้วยแววตารังเกียจอย่างที่สุด แล้วสายตาก็กลับมาที่ฉัน
“ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังเล่นเกมบ้าอะไรอยู่ แต่มันจบแล้ว ออกไป”
“จุลจักร ได้โปรดเถอะค่ะ” ฉันอ้อนวอน น้ำตาไหลอาบแก้ม “คุณกำลังบาดเจ็บ คุณกำลังสับสน ให้ฉันช่วยคุณจำนะคะ”
สีหน้าของเขาแข็งกร้าวขึ้นเป็นบางอย่างที่น่ากลัวอย่างแท้จริง
“ผมบอกให้ออกไป”
เขาเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ของตัวเองบนโต๊ะข้างเตียง แตะหน้าจอสองสามครั้ง แล้วหันหน้าจอมาทางฉัน
เลือดในกายฉันเย็นเฉียบ
มันเป็นวิดีโอสด น้องชายของฉัน เลโอ ถูกมัดติดกับเก้าอี้ในห้องที่มืดและดูชื้นแฉะ ใบหน้าของเขาฟกช้ำ ดวงตาเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว
“รู้ไหม” จุลจักรพูด เสียงกระซิบที่ต่ำและอันตรายถึงชีวิต “น้องชายของคุณยังติดการพนันงอมแงมเหมือนเดิม แค่โทรไปไม่กี่สาย เจ้าหนี้ของมันก็ยินดีส่งตัวมันมาให้ผม ตอนนี้ เป็นครั้งสุดท้าย ออกไปให้พ้นหน้าผม ก่อนที่ผมจะตัดสินใจปล่อยให้พวกมันทวงหนี้เป็นชิ้นๆ”
ฉันจ้องมองหน้าจอ มองน้องชายที่อ่อนแอของฉัน แล้วกลับมามองคนแปลกหน้าที่สวมใบหน้าของสามีฉัน
นี่ไม่ใช่แค่อาการความจำเสื่อ-อม มันคือปีศาจ
“คุณไม่ทำหรอก” ฉันกระซิบ ความสยดสยองจุกอยู่ที่คอ
เขาไม่ตอบ เขาแค่จ้องมองฉัน ดวงตาท้าทายให้ฉันลองดี
ความตื่นตระหนกข่วนอยู่ที่ลำคอของฉัน ฉันพุ่งเข้าไปจะคว้าโทรศัพท์ของเขา ความต้องการที่จะช่วยน้องชายอย่างสิ้นหวังมันอยู่เหนือทุกสิ่ง
ปฏิกิริยาของเขารวดเร็วดุจสายฟ้า
เขาคว้าข้อมือฉันไว้ กำแน่นราวกับคีมเหล็ก เขาบิดแขนฉันไปด้านหลัง กระแทกร่างฉันเข้ากับกำแพงเย็นเฉียบของห้องพักในโรงพยาบาล ความเจ็บปวดที่ซี่โครงระเบิดออกมาจนฉันหายใจไม่ออก
“อย่าแตะต้องตัวฉันอีก” เขาคำราม ใบหน้าอยู่ห่างจากฉันไม่กี่นิ้ว ฉันรู้สึกได้ถึงลมหายใจร้อนๆ ที่โกรธเกรี้ยวของเขาบนผิวหนัง
เขาเน้นย้ำคำพูดด้วยการกระแทกร่างฉันเข้ากับกำแพงอีกครั้ง และอีกครั้ง
แรงกระแทกที่โหดร้ายเป็นจังหวะส่งคลื่นความเจ็บปวดไปทั่วร่างฉัน แต่ละครั้งคือเครื่องหมายวรรคตอนของคำประกาศความเกลียดชัง
ฉันห้อยตัวอยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างหมดแรง ความเจ็บปวดทางกายเทียบไม่ได้เลยกับการแตกสลายของหัวใจ
ทันใดนั้น ประตูก็เปิดออก
ผู้หญิงคนหนึ่งที่มีผมสีบลอนด์จัดทรงอย่างสมบูรณ์แบบและรอยยิ้มหวานหยดย้อยจอมปลอมเดินเข้ามา
เฮเลน วัฒนากุล เพื่อนสมัยเด็กของจุลจักรและสาวสังคมจอมบงการที่ฉันรู้มาตลอดว่าอิจฉาชีวิตแต่งงานของเรา
“จุลส์ ที่รัก” เธอส่งเสียงหวาน ดวงตาเป็นประกายเมื่อเห็นเขา
แล้วสายตาของเธอก็มาหยุดที่ฉัน ซึ่งถูกตรึงอยู่กับกำแ-พง แววตาแห่งชัยชนะที่โหดร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอก่อนที่เธอจะซ่อนมันไว้ภายใต้ความกังวลจอมปลอม
“โอ้พระเจ้า เกิดอะไรขึ้นที่นี่คะ”
จุลจักรปล่อยฉันทันที ฉันทรุดลงไปกองกับพื้น หอบหายใจ
เขาไม่แม้แต่จะชายตามองลงมา
เขาเดินตรงไปหาเฮเลน ท่าทีทั้งหมดของเขาอ่อนลงขณะที่เขาจับมือเธอ
“เฮเลน ขอบคุณพระเจ้าที่คุณมา จัดการผู้หญิงคนนี้ออกจากห้องผมที”
เขาลืมความรักเก้าปี ลืมชีวิตแต่งงานเก้าปี ลืมชีวิตที่เราสร้างร่วมกันมาเก้าปี
แต่เขาจำเธอได้
ในจิตใจที่แตกสลายของเขา ความหลงใหลในอดีตที่มีต่อผู้หญิงใจร้ายคนนี้ได้กลายเป็นความจริงในปัจจุบันของเขาไปแล้ว
เฮเลนมองลงมาที่ฉัน รอยยิ้มของเธอคือหน้ากากของยาพิษบริสุทธิ์
“ไม่ต้องห่วงนะจุลส์ ฉันจะจัดการเอง”
เธอโน้มตัวลงมา เสียงของเธอเป็นเสียงกระซิบที่ฉันได้ยินเพียงคนเดียว
“ตอนนี้เขาเป็นของฉันแล้ว เขาสมควรจะเป็นของฉันมาตลอด”
ขณะที่เธอและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพาฉันออกไป ฉันมองย้อนกลับไป
จุลจักรกำลังมองเฮเลนด้วยความรักที่ฉันไม่ได้เห็นในดวงตาของเขาตั้งแต่... ตั้งแต่ที่เขามองฉันแบบนั้นเมื่อวานนี้
ก่อนเกิดอุบัติเหตุ ก่อนที่โลกของฉันจะจบสิ้น
เขาเริ่มกระบวนการหย่าร้างจากเตียงในโรงพยาบาล
ฉันพยายามทุกวิถีทางเพื่อเข้าถึงเขา เพื่อทำให้เขาจำได้
ฉันเอาอัลบั้มรูปไปให้ เปิดวิดีโองานแต่งงานของเรา หรือแม้กระทั่งพาสุนัขตัวโปรดของเขาไป ซึ่งตอนนี้เขาก็ปฏิบัติต่อมันเหมือนคนแปลกหน้า
ทุกความพยายามถูกปฏิเสธอย่างเย็นชายิ่งขึ้น ความโหดร้ายของจุลจักรทวีความรุนแรงขึ้นภายใต้อิทธิพลที่น่าพึงพอใจของเฮเลน
เธอเติมเชื้อไฟให้กับความหวาดระแวงของเขา บิดเบือนช่องว่างความทรงจำเก้าปีให้กลายเป็นเรื่องเล่าที่น่ากลัวว่าฉันเป็นนางร้ายนักขุดทองที่วางกับดักเขา
การโจมตีครั้งสุดท้ายที่ไม่อาจให้อภัยได้เกิดขึ้นในอีกหนึ่งเดือนต่อมา
เขาใช้หนี้การพนันของเลโอเป็นอาวุธ เขาไม่ได้แค่ขู่ แต่เขาลงมือทำ
เขาส่งอันธพาลไป "สั่งสอน" น้องชายฉัน
ฉันกำลังคุยโทรศัพท์กับเลโอ ได้ยินเสียงเขาร้องขอชีวิต แล้วสายก็ตัดไป
ฉันพบเขาในซอยเปลี่ยว ร่างกายแหลกเหลวและอาบเลือด เขายังมีสติอยู่เล็กน้อย
“เขม...” เขากระซิบ ลมหายใจแผ่วเบา “เขาบอกว่า... เขาบอกว่านี่สำหรับเธอ...”
เขาเสียชีวิตในรถพยาบาลระหว่างทางไปโรงพยาบาล
ฉันไม่ร้องไห้ที่ห้องเก็บศพ
ฉันยืนอยู่เหนือร่างที่เย็นชืดและไม่ไหวติงของน้องชาย และความสงบที่แปลกประหลาดและน่าสะพรึงกลัวก็เข้ามาแทนที่
ความรักที่ฉันเคยมีให้จุลจักร วรโชติ อย่างท่วมท้น ได้แปรเปลี่ยนเป็นความเกลียดชังที่ดำมืดและแข็งกระด้างในอกของฉัน
มันคือความเกลียดชังที่บริสุทธิ์ ไม่เจือปน และสมบูรณ์แบบ
เขาพรากทุกสิ่งทุกอย่างไปจากฉัน ความรักของฉัน สามีของฉัน น้องชายของฉัน
คืนนั้น ฉันโทรหาเบอร์โทรศัพท์ที่เคยได้รับเมื่อหลายปีก่อนจากอดีตพนักงานที่ไม่พอใจของบริษัทจุลจักร คนที่เคยเป็นผู้เปิดโปงข้อมูลที่ถูกปิดปากและทำลายชีวิต
“คุณเคยบอกฉันว่าคุณมีหลักฐานที่สามารถทำลายจุลจักร วรโชติ ได้” ฉันพูด เสียงนิ่ง “ฉันต้องการมัน ทั้งหมด”
ข้อตกลงได้เกิดขึ้น
ฉันยืนอยู่หน้าร่างของเลโอเป็นครั้งสุดท้าย วางมือบนหน้าผากที่เย็นชืดของเขา
“พี่ขอโทษนะเลโอ” ฉันกระซิบ “พี่ขอโทษจริงๆ ที่นำปีศาจตนนั้นเข้ามาในชีวิตของเรา แต่พี่สัญญา เขาจะต้องชดใช้ พี่จะเผาอาณาจักรทั้งหมดของเขาให้ราบเป็นหน้ากลอง”
แผนของฉันเรียบง่าย
ฉันจะจัดฉากการตายของตัวเอง
ฉันจะปล่อยหลักฐานการฉ้อโกงครั้งใหญ่ของบริษัทเขา
แล้วฉันจะหายตัวไป
ฉันจะสร้างชีวิตใหม่ ตัวตนใหม่ ในที่ที่เขาจะไม่มีวันหาฉันเจอ
บางคนอาจเรียกมันว่าการแก้แค้น
ฉันเรียกมันว่าความยุติธรรม
ผู้ชายที่ฉันแต่งงานด้วยได้ตายไปแล้ว
ผู้ชายที่สวมใบหน้าของเขาคือปีศาจที่สมควรจะให้ทุกสิ่งที่เขารักกลายเป็นเถ้าถ่านในมือของเขา เหมือนกับที่เขาทำกับฉัน
ฉันจะกลายเป็นวิญญาณ และวิญญาณไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว