ลิโอเนล การ์รัสโซ่ ยังหล่อเหลาไม่เปลี่ยนแปลง ยังกระชากทุกลมหายใจของหล่อนได้เช่นเดิม แม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมาถึงสองอาทิตย์แล้วก็ตาม แต่ทุกเศษเสี้ยวความทรงจำของหล่อนก็ยังมีแต่เขา หญิงสาวปากคอแห้งผาก พยายามบอกตัวเองให้สงบสติอารมณ์เอาไว้ อย่าแสดงท่าทางคลั่งไคล้เขาออกไปแบบนี้ แต่หล่อนก็ทำไม่ได้ หล่อนมองเขาปานจะกลืนกิน มองตั้งแต่หน้าผากกว้างสีแทน คิ้วของเขาคมเข้มดำเป็นปื้นอยู่เหนือดวงตาสีนิลคมกริบ ดวงตาที่สามารถสั่นสะท้านประสาทของหล่อนให้ไหวระริกเพียงแค่มองแวบเดียวเท่านั้น เขาดูดี เหมือนเทพบุตรชั้นฟ้า ในขณะที่หล่อนต่ำต้อยและโสมม หญิงสาวคิดอย่างเจ็บปวด แต่ความคิดนี้ก็ไม่มีอิทธิพลพอจะทำให้หล่อนละสายตาจากผู้ชายตรงหน้าได้เลย เพราะหลังจากจ้องประสานสายตากับเขาอยู่นานหลายนาที สายตาไม่รักดีของหล่อนก็เลื่อนต่ำลงมาหยุดนิ่งอยู่ที่ริมฝีปากบางเฉียบหยักสวยของเขาแทน ริมฝีปากคู่นี้ไงที่บดเคล้าลงมาบนปากของหล่อนเมื่อสองอาทิตย์ก่อน แม้เขาจะรุนแรง แม้เขาจะไม่ปรานี แต่หล่อนก็ยังอดหลงใหลจุมพิตดุดันนั้นไม่ได้ หล่อนฝันถึงมันทุกคืน ฝันถึงผู้ชายคนนี้ ผู้ชายหล่อร้ายและแสนอันตรายอย่างลิโอเนล การ์รัสโซ่คนนี้
ทุกๆ วันที่ผ่านพ้นไปของวาดจันทร์ยังคงเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง นั่นก็คือชีวิตมีไว้ให้ดิ้นรนและต่อสู้เพื่อหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องของตัวเอง ต้องสู้ในทุกๆ วินาทีที่ยังมีลมหายใจอยู่
ตั้งแต่ที่นี่ไม่มีปาณิศา หล่อนก็เหมือนอยู่ตัวคนเดียวภายในโลกใบนี้ เมื่อก่อนไม่ว่าจะมีปัญหาอะไร จะมีความสุขหรือความทุกข์ใดๆ หล่อนก็จะมีปาณิศาคอยรับฟังและให้กำลังใจตลอด แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว ปาณิศาโชคดีได้กลายเป็นนางซินมีสามีที่รักและห่วงใยอย่างลิโอเนล การ์รัสโซ่อยู่ข้างๆ กาย บางครั้ง บางเวลาหล่อนก็อยากจะไปเยี่ยมเยียนเพื่อนรักที่การ์รัสโซ่ พาราไดส์ แต่ด้วยสถานะที่ต่ำต้อยของตัวเองที่ไม่ผิดจากหนูสกปรก หล่อนจึงไม่มีความกล้าพอที่จะไปที่นั่น แม้จะคิดถึงปาณนิศามากแค่ไหนก็ตาม
แต่นั่นหาใช่ปัญหาเดียวที่หล่อนหวาดกลัวไม่ เพราะสิ่งสำคัญที่ทำให้หล่อนไม่กล้าเหยียบย่างไปการ์รัสโซ่ พาราไดส์ก็คือ... คือเขา... คามิเอล การ์รัสโซ่ ผู้ชายเจ้าเล่ห์ ร้ายกาจ และเห็นผู้หญิงเป็นเพียงแค่เครื่องระบายความใคร่เพียงเท่านั้น หล่อนกลัวว่าเขาจะจดจำหล่อนได้ กลัวว่าเขาจะเกิดสงสัยในตัวของหล่อน ถึงแม้ว่าในหลายๆ ครั้งที่มีโอกาสเผชิญหน้ากัน เขาจะไม่มีทีท่าว่าจะจดจำหล่อนได้เลยก็ตาม
วาดจันทร์ระบายลมหายใจออกมาจากกลีบปากอิ่มสีแดงสดของตัวเองอีกครั้ง พยายามจะสลัดความคิดของตัวเองที่มีต่อคามิเอล การ์รัสโซ่ ผู้ชายที่อยู่สูงเกินเอื้อมคนนั้นให้ออกไปจากสมองอย่างสุดความสามารถ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เกิดผลสำเร็จเลยสักนิด เมื่อยิ่งพยายามผลักไส สมองไม่รักดีของหล่อนกลับยิ่งคิด ยิ่งจดจำ และยิ่งโหยหา คิดถึงเขา คิดถึงผู้ชายร้ายกาจคนนั้นใจจะขาด ในที่สุดหล่อนก็ไม่ได้แตกต่างไปจากผู้หญิงคนอื่นๆ ในโลกใบนี้แม้แต่นิดเดียว นั่นก็คือการตกหลุมรักคามิเอล การ์รัสโซ่ เพียงแค่จูบเดียวเท่านั้น
“คนร้ายกาจ ฉันไม่ควรคิดถึงคุณเลย”
แม้จะบอกตัวเองแบบนี้ แม้จะบอกตัวเองว่ามันไม่สมควร แต่ดูเหมือนว่าหล่อนจะสูญเสียสิทธิ์บังคับสมองและหัวใจของตัวเองไปเสียแล้ว เมื่อทั้งสมองและทั้งหัวใจของหล่อนมีเจ้านายคนใหม่นั่นก็คือคามิเอล การ์รัสโซ่ ผู้ชายที่มีรูปโฉมไม่ผิดจากเทพบุตรชั้นฟ้า ในขณะที่หัวใจดำมืดพอๆ กับจอมมารคนนั้น
แล้วนี้หล่อนจะทำยังไงดี จะทำยังไงดีกับหัวใจของตัวเอง เพราะยิ่งนับวัน ยิ่งเวลาเดินผ่านไปมากเท่าไหร่ หัวใจของหล่อนก็ยิ่งโหยหาผู้ชายร้ายกาจอย่างคามิเอล การ์รัสโซ่มากมายขึ้นเท่านั้น ไม่เคยลดน้อยลงเลย แม้ว่าหล่อนจะไม่ได้พบหน้าของเขามาเกือบหนึ่งเดือนเต็มๆ แล้วก็ตาม
“บ้าๆๆๆ เธอต้องบ้าไปแล้วแน่เลย วาดจันทร์ หยุดคิด หยุดๆ ได้แล้ว เขาไม่มีทางมองเธอ และแน่นอนว่าเธอไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นซินเดอเรลล่าอย่างปาณิศา ดังนั้นเลิกฝันได้แล้ว”
หญิงสาวเค้นเสียงขมขื่นบอกตัวเองเบาๆ ในลำคอ ก่อนจะก้มหน้าลงมองเวลาที่นาฬิกาข้อมือเก่าๆ ของตัวเอง
ได้เวลาเริ่มงานของวันแรกในสัปดาห์นี้แล้ว วาดจันทร์สั่งตัวเองให้ยิ้มกว้างๆ จากนั้นจึงตัดสินใจเดินตรงไปยังแผนกที่ตัวเองรับผิดชอบทันที แต่ระหว่างทางก็พบกับเชอินพนักงานชายในห้างสรรพสินค้าเดียวกันเสียก่อน
“น้องจันทร์ทานอาหารเช้าหรือยังครับ”
เจ้าของชื่อระบายยิ้มบางๆ มองออกว่าผู้ชายคนนี้สนใจในตัวของหล่อน แต่แน่นอนว่าหล่อนไม่ได้มีใจให้กับเขา สิ่งที่มอบให้ได้ก็คือความเป็นเพื่อนเท่านั้น ซึ่งหล่อนก็รู้ดีว่าเชอินรู้ฐานะของตัวเองดี เพราะเขาไม่เคยพูดจา หรือแสดงท่าทางให้หล่อนลำบากใจเลยสักครั้ง และนี่แหละคือสิ่งที่ทำให้หล่อนเต็มใจที่จะยิ้มให้กับเขาอย่างแท้จริง
“เรียบร้อยแล้วค่ะพี่เชอิน แล้วพี่ล่ะทานหรือยัง”
“พี่ก็ทานเรียบร้อยแล้วเหมือนกันครับ” เชอินระบายยิ้ม มองสาวน้อยตรงหน้าด้วยความรู้สึกดีๆ มากมาย
“วันนี้พี่เชอินเข้ากะเช้าเหรอคะ”
“ครับ พอดีพี่ขอหัวหน้าเปลี่ยนกะน่ะ ว่าแต่น้องจันทร์เถอะ วันหยุดยาวนี้มีโปรแกรมไปเที่ยวที่ไหนหรือเปล่าครับ”
เชอินหมายถึงวันหยุดของทางห้างที่ตรงกับวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ วาดจันทร์เข้าใจดี แต่ยังไม่ทันจะให้คำตอบใดออกไป หัวหน้างานของหล่อนก็ควักมือเรียกเสียก่อน
“พี่เชอิน จันทร์ขอตัวก่อนนะคะ หัวหน้าควักมือเรียกแล้ว”
เชอินมองตามสายตาของวาดจันทร์ไปก็เห็นอย่างที่หญิงสาวบอกจริงๆ นั่นก็หัวหน้าของวาดจันทร์กำลังยืนควักมือเรียกอยู่ แถมข้างๆ กายยังมีผู้ชายแต่งตัวภูมิฐานสามคนยืนอยู่ใกล้ๆ อีกด้วย
“ครับ เอาไว้เราค่อยคุยกันใหม่ อืม ตอนเที่ยงนี้น้องจันทร์ทานอาหารกับพี่ได้ไหมครับ”
วาดจันทร์ยิ้มบางๆ แม้จะไม่อยากไปนัก แต่ก็ไม่อยากทำให้ผู้ชายตรงหน้าที่กำลังมองหล่อนอย่างรอคอยต้องผิดหวัง
“ก็ได้ค่ะ ถ้าจันทร์ได้พักตอนเที่ยงนะคะ”
เชอินยิ้มกว้างมากๆ ด้วยความดีใจ
“ครับ พี่จะรอ”
จากนั้นชายหนุ่มก็เดินจากไปด้วยความยินดี ในขณะที่วาดจันทร์เดินมุ่งหน้าไปยังหัวหน้างานของตัวเอง แต่พอเดินมาใกล้ๆ ก็ต้องตกใจจนแทบช็อก เมื่อได้เห็นผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ กับหัวหน้าของตัวเองชัดๆ เต็มๆ ตา
คามิเอล การ์รัสโซ่!
หญิงสาวเบิกตากว้างด้วยความตกใจ แข็งขาสั่นเทา แต่นั่นก็คงไม่เท่ากับจังหวะการเต้นของหัวใจที่มันเพิ่มขึ้นจนน่าหวาดเสียวหรอก เขามาที่นี่ได้ยังไง มาอยู่ตรงหน้าของหล่อนยังไง วาดจันทร์พยายามเก็บอารามตื่นตระหนกของตัวเองเอาไว้อย่างสุดความสามารถ แต่หล่อนก็ทำได้แย่มาก เพราะสายตาของหล่อนไม่สามารถละจากใบหน้าอันหล่อลากดินของคามิเอลได้เลย
โอ้... ให้ตายเถอะ ทำไมเขาถึงหล่อเหลา สมบูรณ์แบบสุดๆ แบบนี้นะ ดูสิ เขายืนอยู่ในกลุ่มกับผู้ชายอีกสองคน แต่คามิเอล การ์รัสโซ่กลับดูโดดเด่นและน่ามองอยู่เพียงคนเดียว หล่อนโหยหา และคิดถึงเขาเหลือเกิน ทั้งๆ ที่คิดว่าสิ่งที่พยายามทำในทุกๆ ลมหายใจอย่างการลบเลือนเขาจากสมองมันได้ผล แต่พอได้เห็น ได้สบตากับพ่อเทพบุตรเถื่อนอย่างคามิเอล การ์รัสโซ่อีกครั้ง หล่อนจึงได้ซาบซึ้งว่าไม่มีทาง... ไม่มีหนทางใดเลยที่จะสามารถทำให้หล่อนลืมผู้ชายคนนี้ได้ รสจูบของเขา สัมผัสจากฝ่ามือของเขาที่ลูบไล้ไปตามผิวกายของหล่อน มันตราตรึง ติดแน่น และไม่มีทางลบเลือนได้ ไม่ว่าจะใช้เวลายาวนานสักแค่ไหนก็ตาม
หล่อน... หล่อนลุ่มหลงเขา ลุ่มหลง โหยหา คามิเอล การ์รัสโซ่ จนโงหัวไม่ขึ้น และถ้าหล่อนยังเป็นอยู่แบบนี้ ยังปล่อยให้เขามามีอิทธิพลเหนือจิตวิญญาณเช่นนี้ อีกไม่นาน... อีกไม่นานหรอก หล่อนจะมีสภาพไม่ต่างจากผู้หญิงจำนวนมหาศาลที่ถูกเสือร้ายอย่างคามิเอล การ์รัสโซ่ขยี้จนยับและเขี่ยทิ้ง
ไม่... หล่อนจะต้องไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้น หล่อนไม่มีทางยอมให้ผู้ชายเอาเปรียบ ไม่มีทางยอมให้ใครมาเขี่ยทิ้งง่ายๆ หล่อนไม่มีวันยอม วาดจันทร์เม้มปากแน่นจนเป็นเส้นตรง จากนั้นก็แข็งใจละสายตาจากผู้ชายหล่อระเบิดตรงหน้าไปมองหัวหน้างานของตัวเองแทน มันยากลำบาก... มันยากเหลือเกินกับการที่ต้องไม่มองเขา แต่สุดท้ายหล่อนก็ทำได้สำเร็จ หล่อนสามารถละสายตาจากพ่อเทพบุตรจากชั้นฟ้าได้จริงๆ แม้ว่าหัวใจจะยังติดแน่นอยู่กับเขาก็ตาม
“บอสมีอะไรจะให้จันทร์รับใช้เหรอคะ”
น้ำเสียงของวาดจันทร์แปร่งและพร่าในตอนท้าย ทั้งๆ ที่พยายามบังคับมันแล้ว มันน่าสมเพช แต่หญิงสาวก็รู้ดีว่ามันเป็นเรื่องยากมากๆ ที่จะบังคับน้ำเสียงให้เป็นปกติได้หากมีคามิเอล การ์รัสโซ่อยู่ใกล้ๆ แบบนี้
เจ้านายวัยสาวเหลือน้อยของหล่อนหันไปยิ้มหวานให้กับคามิเอล ก่อนจะหันกลับมาพูดกับหล่อนด้วยน้ำเสียงเจ้าระเบียบบอกให้รู้ถึงตำแหน่งอันต่ำต้อยของหล่อน
“คุณคาร์ลต้องการเนคไท”
“เอ่อ ค่ะ งั้นจันทร์จะไปตามพี่เนติฟามาเลือกให้นะคะ”
ที่หล่อนพูดไปแบบนี้เพราะไม่อยากจะอยู่ใกล้กับคามิเอล การ์รัสโซ่ แต่ดูเหมือนว่าสวรรค์จะไม่เข้าข้างหล่อนเลยแม้แต่นิดเดียว
“แต่คุณคาร์ลต้องการเธอ”
คำพูดของหัวหน้างานทำให้วาดจันทร์อดหันไปมองคนที่ถูกกล่าวอ้างไม่ได้ และนั่นก็ทำให้สายตาของหล่อนสบประสานเข้ากับดวงตาสีคืนเดือนไร้แสงจันทร์ของคามิเอลพอดิบพอดี เสมือนถูกดูดเข้าไปในหลุมอุกาบาตรขนาดใหญ่ ที่ภายในหลุมเต็มไปด้วยความมืดมิดและไร้ทางออก หัวใจของหล่อนเต้นแรงมาก ขณะที่เนื้อตัวสาวเกิดอาการร้อนวูบวาบขึ้นมาอย่างน่าตื่นตกใจ หล่อนเป็นแบบนี้ รู้สึกแบบนี้ทุกครั้งเมื่อได้สบตากับคามิเอล การ์รัสโซ่ หล่อนคงจะเป็นเอามาก หลงรักเขาเอามากๆ ถึงได้มีอาการรุนแรงแบบนี้
วาดจันทร์กัดฟัน ข่มใจ และฝืนตัวเองให้ก้มหน้าลงมองพื้น จากนั้นจึงพูดขึ้นเสียงแผ่วเบากับหัวหน้างานของตัวเอง หล่อนจะไม่ยอมอยู่ใกล้คามิเอล การ์รัสโซ่ ไม่มีทางเด็ดขาด เพราะขืนอยู่ใกล้ หล่อนได้เผลอแสดงท่าทางลุ่มหลงเขาออกไปอย่างแน่นอน
“เอ่อ พอดีจันทร์ติดงานค่ะ ต้องไปช่วยเกรานับสต๊อกเสื้อผ้าค่ะ” คำตอบของหล่อนทำให้หัวหน้างานหันไปมองคามิเอล และเอ่ยถามขึ้น
“งั้นดิฉันจะหาพนักงานคนอื่นมาต้อนรับแทนนะคะ”
วาดจันทร์ลอบเป่าปากถอนใจออกมาอย่างโล่งอก เพราะคิดว่าคามิเอลจะยอมปล่อยหล่อนไป แต่ตรงกันข้าม... ใช่ มันตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง เมื่อคำพูดที่เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากสีแดงจัดของเขาสามารถทำให้หล่อนชาวาบไปทั้งตัว
“ผมต้องการวาดจันทร์”
“แต่ดิฉันมีงานอื่นต้องรับผิดชอบนะคะ แค่เลือกเสื้อผ้า พนักงานคนไหนทำก็ได้” เพราะความไม่พอใจทำให้วาดจันทร์เผลอโต้ตอบออกไป
เมื่อ คิมหันต์ ชายหนุ่มหล่อ รวย ทายาทคนเดียวของตระกูล ถูกใจ พอฤทัย นักกายภาพบำบัดที่คุณย่าจ้างมา เขาคิดว่าหล่อนง่าย แต่หล่อนกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดเลย หล่อนสวย แต่ยาก และนั้นก็ยิ่งทำให้เขากระหาย ยิ่งอยากได้หล่อนจนใจจะขาด ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ประตูห้องยังไม่ทันจะปิดสนิท คิมหันต์ก็ดึงคนตัวเล็กเข้ามาประกบปากจูบดูดดื่ม ราวกับว่าถ้ารออีกนิดเดียวเขาจะขาดใจตาย "คุณคิมหันต์ อย่าค่ะ...คุณปวดเอวอยู่ไม่ใช่เหรอ?" หล่อนจับมือที่บีบขยำนมออก แต่เขาก็เอาขึ้นมาบีบใหม่ ก้มหน้าลงกระซิบข้างหู "ปวดก็ต้องซ้ำครับ จะได้หายปวด" พูดจบก็อุ้มร่างบางขึ้นแนบอกทันที พอฤทัยรู้ว่าโดนหลอก ก็โมโหเอาฟันกัดที่หัวไหล่เขาไปทีหนึ่ง แล้วก็รู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดครั้งใหญ่ เมื่อได้ยินประโยคที่เขาพูดออกมา "ที่แท้คุณก็ชอบความรุนแรงนี่เอง ได้เลยครับเมียจ๋า...เดี๋ยวผัวจัดให้" เขาเดินก้าวยาว ๆ จนมาถึงเตียง วางร่างบางบนที่นอน จากนั้นก็ถอดเหมือนกระชากชุดของหล่อนออกจากร่าง ตามด้วยเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วทาบทับลงไป "เห็นคุณชอบความรุนแรงแบบนี้ แสดงว่าต้องชอบแบบจูบแรกของเราด้วยใช่ไหม?" เขาเคลื่อนหน้าลงมาถาม หล่อนถลึงตาใส่เขา เมื่อนึกถึงจูบรุนแรง ที่มีแต่ความเจ็บตรงหน้าห้องน้ำ "ก็ลองทำอีกสิ คราวนี้ฉันจะกัดลิ้นคุณให้ขาดเลย" เขาได้ยินก็หัวเราะเสียงร่วนออกมา ก่อนจะก้มหน้าลงไปจูบกลีบปากอิ่มอ่อนโยน และเปลี่ยนเป็นร้อนแรงขึ้นในเวลาต่อมา
นนท์ปวิธคือคุณหมอหนุ่มรูปงามและใจดี และมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้นที่ได้เห็นมุมมืดของผู้ชายคนนี้ มุมมืด... ที่เขาสร้างเอาไว้เพื่อทำร้ายเธอเพียงคนเดียว +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "นอนกับฉัน แล้วฉันจะยอมช่วยลูกสาวของเธอ" นี่คือข้อเสนอของนายแพทย์นนท์ปวิธ อริณวัฒน์ ศัลยแพทย์หัวใจชื่อดังของเมืองไทย เขาคือเทพเจ้าแห่งการผ่าตัดหัวใจ เพราะคนไข้ทุกคนที่ผ่านมีดผ่าตัดของเขาจะประสบความสำเร็จทุกราย ทุกคนต่างชื่นชมในฝีมือและความมีน้ำใจของคุณหมอหนุ่มหล่อคนนี้มาก เขาคือเทพบุตร คือเทวดาสำหรับคนไข้และญาติๆ แต่ในมุมมืดของเขามีเพียงแค่หล่อนคนเดียวที่ได้เห็น แน่ล่ะ... เขาสร้างมุมมืดเอาไว้เพื่อทำร้ายหล่อนแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น "ตกลงค่ะ" รอยยิ้มหยันเกลื่อนใบหน้าหล่อเหลาของนายแพทย์นนท์ปวิธ ขณะที่เคลื่อนเรือนร่างสูงโปร่งหกฟุตสามนิ้วเข้ามาหยุดใกล้ๆ "งั้นก็คืนนี้เลย" "ตาว... ขอเวลา..." "ลูกสาวของเธอ มีเวลาเหลือเยอะสินะ" "เอ่อ..." "ฉันต้องการเอาเธอคืนนี้..." แล้วเท้าใหญ่ก็ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก จนตอนนี้ร่างกายอยู่ห่างกันแค่เพียงฟุตเดียวเท่านั้น กลิ่นหอมเฉพาะตัวของเขาโชยฟุ้งเข้ามาในจมูก ทำให้รจิตราตัวสั่นเทา หล่อนช้อนตาขึ้นมองคนตัวสูง ซึ่งเขาก็ลดสายตามองลงมามองพอดี ดวงตาสองดวงสบประสานกัน โลกทั้งใบหยุดหมุน ความทรงจำเมื่อห้าปีก่อนย้อนกลับเข้ามาราวกับสายน้ำไหลหลาก ความทรงจำที่หล่อนไม่เคยลืม... และใช้มันหล่อเลี้ยงหัวใจมากว่าห้าปี
ในสายตาของทุกคน คชาวุฒิเก่งฉลาด สุภาพเรียบร้อย และสุดเนิร์ด คงมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้น ที่รู้ว่าใต้แว่นตาหนาของเขาซ่อนความร้อนแรงเอาไว้มากแค่ไหน ไม่รู้จะอวยยศให้อาจารย์ฟิสิกส์คนนี้ยังไงดี แต่รับประกันว่าอาจารย์แซ่บมาก แซ่บฉ่ำแฉะ^^ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "ตรงไหนดี..." หล่อนควรต่อต้านสิ ควรผลักไส เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ควรเกิดขึ้นเลย แต่... แต่ร่างกายของหล่อนมันอ่อนระทวยไม่มีแรงเลย "ตรงไหนดีเด็กน้อย..." เขากระซิบถามเสียงกระเส่า "ถ้าคุณไม่ตอบ ผมจะเลือกเองนะ..." "อาจารย์... หนู... หนู..." ใบหน้านวลแดงระเรื่อ ตอนนี้สมองของหล่อนขาวโพลนไร้ความคิดชั่วคราว รอยยิ้มจากปากหยักสวยของอาจารย์ฟิสิกส์สุดหล่อช่างบาดใจเหลือเกิน เขาค่อยๆ ย่อตัวลง และคุกเข่าลงกับพื้น ขณะที่สายตาช้อนขึ้นมาสบประสานกับหล่อนตลอดเวลา ไฟร้อนๆ ในดวงตาของเขากำลังแผดเผาให้หล่อนมอดไหม้ "อา... จารย์..." นี่เขากำลังจะทำอะไรน่ะ เขาคุกเข่าทำไม
พระเอกเรื่องนี้แรกๆ จะออกแนวปากหมา ใจร้าย ชอบทำนางเอกช้ำใจ แต่หลังจากเห่าหอนเป็นแล้ว ก็จะกลายเป็นหมาโบ้คลั่งรักสุดๆ เลยค่ะ ไรต์นอนยันเลย 555+++ คำเตือน... พระเอกเรื่องนี้โบ้ซ้ำโบ้ซ้อนโบ้ไม่ปรานีใคร 55 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "คุณ... ภาม... เป็นอะไรคะ..." คำถามของหล่อนตะกุกตะกักจนแทบฟังไม่เป็นคำ "หึ... ยังจะมีหน้ามาถามอีกหรือคาลิสา!" เขายื่นมาบีบคอของหล่อน และนั่นก็ทำให้หล่อนตกใจแทบช็อก "คุณภาม... ครีม... กลัว..." ทำไมเขาทำแบบนี้ ทำไมภาวินทร์ถึงบีบคอหล่อนล่ะ แม้จะไม่ได้บีบแรงนัก แต่ก็ทำให้หล่อนกลัวจนแทบหยุดหายใจ "เธอนี่มันเลี้ยงไม่เชื่อง" "คุณภาม... พูดอะไรคะ ครีมไม่เข้าใจ... อ๊ะ..." นิ้วยาวของเขาบีบเค้นลงกับลำคอขาวผ่องของหล่อนแรงขึ้น จนหล่อนเกือบจะหายใจไม่ออก "ยังจะมีหน้ามาถามอีกเหรอ เธอไปทำอะไรเอาไว้ล่ะ" "ครีม... ครีมเปล่า..." "เลิกตอแหลเถอะ ฉันรู้เรื่องจากน้องอัญหมดแล้ว" "..." "เธอจงใจละเมิดข้อตกลงของเรา" "ครีมเปล่านะคะ คุณอัญเธอรู้อยู่แล้ว... เธอรู้จากคุณภามไม่ใช่เหรอคะ..." หล่อนพยายามจะอธิบายในมุมของตัวเอง แต่ชายหนุ่มไม่ยอมรับฟัง "เธอเดือดร้อน ฉันก็ช่วย ให้ข้าวให้น้ำ ให้เงิน เซ็กซ์ดีๆ ฉันก็ให้ งานก็มีให้ทำ แล้วเธอยังต้องการอะไรจากฉันอีก อยู่เงียบๆ อยู่ในที่ตัวเองไม่ได้หรือไง หื้อ!" "ครีม... ฮืออออ..." "แล้วเธอยังมีหน้าไปโกหกน้องอัญว่าท้องกับฉันอีกเหรอ เธอกล้าดียังไงพูดแบบนั้นออกไป คาลิสา!" หากหล่อนบอกออกไปว่าตัวเองกำลังตั้งท้องลูกของเขาจริงๆ ภาวินทร์ก็คงจะไม่เชื่อ ใช่... เขาไม่มีทางเชื่อหรอก ตอนนี้เขาเชื่อคำพูดของคู่หมั้นคนสวยของเขาคนเดียวเท่านั้น "ตอบมาสิ... เธอท้องลูกของฉันจริงหรือเปล่า" ใบหน้าที่เปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตาส่ายไปมา ก่อนจะตอบเสียงสะอื้น "ไม่... ไม่ได้ท้องค่ะ..." "หึ... นึกอยู่แล้วเชียว เธอมันก็แค่ผู้หญิงมารยา ที่ต้องการทำให้ฉันเดือดร้อนเท่านั้นเอง" เขาหยุดบีบคอของหล่อน และผลักร่างของหล่อนออกห่าง แสดงท่าทางรังเกียจออกมา "เราเลิกกันเถอะ"
เรื่องนี้พระเอกเป็นพวกชอบวิ่ง ตอนแรกวิ่งหนี ตอนหลังวิ่งชนจนมดลูกน้องแทบอักเสบ ฝากติดตามเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยค่ะ เลิฟ เลิฟ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "พี่วิศ... ทำไมพี่เปลี่ยนไปแบบนี้คะ... อื้อ... อย่าทำแบบนี้สิคะ... " แม้จะพยายามขัดขืน แต่เสียงก็แผ่วเบา และอ่อนแรงเหลือเกิน "แล้วชอบพี่แบบนี้ไหมล่ะครับ... อืมม หอมจัง" ปลายจมูกของเขาซุกไซ้อยู่ที่ลำคอ ในขณะที่ฝ่ามืออบอุ่นลูบไล้ซุกซน "พี่ชอบก้นของเธอจัง นุ่มนิ่มมาก" "พี่วิศ..." "และพี่ก็ชอบเสียงครางของเธอด้วย ฟังแล้วยิ่งมีอารมณ์..." เขาเงยหน้าขึ้นจากลำคอของหล่อนที่ดูดเม้มจนแดงช้ำ ดวงตาสบประสานกัน ก่อนที่ปากหยักสวยจะแนบชิดลงมาหา เขาจูบเบาๆ หนึ่งครั้ง ก่อนจะกระซิบเสียงแปร่งพร่า "ให้พี่เอานะ... พี่หิว..."
เพราะแอบรักจึงยอมทุกอย่าง ยอมแม้กระทั่งเป็นคนในความลับ อยู่เงียบๆ ในเงามืดชั่วนิรันดร์ กฎของเขาก็คือ มีอะไรกัน นอนด้วยกัน สนุกกัน แต่ห้ามบอกใคร ห้ามให้ใครรู้ว่ามีความสัมพันธ์กันแบบไหน ในที่ทำงานเขาคือท่านประธาน และเธอก็คือพนักงานคนหนึ่งในบริษัทเท่านั้น เมื่อเจอกันก็ทักทายกันบ้างแบบเจ้านายกับลูกน้อง ห้ามแสดงท่าทางหรือแสดงความเป็นเจ้าของ ห้ามโพสต์สถานะในโซเชียล แม้จะไปเที่ยวด้วยกัน ไปถึงไหนต่อไหนด้วยกันก็แล้วแต่ห้ามเปิดเผยทั้งนั้น ซึ่งด้วยความรักที่มีต่อเขา ทำให้เธอตกลงยอมเป็น คนในความลับของเขาอย่างเต็มใจ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "มามี๊ขา..." วชิรวัฒน์มองเด็กหญิงตัวน้อยที่อายุน่าจะไม่ถึงสามขวบวิ่งเข้ามาสวมกอดฟาริดาด้วยความประหลาดใจและตกใจในเวลาเดียวกัน เขามองใบหน้ากลมๆ ของเด็กหญิงคนนั้น สลับกับใบหน้าของฟาริดา ซึ่งก็พบว่าหญิงสาวกำลังหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด "นี่มันอะไรกัน น้องฟาง... เด็กคนนี้... เป็น..." เขายังพูดไม่ทันจบ ฟาริดาก็ดันร่างของเด็กหญิงไปไว้ด้านหลัง ก่อนจะตอบเขาด้วยสุ่มเสียงดังฟังชัด "ลูกสาวของฟางเองค่ะ" วชิรวัฒน์ถึงกับอึ้ง เขาหันไปมองสบตากับอภิวัฒน์ ก็พบว่าเลขาฯ หนุ่มก็อึ้งไม่ต่างกัน หลังจากตั้งสติอยู่ชั่ววินาที เขาก็หันกลับมาจ้องหน้าฟาริดาเขม็ง "เด็กคนนี้เป็นลูกของใครครับ" เขาพยายามที่จะถามเสียงสุภาพ ทั้งๆ ที่ภายในในเต็มไปด้วยเพลิงไฟกัลป์ เพราะอย่างนี้เองเหรอ ฟาริดาถึงได้หนีจากเขาไป เพราะหล่อนท้อง... แล้วหล่อนท้องกับใครล่ะ นอกจากเขาแล้ว หล่อนยังแอบมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นอีกอย่างนั้นเหรอ บ้าชิบ! นี่หล่อนกำลังจะทำให้เขาโมโหจนเป็นบ้าอยู่แล้วนะ! "ลูกของใครก็ช่างเถอะค่ะ แต่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพี่โรมแน่นอน"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
“ผู้หญิงคนนี้เป็นของมาร์โก ใครก็ห้ามมายุ่งอีกเด็ดขาด” เขาประกาศให้รับรู้ทั่วกัน แต่ถามว่าผู้หญิงของเขาตอนนี้มีสีหน้ายังไง ถามได้! เธอยังช็อกไม่หายปล่อยให้เขาจับจูงเข้าไปในห้องจนเหตุการณ์สงบแล้วเธอก็ยังไม่รู้ตัวเหมือนเดิม! พระเจ้านี่มันเรื่องบ้าอะไร! เธอกลายเป็นผู้หญิงของมาเฟียได้ยังไง เรื่องชักจะวุ่นวายเกินไปแล้ว เธอตามไม่ทันจริง... ตั้งสติไว้ยัยแอน เธอต้องตั้งสติ ตั้งสติบ้าอะไร เขาก็ประกาศอยู่ว่าเธอเป็นของเขา ไม่ ๆ ไม่ใช่ พวกเราแค่นอนด้วยกันคืนเดียว ยังไงก็แค่เรื่องเข้าใจผิด ยังไงเขาก็คงคิดจะขู่เล่น ๆ โธ่เอ้ยยัยโง่ เขาประกาศขนาดนั้น ลองไปสิเธอได้ถูกผูกติดกับเตียงแน่ ชาตินี้อย่าหวังจะไปไหนได้เลย เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าคนนั้นคือมาเฟียมาร์โก มาเฟียที่มีอิทธิพลสุดในเมืองนี้! เธอจะบ้าตายเพราะเถียงกับตัวเองนี่แหละ แถมยังต้องมานั่งเสียใจที่มาเจอคนที่น่ากลัวที่สุดในเมือง พระเจ้าแกล้งเธอเกินไปแล้ว แบบนี้เธอจะทำยังไงดี!!
ในคืนวันเกิดอายุยี่สิบสองปี ลี่เฉี่ยนโลว่ถูกแฟนหนุ่มวางยา และไปมีอะไรกันกับซือจิ้นเหิง ผู้ชายลึกลับคนหนึ่งตลอดทั้งคืน วันรุ่งขึ้นเธอพบว่าครอบครัวเธอถูกทำลายจนไม่มีอะไรเหลือ เธอแต่งงานกับจิ้นเหิง ได้รับการคุ้มครองจากเขา และใช้เขาเพื่อแก้แค้น "ฉันเป็นภรรยาที่ถูกกฎหมายของเขา" แม้ว่าแม่สามีของเธอจะไม่ยอมรับ แม้ว่าแฟนสาวที่เป็นซุปเปอร์สตาร์ของเขาจะตามมาอยู่ด้วยกัน เธอก็ยังคงยืนยันอยู่อย่างนั้น เธอแท้งโดยบังเอิญ แต่เขากลับเข้าใจผิดว่าเธอไม่อยากมีลูกกับเขา และด้วยความเข้าใจผิดต่าง ๆ อีกหลายหย่าง เธอเลือกที่จะกระโดดลงทะเลเพื่อฆ่าตัวตาย หลายปีต่อมา เมื่อเธอกลับเข้ามาในชีวิตของเขาอีกครั้ง เขาถึงกับตกตะลึง ชายคนนี้ได้สิ่งที่ต้องการจากเธอแล้ว แต่เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงยังรังควานและทรมานเธอต่อไป
หลังจากดูแลสามีมาเป็นเวลาสามปี เมื่อเห็นสามีสอบติดขุนนาง เฉียวชูเยว่ก็นึกว่าชีวิตดีๆ จะมาแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าสามีเป็นคนโลภ และเจ้าชู้ เพื่อจัดการปัญหาให้สามี เฉียวชูเยว่เสียตัวให้กับจักรพรรดิโหดร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อชีวิตและอนาคตของสามี นางได้แต่อดทนเอาไว้ จากนั้น สามีของนางก็ได้รับการยกย่องจากจักรพรรดิ และถูกเลื่อนตำแหน่งเรื่อยๆ เมื่อสามีของนางกำลังเพลิดเพลินอำนาจและสาวสวยนั้น นางกำลังรับใช้กับจักรพรรดิอย่าง้อยใจ แต่ไม่คาดคิดว่าความพยายามของนางได้แลกกับใบหย่าจากสามี ในวันแต่งงานของสามี นางถูกฆาตกรไล่ตามและตกลงไปในโคลน เมื่อนางหมดหวังนั้น จักรพรรดิก็มายืนอยู่ตรงหน้านาง "มาเป็นคนของข้าสิ และจะไม่มีใครกล้ารังแกเจ้าอีก!"
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"