มุกตาภาลูกนอกสมรสที่พ่อไม่ยอมรับ อุบัติเหตุค่ำคืนหนึ่งทำให้เธอตั้งครรภ์ สาวน้อยตัดสินใจไปหาพ่อของลูกเพราะไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งพาใคร สำคัญไปกว่านั้นไม่อยากให้แม่เสียใจ ทว่าความหวังเดียวพังภินท์ กลายเป็นเงินที่พ่อของลูกคิดทำทานให้เธอ เงินมาพร้อมคำพูดดูถูกดูแคลนทำให้หัวใจแทบหยุดเต้นในบัดดล น้ำตาไที่ไหลรินแห้งเหือดหายเพราะช็อก เธอหันหลังให้พ่อเลี้ยงมรุเดช กุมหน้าท้องต้องการขอกำลังใจเดินจากมา หนทางข้างหน้าจะยอมรับชะตากรรมนี้เพียงคนเดียว 'ลูก' เธอไม่อาจทำลายแต่เธอจะลืมเขาให้หมดหัวใจ ผู้ชายที่เป็นรักแรกซึ่งได้มอบราคีร้ายให้เธอ คิดเสียว่าไม่เคยเหยียบย่างมาที่นี่และขอลาเขาชั่วชีวิต ตามที่เขาต้องการ
“เธอ เธอลุกขึ้นเดี๋ยวนี้!”
เสียงคล้ายคำรามปลุกมุกตาภาให้เปิดเปลือกตาช้าๆ “โอย!” สาวน้อยร้องเพราะรู้สึกเจ็บร้าวปวดตึงไปทั่วร่างกายโดยเฉพาะกึ่งกลางกายที่โดนล่วงล้ำแทบทั้งคืน ดวงตาแดงก่ำมองรอบห้องที่ตนนอนหมดเรี่ยวแรง “ห้องนอนแขก” จำได้แล้วเมื่อคืนเธอโดนผู้ชายที่แอบชอบมาเนิ่นนานมอบฝากบทพิศวาสบนเรือนร่าง บทรักหนักหน่วงหยุดตนเองไม่ได้ของเขานั้นยังตรึงตราในหัวใจเพราะทั้งสุขสมซ่านใจระคนเจ็บปวดรวดร้าว
เขาโทษว่าเป็นความต้องการเป็นแผนการของเธอ น้ำตาพาลไหลออกมาเมื่อก้มมองร่างเปลือยเปล่าบอบช้ำใต้ผ้าห่ม
“ไม่ใช่เวลามาร้องไห้ตอนนี้ในเมื่อเธอตั้งใจให้มันเกิด มาคุยกัน ตอนนี้ฉันหาย ‘อยาก’ อย่างที่เธอต้องการแล้ว บอกมาเธอตั้งใจวางยาฉันใช่ไหม ทำบ้าอะไรหา! ทำ ทำไม ทั้งๆ ที่ฉันกำลังจะแต่งงานกับเจ้านายเธอนะ”
“มุก…ดิฉันเปล่านะคะ เปล่าทำ…” เธอปฏิเสธไม่ยอมรับ เมื่อคืนแค่เอาน้ำดื่มมาให้ชายหนุ่มเท่านั้น
“ยังกล้าปฏิเสธเห็นๆ กันอยู่”
“ดิฉันเอาน้ำแร่มาเพิ่มให้เท่านั้นค่ะ”
ตอนดึกงานเลี้ยงวันเกิดคุณผริดาแขกทยอยกลับ มุกตาภาทำตามพี่สาวขอร้อง เธอไม่คิดพี่สาวจะทำเรื่องนี้
“น้ำแร่ของเธอมันปลุกความต้องการผู้ชายแบบนี้… ใช้บ่อยสินะน่ารังเกียจ” มรุเดชแผดเสียง กำลังหาทางออกเรื่องที่เกิดขึ้น คนก่อเรื่องดันไม่ยอมรับก็โกรธมาก ทำไมเขาจะไม่รู้เด็กสาวคนนี้แอบมองเขาเสมอ แต่ไม่คิดจะกล้าทำแบบนี้ และเรื่องก็ดันเกิดในบ้านแฟนสาวเสียด้วย
“มุกเอ่อ…เปล่าทำ ไม่รู้เรื่องจริงๆ ค่ะ ได้โปรดเชื่อ…”
“ฉันไม่อยากฟังคำปฏิเสธ” มรุเดชตวาดไม่อยากรับฟัง รับรู้
ความกังวลซึ่งปรากฏในวงหน้าคมคายของเขาทำให้เธอเห็นใจ ดูสิในเวลาเช่นนี้หัวใจก็ยังแคร์ผู้ชายคนนี้ “จะไม่บอกเรื่องนี้กับใครคะมุกสัญญา” กลายเป็นเธอที่ปลอบโยนเขา
“ฉันไม่เชื่อผู้หญิงใฝ่สูงแบบเธอหรอก” นัยน์ตาสีน้ำตาลไร้แววหวานอย่างที่เห็นเมื่อคืน เขาไม่ได้พอใจซ้ำเหยียบย่ำน้ำใจกันมุกตาภาก้มหน้า
ไม่ได้ดีพร้อมเหมือนคนรักของเขาแต่ทำไมต้องดูถูกกันขนาดนี้ด้วย
เวลายิ่งผ่านถ้อยคำที่เข้าหูตอกย้ำความรังเกียจดูถูกที่ชายหนุ่มมีให้ น้ำตาเธอไหลริน
“น้ำตาใช้เรียกร้องได้กับคนที่เขารักกันเท่านั้น อย่างเธอคงรู้ตัวเองอย่ามาบีบให้เหนื่อยเลย ฉันไม่อยากเห็นและไม่คิดสนใจ” มรุเดชเบือนสายตาหนีหน้าอกอวบขาวที่เป็นรอยจ้ำแดงซึ่งโผล่พ้นผ้าห่มด้วยใจสับสน
“เอ่อ… ค่ะ” เธอสูดเสียงสะอื้นมองหาเสื้อผ้า กัดฟันก้าวลงจากเตียง “จะไปเดี๋ยวนี้ วันนี้เป็นวันหยุดดิฉันคนอื่นคงไม่สงสัยค่ะ” ก้มหน้างุดกอดผ้านวมเดินผ่านร่างสูง
“เอาเงินไป…ถือว่าเป็นข้อแลกเปลี่ยน” มรุเดชคิดได้เพียงสิ่งนี้ เดินไปยังกระเป๋าสตางค์ซึ่งหยิบมาไว้บนเตียงนอน
ดวงตาดำระยับมีรอยแดงช้ำขอบตาคล้ำมองสบตาคม
“มีอะไร” มรุเดชถามด้วยความหงุดหงิด แม้จะอ่านสายตานั้นออก เด็กสาวกำลังตัดพ้อกัน แต่ชายหนุ่มไม่คิดว่าทำเกินไปหรอก ทุกอย่างใช่ความผิดเขาหรือไร
“ไม่มี…อะไรคะ” ปากอิ่มเม้มชิดกัน
“ถ้าอย่างนั้นเอาเงินไป คงพอนะ ถ้าเธอไม่รับเงินฉันจะคิดว่าเธอต้องการจับฉัน” มรุเดชเจรจาเสียงเข้ม
เอื้อมไปรับด้วยกลัวการดูถูกที่เขาว่า สองมือสัมผัสกัน คนยื่นเงินหดมือกลับ เงินจึงหล่นลงที่พื้นพรม “ขอโทษค่ะ” เธอกลัวอารมณ์เขาก้มลงหยิบ
สมเพชตนเองเพียงไรแต่ก็ไม่อาจหลีกหนีสิ่งนี้ กล้ำกลืนเป็นคนเห็นแก่เงิน หวังให้ความเกลียดชังลดลงบ้างแม้เพียงน้อยนิด สักเพียงเสี้ยวก็ยังดีกับข้อหาร้ายแรงแรกที่เขาว่า…
ใบหน้าถมึงทึงหันไปอีกทางคงเดินไปใส่เสื้อผ้า มุกตาภาเดินเข้าห้องน้ำก้มใบหน้าซึ่งพร่างพรายด้วยน้ำตามองเงินในมือ แปะ! น้ำตาไหลรินหยดเปียกปอนลงบนกระดาษซึ่งตีราคาความสาวที่สูญเสียไป…
เช้านี้เป็นวันคล้ายวันเกิด… วันเกิดที่ในวันนั้นคงมีเพียงแม่เฝ้าปลอบโยน และท่านคงนอนร้องไห้กอดเด็กน้อยไร้เดียงสามุกตาภา ผ่านมาปีแล้วปีเล่าจนบัดนี้ยี่สิบปีบริบูรณ์ วันคล้ายวันเกิดไม่เคยมีคำอวยพรจากพ่อ…แต่เธอยังบอกตนเองให้เข้มแข็งเพื่อรอเพียงเศษเสี้ยวการยอมรับ
ทว่าเช้านี้รู้สึกหดหู่หมดสิ้นเรี่ยวแรงกว่าทุกปี… ราคีที่ติดตัว อยากให้ทุกอย่างเป็นความฝันร้ายเหลือเกิน
มะลิลากำลังกวาดขยะหน้าตึกธนธรณ์ เห็นมุกสินีลูกสาวคนโตใจลอยมองไปบนตึกใหญ่ก็ซักถามด้วยความสงสัย “เป็นอะไรนีมองอะไร”
“เปล่านิแม่” สาวผิวขาวอายุยี่สิบสามปี รู่ปร่างอวบอั๋นก้มหน้ากวาดขยะต่อ
“เห็นมุกหรือเปล่า ตั้งแต่เช้ายังไม่เห็นเลย” มะลิลาถามถึงลูกสาวคนเล็ก
“ไม่เห็นนิแม่”
“ไปไหนหรือว่าไม่สบายปกติวันหยุดก็มาช่วยแม่นะ”
“ทำตัวเป็นคุณหนูมั้งวันนี้ลืมไปแล้วว่าตนเองไม่เป็นที่ยอมรับ” พี่สาวประชด
“ยายนี” มะลิลาเสียงเขียวไม่พอใจที่คนเป็นพี่ไม่เคยมองน้องสาวในแง่ดีเลย
“แม่อ่ะว่ามันไม่เคยได้เลยนะ รักกันจัง คุณพรหมเทพเขาไม่ยอมรับสักหน่อยว่ามันเป็นลูกสาว”
มะลิลาไม่อยากเถียงกับลูกให้อารมณ์ขุ่นมัว ใบหน้าเศร้าก้มกวาดขยะ แต่ในใจอดคิดสงสารมุกตาภาไม่ได้ เพราะเกิดมาไม่เป็นที่ยอมรับของพ่อ ถึงคุณพรหมเทพไม่สนใจคนรับใช้ต่ำต้อยอย่างเธอแต่มะลิลาก็อยากให้ลูกสาวได้เรียกฝ่ายนั้นว่าพ่อ ตามความเป็นจริง
ยี่สิบปีกว่ามะลิลาสาวใช้หน้าตาดีตกพุ่มหม้ายมีลูกติดวัยสามปี ในคืนหนึ่งคุณพรหมเทพประมุขของบ้านเมามายจนล่วงเกินมะลิลา แต่หนุ่มๆ มาติดพันมะลิลามากมายจนคุณพรหมเทพกังขาเมื่อสาวใช้มาบอกว่าตนเองท้อง
อีกอย่างเพราะกลัวคุณหญิงเกื้อฟ้าเลยปฏิเสธ ความโชคร้ายจึงตกที่เด็กน้อยมุกตาภาเมื่อคลอดออกมา คนในบ้านต่างหยอกล้อพูดกันสนุกปาก คุณหญิงเกื้อฟ้าก็รังเกียจมะลิลา แต่สาวใช้ผู้อาภัพไม่รู้จะไปไหน เธอไม่มีเงิน ไม่มีที่ไป ใจคุณหญิงเองกลัวเรื่องราวในบ้านจะแพร่งพรายออกไปให้คนนอกรู้ ในที่สุดเลิกขับไล่มะลิลาและลูกน้อย
“แม่เป็นไรไป” แม่เงียบไม่ด่าต่อมุกสินีสะกิด
“จะไปดูน้องกวาดให้เสร็จนะ” มะลิลาไม่สนใจมุกสินีคิดเป็นห่วงลูกที่หายเงียบไป
“คงเจอมันหรอก” มุกสินีสีหน้าฉายแววอิจฉา
“ทำไมต้องไม่เจอเรานี่น่าชอบว่าน้องอยู่เรื่อย” มะลิลาตวาด มุกสินีหน้างอในนึกเยาะ ป่านนี้ป่นปี้เชิดคอไม่ได้แล้วล่ะ ชิ
มุกสินีอิจฉาน้องสาวเพราะแม่แสดงความรักให้ฝ่ายนั้นจนไม่เห็นหัวเธอ บวกกับมุกตาภาเป็นที่รักของชายซึ่งเธอหมายปองมานานจึงคิดกำจัดให้พ้นทาง สมใจสาใจเหลือเกินที่มุกตาภาเข้าไปในห้องคุณคู่หมั้นเจ้านายแล้วไม่ออกมา เธอหวังให้เช้านี้ บ้านธนธรณ์ร้อนเหมือนไฟเพราะลูกรักของแม่
อีกเดี๋ยวเถอะแกโดนคนที่อยากให้เป็นพ่อฉีกอกแน่ๆ แกอย่าโกรธฉันเลยหาผัวให้หล่อขนาดนั้น! มุกตาภามองขึ้นไปบนตึก
อทิตยาคือหญิงสาวที่นายพลภัทรอุปการะไว้ตั้งแต่อายุสิบขวบ เธอรัก เคารพนายพลเหมือนพ่อแต่กลัวคุณหญิง ภรรยานายพลมาก ดังนั้นเมื่อโตเป็นสาวเธอก็ไม่กล้าเข้าใกล้นายพลอีก จนกระทั่งภัทรกร ลูกชายคนโตของนายพลเข้ามาแทรกซึมให้หัวใจที่ว้าเหว่อบอุ่นขึ้น เธอหลงรักเขาอย่างห้ามใจไม่ได้ เธอยอมเป็นคนในความลับ เพื่อรอวันที่จะได้ทะเบียนสมรสจากเขา แต่แล้ววันหนึ่งคนรักเขากลับมา เขาไม่รีรอที่จะมอบเงินให้เธอ ตัดสัมพันธ์ที่เธอหวงแหนลง แล้วเธอจะพูดอะไรได้ นอกจากทำตามที่เขาต้องการ ทว่าเมื่อรู้ว่าตั้งท้องเธอก็เปลี่ยนใจ อยากให้ภัทรกรรู้เรื่องลูก แต่เขากลับคิดว่าเธอโกหกเพราะคิดจะจับเขา หญิงสาวเสียใจมาก เธอยอมไปจากบ้านดลจิตรตามที่คุณหญิงสั่ง เพราะที่นี่ไม่มีใครช่วยเธอได้ นายพลเธอก็ไม่อยากให้เดือดเนื้อร้อนใจเพราะเธอ
กัญญายอมมาเป็นผู้หญิงของรอน กวี อลอนโซแทนน้องเพื่อใช้หนี้ให้พ่อ แม้เธอจะต้องทิ้งรักแรกแต่ก็ไม่สามารถหลีกหนีได้ ทว่าวันหนึ่งกลับเจอว่าน้องสาวและคนรักเก่ากำลังคบหาจะแต่งงานกัน เธอได้รับรู้ที่ผ่านมาไม่มีใครสนใจถึงความเสียสละของเธอแม้แต่น้อย กัญญารู้สึกโดดเดี่ยว เสียใจเป็นที่สุด และในเวลานั้นรอนก็กำลังจะแต่งงาน ยุติความสัมพันธ์กับเธอ ซ้ำจะยกเธอให้ลูกน้องเขา เธอไม่มีค่ากับใครเลยหรือ?
เขาทิ้งเธอไว้ไปในวันฝนพร่ำเพื่อไปหาคนรักที่รอคอยมาเนิ่นนาน ความฝันที่จะได้เคียงคู่พลันมลายลง เธอเป็นแค่คนผ่านทาง เธอจะไม่ร้องไห้ แต่ทำไม น้ำตาไหลไม่หยุดแบบนี้เล่า ------------------------ เพราะยินยอมพร้อมใจเป็นเด็กเลี้ยงของหมอดลทัช เมื่อเขาจะจากไป โดยที่ไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ชลรัมภาจำต้องยอมรับความทุกข์ ความปวดร้าวให้ได้ ทว่าเมื่อต้องเจอหน้าเขาอยู่ร่ำไป เพราะเธอคือเพื่อนรักน้องสาวเขา เธอจะทำตัวเช่นไรดี ให้เขาไม่สมเพช ไม่เห็นน้ำตาที่ไม่มีค่าของเธอ
เพราะอนาคตของน้องสาว เพราะแม่ พลอยหวาน สาวสมองขี้เลื่อยจึงต้องมารับกรรมที่ไม่ได้ก่อ คีตะคราม เขาหล่อ แต่เขาร้าย แต่ไม่ปราณีเธอ แม้เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ วันที่หลานชายเขาฟื้นขึ้นมาจากการหลับใหล เธอรู้ว่าตนเองท้อง ทว่าพ่อของลูก คนใจร้ายคนนั้นไม่ยอมรับฟัง เขายังต้องการให้เธอไปให้ไกลตาหลานชายของเขา แต่กลับไปบ้าน สักวันคนบ้านนั้นอาจจะรู้เรื่องน้องสาว ที่ไม่เคยเหลียวแลพี่สาวอย่างเธอ ดังนั้นเธอต้องไปหางาน หาเงินเอาข้างหน้า คลอดลูกเมื่อไหร่ จะเอามาให้พ่อเขาก็แล้วกัน ไม่โกรธแม่ใช่ไหมลูก? เธอน้ำตาไหล เธอหวังลูกจะตอบกลับเป็นประโยคเดียวกับคำถามของเธอ
เรื่องราวของอัญชลียาผู้ซึ่งยึดมั่นในความผูกพัน จนกลายเป็นความรัก แม้รู้ว่าคุณอคินของเรามีให้แค่เงินและสัมพันธ์ทางกายเธอก็ยังไม่เปลี่ยนใจจากเขา จนกระทั่งวันที่ต้องลาจากมาถึง เพราะคนรักที่เขาสัญญาจะแต่งงานด้วยกลับมาจากเมืองนอก ความผูกพันของเธอก็ดูไร้ค่าจนน่าสมเพชตนเอง และเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมายทำให้ความรักกลายเป็นความแค้น เรื่องราวจะเป็นอย่างไรติดตามกันในเล่มนะคะ ------ “ฉันไปนะอันอัน อย่าลืมฝากคีย์การ์ดไว้ที่เคาน์เตอร์นะ” “อะไรกันแค่คีย์การ์ด ฉันจะเอาไปทำไม” อันอัน เช็ดหน้าเดินไปหาเสื้อผ้า ดึงของใช้ตนเองออกมา” “เธอจะโมโหทำไม เอ๊ะ! หรือว่าคิดไม่ทำตามสัญญา อย่าเชียวนะ นั่นๆ ดึงไปให้หมดเลยเสื้อผ้าพวกนั้น” เขายืนมอง ปากก็พูดไล่อีกครั้ง หญิงสาวหันไปมองเขา “เลือดเย็นกับฉันจังเลยนะอคิน ทั้งที่เมื่อคืนปากบอกว่าชอบฉัน” อดไม่ได้จะตัดพ้อ แต่เขาคงฟังเป็นถ้อยคำน่ารำคาญ เพราะหันหลังหนีไปอีกครั้ง หยิบกุญแจรถขึ้น “เวลาเข้าด้ายเข้าเข็ม กำลังมันส์จะให้พูดว่าเกลียดหรือไง เธอเองก็ชอบนี่น่า พอๆ อย่าหาเรื่อง นั่นเช็คนะ ดูแลตัวเองด้วย” อย่างน้อยยังมีน้ำใจ แม้จะออกมาเพราะเธอคาดคั้น อัญชลียาหันมองเช็ค ใจแห้งเหี่ยวเดินเข้าไปแต่งตัว พร้อมกับเจ้าของห้องหรูเดินห่างไป เสียงประตูปิดลง หญิงสาวผู้ไม่เคยแสดงความอ่อนแอ นั่งลงปาดน้ำตา ขอบคุณทุกการสนับสนุนค่ะ ทรายสีรุ้ง
เขารักคนอื่น กำลังจะแต่งงานกัน ในค่ำคืนหนึ่งเธอกลายเป็นของเขาด้วยความงงๆ อยากบอกเขาให้รับผิดชอบ เพราะไม่รู้จะทำอย่างไร แต่คนที่เขาจะแต่งงานเป็นคนที่เธอรัก เคารพ อารยายอมตัดใจ แม้อุ้มท้องและโดนพ่อด่าทอ ทุบตี ว่าแย่งของคนอื่นเธอก็ไม่อาจโต้แย้ง ---------------------- “อย่าเพิ่งไป” มือใหญ่คว้ามือเธอไว้ อารยาสะบัด “จะกลับแล้ว ถ้าคุยเรื่องไร้สาระ” “การที่เรานอนกันดุเดือดคืนนั้น เธอพูดว่าไร้สาระเหรอ ฉันคงจะคิดผิดเสียแล้ว ว่าเธอไร้เดียงสา” ดวงตาคมโตหันไปถลึงตา “พูดอะไรเงียบไปเลยนะ” โยธินหัวเราะขื่น “แสดงท่าทีแบบนี้ ยอมรับแล้วสินะ” อารยากำหมัดแน่น มองซ้ายขวา ที่นี่คงให้เธอตะโกนให้หายแค้นใจได้ “ยอมรับแล้วไง คุณก็ไม่สามารถทำอะไรให้ฉันกลับมาเป็นคนเดิม พอๆ เลิกพูดเรื่องนี้ อย่ามายุ่งกับฉันอีก!” ไม่คิดจะกลายเป็นคำพูดนี้ที่ปิดการสนทนา เธอแหงนมองท้องฟ้า ห้ามน้ำตาไม่ให้ไหล ไม่มีอะไรดีขึ้น จะร้องไห้ไปทำไม “เธอหวังอะไรล่ะ น่าจะรู้ฉันจะแต่งกับพี่สาวเธอเท่านั้น” อารยากำหมัดแน่น พลั่ก! “โอ้ย!” โยธินกุมจมูก สบถเสียงดัง “เธอเป็นบ้าอะไร เจ็บนะ” “ให้คุณมีสติและคิดบ้าง ตั้งแต่เกิดเรื่อง ฉันเคยอ้อนวอนอะไรคุณบ้าง ฉะนั้นอย่ามาตัดสินว่าฉันคิดหรือไม่คิดอะไร เข้าใจไหม” โยธินอึ้งไปแต่ไม่ยอมแพ้ “ผู้หญิงเก็บกด อยากลองจะว่างั้น แล้วทำไมไม่บอกกันดีๆ ล่ะ แอบลอบเข้าไปมันคงเร้าใจใช่ไหม ก็แน่ล่ะ หุ่นผมมันคงน่ากิน” อารยายกมือจะซัดอีกครั้งแต่กลับโดนรวบที่เอว ก่อนใบหน้าบึ้งตึงจะก้มลงมาบดจูบปากเธอ หญิงสาวพยายามกระทืบเท้าเขาและดิ้น คนบ้านี่ ทำอะไรอีก
เขาแอบชอบเธอตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแต่เธอกลับกลัวและพยายามอยู่ให้ห่างจากเขาแล้วเขาจะทำอย่างไรที่จะตามจีบเธอดีในเมื่อเธอเป็นน้องรหัสของเขา
เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"
เพียงดื่มน้ำชาจอกแรกที่ผู้เป็นมารดาเลี้ยงมอบให้ซุนฮวาก็กลายเป็นสตรีร้ายกาจ ปีนขึ้นเตียงท่านอ๋องผู้เป็นคู่หมายของน้องสาวจำใจกล้ำกลืนสถานะพระชายาตัวแทนเป็นเพียงเงาของผู้อื่นในสายตาของสวามี
‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง
หากความรักของเราเปรียบเหมือนแก้วใบหนึ่ง แก้วใบนี้คงร้าวจนใกล้แตกเต็มที อีกฝ่ายต้องการประคองรักนี้ไว้อย่างอดทน แต่อีกคนกลับทำลายจนหัวใจของเธอย่อยยับแหลกลาน ความอดทนของคนเรามีวันที่สิ้นสุดน่ะ “หย่า” คงเป็นทางออกที่ดีที่สุด ถ้าอย่างนั้นก็เชิญเขาไปในที่ชอบ ๆ ทางใครทางมัน แต่เมื่อเวลาพัดผ่าน ด้วยเหตุผลของกามเทพ ทั้งคู่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง และเมื่อได้พบหน้าเธอ เขาขอแก้ตัว และบอกเธอว่า เขายังรักเธอ ทว่าในวันที่เธอเดินจากไป เธอมีลูกน้อยติดท้องมาด้วย และปัญหาของคนเป็นแม่ เจ้าเด็กน้อยหนูอยากจะมีพ่อครับ แล้วเธอควรทำอย่างไรต่อไป ++++++++++ คำโปรย เมื่อเข้าไปถึง และเห็นภาพตรงหน้า ปริญเขาไม่ได้อยู่คนเดียว ในอ้อมกอดและวงแขนของเขา มีร่างผู้หญิงคนหนึ่ง และสิ่งที่ทำให้หัวใจของทอดาวสลาย ทั้งสองคนกำลังจูบกัน เพล้ง... ข้าวของในมือร่วงลงไป พร้อมกับร่างของทอดาวที่แทบทรุด เธอเซไปจนปะทะกับฝาบ้าน คนสองคนที่กำลังจูบกันอยู่รีบผละออกจากกันแล้วหันมามอง ทอดาวแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองด้วยซ้ำไป เธอไม่เคยคิดเลยว่าปริญเขาจะทำแบบนี้กับเธอ ทำอะไรที่แสนทุเรศในบ้านที่เป็นเรือนหอของเธอกับเขา ทอดาวน้ำตาคลอ เธอพยายามประคองสติโดยใช้ฝาผนังเป็นที่พึ่ง ‘แล้วลูกของเราล่ะ และนี่คืออะไร มันหมายความว่ายังไง ทำไมเขาทำแบบนี้กับฉัน’ ความคิดอันแรก ครอบครัวของเธอต้องแตกแยกแล้ว พร้อมกับคำถามเกิดขึ้นมามากมายในหัวของทอดาว เธอหน้าถอดสีซีดจางจนไม่มีสีเลือด สิ่งที่น่าเจ็บปวด เมื่อผู้หญิงคนนั้นเห็นเธอที่เป็นภรรยาของปริญแล้วจะกระดากอายถอยห่างจากสามีของชาวบ้าน แต่ไม่เลย สองมือของหล่อนคนนั้นยังสอดรัดเอาลำตัวและหน้าอกของตัวเองเบียดไปกับผิวแขนของปริญ