เพราะคนเคยรักกำลังจะแต่งงานกับเพื่อน เธอจึงพลาดพลั้งขึ้นห้องกับผู้ชายหล่อร้ายแถมอันตราย แต่ให้ตายเถอะ! สาบานได้ว่าเธอไม่ได้มีอะไรกับผู้ชายขี้ตื๊อดื้อด้านน่ารำคาญคนนี้จริงๆ แล้วเขาต้องการอะไรจากเธอกันแน่นะ... ไม่มีใครเหมือนหญิงสาวเมื่อคืนสักคน... หล่อนทำยังไงให้เขายังคงไม่ลืมกันนะ หรือเพราะเรือนร่างหอมกรุ่นกลิ่นอะไรบางอย่างที่ไม่น่าใช่น้ำหอมราคาแพงแบบสาวสมัยใหม่นิยม ทำให้เขาเคลิ้มและหลงใหลจนอยากเชยชมหล่อนตามแรงยุ แต่... เขาไม่เคยฝืนใจใคร โดยเฉพาะกับคนที่แรกพบก็ตกหลุมรักอย่างหล่อนคนนั้น ตกหลุมรัก! สารินสะบัดหน้าพรืด ก่อนจะยอมรับกับตัวเองในใจ เออหนอ... อยู่มาสามสิบหกปี มีสาวน้อยคนนี้แหละที่ทำให้เขาอยากเลวทั้งที่รู้ตัว!
นี่หล่อนเป็นอะไรไป...
เหตุใดรู้สึกเหมือนโลกหมุนโคลงเคลงจนทรงตัวไม่อยู่ต้องทิ้งตัวลงนอนอีกครั้งหลังจากพยายามลุกไปรอบหนึ่งแต่ร่างกายกลับอ่อนปวกเปียกไร้เรี่ยวแรง
ทิวากะพริบตาถี่ ๆ แล้วตั้งสติลืมตามองภาพเบื้องบนอีกครั้ง ท้องฟ้ามืดมิดแต่มีแสงดาวระยิบระยับเปล่งประกายแต่คล้ายไม่ใช่ฟ้ากลับเป็นเพดานสีทึมทะมึนเต็มไปด้วยแสงระยิบของแสงไฟที่ส่องแสงคล้ายดวงดาว
แน่นอนว่าไม่ใช่สถานที่ที่หล่อนคุ้นเคย ไม่เคยเห็นแม้ผ่านตาและไม่ใช่ห้องนอนของหล่อน
แล้วมันคือที่ไหน...
ร่างผอมเพรียวขยับลุกนั่งอีกครั้งแต่ทำได้ยากยิ่งเมื่อรู้สึกว่าร่างกายเหมือนถูกของหนักทับเอาไว้จนขยับไม่ได้ หล่อนเพ่งมองกระจกเงาที่ปลายเตียงมันยังสะท้อนภาพดวงหน้าคุ้นเคยที่เต็มไปด้วยคราบเครื่องสำอางหนาเตอะพอกอยู่ ผมยุ่งกระเซิงที่ดูไม่เป็นทรงจนน่ารำคาญนั่นอีก
ผู้หญิงซกมกในกระจกเงานั่นคือหล่อนเอง...
หล่อนยกสองมือกุมศีรษะที่ยังคงปวดหนึบ รวบผมมวยลวก ๆ ด้วยความเคยชินแต่ยังไม่ทันเสร็จก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงประหลาดดังอยู่ไม่ไกล
ไม่ไกลไม่ว่าแต่มันใกล้มาก!
เสียงครืดคราดคล้ายเสียงคำรามก็ไม่ใช่ เสียงเจ้าตูบที่บ้านของหล่อนก็ยิ่งไม่ใช่มันเหมือนเสียงกรนมากกว่า
เสียงกรนของใครกัน!
เป็นไปไม่ได้!
ดวงตาที่โตอยู่แล้วของหญิงสาวยิ่งโตกว่าปกติทันทีที่กวาดตามองหาที่มาของเสียง หล่อนถึงกับเด้งตัวออกห่างทันทีที่รู้ว่าไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวบนเตียงหากแต่มีใครอีกคนขยับกายยุกยิกอยู่ใต้ผ้านวมผืนหนาที่กำลังส่งเสียงยวบยาบนั่น
ใครกัน?
ใคร!
ทิวาตาเบิกค้างทันทีที่พอจะปะติดปะต่อเรื่อวราวได้ ภาพที่เห็นผ่านครรลองสายตาจนหล่อนต้องยกมือปิดปากไม่ให้ส่งเสียงกรีดร้องคือเจ้าของร่างกำยำที่นอนเปลือยโชว์แผ่นหลังขาวจั๊วะ
คนคนนั้นนอนคว่ำหน้าไปอีกทางแผ่นหลังที่โผล่พ้นผ้าห่มออกมานั้นมีรอยแผลเป็นจาง ๆ พาดผ่านกลางหลังไม่เป็นระเบียบหลายรอย ผมดำสนิทเส้นเล็กและลำแขนแข็งแรงของเขาเต็มไปด้วยมัดกล้าม
รู้สึกถึงก้อนเนื้อในอกเต้นรุนแรงอย่างไม่เคยเป็น ยิ่งเพ่งมองรอยสักรูปไม้กางเขนบนข้อมือที่พาดมาทับเอวหล่อนด้วย ผู้ชายดี ๆ ที่ไหนกันจะมีรอยแผลเป็นและรอยสักที่ดูลึกลับเหนือข้อมือแข็งแรง
หรือเขาจะเป็นพวกมาเฟีย หรือพวกโรคจิต!
เป็นไปไม่ได้หรอกน่า!
ทิวาผ่อนลมหายใจเข้าออกรวบรวมสติลดความตื่นตกใจแต่ก็พบว่าทำไม่ได้ หล่อนตั้งสติอีกครั้งมองไปรอบห้องจึงพบว่ามันเป็นผนังสีดำเข้ากันเป็นอย่างดีกับฝ้าเพดาน ภาพแขวนบนผนังเต็มไปด้วยท่วงท่าชายหญิงที่เหมือนทำกิจกรรมบางอย่างมากมายหลายภาพ
แล้วผู้ชายคนนี้คือใครจึงมาปรากฏตัวในห้องแบบนี้ บนเตียงนี้และนอนข้างหล่อนด้วยสภาพกึ่งเปลือยมีเพียงผ้านวมคลุมปิดท่อนล่างแบบนี้
แล้วหล่อนล่ะ!
ทิวาเลิกผ้าห่มออก สอดตาสำรวจสภาพตัวเองแล้วถึงกับหน้าถอดสี ช่วงบนมีเพียงบราตัวจ้อยที่อยู่ในสภาพไม่ปกติ
แล้วส่วนอื่นล่ะ!
หล่อนสอดตามองอีกครั้งแล้วถึงกับพรูลมหายใจโล่งอก ยังดีที่ชิ้นสำคัญยังอยู่ ความทรงจำเมื่อคืนเริ่มหลั่งไหลกลับเข้ามาในมโนสำนึกตามลำดับ
แค่คิดก็อยากจะบ้าตาย!
นึกถึงเรื่องเมื่อคืนที่หล่อนมางานฉลองสละโสดของนุดีวยการคะยั้นคะยอของเพื่อนในกลุ่ม
นุดี... คนที่เป็นทั้งเพื่อนและพ่วงตำแหน่งลูกสาวผู้มีพระคุณ เธอทั้งสวยโฉบเฉี่ยว หุ่นดี เซ็กซี่ชนิดหนุ่ม ๆ มองตามเหลียวหลัง
หล่อนไม่กล้าเผยอเทียบชั้นกับนุดี..
ตั้งแต่เล็กจนโต หล่อนกับนุดีไม่เคยถูกชะตากันนอกจากนุดีกับว่าที่สามีแล้วยังมีกาวใจทั้งสามคือ ลลนา สาวอวบระยะสุดท้าย ปารมีสาวใต้ตาคมรูปร่างสูงชะลูด และบราลีเพื่อนสาวนุ่มนิ่มบอบบางที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นปี แม้ต่างสถาบันแต่ก็รู้จักและสนิทกันเพราะกิจกรรมทำอาหารและการแข่งขันระหว่างมหาวิทยาลัย เรียกได้ว่าสนิทจนรู้ใจ
แต่ตอนนี้เพื่อนทั้งสามของหล่อนกลับมาหายไป...
แค่คิดก็แทบร้องไห้ ความซวยทำไมช่างมาเยือนหล่อนแค่คนเดียว ทั้งเพิ่งตกงาน โดนคนรักที่คบกันแบบไม่เปิดเผยตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่งบอกเลิกเพื่อรับผิดชอบในตัวนุดีที่เห็นหล่อนเป็นลูกไล่มาตลอด
หล่อนทั้งขื่นขมแต่ต้องทำหน้าชื่นอกตรมเพราะนุดีคือลูกของผู้มีพระคุณ และที่สำคัญไม่มีใครรู้เรื่องความสัมพันธ์ของหล่อนกับกรรณ์มาก่อนความซวยยังไม่ยอมปล่อยหล่อนให้หลุดพ้นเมื่อต้องมาอยู่บนเตียงกับใครอีกคน
ไม่รู้ไอ้บ้านี่คนหรือคิงคอง!
ร่างกายใหญ่โต กล้ามเป็นมัดรอยแผลที่แผ่นหลังแถมรอยสักยังน่ากลัว แค่ลักษณะภายนอกก็พอจะบ่งบอกได้ว่าเขาคงไม่ใช่คนดี
หล่อนต้องออกไปให้พ้นจากห้องนี้ให้เร็วที่สุด!
ทิวาเลิกผ้าห่มออก หย่อนขาลงพื้นเย็นเฉียบก่อนจะค่อย ๆ ลุกไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว นึกอุจาดสภาพตัวเองจนต้องมองหาเสื้อผ้าแต่มันกองอยู่บนพื้นไกลจากเตียงค่อนข้างมาก หล่อนยื่นเท้าออกไปแต่ไม่ทันได้ทำอย่างใจคิดก็ต้องสะดุ้งเมื่อถูกอ้อมแขนแข็งแรงรวบเอวไว้แล้วกระชากลงตามเดิม
“จะไปไหน... หืม”
“อย่ามายุ่งกับฉันนะ!”
หล่อนสะบัดตัวแต่ไม่พ้น เพียงขยับก็ถูกรวบเอวแล้วร่างของเขาก็พลิกตัวมากักหล่อนไว้ในอ้อมแขน ทิวาชะงักตาค้างแทบลืมหายใจแต่อีกฝ่ายกลัวนิ่งสงบเหมือนยังไม่ตื่นดีก่อนเอ่ยเสียงแผ่วข้างหู
“ขอกอดหน่อย...”
“อะ... อะไรนะ!”
“ก็กอดไง ผมหนาว...”
ขอกอด?
หนาวงั้นเหรอ!
ไอ้บ้าจะมากไปแล้ว!
เขาเก็บ "เด็กหลง" มาจากกลางถนน เธอทั้งน่ารักแสนซนและโดนใจ จนหนุ่มใหญ่อย่างเขาอดใจไม่หวั่นไหวไม่ได้ แต่จะทำไงให้เธอรู้นี่สิ! หรือต้องรุกสักครั้งให้เธอพาเขาลงจากคานสักที แต่งานนี้ไม่รู้ว่าใครจะพาใครลงก่อนกันน่ะสิ!
“อีกหน่อยฉันจะพามินไปแต่งงานบนลอนดอนอาย” “หืม... นี่โอมกำลังฝันอยู่รึเปล่า” “ไม่ ๆ ฉันคิดอย่างนั้นจริง ๆ” “งั้นวันแต่งงาน โอมต้องเล่นเพลงโปรดของเราด้วยนะ มินจะรอฟัง” “ได้สิ... Kiss in the Rain เนอะ ฉันจะซ้อมตั้งแต่วันนี้เลยเป็นไง” ยังจำได้ว่าเขารับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ ว่าสักวันจะพาหล่อนมาที่นี่มายังสถานที่ที่เป็นเหมือนสัญญารักของเขากับหล่อน ความฝันของหล่อนอยู่ที่นี่... ความรักของเขาก็อยู่ที่นี่... ที่ ‘ลอนดอนอาย’ ดวงตาของ... ลอนดอน เมืองแห่งฝนผู้คนเหงาและเรื่องราวความรักที่มีความทรงจำของเขากับหล่อน ซึ่งครั้งหนึ่งเป็นคนที่รักกันสุดหัวใจ แต่ตอนนี้หล่อนจากเขาไปนานแสนนานแล้วและไม่เคยได้พบกันอีกเลย... +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ เรื่องของอดีตคู่รักที่เคยคบหากันตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย แต่มีอันต้องแยกจากไปเพราะเหตุการณ์บางอย่าง หลายปีต่อมา อธิปก หมดพันธะจึงกลับมาเพื่อทวงสัญญารักที่เขาเคยให้ไว้แต่กลับพบว่า สิมิลัน มีคนรักแล้ว เขาคนนั้นไม่ใช่ใครแต่คือ พฤกษ์ รุ่นพี่ที่นับถือและฝากให้ช่วยดูแล พฤกษ์เก็บจดหมายฉบับนั้นไว้และดูแลสิมิลันด้วยความรักทั้งหมดที่มีจนลืมนึกถึง รินลดา พี่สาวของสิมิลันที่เป็นเพื่อนสนิทและหลงรักเขาอยู่ สองคนกลับมาเจอกันในวันที่สิมิลันเข้าใจว่าเขาไม่โสด เธอจึงวิ่งหนีหัวใจตัวเอง แต่สุดท้ายทุกอย่างยิ่งเลวร้ายเพราะเมื่อพบแล้วว่าต่างก็ยังรักกันแต่มีเหตุให้อธิปกประสบอุบัติเหตุเป็นเจ้าชายนิทรา สิมิลันตัดสินใจไปลอนดอนโดยไม่รู้เลยว่ามีเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาติดไปด้วย วันนั้นเองอธิปกก็ฟื้นขึ้นมาโดยไม่มีเธอในชีวิตอีก เขาเก็บความเสียใจไว้จนกระทั่งสองปีต่อมาทั้งสองจึงได้พบกันอีกครั้ง...
ตั้งแต่เกิดกระทั่งจำความได้ จินซิงซิน รับรู้แค่ว่านางเป็นเพียงบุตรสาวกำพร้าของพ่อค้าตระกูลใหญ่ ชั่วชีวิตน้อยๆ มีเพียงท่านยาย พี่สาวต่างมารดาเท่านั้นที่คอยห่วงใย จนกระทั่งได้เจอกับ หลี่หลานหมิง ผู้มีสมญานามว่าอ๋องพยัคฆ์ที่ผู้คนโจษขานกันว่าโหดร้ายยิ่งนัก สังหารผู้คนเป็นผักปลา แสนเย็นชาดั่งน้ำค้างแข็งจนมิอาจมีผู้ใดใต้หล้าหาญกล้าต่อกร ทั้งสองต้องแต่งงานกันตามบัญชาของโอรสสวรรค์ท่ามกลางอุปสรรคมากมาย หลี่หลานหมิงจะทำเช่นใดในเมื่อสตรีที่ร่วมหัวจมท้ายด้วยอย่างชายากระต่ายน้อยกลับเติบโตเพียงแค่ร่างกาย ส่วนสภาพจิตใจนั้นอ่อนด้อยราวกับเด็กน้อยก็ไม่ปาน... +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ หลี่หลานหมิงที่รู้สึกตัวและพลิกตัวจากอาการเมื่อยขบแต่พบว่าไม่สามารถทำได้ แค่บิดตัวเล็กน้อยก็รู้สึกร่างกายแข็งค้างราวกับไร้เรี่ยวแรง ไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน... ที่แท้เพราะเมื่อคืนเขาถูกกระต่ายหลงทางกอดก่ายเอาเป็นสมบัติตนจนกระดิกไปไหนไม่ได้ นางคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน! น่าโมโหนัก! อ๋องสี่หลี่หลานหมิงกระดิกตัวแทบไม่ได้คล้ายเป็นตะคริวเพราะกระต่ายหลงตัวโตไม่ยอมคลายกอด กว่าร่างจะกลับฟื้นกำลังวังชาก็นานพอควร กระทั่งมีเสียงฝีเท้าดังสวบสาบจากหน้ากระโจมดังเล็ดลอดเข้ามา หลี่หลานหมิงจึงรู้สึกตัวว่าอยู่ในสภาพไม่น่ามอง รีบผุดลุกนั่งเอื้อมคว้ากระบี่คู่ใจข้างกายกระชับมั่น แต่เพราะความเคลื่อนไหวของเขาทำให้เตียงไหวสั่นจนคนที่นอนเริ่มขยับตัวและวาดมือมาคว้าเอวเขาเอาไว้อีกครา “อย่าไปตุ้งตุ้ง...” “นี่เจ้า! ข้ามิใช่ตุ้งตุ้งของเจ้า ปล่อย!” หลี่หลานหมิงคำรามแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายไร้ซึ่งความรับรู้ใดๆ “ซิงซินยังไม่อยากตื่นเลย...ท่านยาย” ดี... ดีแท้! เมื่อครู่เปรียบเขาเป็นกระต่ายหูเทา คราวนี้กลับกลายเป็นท่านยายของนางอีก หลี่หลานหมิงปรายตามองดวงหน้าดรุณีน้อยที่ยังหลับพริ้มในห้วงนิทราแล้วถึงกับนิ่งงัน นางช่างงดงามปานเทพธิดามาจุติ ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อของนางที่กดลงบนซอกคอของเขาตามจังหวะหายใจทั้งยังแก้มหอมกรุ่นที่เผลอจูบลูบไล้และเรือนร่างนุ่มนิ่มที่คอยเบียดยามหนาวเหน็บตลอดคืน หึ! มารดาเจ้าเถอะ! กระต่ายน้อยเอ๋ย... เขาควรสั่งสอนนางไม่ควรปล่อยให้หลุดรอดจากกรงเล็บเพชฌฆาตไปได้จริงๆ อ๋องสี่หลี่หลานหมิงผู้ซึ่งมิได้อ่อนต่อโลกแต่ไม่เคยแสวงหาสตรีงามสักคนข้างกายถึงคราวหนาวยะเยือกในใจ เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเขามาก่อนเลยสักครั้งในชีวิตที่นึกอยากได้สตรีมาครอบครองเป็นสมบัติของตัวบังเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ความรู้สึกนี้เมื่อเกิดขึ้นแล้ว กระต่ายน้อยหลงทางตัวนี้ต้องรับผิดชอบ!
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
ต่อหน้าทุกคน เธอเป็นเลขานุการส่วนตัวของท่านประธาน โดยส่วนตัวแล้ว เธอเป็นภรรยาของเขา กู้เวยยีรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อเธอทราบว่าตนเองตั้งครรภ์ ทว่าเธอกลับเห็นฟู่จิงเฉินกับรักแรกของเขาสิทสนมกัน... เธอจากไปอย่างเศร้าใจและตัดสินใจที่จะให้พวกเขาสมหวัง ต่อมา เมื่อฟู่จิงเฉินมองดูท้องที่ยื่นออกมาของเธอ และถามอย่างตื่นเต้นว่า "้กู้เวยยี นี่คือลูกของใคร!" เธอตอบอย่างหัวเราะเยาะ "มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย อดีตสามี!"
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"