เขากลับมาเพื่อขอโทษ เธอไม่โกรธ แต่ไม่ให้อภัย โรมัน หรือ โรม ซาโรนอฟ มาเฟียหนุ่มลูกครึ่งไทย-รัสเซียเข้าใจผิดคิดว่า สันทิญา นักศึกษาสาวที่มาเที่ยวผับกับเพื่อนในคืนนั้นเป็นนางนกต่อของคู่อริ เขาขืนใจและปล่อยเธอไป หากแต่เจ้าพ่อเหมืองเพชรอันดับต้นของยุโรปกลับไม่อาจสลัดความบริสุทธิ์ของแม่นกต่อสาวทิ้งไปได้ เขาสืบหากระทั่งได้พบเธออีกครั้ง และได้พบว่าสันทิญาอยู่กับ มณี หรือ มินนี่น้อย ลูกของเธอซึ่งเป็นเด็กหญิงอายุสี่ขวบ โรมันแน่ใจว่ามินนี่คือสายเลือดของเขาที่เธอเก็บเอาไว้ เขากลับมาคราวนี้เพื่อขอโทษ สันทิญาบอกว่าไม่โกรธ แต่...เธอไม่มีวันให้อภัย แล้วมาเฟียตัวพ่อจะทำยังไงเพื่อให้ได้ใจเธอกับลูกกลับคืน
“คูมแม่...อีกนานม๊ายคะ...ได้เวลาแล้วคะ...คูมแม่”
เสียงแจ้ว ๆ ของเด็กหญิงตัวน้อยที่นั่งอยู่ข้างกองผ้าและคอยดูหญิงสาวที่กำลังเลือกชุดซานตาคลอสหลายแบบบนราวแขวนดังขึ้น สันทิญาหันกลับมาแล้วยิ้มเผล่
“แป๊บเดียวค่ะลูก...แป๊บเดียวน๊า...แม่กำลังหาชุดที่มันเหมาะกับลูก” พูดพลางปาดเหงื่อที่ไหลลงมาจากขมับทั้งที่ในห้องนั้นเปิดแอร์เย็นฉ่ำ เธอยิ้มกับ มณี ลูกสาววัยสี่ขวบที่นั่งดูแม่เลือกชุดให้ภายในร้านเสื้อผ้าเด็กที่สันทิญาเปิดขายมากว่าปีในย่านการค้าที่มีคนพลุกพล่าน แม้เป็นร้านเล็ก ๆ แต่ก็เป็นสถานที่อบอุ่นของสองแม่ลูกในเมืองใหญ่ หนูน้อยบุ้ยปากสีชมพูจิ้มลิ้ม ตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนเป็นประกายสุกใส เด็กหญิงดึงวิกผมออกเผยให้เห็นเรือนผมยาวประบ่าเป็นลอนสีน้ำตาลเหลือบแดงมะฮอกกะนีแตกต่างจากเด็กไทยทั่วไป ผิวขาวเหมือนหยวกบ่งบอกว่าหนูน้อยไม่ได้มีเชื้อชาติไทยแท้
“คูมแม่...ก็หนูอยากใส่ชุดนั้น”
มณีชี้นิ้วเล็กไปยังชุดซานตาคลอสที่พาดบนราว มันเป็นชุดกางเกงสีแดงประดับเฟอร์เทียม สันทิญาหันไปมองแล้วส่ายหน้า
“มินนี่เป็นเด็กหญิง จะใส่แบบกางเกงได้ยังไงคะ นี่แม่กำลังเลือกแบบกระโปรงให้”
“ทำไมจะไม่ได้คะ ในเมื่อซานตาเป็นผู้ชาย”
“แต่มินนี่เป็นเด็กหญิง ก็ต้องแต่งเป็นผู้หญิงซีคะ”
มณีน้อยกอดอกแล้วบุ้ยปากอีก “แต่คูมแม่เลือกชุดตั้งนานแล้ว จะถึงเวลาแล้วนิคะ”
“โอเค...ได้แล้วจ้า” ในที่สุดสันทิญาก็เลือกชุดซานตาแบบกระโปรงออกมาจนได้ เธอยื่นให้ลูกสาวที่ลุกขึ้นยืนแล้วเกาหัว
“มินนี่อยากใส่กุงเกง”
“ไม่ปฏิเสธนะลูก เพราะเราเหลือเวลาแค่ไม่ถึงสิบห้านาที ทุกอย่างโอเค...แม่โอเค”
“และมินนี่...ก็โอเค” เด็กหญิงรับชุดนั้นไปทั้งที่หน้าไม่ตาไม่สบายนัก หนูน้อยจัดแจงสวมชุดด้วยตัวเองถึงแม้จะทุลักทุเล เพราะมันเป็นสิ่งที่สันทิญาพยายามสอนลูกให้รู้จักช่วยตัวเองแม้มณีอายุแค่สี่ขวบ เธอมองลูกสาวที่พยายามสวมชุดซานตาสีแดงกระทั่งเมื่อเห็นว่ายังไม่เรียบร้อยก็เข้าไปช่วยจัดแต่งให้ นั่นเองทำให้มณียิ้มกว้าง เด็กหญิงช้อนแก้มแม่ด้วยอุ้งมือทั้งสองแล้วจูบบนหน้าผากของสันทิญาที่กำลังโน้มตัวลงไปหาแผ่วเบา หญิงสาวชะงักไปชั่วครู่ก่อนนั่งคุกเข่าและกอดลูกไว้แนบอก เธอกระซิบเสียงแผ่ว
“มินนี่ต้องเป็นเด็กดี ตั้งใจแสดงนะลูก”
“คูมแม่จะไปดูมินนี่แสดงมั้ยคะ?”
“ลูกไปก่อน เดี๋ยวแม่จะตามไป”
“สองแม่ลูกเรียบร้อยหรือยังจ๊ะ...อะไรเนี่ย...ยังกอดกันกลมเลยอ่ะ”
เสียงดังแทรกเข้ามาทำให้สองแม่ลูกหันไปมองหญิงสาวในเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนส์ท่าทางทะมัดทะแมง
“เสร็จแล้วล่ะจ้ะลี ฉันต้องรบกวนเธอไปส่งมินนี่ที่โรงเรียนก่อน”
สันทิญากล่าวกับปราณลี สาวหน้าใสแต่ลักษณะท่าทางออกจะเป็นทอมบอยและเป็นเพื่อนสนิทของเธอที่เดินเข้ามา
“วันนี้น้าลีมารถอะไรคะ?” มณีถามทำให้คนถูกถามยิ้มแฉ่ง
“มอเตอร์ไซค์ค่ะ ก็น้าลีไม่มีรถเก๋งนี่คะ”
“เย้ๆๆๆ...มินนี่ชอบรถมอเตอร์ไซค์” เด็กหญิงปรบมือและเปลี่ยนอารมณ์เป็นหัวเราะร่าก่อนผละจากมารดาวิ่งไปหาปราณลีที่อ้าแขนรับ เธอเป็นเพื่อนสนิทของสันทิญาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม กระทั่งถึงวันนี้ก็ยังคงเป็นเพื่อนที่สนิทสนมให้การช่วยเหลือกันทุกอย่างไม่เว้นแม้แต่ช่วยเลี้ยงดูลูกสาวของเพื่อนตั้งแต่แรกเกิด อยู่ใกล้ชิดมณีจนคนภายนอกคิดว่าหนูน้อยเป็นลูกสาวของเธอ ปราณลีเป็นครูสอนเด็กเล็กในโรงเรียนเอกชน มีนิสัยห้าวและที่สำคัญเธอไม่ชอบผู้ชายทั้งที่หน้าตาสะสวยเข้าขั้นนางแบบ
“ถ้างั้นเราไปกันเถอะจ้ะ เดี๋ยวน้าลีจะพามินนี่แว๊นไปโรงเรียนเองจ้า”
“มินนี่ไปคอยน้าลีที่รถนะคะ” มณีพูดจบก็รีบวิ่งผลาวออกไป ปราณลีหันมายิ้มกับสันทิญาที่ยืนมองลูกสาวด้วยความเอ็นดู
“มินนี่โตขึ้นมากเลยนะปัน มันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองแก่ลงไปมากยังไงก็ไม่รู้”
“ลียังไม่แก่หรอก ปันต่างหากที่แก่มากเกินอายุ ลียังดูทะมัดทะแมง มีชีวิตชีวามากกว่าทิหลายเท่าเลยล่ะ”
ไม่มีใครรู้ว่า นันทินี เลขาของ เจตต์ มีงานอีกอย่างคือการเป็นนางบำเรอลับๆ ของเขา กระทั่งวันหนึ่งเธอไม่สามารถทำหน้าที่นั้นต่อไปได้เพราะนันทินีหลงรักท่านประธานสุดหล่อ เธอตัดสินใจลาออกแต่เขากลับไม่ยินยอม ก็ในเมื่อเธอจากไปพร้อมหอบลูกในท้องของเขาไปด้วย
เธอยอมทนให้เขาดูถูก เป็นแม่ของลูกให้สามีของพี่สาว จเด็จ - นภัทสรีย์ นภัทสรีย์ ยอมรับข้อเสนอมีลูกกับ จเด็จ สามีของ เพียงกมล พี่สาวต่างแม่ที่มีปัญหาสุขภาพไม่สามารถมีลูกได้และชีวิตอาจไม่ยืนยาว เพื่อตอบแทนบุญคุณที่เพียงกมลส่งเสียให้เธอเรียนจนจบ ทั้งที่ จเด็จไม่เห็นด้วยแต่แรกและแสดงท่าทีรังเกียจเพราะคิดว่า นภัทสรีย์อยากได้สามีของพี่สาว และยิ่งกว่านั้นคืออยากได้มรดก แต่แล้วเขาเองเผลอมีความสัมพันธ์กับนภัทสรีย์จนเธอตั้งท้อง แต่เพียงกมลกลับเสียชีวิตเสียก่อนน้องสาวคลอด เมื่อไม่มีพี่สาวแล้ว นภัทสรีย์ก็ตัดสินใจยอมจากไปทั้งที่อุ้มท้องแก่เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าเธอไม่ต้องการอะไรทั้งสิ้น ทั้งทรัพย์สมบัติและที่ดินแม้จะรักสามีของพี่สาวที่รังเกียจเดียจฉันท์เธอ ไม่ต้องการเป็นแค่ เมียแทนรัก ถึงเวลานั้นจเด็จจึงรู้ใจตัวเองว่าเขารักเธอมากแค่ไหน และไม่สามารถปล่อยเมียกับลูกไปจากชีวิตของเขาได้
“มาเรียสจะไม่เป็นอะไร เขาจะไม่บาดเจ็บอาการสาหัสและต้องตายถ้าคนที่ขับรถพาเขาไปคืนนั้น ไม่ใช่คุณ!” เบน คริสเตียนเซน จะไม่ยอมสูญเสียน้องชายฝาแฝดของเขาไปโดยไม่ได้ลากตัวคนผิดมาลงโทษ เขาล่อหลอก พลอยพิชญา มายังสกรูวา แห่งหมู่เกาะโลโฟเตนเพื่อจองจำเธอไว้กับอเวจีชั่วนิรันดร์ในสวรรค์ของชาวไวกิ้ง เขาคือมัจจุราชที่จะลากเธอลงสู่ห้วงลึกที่สุดของมหาสมุทรแห่งความสิ้นหวัง ทว่าเธอกลับยินดีชดใช้ความผิดแม้แลกด้วยวิญญาณที่ถูกร้อยรัดจากความชิงชัง หากแต่พิศวาสเถื่อนนั้นคือการลงทัณฑ์หรือเสน่หาที่พันธนาการตัวเขาไว้จนดิ้นไม่หลุด
ภารกิจสำคัญของ อลินทิรา คาฮานา สายลับสาวลูกครึ่งไทย เวเนซูเอลา หรือที่รู้จักในองค์กรว่า ออลโซย่า คือการโจรกรรมข้อมูลสำคัญของธาตุชนิดใหม่ที่สามารถพัฒนาเป็นอาวุธ ซึ่งมีอานุภาพร้ายแรงกว่านิวเคลียร์ สายลับแสนสวยมือหนึ่งได้ข้อมูลนั้นไป แต่เธอกลับต้องพบกับความจริงอันน่าพรั่นพรึงยิ่งกว่า เพราะเธอกำลังถูกตามล่า ไม่ใช่แค่องค์กรลับที่สั่งเธอมา แต่ยังมีเขา แดเนียล ไพรซ์ เทพบุตรผู้หล่อเหลาเกินใครในตระกูลขุนนางเก่าอันมั่งคั่ง มาเฟียผู้หยิ่งทะนงและเลือดเย็นเจ้าของข้อมูลลับที่ถูกโจรกรรม เขาควานหาตัว ออลโซย่า แทบพลิกแผ่นดิน แต่เมื่อได้ตัวเธอมา เขากลับ ฆ่า เธอด้วยเสน่หาและพิศวาสร้อนแรง
เมมนอน ราชองครักษ์หลวงแห่งฟาโรห์รามเสสมหาราช ผู้มีหัวใจรักมั่นคงต่อเจ้าฟ้าหญิงเนเฟอร์ติตี หากเมื่อถูกหักหลัง รักจึงกลายกลับ เป็นความเคียดแค้นชิงชังอย่างมิอาจเลี่ยง เนเฟอร์ติตี เจ้าฟ้าหญิงแห่งนครธีปส์ พระราชธิดาในฟาโรห์รามเสสและพระมเหสีเอกเนเฟอร์ตารี พระชนมายุ ๑๗ ชันษา หัวใจของนางมอบไว้แด่ราชองรักษ์หลวงเมมนอนผู้เดียวเท่านั้น “เมมนอน…เกิดอะไรขึ้น…ท่านบาดเจ็บ” “อย่ามาแสร้งว่าท่านเป็นห่วงเป็นใยข้าเจ้าหญิงเนเฟอร์ติตี !” เมมนอนคำรามลั่นพร้อมทั้งดึงข้อพระบาททั้งสองจนร่างทั้งร่างของเจ้าหญิงเซเข้าหาร่างสูงใหญ่ เนเฟอร์ติตีสั่นไปหมดด้วยไม่เคยเห็นชายหนุ่มโกรธมากขนาดนี้ หากดูเหมือนทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดแล้ว เขาไม่สนใจแม้แต่น้ำพระเนตรของเจ้าหญิงซึ่งเคยเป็นที่รัก มีแต่จะเดือดดาลและบีบข้อพระหัตถ์แรงขึ้น “เมมนอน…. ท่านเป็นอะไรไป ข้าเจ็บ!” “เนเฟอร์ติตี…ท่านคงรู้เห็นกับรามเสสส่งคนไปกำจัดข้าในการเดินทางครั้งนี้ แสร้งทำดีให้ข้าไปอาบูซิมเบลแล้วตลบหลังด้วยการส่งนักฆ่าขึ้นไปบนเรือหลวง เท่านั้นไม่พอ พวกท่านอำมหิตนักแม้แต่ทหารที่ไปกับข้าก็ไม้ละเว้นชีวิตเพื่อให้ใครๆเข้าใจว่านี่เป็นการปล้นสะดมต์ บอกข้าสิเนเฟอร์ติตี…บอกข้าว่าหัวใจของท่านทำด้วยอะไรถึงได้โหดร้ายยิ่งกว่าอนูบิส!” “หยุดปรักปรำข้าเดี่ยวนี้! ข้าไม่รู้ไม่เห็นสิ่งใดที่ท่านกล่าวมา ท่านน่าจะรู้ว่าข้ามิเคยคิดจะทำอะไรเช่นนั้น” เสียงนางอ่อนลงในตอนท้ายราวจะบอกให้รู้ว่าความอาลัยนั้นยังติดลึกในใจมากเหลือเกิน หากสำหรับราชองครักษ์หนุ่มกลับคิดตรงกันข้าม เนเฟอร์ติตีก็เหมือนน้ำผึ้งอาบยาพิษ นางแสร้งทำให้เขาสงสารเพื่อคิดจะพล่าผลาญวิญญานของเขาในภายหลัง “ข้าเคยหลงเชื่อพวกท่าน ยอมมอบชีวิตและความภักดีแก่องค์สมมติเทพแห่งอมุน-รา เป็นนายทหารที่ยอมตายแทนองค์เหนือหัวได้ทุกเวลา... และสำหรับท่าน ข้าก็ได้มอบความรักอย่างชายคนหนึ่งที่พึงรักหญิงเดียวอย่างสุดหัวใจ หากแต่สิ่งที่ข้าได้กลับคืนก็แค่คำลวงและความทรยศหักหลัง ท่านจงรู้ไว้ว่าข้าหมดสิ้นแล้วซึ่งความไว้วางใจ ระหว่างท่านกับข้าให้มันเหมือนสายน้ำไนล์ที่ไหลไปไม่มีวันหวนคืน!”
แม่ทัพเฉิงจิ้นเหอ หนึ่งในแม่ทัพผู้เยี่ยมยุทธถูกส่งตัวมายังดินแดนลับเร้นเพื่อกวาดล้างอำนาจของเหล่ามาร และหนึ่งในเหตุผลที่เขาต้องมาที่นี่ก็เพื่อตามล่า นางมารหมื่นบุปผา ผู้ซึ่งปลิดชีวิตคู่หมายของเขาโดยไร้ความปราณี หากแต่เมื่อเฉินจิ้นเหอได้พบนาง โลกอันเปล่าร้างนั้นเสมือนกลับมาเบ่งบานในหัวใจ ของจอมยุทธผู้ไร้รัก
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"