“แม่บุษรออยู่ที่นี่นะ ประเดี๋ยวฉันจะให้บ่าวไปเอายาที่เรือนคุณแม่ กินยาสักหน่อย ก็จะดีขึ้น” ศรพูดทำท่าจะลุกออกจากเตียง ทว่าเปลือกตาที่เปิดออกพร้อมดวงตาฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำกลับทำให้ศรไม่กล้าก้าวจากไป เขาค้อมกายเหนือร่างที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง ฝ่ามือประคองสองแก้ม สบสายตาฉ่ำชื้นนั้น ดวงตาของหล่อนสื่อความหมายจากหัวใจจนหมดสิ้นแล้ว “หล่อนไม่อยากให้ฉันไปหรือ” เจ้าของใบหน้าสวยแดงก่ำด้วยพิษไข้ปิดเปลือกตาลง ก่อนจะพยายามลืมขึ้นมองเขา พยักหน้าน้อยๆ บ่งบอกว่าหล่อนต้องการอย่างนั้นจริงๆ นั่นทำให้หัวใจของศรไหววูบก่อนจะเต้นแรงรัวเร็ว เขายิ้มให้หล่อน ประคองสองแก้ม ดวงตาคมแต่หวานไปด้วยความอ่อนโยนจ้องใบหน้าน้อยๆ นั้น “ได้ พี่จะไม่ไปไหน พี่จะอยู่กับน้อง น้องหลับตานะ พักสักหน่อย ประเดี๋ยวค่อยตื่นมากินยาก็ได้ พี่... พี่จะอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน จะอยู่กับน้อง” “รอพี่นะ ที่จะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย จะทำทุกอย่างให้ถูกต้อง รอพี่นะแม่บุษ” เสียงทุ้ม หวานและกรุ่นไปด้วยความอ่อนโยน แม้จะไกล ทว่าบุษบายังรับรู้ได้ว่าเขาพูดกับหล่อน หากนั้นคือความฝัน ก็คงเป็นฝันที่ดีสุด “พี่จะรักน้องให้เต็มหัวใจ” เสียงจากหัวใจบ่งบอกร่างที่กกกอด และเมื่อบุษบาเบียดร่างเข้าหาเขามากขึ้น ศรยิ้มก่อนจะตระกองกอดร่างแบบบางแนบแน่น เขาอยากกอดหล่อนแบบนี้ทุกค่ำคืน
เสียงดนตรีที่ดังออกมาจากตัวตึกด้านข้าง ส่งผลให้เจ้าของร่างแน่งน้อยชะงักเท้าก้าวเดิน ดวงตาสวยเบิกกว้างด้วยความฉงน ด้วยนี่คือสิ่งใหม่ที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน ทว่าเสียงนั้นกลับบาดลึกสู่กลางอกจนไม่อาจทำเฉยแล้วเดินผ่านไปได้
ใบหน้างามสมวัยดรุณีผินตามทิศทางของเสียง ก่อนจะค่อยๆ ปิดเปลือกตาลงหลับพริ้ม ดั่งจะซึมซับทุกท่วงจังหวะกังวาน ทุ้ม ต่ำ ลุ่มลึก มีอำนาจ แลบางครั้งกลับแหลมขึ้น คล้ายผู้เล่นจงใจให้เป็นเช่นนั้น
ทุกสรรพเสียงที่ก่อเกิดเป็นท่วงทำนองช่างแปลกไม่คุ้นหู แต่กลับน่าหลงใหล
“ไม่ใช่เสียงซอ หรือว่าจะใช่ แต่ก็ไม่นะ... เสียงซอไม่ใช่แบบนี้...”
ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อขยับพึมพำกับตนเอง ก่อนจะเม้มเข้าหากันเพียงนิดอย่างครุ่นคิด ดวงตาสวยงามชวนฝันเปิดขึ้นและมองตรงไป
เจ้าของร่างอรชรบอกตนเองว่าจะต้องเห็นเครื่องดนตรีชนิดนี้ให้ได้ หล่อนมั่นใจว่าต้องเป็น ‘เครื่องสาย’ อย่างแน่นอน แต่เครื่องสายชนิดใดกันเล่าที่จะมีเสียงทุ้มลุ่มลึกได้เท่านี้
ร่างแน่งน้อยตัดสินใจก้าวเข้าใกล้จนหยุดอยู่ด้านข้างตัวตึกเพราะเสียงดังฟังชัดนี้ดังออกมาจากห้องด้านในแน่นอน ท่วงทำนองยังคงขับขานเปล่งออกเป็นเสียงบาดลึกให้ใจได้เต้นตึกตัก จนหล่อนไม่อาจเก็บกั้นความสงสัยใคร่รู้ไว้ได้อีก
ใบหน้าน้อยค่อยๆ เยี่ยมมองผ่านประตูที่เปิดค้างเอาไว้ และนั่นกลับทำให้สาวรุ่นต้องเบิกดวงตากว้างขึ้นอีก เพราะหล่อนเห็นแล้วว่าต้นกำเนิดแห่งเสียงนั้นเป็นเครื่องสายขนาดใหญ่คล้ายซอแต่ไม่ใช่ โดยมีผู้เล่นนั่งอยู่บนเก้าอี้ ตั้งเครื่องสายไว้ระหว่างต้นขาทั้งสองที่กางออก
มือซ้ายกุมบริเวณคอพร้อมขยับปลายนิ้วกดไปตามเส้นสายก่อกำเนิดเป็นเสียงที่แตกต่าง มือขวาจับคันชักเคลื่อนไหวเสียดสี ไม่ต่างจากยามหล่อนเล่น ‘ซอสามสาย’
หล่อนพินิจเจ้าเครื่องสายขนาดใหญ่ที่คล้ายซอแต่ไม่ใช่ รับรู้ได้ว่าผู้เล่นโอบประคองและบรรเลงบทเพลงอย่างทะนุถนอม เพราะแค่ลักษณะการจับยังคล้ายถูกโอบกอด บ่งบอกว่าผู้เล่นนี้ถนอมเครื่องดนตรีราวกับสิ่งล้ำค่า ด้วยทุกปลายนิ้วของเขาที่ขยับไปมาสลับกับมือที่เคลื่อนคันชักไปบนเส้นสาย สร้างความเพลิดเพลินเสมือนหล่อนถูกดูดเข้าไปมีส่วนร่วมกับอารมณ์แห่งท่วงทำนอง ที่ผู้เล่นยังคงดื่มด่ำกับความสุขดังจะฉายชัดบนใบหน้า
และนั่นกลับทำให้ดวงตาสวยหวานเต้นระริกไม่แพ้หัวใจ เมื่อได้เห็นผู้บรรเลงบทเพลงได้ชัด บุรุษผิวขาวราวหยวก ใบหน้างามราวเทพสลักเสลา เขาหลับตาพริ้มดื่มด่ำกับท่วงทำนอง
ภาพที่เห็นก่อเกิดความร้อนวูบไปทั่วใบหน้า จนหล่อนต้องหลบเร้นกายเข้าหลังบานประตู ทว่าหัวใจสาวรุ่นที่เต้นระรัวกลับคล้ายเป็นแรงขับให้หล่อนค่อยๆ แย้มหน้าแอบมองเขาอีกครั้ง
เขาใส่เสื้อราชปะแตน นุ่งผ้าม่วง ใส่ถุงเท้าขาวยาวเลยเข้าไปในโจง และสวมรองเท้าหนังสีดำขัดมันเรี่ยมเฉกเช่นบิดาของหล่อน คงเป็นข้าราชสำนัก ณ ที่แห่งนี้ไม่ผิดแน่ เพราะนี่คือ ‘กรมมหรสพ’ และเครื่องสายที่คล้ายอยู่ในอ้อมกอดของเขาก็คงเป็น ‘ซอฝรั่ง’ อย่างที่คุณย่าเคยบอกเล่าว่าพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงโปรดเกล้าให้เจ้าพนักงานดนตรีได้ฝึกหัดกัน ซึ่งก็ทำให้หล่อนใคร่รู้และอยากจะเห็นในสักวัน
ทว่าในเวลานี้สิ่งที่น่าจดจำยิ่งกว่าซอฝรั่งก็คือ... บุรุษร่างสูงใหญ่ผู้หลับตาพริ้มด่ำดื่มกับท่วงทำนอง โดยมิรู้เลยว่ามีใครแอบซุ่มมองอยู่ และเขาได้สร้างความหวั่นไหวในใจสาวรุ่นเข้าแล้ว
เรือนผมดำตัดสั้นสะอาดตาและผิวที่ขาวจัด เผยให้เห็นใบหน้าหล่องามเด่นไปด้วยเครื่องหน้าที่ชัดลงตัว ไม่ว่าจะเป็นเรียวคิ้วเข้ม เปลือกตาหลับพริ้มแลเห็นแพขนตางอนหนา จมูกโด่ง ปากเป็นกระจับเม้มสนิท
ทว่าหล่อนใคร่อยากเห็นดวงตาที่หลับพริ้มนั้นเปิดขึ้นมอง อยากเห็นว่าสิ่งที่ถูกปิดบังอยู่นี้จะงามได้มากเท่าไรกัน
“แม่บุษ แอบดูอะไรอยู่รึ”
“อุ้ย! น้องมิได้แอบดูอันใดค่ะ”
‘บุษบา’ ส่ายหน้าพร้อมเอ่ยปฏิเสธ ทว่าผู้เป็นพี่สาวกลับก้าวเข้าใกล้พร้อมทำท่าจะชะเง้อดูว่าภายในห้องนั้นมีใครอยู่ ด้วยเสียงดนตรีที่ขับขานแม้จะแปลกหูแต่ก็ไพเราะน่าฟัง และหล่อนก็เห็นว่าน้องสาวเฝ้าแอบดูอยู่นานแล้ว
“ไหน ไม่ได้ดูอะไรกัน เห็นอยู่ว่าแอบดู ไหนพี่ดูสิว่าแม่บุษดูอะไรอยู่ เจ้าพนักงานดนตรีกำลังซ้อมอยู่รึ เอ... แต่เครื่องดนตรีชนิดใดกันเล่า เสียงนี้พี่ไม่เคยได้ยินมาก่อน ไหนหลบสิ พี่จะขอดูหน่อย”
บุษบารีบเข้ามากันเมื่อผู้เป็นพี่สาวชะเง้อชะแง้จะเข้ามาดูให้ได้
“น้องไม่ดูแล้วค่ะคุณพี่ น้องว่าเรารีบไปหาคุณย่าน้อยกันดีกว่าค่ะ ป่านนี้คุณย่าท่านคงเตรียมหวายไว้หวดน่องน้องเสียแล้วกระมัง นี่ก็สายแล้วด้วย”
“เอ๊ะ! แม่บุษนี่… น้องมีพิรุธเยี่ยงนี้ พี่ยิ่งต้องดูให้ได้ หลีกทางพี่...”
เสียงเข้มของพี่สาวคนโตทำให้บุษบาหน้าแหยก้มหน้าพลางถอยห่างจากมุมประตู ทว่าเสียงเครื่องสายที่เงียบลงกลับฉุกใจให้บุษบาชะเง้อหน้าเข้าไปดูอีกครั้ง ใคร่รู้ว่าเหตุใดคนด้านในจึงหยุดบรรเลง และภาพที่เห็นก็ทำให้ดรุณีน้อยนิ่งอึ้ง ด้วยดวงตาคมเข้มคู่นั้นที่มองมาพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ ส่อแววใจดีส่งมาให้ ช่างทำให้ใบหน้างามปานเทพบุตรราวจะยิ่งงดงามมากขึ้น จนริมฝีปากน้อยเผลอแย้มยิ้มตอบรับไม่รู้ตัว
หากนาไม่แล้ง ข้าวไม่แห้งตาย ‘เดช’ ก็ไม่คิดจะหอบเอา ‘ฟ้า’ เมียรักเข้ามาทำงานในเมืองกรุง แต่ความจนทำให้เลือกไม่ได้ และงานดี เงินดี เจ้านายเห็นใจ ก็เป็นเส้นทางที่ดีที่สุด ทว่า... หากรู้ว่ามาแล้วจะต้องเสียเมียให้นายฝรั่ง เดชเลือกที่จะไม่มาเสียยังดีกว่า แต่... เสียแล้วคือเสียเลย สิ่งเดียวที่จะชดเชยความแค้นก็คือ ‘เมียนาย’ คุณผู้หญิงเร่าร้อน เร่งเร้า รุนแรง และมากครั้งเท่าที่ต้องการ เดชไม่รู้แล้วว่านั่นคือการแก้แค้นหรือรางวัล +++++ ‘เดช’ พา ‘ฟ้า’ เมียรักมาทำงานที่บ้านนายฝรั่ง แต่ ‘คริส’ นายฝรั่งกินเมียเขาไปแล้ว และยังเอาดุ้นยาวใหญ่มาล่อให้ฟ้าติดใจ จนฟ้ากินไม่อิ่มไม่พอ อยากได้อะไรที่เทียบเท่า เขาก็เลยแอบกิน ‘โรส’ เมียของนายฝรั่ง แก้แค้นให้สาสม แต่แค้นช่างแสนหวานและฉ่ำชุ่ม จนเขาต้องกินซ้ำๆ ยิ่งได้กินพร้อมๆ กับพี่โชค เขาก็ยิ่งเมามัน และแน่นอนว่าโรสชอบ ในขณะที่นายฝรั่งกระหยิ่มยิ้มที่ได้กินเมียเขา เดชกลับสุขและยิ้มกว้างยิ่งกว่า เพราะเขาได้กิน ‘คุณหนูแพทตี้’ คุณหนูช่างร่านร้อนไม่ต่างจากแม่ แน่นอนว่าเขาชวนพี่โชคมากินด้วย
‘หากหัวใจปราศจากความแค้น คงไร้แล้วซึ่งลมหายใจ’ สำหรับหล่อน เขาคือชายชุดดำ บอดี้การ์ดหน้านิ่งของพ่อ เคร่งขรึม เก๊กหล่อ หมางเมินใส่ราวหล่อนไม่สำคัญ ก็แน่ล่ะ เพราะพี่สาวเขากำลังจะมาเป็นเมียใหม่ของพ่อ แต่มีเหรอที่หล่อนจะยอม นารีมีรูปเป็นทรัพย์ฉันใด หล่อนก็พร้อมจะลงทุนเพื่อสิ่งที่ได้มา ภายใต้แว่นดำนั้น หล่อนต้องรู้ให้ได้ว่า ‘หัวใจ’ หรือเปล่าที่ซุกซ่อนอยู่ แต่สำหรับเขา... หล่อนคือ เหยื่อ! ที่ความแค้นจะได้เอาคืน
ความรักหรือเพียงความปรารถนาแค่ข้ามคืน พบกับนิยายสุดเร่าร้อน 3 เรื่อง 1.คืนเคาท์ดาวน์ 2.คืนฝนฉ่ำรัก 3.คืนเหงาสาวข้างบ้าน
#มาดามทรายกับชายเลี้ยงม้า เปิดประสบการณ์รักร้อนในฟาร์มม้ากันสักครั้ง หรือจะลองกลิ่นฟางแห้งบ่มแดดอุ่นๆ ในโรงนาก็ไม่เลวนะ +++++ เคิร์กรู้ว่าฉันชอบขี่ม้า เขาจึงสอนให้ฉันขี่ม้าจริงๆ หลังจากขี่เขาจนช่ำชองมาหลายครั้ง และฉันก็หัวไวสอนง่ายซะด้วย เพราะเมื่อฝึกหัดขี่ม้าจริงตอนเย็นเสร็จ พอตกกลางคืนฉันก็ซ้อมขี่กับม้าเทียมอย่างเคิร์กอยู่ทุกวัน ไม่ได้ว่างเว้น และก็มีบ้างเป็นบางวันที่ฉันทนไม่ไหวและเคิร์กก็อดไม่ได้ เมื่อฟางใหม่หอมกลิ่นแดดเร่งเร้าความกำหนัดของเราเหลือเกิน เคิร์กก็จะพาฉันไปซ้อมขี่กันที่คอกม้าในโรงนาซะหลายครั้ง และความตื่นเต้นก็ทำให้ฉันกับเคิร์กคึกคักกันมากเป็นพิเศษ ยามที่ฉันควบขี่เคิร์กอยู่ในโรงนา กลิ่นฟางแห้งที่รองรับร่างกายยิ่งใหญ่ของเขาอยู่นั้น เร้าใจจนฉันควบขี่เขาได้ไวกว่าที่เคยทำได้ บั้นเอวและช่วงบั้นท้ายทำหน้าที่โยกตัวไปข้างหน้าและโย้มาข้างหลัง ทว่าปากก็ร่ำร้องบอกถึงความเสียวซ่านที่ดุ้นบังเหียนกระทำกับร่องลึกลับของฉันอยู่ตลอดเวลา
พี่หนึ่งจะทำยังไงถ้าต้องเจอหน้า ‘พี่ชมพู่’ อยู่ทุกวัน รุ่นพี่สาวสวยที่เขาเคยไปสารภาพรัก แต่เธอกลับปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใยด้วยข้อหา ‘เด็กไป’ ครั้งนี้ พี่หนึ่งตั้งใจจะลบคำสบประมาทให้ได้ พี่ชมพู่จะได้รู้ว่า ‘รุ่นน้อง’ ก็ทำอะไรได้หลายๆ อย่างไม่แพ้รุ่นพี่ โดยเฉพาะพี่หนึ่งน่ะจบด็อกเตอร์สาขา ‘เซ็กซ์ศาสตร์’ มาซะด้วย ‘เด็กกว่าแล้วไง’ รุ่นพี่ถ้ามาเจอ ‘รุ่นน้อง... สายดาร์ก’ จะทนได้เหรอ พี่หนึ่งจะพิสูจน์เอง
เพราะเป็นคนสวน 'เมฆ' จึงต้องรดน้ำดอกไม้ของ 'คุณนายชวนชม' ทั้งวัน...ทั้งคืน ‘คุณนายครับ’ เป็นเรื่องราวความเร่าร้อนของ ‘เมฆ’ คนสวนหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผิวกายดำแดง ตามแบบฉบับคนท้องไร่ท้องนาเต็มขั้น เมื่อเมฆต้องมาทำสวนที่บ้านของ ‘คุณนายชวนชม’ เมฆก็เลยต้องเป็นคนสวนที่ดีที่สุด ดังนั้นดอกไม้ในบ้านของคุณนายไม่ว่าจะมีกี่ดอก เมฆก็ต้องทำหน้าที่รดน้ำดอกไม้เหล่านั้นให้ชุ่มฉ่ำ ทั้งวันและทั้งคืน
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
ว่าที่ลูกสะใภ้ไฟแรงสูงเธอต้องเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับว่าที่พ่อผัวหม้ายร้างเมียมานายอรมปี