อาเฟย เป็นเด็กกำพร้าที่ไม่รู้ว่า พ่อแม่เป็นใคร เขาถูกทิ้งไว้ในพงหญ้าข้างทางตั้งแต่แรกเกิด และถูกชาวบ้านเก็บได้ ก่อนที่จะกลายเป็นเหยื่อของสัตว์ใหญ่น้อย ทว่าชาวบ้านที่เก็บเขาได้ก็ไม่มีปัญญาจะเลี้ยงดูเขา จึงนำเด็กน้อยไปขายให้แก่จวนชินอ๋อง ด้วยราคา 20 ตำลึงเงิน นับแต่นั้น...อาเฟยก็เติบโตขึ้นมาพร้อมกับปณิธานว่า จะเก็บเงินไถ่ตัวของตนเอง และสร้างเนื้อสร้างตัว เป็นอิสระและแข็งแกร่ง!!! แต่อนิจจา...ปณิธานของอาเฟยถูกอ๋องสี่ ผู้มีร่างสูงใหญ่แข็งแรง กล้ามเนื้อทรงพลัง คอยบั่นทอน ด้วยการจับอาเฟยหนีบรักแร้!!! อาเฟย เป็นนิยายเน้นฮา ไม่เน้นสาระ รี้ดทุกท่านถ้าพร้อมแล้ว เชิญอ่านกันเลยค่ะ
องค์ชาย 1
ที่ท้องพระโรง...
ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินไท่ชินอ๋อง ไท่หวางเฟยหลี่ชิง มหาเสนาบดีท่านอ๋องสี่ และพระชายาอาเฟย ล้วนนั่งประจำตำแหน่งเพื่อต้อนรับคณะทูตจากแคว้นซีเป่ย เพียงแต่ฮ่องเต้น้อยมิได้เสด็จ เนื่องเพราะเมื่อวานอากาศร้อน ฮ่องเต้น้อยจึงทรงเล่นน้ำนานไปหน่อย ทำให้มีพระวรกายร้อนในตอนเช้า และมีไข้เล็กน้อย ไท่ชินอ๋องสั่งให้หมอหลวงมาดูพระอาการ แล้วให้หลานกงกงดูแลฮ่องเต้น้อยพักผ่อน และสั่งเด็ดขาด...ห้ามซนเล่นน้ำอย่างเมื่อวานอีก!
ดังนั้น...ฮ่องเต้น้อยจึงมิได้ออกนั่งบัลลังก์ว่าราชการ
คณะทูตแคว้นซีเป่ยนำเครื่องราชบรรณาการมาถวายแด่แคว้นหนานหยางตามธรรมเนียม เพราะเมื่อเจ็ดปีก่อนไท่ชินอ๋องได้กรีธาทัพไปปราบแคว้นซีเป่ย และปราบสำเร็จเมื่อสี่ปีที่แล้ว นับจากนั้นแคว้นซีเป่ยก็ส่งบรรณาการมาให้แก่แคว้นหนานหยางเป็นประจำทุกปี
แต่ปีนี้พิเศษ...เพราะคณะทูตที่คุมเครื่องบรรณาการมาด้วยเป็นคณะใหญ่เต็มยศ และเครื่องบรรณาการก็มากกว่าปกติเป็นสองเท่า
"ข้าในนามของแคว้นหนานหยางยินดีต้อนรับคณะทูตจากแคว้นซีเป่ย" ไท่ชินอ๋องกล่าวต้อนรับอย่างเป็นทางการ
"พวกข้าน้อยในนามของคณะทูตจากแคว้นซีเป่ยรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง" หัวหน้าคณะทูตน้อมคำนับพลางกล่าว "ปีนี้นอกจากของบรรณาการตามธรรมเนียมแล้ว ทางแคว้นซีเป่ยยังใคร่กระชับสัมพันธไมตรีของสองแคว้นให้ยิ่งแน่นแฟ้นมากขึ้น ด้วยการส่งองค์ชายสามอ้ายหยาง (ชื่อองค์ชายแปลว่า ดวงตะวันที่น่ารักใคร่) มาเพื่อเป็นไท่หวางเฟยของไท่ชินอ๋อง..."
ท่านทูตยังกล่าวไม่ทันจบประโยค พระชายาอาเฟยก็ลุกจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่เอ่ยสวนขึ้นกลางคัน
"ได้อย่างไร...ไท่ชินอ๋องมีไท่หวางเฟยอยู่แล้ว คือเกอเกอของข้าหลี่ชิง"
ท่านทูตหน้าตาเจ้าเล่ห์หันมาส่งยิ้มให้พระชายาอาเฟย แล้วกล่าว
"พระชายา ท่านใจเย็น ๆ ไว้ก่อนขอรับ ขอให้ข้าน้อยได้กล่าวจนจบเสียก่อน ท่านจะได้เห็นความเหมาะสมและไม่เหมาะสม แล้วจึงค่อยตัดสินใจกล่าวอะไรออกมา"
"แต่..." พระชายาอาเฟยยังจะแย้งต่อ
"พระชายา..." เสียงไท่หวางเฟยเรียกอย่างนุ่มนวล "นั่งลงก่อน"
อาเฟยมองสบตาหลี่ชิง...เห็นอีกฝ่ายมีสีหน้าเรียบเฉยและพยักหน้าให้...เขาจึงจำใจต้องนั่งลงอย่างมิค่อยเต็มใจนัก
ท่านทูตจากแคว้นซีเป่ยยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะหันไปน้อมคำนับไท่ชินอ๋อง แล้วกล่าวต่อ
"องค์ชายสามอ้ายหยางแห่งแคว้นซีเป่ยมีคุณสมบัติที่เหมาะสมจะเคียงคู่ไท่ชินอ๋องอย่างยิ่ง ด้วยรูปโฉมที่งดงามเป็นหนึ่งแห่งซีเป่ย" พอท่านทูตจากแคว้นซีเป่ยเอ่ยจบคำ
ร่างบอบบางในชุดสีแดงปักด้ายทองและไข่มุกงดงามหรูหราร่างหนึ่งก็ก้าวออกมาจากขบวนทูต มายืนตรงกลางท้องพระโรงข้าง ๆ ท่านทูต แล้วปลดผ้าที่ปิดบังดวงหน้าออก เผยให้เห็นดวงหน้างดงามหยาดเยิ้ม จนเกิดเสียงอุทานฮือฮาดังขึ้นทั่วท้องพระโรง!
"ก็พอดูได้" พระชายาอาเฟยเอ่ยขึ้น "แต่ถ้าเปรียบเทียบความงามกับไท่หวางเฟยหลี่ชิงแล้ว ยังด้อยกว่าหลายขุม!"
เสียงฮือฮาดังขึ้นในท้องพระโรงอีกระลอกหนึ่ง มีขุนนางของหนานหยางหลายคนพยักหน้าเห็นพ้อง
มหาอำมาตย์ไห่สุยนั้นไม่แสดงกิริยาใดแต่แรก...แต่ในใจของเขาหนักอึ้ง
หากพูดถึงความงามนั้น...ทั้งไท่หวางเฟยหลี่ชิงและองค์ชายสามอ้ายหยาง ต่างงดงามไม่แพ้กัน
แต่...ไท่หวางเฟยหลี่ชิงเป็นชาวหนานหยาง
องค์ชายสามอ้ายหยางเป็นชาวซีเป่ย
แม้จะมีคำพูดว่า 'แต่งกับม้าอยู่กับม้า แต่งกับวัวอยู่กับวัว'
ทว่า...ผู้ใดจะรับรองได้ว่า องค์ชายสามอ้ายหยางจะคิดเห็นเช่นนี้ด้วย!
ส่วนไท่หวางเฟยหลี่ชิงนั้น แม้จะออดอ้อนยั่วยวนไท่ชินอ๋อง แต่ไม่เคยทำความผิดสิ่งใด ซ้ำยังช่วยไท่ชินอ๋องดูแลราชกิจอย่างไม่ขาดตกบกพร่องอีกด้วย
สิ่งเดียวที่ไท่หวางเฟยหลี่ชิงสู้องค์ชายสามอ้ายหยางไม่ได้ก็คือชาติกำเนิด...องค์ชายสามอ้ายหยางกำเนิดมาในราชตระกูลแห่งแคว้นซีเป่ยเป็นองค์ชาย ส่วนไท่หวางเฟยหลี่ชิงเกิดมาเป็นลูกอนุในตระกูลหลี่
ไท่ชินอ๋องหลงรักไท่หวางเฟยหลี่ชิงอย่างชนิดหัวปักหัวปำ...แม้มหาอำมาตย์ไห่สุยจะรู้สึกไม่ค่อยสบอารมณ์นัก แต่เขาไม่หวาดกลัวเท่าไหร่ เพราะจะอย่างไรไท่หวางเฟยหลี่ชิงก็เป็นชาวหนานหยาง ย่อมต้องจงรักภักดีต่อบ้านเกิดเมืองนอน
ทว่าองค์ชายสามอ้ายหยางนั้นไม่เหมือนกัน เขาเป็นชาวต่างแคว้น หากไท่ชินอ๋องหลงไหลหัวปักหัวปำ คงไม่ดีแน่!
"ในสายตาของพระชายาย่อมต้องมองไท่หวางเฟยหลี่ชิงว่างดงามที่สุดอยู่แล้ว" องค์ชายสามอ้ายหยางเอ่ยภาษาหนานหยางได้อย่างชัดเจนไพเราะไม่มีคำใดผิดเพี้ยนพลางยิ้มใส่ตาของพระชายาอาเฟย "เพราะรักกันเหมือนพี่เหมือนน้อง" หยุดเล็กน้อยแล้วจงใจกล่าวต่อว่า "หรือว่า...มีความรักแบบอื่นแอบแฝงอยู่ด้วย?"
ความหมายก็คือ...พระชายาหลงรักไท่หวางเฟยหลี่ชิงในเชิงชู้!!!
"เจ้า...เจ้า..." พระชายาอาเฟยโกรธจนดวงหน้าแดงก่ำ "พูดเหลวไหลอันใด?"
"ข้ายังมิได้พูดอันใด...พระชายา ท่านคิดไปถึงไหนแล้ว!" องค์ชายสามอ้ายหยางแกล้งยั่ว
ท่านอ๋องสี่เห็นพระชายาอาเฟยพลาดท่า และขณะนี้ไท่หวางเฟยหลี่ชิงไม่สะดวกจะออกหน้าแต่อย่างไร...เขาจึงกระแอมแล้วกล่าว
"พระชายา...ใจเย็น ๆ ไว้ เรื่องทุ่มเถียงทะเลาะกับผู้อื่น เจ้าไม่สันทัดเท่าสตรีที่ค้าขายอยู่ในตลาดหรอก" ว่าแล้วยกมือลูบอกที่สะท้อนแรงของอาเฟยเบา ๆ
อาเฟยได้แต่เม้มปากจนแก้มป่อง ลักยิ้มเด่นชัด
องค์ชายสามอ้ายหยางตวัดสายตามองท่านอ๋องสี่ที่แก้แทนพระชายาอาเฟย ซ้ำยังด่าว่าตนปากตลาด นับว่าอีกฝ่ายก็เข้าข้างไท่หวางเฟยหลี่ชิงเช่นเดียวกันกับพระชายาของเขา...
แต่เอาเถอะ...รอให้ตนได้เข้ามาอยู่ในแคว้นหนานหยางในตำแหน่งไท่หวางเฟยเสียก่อน จะค่อย ๆ กำจัดขวากหนามทีละชิ้น ๆ ให้สิ้นซาก...
ทิพย์อัปสรนางฟ้าผู้งามละไม ได้เป็นที่รักแห่งเทพผู้ใหญ่อย่างพระเสาร์ เรื่องราวเกือบจะราบรื่นแล้ว ถ้านางจะไม่เป็นที่รักแห่งองค์พระอังคารเทพแห่งสงครามผู้แกร่งกร้าวด้วย ดังนั้นสงครามแห่งสวรรค์จึงบันเกิด!
เพราะเป็นลูกอนุที่ไร้ค่า บิดาบังเกิดเกล้าจึงยกเขาให้เป็นชายบำเรอของมหาอำมาตย์ แต่มหาอำมาตย์เกิดหัวใจวายตายในคืนเข้าหอ ทำให้เขาถูกตราหน้าว่าร่านราคะ และจะจับเขาฝังทั้งเป็น!
จ้าวชิงเฟิงคือองค์ชายปลายแถวของแคว้นเป่ย ที่ถูกส่งมาเป็นเครื่องบรรณาการชิ้นหนึ่งแก่แคว้นหนาน ถูกเหยียดหยามให้เป็นแค่อนุชายาของชินอ๋องผู้ทรงอำนาจ แม้จะเป็นชายก็ยังไม่วายถูกริษยา กลั้นแกล้งต่างๆนานา เคราะห์ซ้ำกรรมซัดยังถูกใส่ร้ายว่าคบชู้ ต้องโทษโบยยี่สิบไม้ และไม้ที่ยี่สิบนั้นผู้โบยจงใจฟาดใส่ศีรษะ ของเขา กะให้ถึงตาย!
ทะลุมิติมาในนิยายยุค 80 ว่ายากลำบากแล้วเธอยังต้องมาเลี้ยงลูกแฝดและวางแผนหนีชะตาชีวิตที่นักเขียนระบุให้ตายอย่างทรมานภายใต้เงื้อมมือของพ่อตัวร้ายอีก สวรรค์!ยังจะมีตัวละครทะลุมิติใดบัดซบเท่าเธออีกหรือไม่
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"