ชานนท์ ชายหนุ่มวัย30ปี หนุ่มเพลย์บอยตัวพ่อ ชีวิตของเขาแสนสุขสบาย เที่ยวเตร่ผลาญเงินครอบครัวไปวันๆ จนพ่อส่ายหน้าระอาใจ ทว่าวันหนึ่งเขากลับล้มป่วยอย่างหนักต้องไปรักษาตัวอยู่ต่างประเทศนานครึ่งปี เมื่อกลับมาก็ยังไม่สามารถเคลื่อนไหวตัวได้ตามปกติ ปกติเขาเป็นคนเอาแต่ใจตัวเองตามประสาลูกคนเดียวอยู่แล้ว
ทว่าเมื่อเจ็บป่วยต้องนั่งรถเข็นก็ทำให้เป็นคนหงุดหงิดโมโหร้าย พ่อแม่จึงส่งเขาไปพักรักษาตัวที่ไกลหูไกลตา ไกลเสียจนเขานึกว่าพ่อแม่ไม่รักเขาเสียแล้ว
เพราะตั้งแต่เขาป่วย เขาได้เห็นนิสัยใจคอที่แท้จริงของคนที่เคยชิดใกล้ เขาเผลอคิดไปแล้วว่าโลกนี้คงไม่มีใครรักเขาจริง
จนกระทั่ง...
ณิชาหญิงสาววัยยี่สิบปี หน้าตาน่ารักสดใสตามวัย หญิงสาวในชุดนักศึกษาปั่นจักรยานเข้ามาในบ้านหลังน้อยแล้วก็อดมองไปที่บ้านหลังงามที่ไม่ไกลนัก บ้านต่างจังหวัดที่ดินติดกัน รั้วเป็นเพียงรั้วเตี้ยๆ ปลูกพืชผักกินได้ตามแนวรั้ว ปกติที่บ้านหลังนั้นเธอจะเห็นป้าสมใจกับลุงอาทรอยู่ดูแลบ้าน แต่วันนี้รู้สึกจะเห็นมีรถเก๋งคันใหญ่จอดอยู่และผู้คนแปลกหน้าวิ่งวุ่นในบริเวณบ้านหลังนั้น
“บ้านโน้นเค้ามีอะไรกันคะแม่”
ณิชาถามผู้เป็นแม่แล้วเข็นจักรยานไปจอดไว้ใต้ถุนบ้าน บ้านของเธอกับแม่เป็นบ้านไม้สองชั้น เดิมทีเป็นบ้านใต้ถุนสูงแบบชนบท แต่เมื่อหกหรือเจ็ดปีก่อน พ่อต่อเติมด้านล่างให้กลายเป็นห้องนั่งเล่นเล็กๆ และมีมุมให้ลูกสาวได้เอกเขนกอ่านหนังสือสบายๆ
“อ้อ เจ้าของบ้านเค้ามาพักผ่อนละมั้ง”
“เจ้าของบ้าน? ลุงอาทรกับป้าสมใจไม่ใช่เจ้าของบ้านหรือคะแม่”
“เปล่าจ๊ะ เป็นคนดูแลบ้าน”
“เตยก็เข้าใจมาตลอดว่าลุงกับป้าเป็นเจ้าของบ้าน”
หญิงสาวยักไหล่ แล้วเดินเข้าไปช่วยแม่ที่กำลังยกกระจาดพริกที่ตากแดดไว้ลงมา พ่อของณิชาหรือใบเตยประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ช่วงนี้พ่อได้งานสร้างอาคารเรียนโรงเรียนเล็กแห่งหนึ่ง อยู่อีกอำเภอ จึงไม่ค่อยได้กลับบ้านนัก ซึ่งหญิงสาวกับแม่ก็ชิน ส่วนแม่ก็เป็นแม่บ้านปลูกผักแปลงเล็กๆ เลี้ยงไก่ และดูแลนาข้าวที่มีอยู่10ไร่ แต่ไม่ได้ลงมือทำเองทั้งหมด จ้างญาติมาช่วย ทว่าทั้งสามชีวิตก็อยู่อย่างสมถะมีความสุขดี
ปีนี้ณิชาเรียนปีสี่แล้ว อีกไม่กี่เดือนข้างหน้าก็จะเรียนจบ จะได้มีงานทำ มีรายได้ช่วยเหลือครอบครัวบ้าง ใขณะที่เพื่อนๆ รุ่นเดียวเลือกที่จะเช่าหอพักอยู่ใกล้วิทยาลัย แต่เธอกลับชอบที่จะเดินทางไปกลับมากกว่า และไม่เห็นเป็นความลำบากแต่อย่างใด แค่ฝากจักรยานไว้ที่ร้านขายของชำหน้าหมู่บ้าน นั่งรถสองแถวชั่วโมงนิดๆ ก็เข้าเมืองถึงหน้าวิทยาลัยพอดี
แต่ถ้าวันไหนที่ติดเรียนเลิกช้า หรือเป็นวันเสาร์ที่มีถนนคนเดิน ณิชาจะค้างกับข้าวหอม เพื่อนสนิทที่รู้จักกันมาตั้งแต่ปีหนึ่ง ข้าวหอมมีบ้านอยู่ในเมือง ใกล้มหาวิทยาลัย ทั้งสองสาวชอบทำของแฮนด์เมดไปขายถนนคนเดินวันเสาร์-อาทิตย์
“อีกสามเดือนเตยก็เรียนจบแล้วนะแม่ แม่ก็ไม่ต้องเหนื่อยทำงานหนักอีกแล้วนะจ๊ะ”
“แม่ทำงานหนักที่ไหน สบายจะตายไป”
แม่ยิ้มให้ลูกสาว นอกจากเป็นแม่บ้านและดูแลสวนแล้ว แม่ยังชอบเย็บปักถักร้อยด้วย นั้นทำให้สองแม่ลูกชอบทำงานฝีมือแล้วคนลูกก็เป็นริเริ่มเอาออกไปขาย
“ไม่เอา เตยอยากให้แม่อยู่บ้านสบายๆ ไม่ต้องทำงานอะไรเลย”
“แม่ไม่ทำอะไรเลยก็กลายเป็นคนป่วยนะซิ” คนเป็นแม่หัวเราะ แล้วก็ทำหน้าแบบเพิ่งนึกออกมาได้
“มีอะไรจ๊ะแม่”
“ข้างบ้านเรานะ มีคนป่วยมาพักรักษาตัวนะลูก ยังไงลูกดูแลหมาๆ แมวๆ ของเราอย่าให้ไปรบกวนคุณเขาล่ะ”
“คงยากนะจ๊ะแม่” ณิชาเบ้ปาก ปรายตามองบรรดาสมุนที่พ่อของเธอเก็บมาเลี้ยง แต่ตัวได้มาจากที่ทำงานก่อสร้างทั้งนั้น “แต่ละตัวก็เหลือเกิน”
“เอาน่าลูก บ้านอยู่ใกล้กันแค่นี้”
“ใกล้ที่ไหนจ๊ะแม่ โน้น” ลูกสาวทำปากยื่นปากยาว “เห็นหลังคาไกลๆโน้นเลย”
“เอ๊ะ ลูกคนนี้” แม่ตีแขนดังเพี้ยะ