'หากเอ็งไม่ได้แต่งกับพี่ ชาตินี้ชาติไหนก็จงอย่าได้แต่งกับผู้ใด ต้องหวนกลับมาแต่งกับพี่เพียงผู้เดียว' เพราะคำประกาศิตของว่าที่ 'ผัว' ในอดีตชาติที่หมายมั่นในตัวหล่อนอย่างถึงที่สุด ทำให้หญิงสาววัยสามสิบจากยุคปัจจุบันหวนคืนสู่อดีตชาติหลังเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ หล่อนกลายเป็น 'มะลิ' เด็กสาววัยกำดัดซึ่งเป็นบุตรสาวของท่านครูดาบ ขณะที่ 'ไอ้แผน' ที่หล่อนในชาตินั้นเรียกติดปากคือหนุ่มฉกรรจ์ผู้นำหมู่บ้าน และเป็น 'ว่าที่ผัว' ของหล่อนด้วย ทว่าแทนที่หล่อนจะถูกบังคับขู่เข็ญจากผู้ใหญ่ให้แต่งกับไอ้แผนอย่างที่ควรจะเป็น กลับกลายเป็นว่าจู่ๆ หล่อนก็ลุกขึ้นมาอยากได้เขาเป็นผัวจนตัวสั่นแทนเสียอย่างนั้น ก็แหม...ใครจะไม่อยากได้กัน ทั้งหล่อล่ำ มาดแมนแฮนด์ซั่ม น่าลากเข้ากระท่อมไปฟัดอย่างนี้ วิญญาณสาวเกือบจะขึ้นคานก็ต้องน้ำลายสอเป็นธรรมดา จากไอ้แผนก็เปลี่ยนเป็น 'คุณพี่แผน' พร้อมกับ 'แผนการ' ที่หล่อนหมายจะรวบหัวรวบหางชายหนุ่มอกกว้าง หน้าท้องเป็นลอนคลื่นมาเป็นผัวในเร็ววัน ‘ถ้าคุณพี่ไม่มาเป็นคุณพี่ของหนูในวันนี้ ยังไงก็ต้องเป็นคุณพี่ของหนูในวันหน้าอยู่ดีแหละเจ้าค่า!’ ระริกระรี้อยากมีผัวเช่นนี้ น่าจับไปลงหวายแช่เยี่ยวให้หายสะดีดสะดิ้งนัก นังมะลิเอ๊ย!
‘หากเอ็งไม่ได้แต่งกับพี่ ชาตินี้ชาติไหนก็จงอย่าได้แต่งกับผู้ใด ต้องหวนกลับมาแต่งกับพี่เพียงผู้เดียวเท่านั้น’
เพราะเสียงแหบห้าวของชายหนุ่มคนหนึ่งที่ดังขึ้นเมื่อวิญญาณหลุดออกจากร่าง ทำให้วิญญาณของสาวโสดวัยย่างสามสิบปีต้องย้อนคืนสู่อดีตชาติอย่างช่วยไม่ได้
หล่อนไม่ค่อยเข้าใจเหตุผลที่ตัวเองต้องย้อนกลับมาในอดีตชาติสักเท่าไร แต่ก็ไม่ได้โง่ถึงขนาดจะไม่รู้ว่าเป็นเพราะเสียงที่ได้ยินนั่น ถ้าหล่อนจำไม่ผิด เหมือนกับว่ามัจจุราชที่มารับดวงวิญญาณของหล่อนจะบอกว่า...
‘มันเป็นบ่วงกรรม เป็นพันธสัญญาของเจ้าในอดีตชาติ ในเมื่อเจ้าผูกใจกับสัญญานั้น เจ้าก็ต้องกลับไปตาม คำสัญญา’
...อะไรประมาณนั้น
แต่ขอโทษทีเถอะ หล่อนไปเกิดใหม่แล้ว หล่อนจำไม่ได้หรอกว่าไปสัญญาอะไรไว้กับใคร กระทั่งได้กลับมาเป็น ‘ตัวเองในอดีตชาติ’ นั่นล่ะถึงได้รู้ว่าเสียงนั้นคือเสียงของผู้ชายที่ผู้เป็นบิดาหมายมั่นปั้นมือจะให้แต่งงานด้วย
ทว่าก่อนที่จะไปพูดถึงผู้ชายคนนั้น หล่อนอยากบอกสักหน่อยว่าในชาตินี้หล่อนมีนามว่า ‘มะลิ’ เป็นสาวน้อยกำดัดวัยสิบแปดปี ดวงหน้างามงด ผิวพรรณผุดผ่อง ทรวงทรงองค์เอวอวบอึ๋ม มองตรงไหนก็ดูน่ารักน่าชัง น่ากอด น่าฟัดไปทุกส่วน ต่างจากชาติใหม่ที่หล่อนไปเกิดลิบลับ
ก็ชาติใหม่ของหล่อน นอกจากจะไม่ใช่คนสวยแล้ว ยังอ้วนตุ๊ต๊ะเหยียบไปร้อยกิโลกรัมเพราะกินดุนี่นา ไม่แปลกหรอกที่อายุสามสิบแล้วยังไม่เคยมีแฟนสักคน แต่ก็ใช่ว่าหล่อนจะเป็นคนหงิมๆ นะ เป็นสาวแซ่บๆ เฟี้ยวๆ ตัวแม่คนหนึ่งเลยทีเดียวล่ะ เรื่องผู้ชายก็มีมาไม่ได้ขาด ซึ่งส่วนมากก็เป็นหล่อนเองทั้งนั้นที่เป็นฝ่ายรุกเข้าจีบ แม้ว่าจะไม่เคยจีบติดเลยก็เถอะนะ
ส่วนเรื่องยุคสมัยที่หล่อนย้อนกลับมา บอกตามตรงว่าหล่อนไม่รู้เลยว่ามันตรงกับช่วงยุคสมัยไหนของไทยในอดีต ข้อมูลที่หล่อนรู้จากการสอบถามคนรอบกายหลังจากที่กลับมาอยู่ในร่างนี้ก็คือ หมู่บ้านที่หล่อนอยู่คือหมู่บ้านที่ตั้งตนเป็นอิสระ ไม่ขึ้นตรงกับเมืองหลวงซึ่งก็พอจะเดาได้ว่าน่าจะเป็นอยุธยา เพราะอยู่ห่างไกลปืนเที่ยง มีกองกำลังเป็นของตัวเองซึ่งก็คือพวกชายฉกรรจ์ที่เป็นชาวบ้าน และเหตุผลที่ต้องมีกองกำลังก็คือ...ละแวกนี้มีชุมโจร
จะเป็นโจรป่าหรืออะไร หล่อนคิดไม่ออกหรอก ไม่เคยเห็น เพิ่งจะเคยได้ยิน จินตนาการภาพไม่ไป
แต่นั่นก็ไม่สำคัญเท่ากับการที่หล่อนกลับมาเป็นสาวน้อยชื่อมะลิ อย่างที่บอกในคราแรกว่าหล่อนถูกบิดาจับยกใส่พานให้กับชายคนหนึ่งซึ่งมีอายุมากกว่าเป็นสิบปี
ไม่รู้เหตุผลว่าทำไมเขาถึงได้พูดอย่างนั้นจนกลายเป็นบ่วงสัญญา เพราะเขาก็ไม่มีท่าทีอะไรกับหล่อนเลย แม้แต่น้อย มีแต่หล่อนเท่านั้นที่ชื่นชอบเขาอยู่ฝ่ายเดียว
พูดประโยคนี้ได้เต็มปาก เป็นหล่อนที่ชอบเขาอยู่ฝ่ายเดียวจริงๆ เพราะทุกครั้งที่เขาปรากฏกายที่เรือนของหล่อน เป็นไปเพราะมาหาบิดาของหล่อนเท่านั้น ไม่ได้มาหาหล่อนเลย
และเขาคนนั้นก็มีชื่อว่า ‘ไอ้แผน’ เป็นชายหนุ่มวัยสามสิบสองซึ่งเป็นผู้นำของหมู่บ้านสีเผือก อันเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ท่ามกลางพื้นที่ราบอุดมสมบูรณ์ เขาเป็นคนหนุ่มที่มารับช่วงเป็นผู้นำหมู่บ้านต่อจากลุงที่ตายไป มิหนำซ้ำยังเป็น นักดาบฝีมือดีตัวฉกาจ จนทำให้บิดาของหล่อนซึ่งเป็นครูเพลงดาบหมายใจจะได้เป็นเขย
ทว่า...ไม่รู้ด้วยเหตุผลกลใด มะลิคนเดิมถึงได้ไม่ยอมตบแต่งกับเขา มิหนำซ้ำยังจะประกาศกร้าวว่าถ้าต้องแต่งกับเขา หล่อนยอมตายเสียดีกว่า อะไรไม่ว่า ยังจะพยายามตายให้สมดังปากพูดด้วยการวิ่งออกจากเรือนแล้วไปกระโดดลงแม่น้ำที่เชี่ยวกรากท้ายหมู่บ้าน ดีที่รอดตายมาได้ ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ได้กลายเป็นผีเฝ้าแม่น้ำสมใจแน่
แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ผ่านมาสามเดือนกว่าแล้ว พอๆ กับที่ ‘หล่อน’ มาอยู่ในร่างมะลินั่นแหละ และหล่อนในร่างมะลิ...ไม่สิ ร่างตัวเองในชาติที่แล้วก็ไม่เข้าใจเลยว่าไอ้แผนไม่มีดีให้ไม่อยากแต่งงานด้วยตรงไหน
ทั้งโครงหน้าคมคายหล่อเหลา ดวงตาคมกริบ จมูกโด่งเป็นสัน ปากกระจับแต่งแต้มด้วยหนวดเหนือริมฝีปากนิดๆ พอให้จินตนาการแล้วจั๊กจี้ รูปร่างกำยำสมส่วน มีกล้ามเนื้อแน่นที่สักยันต์เต็มไปทั้งตัว ผิวแทนบ่มแดดหน่อยๆ อีกทั้ง ยังดูเคร่งขรึมน่าค้นหา พ่วงท้ายด้วยตำแหน่งผู้นำหมู่บ้านอันทรงเกียรติ ดูอย่างไรก็เหมาะสมไปทุกอย่าง แล้วก็เป็นอะไรที่ชวนให้หลงใหลสุดๆ แม้แต่ในสายตาของคนยุคใหม่อย่างหล่อนก็เถอะ
เอาล่ะ เห็นทีต้องเลิกเรียกหล่อนว่าเป็นคนยุคใหม่ได้แล้ว เพราะตอนนี้หล่อนคือสาวน้อยมะลิที่นั่งตาปรอย เฝ้าแอบดูไอ้แผนมาช่วยบิดาฝึกดาบให้กับคนหนุ่มในหมู่บ้าน
ดวงตากลมโตพราวระยับเมื่อเห็นแผงอกแกร่งและหน้าท้องแน่นของไอ้แผนอาบไปด้วยเม็ดเหงื่อจนเงาเลื่อมไปทั้งตัว ปากก็แทบจะอ้าค้างให้น้ำลายไหล
น้ำลายสอ...แซ่บอะไรเบอร์นี้พ่อคู๊ณณณ!
ใครที่บอกว่าคนโบราณหน้าตาไม่ดี ไม่หล่อ ไม่เท่ หล่อนจะตบปากให้ มาเห็นจริงๆ ก่อนเถอะ แล้วจะรู้ว่า คนสมัยก่อนหล่อล่ำน่าปล้ำมากทีเดียว
แล้วหล่อนก็ต้องสะดุ้งน้อยๆ เมื่อสายตาคมกริบของชายที่ตนมองอยู่จ้องกลับมาอย่างไม่ทันตั้งตัว หล่อนรีบยืดตัว โบกไม้โบกมือให้ พร้อมร้องเรียก
“คุณพี่แผน! คุณพี่ๆ!”
เท่านั้นคนถูกเรียกก็ย่นคิ้ว ส่ายหน้าแล้วหันกลับไปฝึกดาบต่อ ไม่สนใจหล่อนอีกต่อไป ปล่อยให้สาวน้อยมะลิ นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เพียงลำพัง โดยที่หล่อนไม่รู้เลยว่าเขาคิดอะไรอยู่
แต่จะคิดอะไรก็ช่างเถอะ หล่อนไม่สนหรอก สนแต่ว่าเขาคือคนที่หล่อนจะแต่งงานด้วยในอนาคตอันใกล้นี้
ตายแล้วย้อนอดีตชาติกลับมา แต่ชีวิตก็ดี๊ดี!
จะได้มีผัวเป็นตัวเป็นตนสักทีนะ ชะนีน้อยเอ๊ย!
เมื่อมนุษย์เพศชายเกิดการวิวัฒนาการทางร่างกาย ผู้ชายกลุ่มหนึ่งจึงสามารถตั้งท้องได้ และเพราะความเมาชนิดหลุดโลกในคืนวันนั้น ‘นภัทร’ เดือนคณะสุดหล่อจึงตื่นขึ้นมาพร้อมกับความจริงว่าตัวเองจัดการรวบหัวรวบหางลากหลืบคณะอย่าง ‘สิงหา’ ไปมี one night stand เป็นที่เรียบร้อย เรื่องควรจะจบลงแค่นั้น แต่ไม่จบเมื่อชีวิตน้อยๆ ถือกำเนิดขึ้น นภัทรหายตัวไป กลับมาอีกครั้งพร้อมกับข่าวลือประหลาดๆ ก่อนสิงหาจะพบว่าต้นเหตุของข่าวลือคือเด็กหญิงตัวน้อยอย่าง ‘น้องณดา’ ที่สิงหาสงสัยเหลือเกินว่าจะเป็นลูกของเขา “ให้เรียกนายว่าพ่อไม่ได้หรอก น้องณดาไม่ได้ลูกของนาย” “งั้นเรียกป๊ะป๋าก็ได้” “ไม่ได้” “แด๊ดดี้” “นี่...พอเลย” “ดาดา” คำเรียกที่หลุดจากปากของเด็กหญิงตัวน้อยทำเอาคุณพ่อกำมะลอยิ้มหน้าบาน ปฏิบัติการทวงคืนความเป็นพ่อต้องมา ต่อให้นภัทรไม่ยอมรับ งั้นสิงหาก็ขอเข้าทางลูกสาวตัวจิ๋วก็แล้วกัน! รับผมเป็นพ่อของลูกเถอะนะครับ!
เพราะไปตีกับเกรียนคีย์บอร์ดที่บังอาจเอานิยายเธอมาวิจารณ์หยาบๆ คายๆ ว่างานเธอเชิดชูระบอบปิตาธิปไตย ตามมาด้วยการดูแคลนเหยียดหยามทางเพศสภาพอีกหลายอย่าง ทำเอา ‘อาคิรา’ นักเขียนนิยายประโลมโลกถึงกับเลือดเฟมินิสต์ในกายเดือดพล่าน กล้าดียังไงมากล่าวหาเธออย่างนี้ งานเธอถึงจะเป็นงานประโลมโลก แต่ใช่ว่าจะเชิดชูระบอบชายเป็นใหญ่สักหน่อย! ต้องตามไปตบตีจนกว่าจะชนะ เถียงแพ้รอบนั้น แต่คนไม่แพ้ ตามหาแอคเคาทน์ของคนที่ใช้นามแฝงว่า ‘เวนไตย’ ไปจนเจอเข้ากับตอจังเบ้อเร่อ โดยหารู้ไม่ว่าเวนไตยคนนี้ หาใช่ไอ้เวรตะไลที่ประนามหยามเหยียดแต่อย่างใดไม่ ทว่าเป็นบรรณาธิการหนุ่มผู้คว่ำหวอดในวงการวรรณกรรมสร้างสรรค์สังคมต่างหาก “ฉันจะทำให้ดูว่างานเขียนฉันมันไม่ได้เชิดชูระบอบชายเป็นใหญ่!” “งั้นก็ลองเขียนมาดู ผมอยากอ่านเหมือนกัน อยากรู้ว่านักเขียนอย่างคุณจะทำได้ดีสักกี่น้ำ” โดนท้าทายมาถึงกับปรี๊ด คอยดูเถอะ เธอจะเอารางวัลมาฟาดหน้าไอ้เวรตะไลนี่ให้ได้เลย!
“ฉันจะเป็นเมียของนายดินค่ะ” ไม่รู้ว่าส้มหล่นหรือโชคร้ายกันแน่ที่จู่ๆ คุณหนู ‘หยาดฟ้า’ ของตระกูลเศรษฐีเมืองกรุงก็มาถวายตัวยอมเป็นเมียของ ‘ไอ้ดิน’ อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเสียอย่างนั้น ไอ้ดินค่อนข้างจะงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก็จะไม่ให้งงได้อย่างไร เขาไม่รู้จักมัดจี่กับเจ้าหล่อนนี่ จู่ๆ ก็มาบอกว่าจะเป็นเมียเขา เป็นใครก็งงทั้งนั้นแหละ! ก่อนที่เขาจะได้รับรู้ว่าเหตุนี้เกิดขึ้นเพราะหยาดฟ้าถูกบิดาบังคับให้แต่งงาน เธอจึงหนีมาอยู่ที่บ้านพักตากอากาศในต่างจังหวัด และได้เจอกับกุลีหนุ่มที่นี่ ประจวบเหมาะกับที่บิดาของเธอโทรมาคาดคั้นให้เธอกลับไปแต่งงานพอดี เธอถึงได้ลั่นวาจานี้ออกมาให้บิดารู้ว่าเธอมีผู้ชายคนใหม่ที่ยินยอมพร้อมใจจะเป็น ‘เมีย’ ของเขาแล้ว หาใช่ผู้ชายที่บิดาจัดเตรียมมาให้ สำหรับไอ้ดิน นี่คงไม่ใช่ส้มหล่นหรอก เป็นคราวเคราะห์เสียมากกว่า เขาจึงรีบบอกปัดหัวขวิด “ไม่ล่ะครับคุณหนู ผมคงไม่อาจเอื้อมไปเด็ดดอกฟ้าหรอก ผมก็แค่กุลีใช้แรงงานไปวันๆ จะเอาเงินที่ไหนไปเลี้ยงให้คุณหนูอยู่ดีกินดีได้” “ไม่ต้องกินดีอยู่ดีก็ได้ แค่ให้ฉันอยู่ด้วยก็พอ” “ให้อยู่ด้วยก็ไม่ได้ครับ ก็คุณหนูน่ะเป็น...” “เป็นเมียนายดินไงล่ะ” เป็นที่ไหนกัน เขายังไม่ได้ซั่มเธอเลยสักกะยก! ไอ้ดินปวดขมับตุบๆ ขณะที่หยาดฟ้าเชื้อเชิญเขาเป็นการใหญ่ “แล้วนี่มัวรออะไรอยู่ รีบพาฉันเข้าบ้านสิ จะได้ทำอะไรอย่างที่ผัวเมียเขาทำกัน” เธอรู้หรือเปล่าว่าพูดถึงเรื่องอะไรอยู่น่ะ!? ไอ้ดินไม่แน่ใจนัก แต่แวบเดียวก็แน่ใจแล้ว เพราะจู่ๆ หญิงสาวก็ดึงคอเสื้อให้หน้าอกอิ่มล้นทะลักออกมา ไอ้ดินมองจ้องตาไม่กะพริบ ได้สติมาอีกครั้งก็ตอนที่สาวเจ้าเอ่ยปาก “มาสิพี่ดิน มาเอากัน ฟ้าพร้อมจะเป็นเมียพี่แล้ว” ดูพูดจาเข้า เรียกแทนตัวด้วยชื่อ แทนเขาว่าพี่ชวนให้เอ็นดูอีก! โอ๊ย! ไอ้ดินจะบ้าตาย! เห็นทีเขาคงหนีไม่พ้นการถูกยัดเยียดความเป็น ‘ผัว’ ด้วยฝีมือหยาดฟ้าแล้วล่ะ
เพราะอกหักจากคนที่แอบชอบมานาน ทำให้ ‘ภีม’ พาตัวเองไปในที่อโคจรเพื่อที่จะระบายความเศร้าเสียใจออกไปบ้าง หากทว่าในคืนนั้น เขากลับได้พบกับชายแปลกหน้าอย่าง ‘สุดเขต’ ที่บังเอิญเข้ามาพูดคุยด้วย ทั้งสองเกือบจะลงเอยกันด้วยความสัมพันธ์ข้ามคืน หรือที่เรียกกันว่า One night stand หากทว่าก็เกิดเรื่องวุ่นๆ เสียก่อน ก่อนที่ภีมจะพบว่าผู้ชายที่เขาได้เจอในคืนนั้น เป็นคนคนเดียวกับคนที่เขาแอบชอบตกหลุมรัก ให้ตาย! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! ขณะเดียวกัน ปฏิบัติการ ‘ลัก’ ความรักของภีมก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อสุดเขตไม่สามารถลืมความน่ารักของภีมลงได้เลย เขาต้องเอามาให้ได้ ทั้งตัวภีม และความรักของภีม จะเอามาให้ได้ทั้งหมดเลยคอยดู!
แม้ขึ้นชื่อว่าเป็นปีศาจ ทว่าปีศาจกวางอย่าง ‘ลู่ลู่’ กลับหาได้พิสมัยการระรานมนุษย์สักเท่าไรนัก สะอาดบริสุทธิ์เสียจนแทบจะลุแก่ตบะแล้ว ทว่า... ชีวิตของเขาก็หาได้สงบสุขอีกต่อไปเมื่อนักพรตปราบปีศาจอย่าง ‘เยี่ยนเฉิน’ หนีตายจากการถูกล่าเพราะดันไปต้มตุ๋นชาวบ้านวิ่งทะเล่อทะล่ามาสลบอยู่หน้าถ้ำ ถึงจะเป็นปีศาจแต่ก็หาได้ไร้น้ำใจนัก มอบไมตรีช่วยเหลืออย่างไม่เกี่ยงงอน หากแต่เยี่ยนเฉินกลับตอบแทนบุญคุณด้วยการทำให้ชีวิตของลู่ลู่แปดเปื้อนด้วยมลทิน บีบบังคับให้ปีศาจกวางน้อยรวมหัวในแผนต้มตุ๋นชาวบ้านเพื่อเอาคืน! นักพรตจอมกะล่อนผงาด ใช้ชีวิตอย่างสำราญ ขณะที่ปีศาจน้อยถูกจิกหัวใช้ให้ไประรานชาวบ้านไม่เว้นวัน อะไรไม่ว่า เยี่ยนฉินยังขยันลูบหางเล็กๆ ของเขาเสียเหลือเกิน ไม่รู้หรือไงว่าตรงนั้นน่ะ...มะ...มัน... ...ทำให้ตัวร้อนผะผ่าวนะ! ต้องมีสักวันที่พลั้งเผลอไปมากกว่านี้แน่ สวรรค์! ลู่ลู่ผู้นี้จะหลั่งน้ำตาเป็นสายโลหิตแล้ว!
หากผู้ใดเชื่อว่าทะเลทรายผืนนี้โหดร้าย ผู้นั้นย่อมเชื่อในสิ่งที่ผิด เพราะสิ่งที่โหดร้ายกว่าผืนทะเลทรายแห้งแล้ง คือกองกำลังโจรทะเลทรายของ 'อัลมิราน' ผู้นี้ต่างหาก โหดร้าย...ชั่วช้า...เลวสามานย์ ดูเหมือนจะเป็นคำสร้อยที่พ่วงท้ายชื่อของโจรหนุ่มนามเลื่องลือไปเสียแล้ว แต่เขาจะสนใจสิ่งใดกัน ในเมื่อเขาถูกตราหน้าว่าชั่ว เขาก็จะเป็นคนชั่วให้สมดั่งที่ถูกบีบคั้น เพียงเพื่อให้ได้อัญมณีแห่งสุลต่านมาครอบครอง เขาก็ไม่เกรงกลัวสิ่งใดแล้ว หากแต่หารู้ไม่ว่าสวรรค์จะนำพาให้เขาพบกับอัญมณีมีชีวิตแห่งทะเลทราย...'จามิล' นักระบำร่อนเร่ผู้มีเสน่ห์เย้ายวน เพียงได้ชมระบำทะเลทรายของจามิลแค่ครั้งเดียวเท่านั้น หัวใจของอัลมิรานก็ถูกครอบครองไปสิ้น โดยหารู้ไม่ว่าตนกำลังก้าวเข้าสู่หุบเหวอเวจีแสนหวานที่จะฉุดคร่าชีวิตเขาไปเสียแล้ว...
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"