ปัง ปัง ปัง เขาเคาะประตูกวาดตามองรอบๆ อย่างระแวดระวัง แก่นกายเจ็บปวดเพราะต้องการปลดปล่อย ลมหายใจหอบหนักขึ้นทุกขณะ แอด... นาราภัทรแงมประตูมอง เห็นคนยืนหน้าห้อง ใบหน้าคุ้นเคยเธออ้าปากแต่กลับถูกปิดไว้ แล้วลากเข้าห้องทันที “อื้อ!” หญิงสาวดิ้นรนเมื่อถูกกอดรัดไว้แน่น ความร้อนจากร่างกาย ทำเอาหญิงสาวขมวดคิ้ว ดิ้นรนให้เขาปล่อยเธอ ได้ยินเสียงฝีเท้าคนอยู่ด้านนอก เสียงพูดคุยตามหาใครสักคน แล้วเงียบหายไป ริมฝีปากเป็นอิสระ นาราภัทรผลักแผงอกทันที “ทำบ้าอะไร ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้นะ!” คนตัวเล็กตวาดแว๊ด “ผมขอโทษ...” เสียงพร่าเอ่ยบอก กอดตัวเองแน่น “เป็นอะไรมิทราบ!” เขาปรือตา แล้วทอดมองใบหน้างดงามของหญิงสาว เขาทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ต่อให้ต้องถูกโกรธ เกลียด ก็จำต้องทำ หากเป็นแบบนี้เขาคงขาดใจตายแน่ “ผมขอโทษ ขอโทษด้วย ให้อภัยผมด้วยนะ....” เขาบอกเสียงแหบพร่า “หมายความว่ายังไง ขอโทษเรื่องอะไร!” หมับ! ตุบ! ร่างบางถูกเหวี่ยงลงบนเตียงกว้าง คนตัวเล็กกระเด้งตัวลุกขึ้นแล้วตะเกียกตะกายหนีทันที เธอรู้ดีว่าเขาต้องการอะไร ข้อเท้าถูกจับลากกลับมา “ช่วยด้วย ช่วยด้วย กรี๊ด!”
เสียงคลื่นกระทบจนเรือไหว ทว่าคนในเรือกลับไม่รู้สึกกับมัน ดื่มกิน ฟังเพลงคละเคล้าเสียงดนตรีอย่างมีความสุข เจ้าของรูปร่างเพรียวระหงส์ ส่วงสูงร้อยหกสิบห้า วงหน้ารูปไข่ ผมหยักศกยาวเคลียแผ่นหลัง ดวงตากรมโตขนตางอน จมูกโด่งริมฝีปากได้รูป สาวเท้าวางเครื่องดื่มไว้บนโต๊ะตามความต้องการของลูกค้า
หมับ!
ข้อมือหญิงสาวถูกคว้าไว้ แววตาคนจับกวาดมองแล้วยิ้มอย่างพึงพอใจ กับรูปร่างหน้าตาของพนักงานเสริฟ์ เธอบิดแขนเพื่อให้พ้นการเกาะกุม แต่ไม่เป็นผล หันมองคนอื่นเพื่อขอความช่วยเหลือ
“เท่าไหร่!” ลูกค้าวีไอพีถาม แล้วยิ้มอย่างหื่นกระหาย
“ไม่ได้ขายตัวค่ะ” เธอตอบเสียงแข็ง พยายามขืนตัวออก แต่กลับถูกจับไว้แน่น
“อย่าเล่นตัวเลย เท่าไหร่ว่ามาเลย พร้อมจ่าย ถ้าเธอดีฉันรับเลี้ยงต่อ เอาไหม” ลูกค้ายังคงพูดไม่หยุด คงฟันฉุนแต่พยายามเก็บอารมณ์เอาไว้
“บอกว่าไม่ขายไงคะ ไม่ได้ยินหรือไง!” คนถูกลวนลามเริ่มส่งเสียงดัง เพราะไม่พอใจที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้บ่อยๆ
แขกชักสีหน้าไม่พอใจต่อกิริยา “เป็นแค่พนักงาน กล้าขึ้นเสียงเหรอ!” เขาง้างมือ
“ช้าก่อนครับคุณลูกค้า ทำแบบนี้ไม่ได้นะครับ เรือเรามีกฎถ้าพนักงานไม่ผิดหรือผิดจริงต้องสอบสวนก่อน ห้ามทำร้ายเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าผมไม่เตือนนะครับ!” ชัยวุฒิ เจ้าของเรือเดินเข้ามาขัดจังหวะ รอยยิ้มเย็นยะเยือกส่งถึงแขกในเรือ แขกปล่อยข้อมือเป็นอิสระ
ชัยวุฒิหันมามองสาวน้อยวัยแรกรุ่น แล้วพยักหน้าช้าๆ เธอรีบเดินหนีไปทันที
“โดนอะไรมาอีกล่ะนารา” เพื่อนร่วมงามนามปาริฉัตรถาม สีหน้าเป็นห่วง
“โดนลวนลามอีกนั่นแหละ!” เธอตอบแล้วระบายลมหายใจ
“มันก็ไม่แปลกอะไรนี่ ก็นาราหน้าตาสวยออกแบบนี้ น่าจะเลิกทำงานบนเรือไปเป็นนางเอกหนังยังดีกว่าอีก เงินดีด้วย” ปาริฉัตรสนับสนุน
“โอกาสมันยากน่ะสิ ถ้าเป็นกันง่ายๆ คนสวยๆ คงพากันไปเป็นหมดแล้วล่ะ”
“ก็อย่างที่นาราว่านั่นแหละ เลยต้องทนใช้หนี้แทนพ่ออยู่แบบนี้ แถมยังถูกเจ้านายคอยจ้องอีก เราล่ะกลัวแทนเลยนารา”
หญิงสาวกัดริมฝีปากแน่น ตอนนี้ยังระวังตัวอยู่ ชัยวุฒิมันคงหาทางทำอะไรเธอได้ยาก แต่กลัวตัวเองจะพลาดเอาสักวัน เพราะสายตาของเขาไม่เคยมองเธอด้วยความหวังดี มีแต่หวังลากขึ้นเตียง
ชัยวุฒิก้าวผ่านมา แล้วรั้งข้อมือให้หญิงสาวตามเข้าห้อง นาราภัทรสะบัดข้อมือตนเองให้พ้นการเกาะกุม แล้วยืนมองเจ้านายสีหน้าเบื่อหน่าย
“บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้สวมแว่นเอาไว้”
“มันน่ารำคาญค่ะ ฉันเลยต้องถอด” หญิงสาวตอบแบบขอไปที
“น่ารำคาญหรืออยากโชว์ให้คนอื่นเห็นว่าตัวเองสวย” ชัยวุฒิย้อน แล้วเดินเข้ามาใกล้เอื้อมมือมาหมายจับ แต่เจ้าของร่างที่เขาหมายมั่นกลับเบี่ยงกายหลบ
“ฉันไม่ได้มีความมั่นใจอะไรขนาดนั้นเหรอค่ะ ฉันแค่คิดว่าไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมต้องปกปิดใบหน้าตัวเองด้วย!”
“พอไม่ปกปิดมันก็เป็นแบบนี้ไง!”
คนตัวเล็กหัวเราะแผ่ว “มันก็เป็นเหมือนกันหมดไม่ใช่หรือไงคะ ไม่เว้นแม้แต่คุณ!”
คนฟังสะอึก แล้วขบกราม
“ฉันอ้อนวอนเธอมานานเท่าไหร่แล้ว ฉันไม่เข้าใจทำไมเธอไม่ยอมนารา” ชัยวุฒิถามเสียงเครียด เขาอยากได้ตัวนาราภัทรมาเป็นเมียน้อย แต่เธอกลับไม่ยินยอม ตั้งใจเลี้ยงดูอย่างดีเสียด้วยซ้ำ
“ฉันไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอกค่ะ ถ้าฉันจะต้องเป็นเมียน้อยคุณ ฉันยอมขายตัวแบบไม่ผูกมัดกับใครดีกว่า!”
ร่างบางหันกายเพื่อเดินออกนอกห้อง แต่ท่อนแขนกลับถูกคว้าไว้แล้วกระชากไปกอดรัด
“ปล่อยฉันนะคุณชัยวุฒิ!”
“เมื่อไหร่จะยอมสักที ฉันจะบ้าตายแล้วรู้ไหม!” เขาคำราม แล้วกระชากลากถูคนสวยไปยังโซฟา เธอล้มลงเพราะแรงผลักดัน
มือบางยกดันแผงอกสีหน้าขุ่นเคือง
“เมียคุณฉันรู้จักเธอดี เธอไว้ใจฉันแต่ไม่เคยไว้ใจคุณ อย่าทำอะไรฉันดีกว่าคุณชัยวุฒิ ไม่อย่างนั้นคุณจะต้องเสียเรือลำนี้ไปแน่ คุณน่าจะรู้ว่าเมียคุณกำลังจับตาดูคุณอยู่ทุกฝีก้าว ทำอะไรคิดหน้าคิดหลังเสียก่อน!” โชคดีที่เธอสนิทสนมกับภรรยาของเขาอย่างดี เลยทำให้มีกำลังใจในการต่อต้านเขา
ชัยวุฒิชะงักขบกรามแน่น ปล่อยร่างบางเป็นอิสระ สุดแสนเสียดายแต่ก็ไม่กล้าเสี่ยง เมื่อทุกอย่างที่สร้างมา มาจากเงินของภรรยาเขาทั้งนั้น
นาราภัทรก้าวออกจากห้อง แล้วถอนหายใจด้วยความโล่งอก เห็นทีต้องรดน้ำมนต์ล้างซวยเสียบ้าง หน้าตาสะสวยไม่ได้ช่วยให้ชีวิตเธอดีขึ้นเลย รังแต่จะแย่ลง และสร้างปัญหาไม่จบสิ้นให้ตายสิ
ร่างบางสวมชุดเดรสรัดรูปสีแดง ใบหน้าคาดทับด้วยหน้ากากปีกนกตรงดวงตา ทรวงทรงองเอวอรชร ทำให้สายตานักเสี่ยงโชคชายหลายคู่จับจ้อง งานกลางคืนเป็นงานที่เธอถนัดที่สุด เพราะมันไม่ต้องเปิดเผยใบหน้า และเธอไม่เคยถูกใครลวนลามมาก่อน พวกนักเสี่ยงโชคบางคนยังนิสัยดีกว่าแขกวีไอดีด้านบนดาดฟ้าเสียอีก
เธอวางแก้วไวน์ให้กับนักเสี่ยงโชค แล้วเดินกลับไปยังเคาท์เตอร์บาร์ เพื่อนำเครื่องดื่มมาเสริฟ์ต่อ เสียงทอยลูกเต๋า เสียงโห่ร้องดีใจ คละเคล้าเสียถอนหายใจหลายต่อหลายครั้ง ขึ้นชื่อว่าการเสี่ยงได้เสียเป็นของคู่กัน
“วันนี้ไม่เล่นเหรอนารา” เสียงทุ้มถาม เธอหันมองเจ้าของน้ำเสียง เห็นกำลังสาละวนกับการชงเครื่องดื่มให้ลูกค้าไปด้วย
“กะว่าจะเล่น เมื่อวานได้ทิปเยอะอยู่”
“แล้วจะเล่นอะไรล่ะวันนี้”
“ฉันเล่นเป็นอย่างเดียวเท่านั้นล่ะ”
“โฮโลเหรอ?”
เธอพยักหน้าช้าๆ แทนคำตอบ เครื่องดื่มเซ็กส์ออนเดอะบีชถูกวางไว้ตรงหน้า บาร์เทนเดอร์ยิ้ม
“เอาไว้ยอมใจหน่อย ฉันเลี้ยงเอง”
นาราภัทรหยิบมากระดกดื่ม แล้ววางแก้วลงตามเดิม กวาดตามองหาโต๊ะที่จะร่วมเล่นด้วย
“ขอบใจมากนะจอห์น” พูดจบเธอเดินออกมา แล้วร่วมวงกับนักเสี่ยงโชคทันที
แกร๊ง
เสียงลูกเต๋าเขย่า เธอกระตุกยิ้มมุมปากทันที
“สูงค่ะ”
เปิดมาแต้มสูงอย่างที่นาราภัทรคาดหมาย เธอยิ้มกว้างเมื่อยอดเงินจากการเล่นเริ่มพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ
แอด...
ประตูห้องเปิดออก ร่างสูงใหญ่สวมเชิ้ตสีดำ กางเกงสแลคสีเดียวกัน เขาปลดกระดุมสองเม็ดเผยเห็นมัดกล้ามเนื้อ ใบหน้านั้นคมเข้ม คิ้วหนา จมูกโด่ง ริมฝีปากหยักลึก ดวงตาเรียวคม วงหน้าออกไปทางแขก ภีมพลหนุ่มหล่อผู้เป็นที่หมายตาของสาวๆ กวาดตามองรอบๆ เพื่อหาความสำราญให้ตนเอง
กลิ่นจันทร์ หญิงสาวมากความสามารถ หนีห่างไกลเมืองไทยเพราะเจ็บช้ำจากแฟนหนุ่มซึ่งนอกใจ ทว่าเมื่อกลับมาเขากลับกลายเป็นเจ้าของบ้านที่เธอเคยอาศัยตั้งแต่เด็ก แม่เลี้ยงและพี่สาวต่างบิดารวมหัวกันหักหลังเธอกับพ่อ ขายบ้านหลังนี้ กลิ่นจันทร์ต้องการได้คืน แต่เธอไม่มีเงินมากพอ เมื่อนั้น แฟนหนุ่มซึ่งอยู่ในหัวใจเธอตลอดเวลา แม้เขาทำเรื่องผิดมหันต์ เธอก็มิอาจทำใจให้ลืมลง คิมหันต์ ชายหนุ่มผู้ฝ่าฝันอุปสรรค จำตั้งตัวเป็นเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ได้สำเร็จ กระนั้นในหัวใจเขากลับเย็นเยือกราวกับน้ำแข็ง เพียงเพราะถูกแฟนสาวทรยศหนีไปต่างประเทศ เพียงเพราะได้พบกับผู้ชายคนใหม่ ความแค้นฝังแน่นในอก เขารอวันเอาคืน และโอกาสก็มาถึง “ผมจะคืนบ้านให้ ถ้าคุณยอมเป็นเมียผมเป็นเวลาหนึ่งปี”
เมื่อหนึ่งมีรักให้แต่ไม่อาจบอก กับอีกหนึ่งที่ไม่เคยรู้และตั้งหน้าตั้งตาชิงชัง การหมั้นหมายที่เกิดจากผู้ใหญ่ส่งผลให้นาฎสุรีย์ต้องจากลาไปไกลเพื่อรักษาแผลใจ ส่วนอีกคนที่ไม่เคยรับรู้ แท้จริงแล้วกลับห่วงหา ห้าปีต่อมา สองคนได้พบกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอเปลี่ยนไป ส่วนเขากลับรู้หัวใจตัวเอง ******************** เพียะ! ใบหน้าหันตามแรงฝ่ามือ ชายหนุ่มนิ่งงัน มันชาไปทั้งแถบ นาฎสุรีย์มองมือตัวเอง มันกำลังสั่น เมื่อเขาหันมาสบตา เห็นสีหน้าแววตามันเปลี่ยนไป เธอชะงักตัดสินใจหันหลังคิดวิ่งหนี แต่ทว่าเรียวแขนกลับถูกคว้าเอาไว้ “คิดว่าทำแบบนี้ แล้วจะหนีไปงั้นเหรอ มันง่ายไปมั้ง” พูดจบ เขาเหวี่ยงร่างบางลงบนเตียง แล้วใช้เท้าถีบประตูปิดลง ก่อนล็อคอย่างแน่หนา “ช่วยด้วย ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยที!” หญิงสาวร้องลั่น “แหกปากไปเลย เอาให้ดัง ห้องฉันเป็นห้องเดียวที่ไม่มีกุญแจสำรองไข ถึงมีก็ไม่มีใครก็กล้ามายุ่งหรอกนะ เพราะฉันเป็นคนยังไง ทุกคนรู้ดี” เขาส่งเสียงข่มขู่ นาฎสุรีย์จ้องมองอีกฝ่าย กัดริมฝีปากครุ่นคิดหาทางเอาตัวรอด เธอไม่ได้อยากตบหน้าเขา แต่เพราะคำพูดนั้นมันทำให้ระงับความโกรธไว้ไม่ได้เลย “ฉันไม่ได้ตั้งใจ ก็นายพูดจาไม่ให้เกียรติกันเลย!” หญิงสาวพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ ตอนนี้ตนเองตกอยู่ในสถานการณ์ เสียเปรียบอย่างรุนแรง ทว่าแววตาของอีกฝ่าย กลับไม่เย็นลงเลยแม้แต่น้อย “ตอนนี้ต่อให้พ่นอะไรออกมา มันก็ไม่มีประโยชน์แล้ว เพราะฉันไม่ให้อภัยเธอ!” เขาตวาดลั่น คนใต้ร่างสะดุ้งสีหน้าตื่นกลัว มือหนาจับสาบเสื้อ ที่เคยถูกกระชากมาก่อนหน้า ออกแรงดึง แควก! มันขาดติดมือ เจ้าของเสื้อชะงักดวงตาเบิกกว้าง กรีดร้องขึ้นมาทันที พยายามดิ้นรนผลักดันอีกฝ่ายเพื่อให้พ้นจากการโดนกระทำ แต่ทว่าอารมณ์ของเขา กลับรุนแรงเกินกว่า เรี่ยวแรงเธอจะต้านทานเอาไว้ได้ “ปล่อยฉันนะ ปล่อยฉัน ได้ยินไหม!” คนหน้ามืด ไม่ฟังเสียง ตอนนี้ในหัวเขาแค่ต้องการเอาคืน กับการกระทำไร้ซึ่งการไตร่ตรองของอีกคน คนอย่างพีรดล ไม่มีวันยอมให้ใครมาหยาม เท่าที่ผ่านก็ถือว่ายอมมามากพอแล้ว ริมฝีปากบางถูกฉกฉวยอย่างรวดเร็ว จนคนใต้ร่างร้องครางในลำคอ พยายามผลักไสอีกฝ่าย แต่ร่างกายนั้นกลับไม่สะดุ้งสะเทือนแม้แต่น้อยเลย มือหนาลูบไล้ไปตามสัดส่วน ทำเอาเลือดในกายชายหนุ่มเริ่มร้อนฉ่า กระโปรงนักศึกษาถูกรั้งออก เจ้าของน้ำตาเริ่มคลอ ความหวาดกลัวแล่นพล่าน เธอไม่น่าโมโหจนน่ามืด แล้วหลงลืมไปว่า แท้จริงแล้วพีรดลเป็นคนเช่นไร หมดสิ้นแล้วซึ่งหนทางเอาตัวรอด อยากหลับโดยไม่รับรู้อะไรอีกเลย เขาถอนริมฝีปากจ้องมองอีกคน เห็นน้ำตาเธอกำลังไหลรินออกมา ทว่ามันได้ทำให้รู้สึกสงสาร เมื่ออารมณ์ตอนนี้มันกระเจิงไปไกล นาฎสุรีย์มีดีกว่าที่คิด เรือนร่างเย้ายวน ตรงหน้าทำเอาหายใจแทบไม่ออก ตัวตนแข็งขืนจนแทบปริแตก มันกำลังต้องการปลดปล่อย “ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันขอโทษ ฉันผิดเอง นายอย่าทำอะไรฉันเลยนะ...” เธออ้อนวอนทั้งน้ำตา “มันสายไปแล้ว เธอไม่ควรเข้ามาที่ห้องฉันตั้งแต่แรก...” เขาตอบเสียงรอดไรฟัน จะให้ผละไปได้ยังไง ในเมื่อเธอทำให้เขาแทบคลั่งแบบนี้
เธอถูกจ้างให้แย่งชิงชายคนหนึ่ง ทว่าหญิงคนนั้นเสียใจจนฆ่าตัวตาย เธอจมอยู่กับความเสียใจจนกระทั่งได้พบกับเขา ชายผู้เอื้อมมือมาปลุกปลอบและทำลาย
เพราะความผิดพลาดในค่ำคืนนั้น ทำให้นรีกานต์และกวีวัธน์ต้องแต่งงานกัน ทว่าเขากลับยังคงมีเยื่อใยต่อคนรักเก่าอยู่ เธอจำต้องเดินออกมา เพื่อให้เขาได้สมหวังกับคนรัก แม้กำลังตั้งครรภ์อยู่ก็ตาม ทว่าเขากลับตามหา เพื่อทวงสิทธิ์ของความเป็นสามีและพ่อของลูกกับเธอ ******************************* ปัง! ประตูปิดลงร่างเธอถูกโยนลงบนเตียง รีบลุกพรวด จ้องมองอีกฝ่ายแววตาตื่นตระหนก “นี่คุณทำบ้าอะไร ไม่ตลกแล้วนะ!” เธอตวาดลั่น “ฉันก็ไม่ตลกเหมือนกัน มาอยู่ที่นี่เพราะต้องการเป็นเมียฉันไม่ใช่หรือไง นี่ไง! กำลังจะทำให้ เธอมาได้จังหวะพอดีเลย ฉันกำลังว่าง กำลังโสด แต่ก่อนแต่ง ฉันขอเช็คของหน่อยก็แล้วกัน ว่ามีดีแค่ไหน!” คนตัวเมากระโจนเข้าหา นรีกานต์รู้ในทันทีว่า ชีวิตตนเองกำลังตกอยู่ในอันตรายแล้ว กระโจนหนีด้วยความหวาดกลัว วิ่งตรงไปหาประตู ทว่าเรียวแขนกลับถูกคว้าไว้ กระชากร่างบางเข้าหาจนปะทะแผงอก มือยกทุบตีจิกข่วนอีกฝ่ายไม่หยุดหย่อน แต่เหมือนเขาไม่สะเทือนเลยสักนิด “ปล่อยฉันนะ ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยที!” ไม่ทันได้ร้องขอความช่วยเหลือต่อ ริมฝีปากถูกปิดอย่างรวดเร็ว “อื้อ!” ร่างถูกตรงบนเตียง เรียวแขนรวบไว้เหนือศีรษะ น้ำตาคนโดนกระทำไหลริน เมื่อรู้ว่าตนเองหมดหนทางรอดในคราวนี้ เขาชะงักจ้องมองใบหน้าของคนใต้ร่าง น้ำตาของผู้หญิงมันไร้ความหมายสิ้นดี มารยาแบบนี้ เห็นมาจนสะอิดสะเอียนแล้ว “ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันกลัวแล้ว...” “หยุดพูดให้รำคาญสักที นอนเฉยๆ ไปเถอะ เดี๋ยวก็มีความสุขเอง!”
เธอยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อความรัก แต่คนรักกลับมีคนอื่น เธอเลยตัดสินใจแต่งงานกับเขา เพื่อเอาคืนคนพวกนั้น โดยหวังให้เขาคือเครื่องมือระบายความแค้น ทว่าเป็นเธอเองที่ตกหลุมกับดักที่ตนเองวางไว้ ใครจะรู้ว่าเขาจะนำพาให้เธอตกอยู่ในห้วงอารมณ์พิศวาส จนอยากจะถอนตัว
เพราะวัยเพียงสิบสี่มิลันดาถูกปฏิเสธความรักที่มีให้กับคมฉณัฐอย่างไร้เยื่อใยความเสียใจทำให้เด็กสาวตัดสินใจเรียนต่อเมืองนอก คมฉณัฐจะทำเช่นไรเมื่อกลับมาเด็กสาวกลายเป็นสาวสะพรั่งดีกรีศัลยแพทย์เกียรตินิยม
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."