‘กากี’ คือฉายาที่เขาตั้งให้ผู้หญิงมากรักอย่างหล่อน ทว่าเพียงได้สบตา ครุฑหนุ่มร้อนรักอย่างเขากลับเปลี่ยนใจลักพานางกากีทะยานสู่วิมานฉิมพลี ++++ เมื่อครุฑหนุ่มร้อนรักอย่าง ‘อินทรี’ ตัดสินใจลักพานางกากีอย่าง ‘ธนิษฐา’ ไปสู่วิมานฉิมพลี เขาจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเธอด้วยวิธีใด หรือต้องถอดหัวใจวางไว้เป็นเดิมพัน +++++ บรรยากาศแห่งค่ำคืนเป็นใจ ธนิษฐาปล่อยร่างกายและหัวใจให้เป็นของอินทรีอย่างสมบูรณ์ ทว่าวิมานที่โบยบินขึ้นไป กลับกลายเป็นรังครุฑบนกองเพลิง ธนิษฐากรีดร้องสุดเสียงเมื่อฝ่ามือร้อนๆ ของเขาสอดแทรกเข้าสู่บิกินีตัวจิ๋ว ดอกไม้กลีบบางถูกฝ่ามือร้อนรุกราน ‘ต้องไม่ใช่แบบนี้... ไม่ใช่... เขาต้องไม่รุนแรงกับเธอแบบนี้’ “คุณอินทรีปล่อยดาวเถอะนะคะ อย่าทำรุนแรงแบบนี้กับดาว ดาวยังไม่...” “อย่าบอกนะ ว่ายังไม่เคย ฮึ! ร้างผัวมานานมันก็อย่างนี้แหละ ธนิษฐาฟังฉันนะ ชื่อเธอน่ะไม่เหมาะกับดวงดาวหรอก แต่มันเหมาะกับนางกามากกว่า และนางกากีอย่างเธอก็สมแล้วที่ต้องเจอแบบนี้” อินทรีเข่นเครียดคำพูดประชดประชัน เพราะ ‘ธนิษฐา’ นอกจากจะแปลว่า ‘ดาวเศรษฐี’ แล้วนั้น ยังแปลว่า ‘อีกา’ อีกด้วย เหมาะแล้วสำหรับนางกากีอย่างเธอ
“กรี๊ดดดดด...”
เสียงกรีดร้องของหญิงสาวที่ดังลั่นทำให้บรรดาแขกเหรื่อที่กำลังจะเดินทางกลับและเจ้าภาพที่ยืนส่งแขกอยู่หน้างานพร้อมใจกันมองไปยังที่มาของเสียงอย่างตื่นตกใจ ก่อนที่เจ้าภาพทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชายจะวิ่งตรงไปยังทิศทางซึ่งก็คือ ห้องหอที่เพิ่งส่งตัวบ่าวสาวเข้าไปได้ไม่ถึง 5 นาทีดี แต่ยังไม่ทันที่จะเปิดประตูคนจากด้านในก็เปิดออกมาเสียก่อน ใบหน้าสวยตื่นตระหนกเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาร่ำร้องเรียกหาให้คนช่วยเจ้าบ่าวของเธอ
“ช่วยด้วยค่ะ... ช่วยด้วย ช่วยเขาด้วย อย่าให้เขาเป็นอะไรไปนะ ช่วยด้วย... ฮือ...”
ร่างงามระหงในชุดเจ้าสาวสีขาวดูบอบบางน่าทะนุถนอมทรุดลงแทบพื้นพลางสั่นสะอื้น เพราะเธอไร้เรี่ยวแรงใดๆ ที่จะพยุงร่างกายให้ลุกขึ้นได้อีกแล้ว ดวงตาฉ่ำชื้นไปด้วยหยาดน้ำตาได้แต่มองบรรดาญาติของฝ่ายชายและเจ้าหน้าที่ของโรงแรมที่ต่างพยายามช่วยปฐมพยาบาลเจ้าบ่าวหมาดๆ ของเธออย่างต่อเนื่อง
ความโกลาหลเกิดขึ้นรอบตัว ทว่าไม่ว่าในห้องหอรอรักที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงามนี้จะมากมายไปด้วยผู้คนเข้าออก ทั้งญาติของเจ้าบ่าวที่เดินไปมา ทั้งเจ้าหน้าที่ของรถบริการฉุกเฉินที่รีบเร่งเข้ามาพร้อมอุปกรณ์กู้ชีพอย่างเร่งด่วน แต่เธอกลับไม่ได้ยินอะไรอีกแล้ว ในหัวสมองมีเพียงเสียงหวีดหวิวแปลกๆ ปะปนมากับเสียงกรีดร้องในโชคชะตาของใครบางคน ก่อนที่แสงไฟสว่างเจิดจ้าจะค่อยๆ หรี่แสงและมืดดับลง
แค่ไม่ถึง 24 ชั่วโมง บรรยากาศความสุขอบอวลไปด้วยความหวานของงานวิวาห์ก็กลับกลายเป็นความทุกข์ระทม ชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ถูกผลัดเปลี่ยนเป็นชุดเดรสลูกไม้สีดำยาวคลุมเข่า ‘ธนิษฐา’ มองตรงไปยังโลงศพสีขาวประดับลวดลายเทพพนมและตัวหงส์สีทองขนาบซ้ายขวา อีกทั้งยังประดับประดารอบด้านด้วยดอกไม้สีขาวหลากชนิดเสมือนประหนึ่งว่าผู้ที่หลับใหลอยู่ด้านในของโลงนั้นกำลังนอนอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้ที่งดงามแห่งนี้
และเธอคงจะมองเห็นโลกสวยงามมากกว่านี้หากว่าคนที่นอนอยู่ด้านในนั้นจะไม่ใช่ ‘ทวิช’ เจ้าบ่าวหมาดๆ ของเธอ ที่เกิดอาการหัวใจล้มเหลวฉับพลันทั้งที่เพิ่งส่งตัวเข้าหอได้ไม่ทันถึง 5 นาทีด้วยซ้ำไป
ดวงตาสวยหวานที่ฉ่ำชื้นไปด้วยหยาดน้ำตามองเลยไปที่รูปภาพขนาดใหญ่ เขายังคงมองตรงมายังเธอด้วยรอยยิ้มเหมือนในทุกๆ ครั้งที่ได้พบ เธออาจไม่มีทางเลือกในชีวิตได้มากนัก เพราะความจำเป็นในครอบครัวและเหตุผลของบุพการีที่เธอปฏิเสธไม่ได้ ทำให้เธอแต่งงานกับใครก็ได้ที่พร้อมจะรับในเงื่อนไข แต่เธอก็ไม่เคยอยากให้ใครต้องตายจากไป เมื่อแต่งงานแล้วเธอก็อยากเป็นภรรยาที่ดีของเขาเหล่านั้น ไม่ได้อยากเป็นม่ายทั้งที่ยังไม่ข้ามวัน
“แกมาทำไม๊! อีคนกินผัว ฮือ... ลูกฉันไม่น่าซวยมาเจอแกเล๊ย! อีกากี อีผู้หญิงกินผัว อีผู้หญิง 3 ผัว ฮือ... ออกไปเลยนะ ออกไปจากงานลูกฉัน และอย่าเอาหน้าของแกมาให้พวกฉันเห็นอีก อีเสนียด อีจัญไร ไป๊! ใครมาเอาอีนี่ไปโยนทิ้งที เอาออกไป๊! ออกไป๊!”
ธนิษฐาสะดุ้งตกใจลุกขึ้นในทันที ขนาดว่าเธอเลือกที่จะมานั่งหลบมุมอยู่ตรงนี้เพราะไม่อยากให้ญาติทางฝ่ายเขาเห็นแต่ก็ยังหลบไม่พ้น เธอแค่อยากจะมากราบศพเขา อยากมาแสดงความเห็นใจต่อกันเป็นครั้งสุดท้าย แม้ว่าทั้งแม่และยายจะเตือนแล้วว่าอย่ามาก็ตาม เพราะคงไม่วายที่เธอจะต้องเจอสภาพแบบนี้ เพราะนี่มันครั้งที่ 3 แล้วสินะ เหตุการณ์ซ้ำๆ ที่เธอต้องผ่านไปให้ได้
“หนูขอโทษค่ะ หนูแค่อยากมากราบพี่วิชเขาเป็นครั้งสุดท้าย คุณแม่คะ หนูไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้”
ธนิษฐาพนมมือไหว้ขอโทษมารดาของทวิช ก่อนจะก้มหน้าซ่อนหยาดน้ำตาเพราะความแค้นเคืองจากดวงตาหญิงสูงวัยนั้น คือ เธอเป็นฆาตกรที่ฆ่าลูกชาย
“อย่ามาเรียกฉันว่าแม่ ถ้าฉันรู้มาก่อนว่าแกมันคนกินผัว ฉันจะไม่ยอมให้ตาวิชไปแต่งงานกับแกแน่ ออกไปจากงานลูกฉันเดี๋ยวนี้นะ ถ้าแกไม่ไปฉันจะเรียกตำรวจมาลากคอแก ออกไป! อีฆาตกร! แกฆ่าลูกฉัน อีกากี อีคนกินผัว ออกไป! ออกไป๊! เอิ๊ก...”
ธนิษฐาผวาจะเข้าไปประคองแม่ของทวิชที่ด่าว่าเธอจนเป็นลม แต่ก็ต้องเปลี่ยนใจพร้อมรีบออกมาโดยเร็วเพราะบรรดาพี่ป้าน้าอาของทวิชที่เข้ามาร่วมสมทบด่า ทำท่าว่าจะลงไม้ลงมือกับเธอ ถ้าเธอยังไม่ออกไปจากงานตามคำไล่
“หนูไม่ได้ตั้งใจนะคะ หนูไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้ หนูขอโทษ”
แม้ใบหน้าจะนองไปด้วยน้ำตาและหัวใจก็อ่อนล้าเสียจนไม่อยากจะสู้หน้าใครในขณะนี้ แต่ก็ต้องพยายามพาตัวเองเดินฝ่าฝูงชนที่มองเธอราวกับเป็นตัวประหลาด อีกทั้งเสียงด่าทอก็ยังลอยลมมาให้ได้ยินตลอดทางมาจนถึงลานจอดรถด้านนอก
ธนิษฐาก้าวขึ้นไปนั่งสงบสติอารมณ์อยู่ในรถ ดวงตาสวยหวานเอ่อช้ำไปด้วยหยาดน้ำตายังคงไหลอาบไม่ขาดสาย เธอยังคงมองตรงไปยังศาลาที่เห็นแสงไฟอยู่ไกลๆ นั่น เธอไม่โกรธแม่และญาติๆ ของเขาเลยสักนิดเพราะ ‘น้ำตา’ ของเธอไม่มีค่าอะไรเลยเมื่อเทียบกับหยาดน้ำตาของพ่อแม่และญาติพี่น้องของเขาเหล่านั้น ของผู้ชายที่เธอเคยแต่งงานด้วยทุกคน
หากนาไม่แล้ง ข้าวไม่แห้งตาย ‘เดช’ ก็ไม่คิดจะหอบเอา ‘ฟ้า’ เมียรักเข้ามาทำงานในเมืองกรุง แต่ความจนทำให้เลือกไม่ได้ และงานดี เงินดี เจ้านายเห็นใจ ก็เป็นเส้นทางที่ดีที่สุด ทว่า... หากรู้ว่ามาแล้วจะต้องเสียเมียให้นายฝรั่ง เดชเลือกที่จะไม่มาเสียยังดีกว่า แต่... เสียแล้วคือเสียเลย สิ่งเดียวที่จะชดเชยความแค้นก็คือ ‘เมียนาย’ คุณผู้หญิงเร่าร้อน เร่งเร้า รุนแรง และมากครั้งเท่าที่ต้องการ เดชไม่รู้แล้วว่านั่นคือการแก้แค้นหรือรางวัล +++++ ‘เดช’ พา ‘ฟ้า’ เมียรักมาทำงานที่บ้านนายฝรั่ง แต่ ‘คริส’ นายฝรั่งกินเมียเขาไปแล้ว และยังเอาดุ้นยาวใหญ่มาล่อให้ฟ้าติดใจ จนฟ้ากินไม่อิ่มไม่พอ อยากได้อะไรที่เทียบเท่า เขาก็เลยแอบกิน ‘โรส’ เมียของนายฝรั่ง แก้แค้นให้สาสม แต่แค้นช่างแสนหวานและฉ่ำชุ่ม จนเขาต้องกินซ้ำๆ ยิ่งได้กินพร้อมๆ กับพี่โชค เขาก็ยิ่งเมามัน และแน่นอนว่าโรสชอบ ในขณะที่นายฝรั่งกระหยิ่มยิ้มที่ได้กินเมียเขา เดชกลับสุขและยิ้มกว้างยิ่งกว่า เพราะเขาได้กิน ‘คุณหนูแพทตี้’ คุณหนูช่างร่านร้อนไม่ต่างจากแม่ แน่นอนว่าเขาชวนพี่โชคมากินด้วย
‘หากหัวใจปราศจากความแค้น คงไร้แล้วซึ่งลมหายใจ’ สำหรับหล่อน เขาคือชายชุดดำ บอดี้การ์ดหน้านิ่งของพ่อ เคร่งขรึม เก๊กหล่อ หมางเมินใส่ราวหล่อนไม่สำคัญ ก็แน่ล่ะ เพราะพี่สาวเขากำลังจะมาเป็นเมียใหม่ของพ่อ แต่มีเหรอที่หล่อนจะยอม นารีมีรูปเป็นทรัพย์ฉันใด หล่อนก็พร้อมจะลงทุนเพื่อสิ่งที่ได้มา ภายใต้แว่นดำนั้น หล่อนต้องรู้ให้ได้ว่า ‘หัวใจ’ หรือเปล่าที่ซุกซ่อนอยู่ แต่สำหรับเขา... หล่อนคือ เหยื่อ! ที่ความแค้นจะได้เอาคืน
ความรักหรือเพียงความปรารถนาแค่ข้ามคืน พบกับนิยายสุดเร่าร้อน 3 เรื่อง 1.คืนเคาท์ดาวน์ 2.คืนฝนฉ่ำรัก 3.คืนเหงาสาวข้างบ้าน
#มาดามทรายกับชายเลี้ยงม้า เปิดประสบการณ์รักร้อนในฟาร์มม้ากันสักครั้ง หรือจะลองกลิ่นฟางแห้งบ่มแดดอุ่นๆ ในโรงนาก็ไม่เลวนะ +++++ เคิร์กรู้ว่าฉันชอบขี่ม้า เขาจึงสอนให้ฉันขี่ม้าจริงๆ หลังจากขี่เขาจนช่ำชองมาหลายครั้ง และฉันก็หัวไวสอนง่ายซะด้วย เพราะเมื่อฝึกหัดขี่ม้าจริงตอนเย็นเสร็จ พอตกกลางคืนฉันก็ซ้อมขี่กับม้าเทียมอย่างเคิร์กอยู่ทุกวัน ไม่ได้ว่างเว้น และก็มีบ้างเป็นบางวันที่ฉันทนไม่ไหวและเคิร์กก็อดไม่ได้ เมื่อฟางใหม่หอมกลิ่นแดดเร่งเร้าความกำหนัดของเราเหลือเกิน เคิร์กก็จะพาฉันไปซ้อมขี่กันที่คอกม้าในโรงนาซะหลายครั้ง และความตื่นเต้นก็ทำให้ฉันกับเคิร์กคึกคักกันมากเป็นพิเศษ ยามที่ฉันควบขี่เคิร์กอยู่ในโรงนา กลิ่นฟางแห้งที่รองรับร่างกายยิ่งใหญ่ของเขาอยู่นั้น เร้าใจจนฉันควบขี่เขาได้ไวกว่าที่เคยทำได้ บั้นเอวและช่วงบั้นท้ายทำหน้าที่โยกตัวไปข้างหน้าและโย้มาข้างหลัง ทว่าปากก็ร่ำร้องบอกถึงความเสียวซ่านที่ดุ้นบังเหียนกระทำกับร่องลึกลับของฉันอยู่ตลอดเวลา
พี่หนึ่งจะทำยังไงถ้าต้องเจอหน้า ‘พี่ชมพู่’ อยู่ทุกวัน รุ่นพี่สาวสวยที่เขาเคยไปสารภาพรัก แต่เธอกลับปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใยด้วยข้อหา ‘เด็กไป’ ครั้งนี้ พี่หนึ่งตั้งใจจะลบคำสบประมาทให้ได้ พี่ชมพู่จะได้รู้ว่า ‘รุ่นน้อง’ ก็ทำอะไรได้หลายๆ อย่างไม่แพ้รุ่นพี่ โดยเฉพาะพี่หนึ่งน่ะจบด็อกเตอร์สาขา ‘เซ็กซ์ศาสตร์’ มาซะด้วย ‘เด็กกว่าแล้วไง’ รุ่นพี่ถ้ามาเจอ ‘รุ่นน้อง... สายดาร์ก’ จะทนได้เหรอ พี่หนึ่งจะพิสูจน์เอง
เพราะเป็นคนสวน 'เมฆ' จึงต้องรดน้ำดอกไม้ของ 'คุณนายชวนชม' ทั้งวัน...ทั้งคืน ‘คุณนายครับ’ เป็นเรื่องราวความเร่าร้อนของ ‘เมฆ’ คนสวนหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผิวกายดำแดง ตามแบบฉบับคนท้องไร่ท้องนาเต็มขั้น เมื่อเมฆต้องมาทำสวนที่บ้านของ ‘คุณนายชวนชม’ เมฆก็เลยต้องเป็นคนสวนที่ดีที่สุด ดังนั้นดอกไม้ในบ้านของคุณนายไม่ว่าจะมีกี่ดอก เมฆก็ต้องทำหน้าที่รดน้ำดอกไม้เหล่านั้นให้ชุ่มฉ่ำ ทั้งวันและทั้งคืน
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง