จ้าวชิงเฟิงคือองค์ชายปลายแถวของแคว้นเป่ย ที่ถูกส่งมาเป็นเครื่องบรรณาการชิ้นหนึ่งแก่แคว้นหนาน ถูกเหยียดหยามให้เป็นแค่อนุชายาของชินอ๋องผู้ทรงอำนาจ แม้จะเป็นชายก็ยังไม่วายถูกริษยา กลั้นแกล้งต่างๆนานา เคราะห์ซ้ำกรรมซัดยังถูกใส่ร้ายว่าคบชู้ ต้องโทษโบยยี่สิบไม้ และไม้ที่ยี่สิบนั้นผู้โบยจงใจฟาดใส่ศีรษะ ของเขา กะให้ถึงตาย!
บทที่ 1
“ข้าคือใคร?”
เป็นคำถามแรกของผู้เพิ่งจะลืมตาขึ้นมาช้าๆ ถามชายวัยสามสิบที่แต่งกายด้วยชุดสีครามซีดเพราะความเก่าเนื้อผ้าไม่ดีนักแต่ก็สะอาดสะอ้าน ที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าอย่างสงสัย เพราะว่าในสมองนั้นว่างเปล่าไม่มีความทรงจำอะไรเลย
“แล้วเจ้าเป็นใคร?”
“องค์...เอ่อ...คุณชาย ท่านจำบ่าวไม่ได้หรือขอรับ?”
ร่างบนเตียงนอนเงียบงัน นัยน์ตาเลื่อนลอยและงุนงง
“คุณชาย ท่านอย่าทำให้บ่าวตกใจเยี่ยงนี้สิขอรับ”
ชายผู้เรียกตนเองว่าบ่าวมีสีหน้าบิดเบี้ยว ดวงตาแดงระเรื่อบวมเปล่งเพราะร้องไห้มาอย่างหนักอยู่แล้วกลายเป็นสีแดงก่ำ หยาดน้ำใสๆ สองสายไหลรินลงมาอาบใบหน้าอีกครา
“บ่าวขอโทษ...ขอโทษ...ที่ช่วยอะไรคุณชายไม่ได้...ฮืออออๆๆๆ”
“ไม่ต้องร้องไห้...เจ้าเพียงแค่ช่วยบอกข้ามาทีว่าเจ้าชื่ออะไรแล้วข้าชื่ออะไร?”
เสียงแผ่วล้าของคุณชายดังขึ้นอีกครา แผ่วเบาราวกระซิบ
“บ่าวชื่อจางจงขอรับ” จางจงเอ่ยเสียงเครือ “ส่วนคุณชายชื่อ จ้าวชิงเฟิง เป็น...เอ่อ...เป็นอนุชายาของชินอ๋องขอรับ”
“จ้าวชิงเฟิง” ร่างที่นอนตะแคงอยู่บนเตียง เพราะนอนหงายไม่ได้ เนื่องจากจะกระทบถูกบาดแผลที่แผ่นหลังซึ่งถูกโบย พึมพำเบาๆ ราวไม่คุ้นเคยกับชื่อของตนเองนัก ก่อนจะส่งเสียงเบาๆ แผ่วล้าว่า “น้ำ...ขอน้ำให้ข้าหน่อย”
“ขอรับ...” จางจงรีบปาดน้ำตา ผุดลุกขึ้นไปรินน้ำจากกาน้ำใส่ถ้วยเคลือบ ยกมาใกล้ ถือถ้วยด้วยมือหนึ่ง อีกมือหนึ่งยื่นมาช่วยประคองร่างคุณชายขึ้นมาเพื่อให้ดื่มน้ำได้ถนัด
คุณชายส่งเสียงครางเบาๆ อย่างเจ็บปวด เมื่อครู่ไม่ได้ขยับจึงรู้สึกเจ็บร้าวไปทั่วร่างอย่างพอทน แต่พอขยับเพียงเล็กน้อยก็รู้สึกปวดแปลบที่แผ่นหลังจนแทบจะทนไม่ไหว ยิ่งกว่านั้นยังเจ็บที่ท้ายทอยมาก เขาพยายามกล้ำกลืนเสียงครวญคราง แล้วดื่มน้ำจากถ้วยเคลือบอย่างกระหายเพราะคอแห้งผากเป็นผง พอดื่มน้ำหมดถ้วย เขาก็ขออีก จางจงไม่ขัดรินน้ำถ้วยใหม่มาให้อย่างไม่ชักช้า จนกระทั่งเขาขอเป็นถ้วยที่สี่
จางจงจึงแย้งว่า “คุณชายอย่าดื่มน้ำอีกเลยขอรับ เดี๋ยวบ่าวจะนำข้าวต้มมาให้ท่านรองท้องก่อนดีกว่า กินข้าวแล้วจะได้ดื่มยา...เฮ้อออ” ปิดท้ายด้วยเสียงถอนหายใจยาว
“ข้าไม่อยากกินข้าว...” จ้าวชิงเฟิงเอ่ยอย่างเด็ดเดี่ยว
“ท่านไม่ได้กินอะไรมาสามวันแล้ว ท่านไม่หิวหรือ?” จางจงถามอย่างเป็นห่วง
“ข้ายังไม่อยากกินอะไรทั้งนั้น จนกว่าข้าจะรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตัวข้าทั้งหมด” จ้าวชิงเฟิงยื่นคำขาด
“คุณชายพูดเยี่ยงนี้ หมายความว่า...” จางจงมีสีหน้าตกใจและกระวนกระวาย “ท่านจำเหตุการณ์เมื่อสามวันก่อนไม่ได้หรือขอรับ?”
“ไม่ใช่”
สีหน้าจางจงดีขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะซีดเผือดแทบเป็นกระดาษเมื่อได้ยินประโยคต่อมา
“ไม่เพียงแค่สามวันก่อนเท่านั้น จะสิบปียี่สิบปีก่อนข้าก็จำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น!...ข้า...ข้าก็เจ็บหัวมาก!!”
เพล้ง!
ถ้วยที่จางจงถืออยู่ในมือหล่นลงแตกกระจาย นัยน์ตาแดงก่ำฉายแววเคียดแค้น เขาพึมพำกับตัวเอง...นังหญิงใจดำอำมหิต จงใจใช้ให้คนตีที่ศีรษะของคุณชาย!
“จริงๆ นะจางจง ข้าอยากจะรู้เรื่องราวของข้าเอง...เจ้าช่วยเล่าให้ข้าฟังอย่างละเอียดทีเถอะ” น้ำเสียงคุณชายอ้อนวอน
จางจงพยักหน้า “ได้ๆๆ ...ข้าจะเล่า...”
*
*
จ้าวชิงเฟิงจึงได้รู้ว่า...ตนเองเป็นโอรสที่เกิดจากนางสนมต่ำต้อยนางหนึ่ง พออายุเจ็ดขวบมารดาก็สิ้นชีวิต จางจงซึ่งเวลานั้นอายุยี่สิบเป็นขันทีเล็กๆ ที่ดูแลมารดาของตนอยู่จึงได้ดูแลตนต่อมา ฮ่องเต้แคว้นเป่ยที่เป็นพระบิดาของตนไม่ได้สนใจไยดีอะไรตน ตนจึงเติบโตมาอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว แต่ก็ยังหนีไม่พ้นเคราะห์กรรมเพราะแคว้นเป่ยทำสงครามกับแคว้นหนาน เพื่อเป็นการขอพักรบชั่วคราว แคว้นเป่ยจึงส่งบรรณาการมาให้แคว้นหนาน และตนที่มีอายุเพียงสิบสี่ก็กลายเป็นของบรรณาการชิ้นหนึ่ง ซึ่งฮ่องเต้แคว้นหนานยกให้แก่พระอนุชา (น้องชาย) ชินอ๋องหลี่เฉิงเป็นอนุชายา (ภรรยาน้อย) แต่ตนไม่เคยพบหน้าค่าตาทั้งฮ่องเต้แคว้นหนานและชินอ๋องเลยแม้สักครั้งเดียว
จ้าวชิงเฟิงถูกจัดให้อยู่ที่เรือนเล็กท้ายจวน พร้อมกับจางจงและชุนฮัว ชิวฮัว สองนางกำนัลสาวที่ติดตามมาจากแคว้นเป่ย ทั้งสองสาวอายุเท่ากันกับจ้าวชิงเฟิง พอมาอยู่ที่จวนนี้ตำแหน่งองค์ชายก็ลดลงเหลือแค่คุณชาย ตำแหน่งขันทีและนางกำนัลก็ลดลงเหลือเพียงบ่าวไพร่สาวใช้
คุณชายอยู่ที่เรือนเล็กซอมซ่อนี้มาสามปีแล้ว เป็นสามปีที่ลำบากยากแค้นยิ่ง อาหารก็เพียงประทังชีวิตหยาบๆ เสื้อผ้าอาภรณ์เครื่องใช้ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนคุณภาพต่ำ และอยู่อย่างคนถูกกักบริเวณ
จ้าวชิงเฟิงใช้ชีวิตให้ผ่านไปแต่ละวันอย่างซังกะตาย ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร
แต่...ไม่ใช่ว่าคนอื่นจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับเขา
เมื่อสามวันก่อน...พระชายาตู้หวางเฟยนามตู้จินเหลียนมีคำสั่งเรียกจ้าวชิงเฟิงไปพบที่ตำหนักของพระชายา พร้อมแจ้งข้อหาว่าคุณชายเป็นชู้กับชุนฮัวโดยมีพยานคือชิวฮัว
ชุนฮัวถูกโบยจนตาย!
ส่วนคุณชายถูกโบยยี่สิบไม้...และไม้ที่ยี่สิบก็ฟาดใส่ท้ายทอยของคุณชายเต็มแรงเหมือนต้องการจะเอาชีวิต...จางจงเห็นกับตา แต่เขาไม่สามารถปกป้องอะไรคุณชายได้ เพราะเขาถูกบ่าวชายร่างกำยำสามคนจับเอาไว้แน่นให้คุกเข่าดูอยู่ข้างๆ มีผ้าอุดปาก และถูกมัดมือไพล่หลังเอาไว้แน่นหนา
นับจากนั้นชิวฮัวก็หายไป
*
*
“คุณชายหมดสติไปสามวันเต็มๆ เพิ่งฟื้นเมื่อสักครู่นี้เองขอรับ”
“มิน่า...ถึงได้เจ็บระบมไปทั้งตัวอย่างนี้ ว่าแต่...ข้าเป็นชู้กับชุนฮัวจริงหรือไม่?” เรื่องนี้คุณชายอดนึกสงสัยไม่ได้
“เรื่องนี้...” จางจงเองก็ตอบไม่ได้ “คงมีแต่คุณชายกับชุนฮัวเท่านั้นที่จะตอบได้ แต่ทว่าเวลานี้ชุนฮัวก็ตายไปแล้ว แล้วท่านเองก็จำอะไรไม่ได้”
“ยังมีอีกคน” คุณชายเอ่ยขึ้นลอยๆ
“ใครหรือ?”
“ชิวฮัว” คุณชายสีหน้าครุ่นคิด “นางน่าสงสัยมาก นางเป็นพยานเรื่องนี้เพื่ออะไร?”
“อืม” จางจงพยักหน้าอย่างเห็นพ้อง “แต่นางหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้”
อาเฟย เป็นเด็กกำพร้าที่ไม่รู้ว่า พ่อแม่เป็นใคร เขาถูกทิ้งไว้ในพงหญ้าข้างทางตั้งแต่แรกเกิด และถูกชาวบ้านเก็บได้ ก่อนที่จะกลายเป็นเหยื่อของสัตว์ใหญ่น้อย ทว่าชาวบ้านที่เก็บเขาได้ก็ไม่มีปัญญาจะเลี้ยงดูเขา จึงนำเด็กน้อยไปขายให้แก่จวนชินอ๋อง ด้วยราคา 20 ตำลึงเงิน นับแต่นั้น...อาเฟยก็เติบโตขึ้นมาพร้อมกับปณิธานว่า จะเก็บเงินไถ่ตัวของตนเอง และสร้างเนื้อสร้างตัว เป็นอิสระและแข็งแกร่ง!!! แต่อนิจจา...ปณิธานของอาเฟยถูกอ๋องสี่ ผู้มีร่างสูงใหญ่แข็งแรง กล้ามเนื้อทรงพลัง คอยบั่นทอน ด้วยการจับอาเฟยหนีบรักแร้!!! อาเฟย เป็นนิยายเน้นฮา ไม่เน้นสาระ รี้ดทุกท่านถ้าพร้อมแล้ว เชิญอ่านกันเลยค่ะ
ทิพย์อัปสรนางฟ้าผู้งามละไม ได้เป็นที่รักแห่งเทพผู้ใหญ่อย่างพระเสาร์ เรื่องราวเกือบจะราบรื่นแล้ว ถ้านางจะไม่เป็นที่รักแห่งองค์พระอังคารเทพแห่งสงครามผู้แกร่งกร้าวด้วย ดังนั้นสงครามแห่งสวรรค์จึงบันเกิด!
เพราะเป็นลูกอนุที่ไร้ค่า บิดาบังเกิดเกล้าจึงยกเขาให้เป็นชายบำเรอของมหาอำมาตย์ แต่มหาอำมาตย์เกิดหัวใจวายตายในคืนเข้าหอ ทำให้เขาถูกตราหน้าว่าร่านราคะ และจะจับเขาฝังทั้งเป็น!
ซ่งหยุนหยุนแต่งงานไปแล้ว แต่เจ้าบ่าวไม่เคยปรากฏตัวตั้งแต่ต้นจนจบเลย ด้วยความโกรธหนัก เธอจึงมอบกายให้กับชายแปลกหน้าคนหนึ่งแทนในคืนการแต่งงานนั้น หลังจากวันนั้น เธอก็ถูกชายคนนั้นจับตาเข้า...
เว่ยเว่ย นักศึกษาฝึกงานทะลุมิติ เว่ยเว่ยขับเวสป้าตกเหว แต่ดันทะลุมิติตกน้ำอยู่ตรงหน้าชายหนุ่ม ที่กำลังหาปลาอยู่ที่บึงน้ำ ลู่เหวินเยียนอาศัยกับมารดาอยู่ที่กระท่อมเชิงเขา บิดาเสียชีวิตในสนามรบ เขามักจะออกไปล่าสัตว์ป่ามาขาย วันนี้เขามาดูกับดักปลาและบังเอิญเห็นบางสิ่งตกลงมาจากฟ้าต่อหน้าต่อตาเขา คำเตือน นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นตามจินตนาการของผู้แต่ง บุคคล สถาน องค์กรและเนื้อเรื่องทั้งหมดในนิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องสมมติ ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ทางปัญญาตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์พ.ศ.2537และเพิ่มเติมพ.ศ.2538 ห้ามทำการคัดลอก หรือดัดแปลงเนื้อหาของนิยายโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่เป็นผู้แต่งเป็นลายลักษณ์อักษร
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
ซินหยาน นักฆ่าสาวที่ใช้นามแฝงว่า สืออี เธอถูกพาตัวมาจากสถานสงเคราะห์ตั้งแต่อายุเพียงเจ็ดปี เพื่อฝึกให้เป็นนักฆ่าขององค์การใต้ดิน เพราะความสามารถของเธอ รวมถึงความเฉลียวฉลาดจากการเอาตัวรอด ทำให้เธอได้รับภารกิจเสี่ยงอันตรายอยู่เสมอ จนวันหนึ่งที่องค์กรยื่นข้อเสมอสุดพิเศษให้ หากทำภารกิจครั้งนี้เสร็จสิ้นเธอจะสามารถไปใช้ชีวิตตามที่เธอต้องการได้ แต่เรื่องมันจะง่ายถึงเพียงนั้นได้อย่างไร ซินหยาน แม้จะรู้ดีว่านี้เป็นภารกิจสุดท้ายก่อนที่เธอจะถูกสั่งเก็บแต่ก็รับงานมาอย่างเต็มใจ แต่ที่องค์การคิดไม่ถึงคือ ซินหยานเลือกที่จะจบชีวิตลงพร้อมกับภารกิจสุดท้ายที่สูญหายไปพร้อมกับเธอด้วย ซินหยานเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งก็พบว่าเธออยู่ในร่างของเด็กสาววัยสิบสองหนาว จางซินหยาน ชื่อนี้ช่างคุ้นหูนัก และยิ่งคุ้นมากขึ้นเมื่อชื่อของบิดามารดาของซินหยานก็คือนิยายเรื่องหนึ่งที่เธอได้เคยอ่านเมื่ออยู่ภพที่แล้ว หลังจากที่จางซินหยานอายุได้สิบหกหนาว นางตกหลุมรักท่านแม่ทัพจ้าว ที่ได้รับบาดเจ็บและจางซินหยานเป็นผู้ช่วยไว้ ถ้าหากท่านแม่ทัพจ้าวมิได้มีสตรีที่ตบแต่งไปแล้วเรื่องนี้ก็คงจบอย่างสวยงาม แต่เพราะเขารับจางซินหยานไปเป็นได้เพียงอนุเท่านั้น จางซินหยานก็ยังคิดว่าถึงจะเป็นเพียงอนุนางก็ยังหวังว่าท่านแม่ทัพจะรักนางเช่นกัน แต่เปล่าเลย ในสายตาของท่านแม่ทัพมีเพียงฮูหยินเอกเท่านั้น จนตายจางซินหยานก็ไม่เคยได้ยินคำว่ารักจากปากของท่านแม่ทัพ ซินหยานเมื่อมาอยู่ในร่างของจางซินหยานแล้วนางจะยอมให้เกิดเหตุการณ์นี้ได้อย่างไร แต่เหมือนโชคชะตาชอบเล่นตลก เพราะเรื่องที่นางไม่อยากยุ่งเกี่ยวดันเข้าไปยุ่งเต็มๆ
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป