ความจำเป็นบีบบังคับให้เธอต้อง ‘ตั้งท้อง’ อย่างเร่งด่วน และเขาก็คือ ‘พ่อพันธุ์’ที่เธอหวังอยากได้มาเป็นพ่อของลูก ปฏิบัติการอ่อยจึงเกิดขึ้นเพื่อให้ได้น้ำเชื้อจากคุณหมอสุดหล่อ เมื่อได้เขาแล้ว เธอก็หนีหายไปจากเขา เขาจึงต้องพลิกแผ่นดินเพื่อตามหาเธอและลูกในท้องของเธอ เธอจะมาทำอย่างนี้กับเขาไม่ได้เป็นอันขาด...เขาไม่มีวันยอมโดนผู้หญิงแปลกหน้าฟันแล้วทิ้ง แถมชิ่งหนีไปอย่างนี้หรอก เขาในฐานะผู้เสียหาย จะต้องทวงคืนความยุติธรรมให้ตัวเอง !
“แม่ แม่ต้องไม่เป็นอะไรนะแม่” มณีกานต์คร่ำครวญใจแทบขาด มองมารดาที่ศีรษะโล้นเลี่ยนมีหมวกไหมพรมคลุมไว้ แต่ไม่อาจปิดบังความโรยราแห้งแล้วของชีวิตที่ใกล้จะดับสูญเต็มที
แม่ไม่ตอบเธอแม้แต่คำเดียว ดวงตาปิดสนิท ที่จมูกโดนครอบด้วยออกซิเจน ทรวงอกสะท้อนขึ้นลงเป็นสิ่งเดียวที่บอกว่าแม่ยังมีชีวิตอยู่
“คุณหมอคะ” เธอหันไปหาหมอที่กำลังมองมาด้วยสายตาเห็นใจ “ช่วยแม่ไม่ได้เลยเหรอ”
“หมอก็พยายามเต็มที่แล้วครับ แต่คุณแม่ของคุณท่านได้รับบาดเจ็บทั้งภายนอกภายใน อวัยวะบางอย่างข้างในก็ฉีกขาด ศีรษะได้รับความกระทบกระเทือนค่อนข้างรุนแรงด้วย ยังดีที่หายใจได้ ไม่งั้นคงต้องใส่ท่อช่วยหายใจ”
หญิงสาวหน้าซีดเผือด เธอรู้มาว่าถ้าใส่ท่อลงไปในลำคอแล้ว อาจเกิดแผลในปากได้ และคนไข้จะเจ็บมาก เธอไม่อยากให้แม่เจ็บเลย แต่ก็ไม่อยากให้แม่ตายด้วย
“คุณหมอคะ...แม่...แม่มีโอกาสรอดกี่เปอร์เซ็นต์กันคะ” เธอถามแล้วกลั้นหายใจรอฟังคำตอบ ในขณะที่แพทย์อาวุโสกลับส่ายหน้า
“หมอไม่รู้จะบอกยังไงครับ แต่คนไข้มีสิทธิ์เสียชีวิตได้ทุกเมื่อ ก็ต้องถามคุณแล้วว่าถ้าหัวใจคนไข้หยุดเต้น จะให้หมอปั๊มไหม ถ้าให้ปั๊ม หมอจะใช้เวลาสามสิบนาที ถ้าเกินกว่านี้ก็ต้องถอดใจ”
“ปั๊มค่ะ” เธอร้องไห้โฮ ไม่อายหมอ ไม่อายพยาบาล ในห้องไอซียูมีผู้ป่วยหนักหลายรายที่นอนเรียงรายพ่วงด้วยเครื่องช่วยชีวิตจำนวนมาก คุณหมออนุญาตให้ญาติเยี่ยมเป็นบางช่วงเวลาเท่านั้น “ถ้ามียาอะไรที่พอจะรักษาแม่ได้ คุณหมอไม่ต้องลังเลนะคะ ใช้ไปเลยค่ะ เสียเงินส่วนต่างเท่าไหร่ หนูจะขวนขวายหามาให้ ขอแค่เพิ่มโอกาสที่แม่จะมีชีวิตต่อไป แม้จะเพิ่มขึ้นอีกแค่เปอร์เซ็นต์เดียว หนูก็ยอม”
เพราะถ้าขาดแม่ไป บนโลกใบนี้จะเหลือเธอเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว เธอกับแม่รักกันมาก สนิทกันราวกับเพื่อน ไปไหนไปกัน จนลืมคิดไปว่าหากวันหนึ่งไม่มีแม่ เธอจะอยู่อย่างไร
และก็นึกไม่ถึงเลยว่าอยู่ดีๆ แม่จะโดนรถชน แล้วต้องมานอนเป็นผักปลาโดยไม่รู้ว่าจะมีชีวิตรอดหรือเปล่าอย่างกะทันหันเช่นนี้
เธอยังทำใจไม่ได้จริงๆ
นายแพทย์ได้แต่ถอนหายใจยาว เขาเห็นภาพนี้จนเจนตาแล้ว และก็รู้สึกแย่ทุกครั้งที่ได้เห็นน้ำตาของญาติผู้ป่วยและคำอ้อนวอนที่ในบางครั้งเขาไม่สามารถสร้างปาฏิหาริย์ให้เกิดได้ สุดท้ายเขาก็พูดได้แต่เพียงว่า
“หมอจะพยายามทำเต็มที่ให้ถึงที่สุดครับ”
หมดเวลาเยี่ยม มณีกานต์เดินใจลอยออกจากห้องไอซียู เธอปาดน้ำตาที่ยังคงไหลอย่างต่อเนื่อง แม้เพียรบอกตัวเองให้เข้มแข็ง แต่ภาพที่แม่นอนนิ่งก็ยังติดตาจนยากจะทำใจได้ เธอดึงขอบเสื้อมาซับหัวตา สูดน้ำมูกใสๆ ฟืดฟาด
หมอบอกว่าถ้าจะใช้ยาที่ดีที่สุด อาจต้องจ่ายเงินราวแสนกว่าบาท เพราะเป็นยาที่ต้องสั่งมาใช้โดยเฉพาะเท่านั้น
บัญชีธนาคารของเธอมีเงินไม่ถึง 500 บาทด้วยซ้ำ
โทรศัพท์มือถือสั่น เธอมองหน้าจอ...เป็นพี่สาวต่างมารดานั่นเอง โทรมาทำไมกัน ไม่ได้ติดต่อกันหลายปีแล้วแท้ๆ ได้ยินข่าวล่าสุดแว่วๆ มาว่าพี่ได้แต่งงานไปกับเศรษฐีสูงวัยคนหนึ่ง
“ฮัลโหล” เธอรับสาย
/เสียงยังกับคนเป็นหวัด/
“โทรมามีอะไรเหรอพี่ดาว”
/ตอนนี้อยู่ไหน/
“โรงพยาบาลค่ะ แม่ไม่สบายอยู่ไอซียู มาเยี่ยมแม่”
/อ้อ งั้นเหรอ แล้วจะกลับตอนไหน/
“กำลังจะกลับแล้วค่ะ หาโบกรถรับจ้างหน้าโรงพยาบาล”
/รออยู่หน้าโรงพยาบาลนั่นแหละ เดี๋ยวฉันไปรับ มีเรื่องจะคุยด้วย/ พูดจบก็กดตัดสายไป โดยไม่ให้เธอได้ตอบตกลงหรือปฏิเสธเลย ประกายดาวยังคงนิสัยเหมือนเดิมจริงๆ เอาแต่ใจและยึดความคิดตัวเองเป็นหลัก
ถึงจะเบื่อหน่ายที่จะต้องเจอหน้าพี่สาว แต่เธอก็อยากรู้ว่าอีกฝ่ายจะคุยเรื่องอะไร เลยนั่งรอตรงศาลาริมทาง ราวยี่สิบนาที รถเก๋งราคาเกือบล้านก็แล่นมาจอดเทียบ ก่อนที่กระจกจะเลื่อนออก
“ขึ้นรถสิ”
หญิงสาวเดินไปเปิดประตูข้างคนขับแล้วขึ้นไปนั่ง ประกายดาวรีบขับรถต่อไปทันที
“เข้าเรื่องเลยละกันนะ เธอต้องการเงินไหม”
มณีกานต์หันไปมองหน้าคนถาม พี่สาวยังคงสวยไม่สร่าง แต่งหน้า ทำทรงผมเป็นลอนสยายถึงกลางหลัง ปากสีแดงราวพริกที่สุกจัด
“ต้องการสิคะ ใครบ้างไม่ต้องการเงิน”
“ต้องการเท่าไหร่” ถามเสียงเรียบเย็น
อันที่จริงเธอกับประกายดาวห่างเหินกัน เพราะเธอเป็นเพียงลูกของเมียน้อย ก็ไม่แปลกที่ประกายดาวจะไม่ค่อยชอบเธอสักเท่าไหร่นัก
เธอกับประกายดาวหน้าตาคล้ายพ่อ และพ่อก็เป็นคนที่หล่อมาก เพียงแต่ประกายดาวขยันแต่งหน้า แต่งตัว ทำให้ดูเฉิดฉายมากขึ้นไปอีก ในขณะที่เธอชอบใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา ผิวหน้าไม่เคยสัมผัสเครื่องสำอางเลยไม่ค่อยสะดุดตาใครต่อใครสักเท่าไหร่
ในสังคมที่มีแต่คนรุมประณามแม่ว่าชั่วช้า เป็นเมียน้อยคนอื่นเขา แต่สำหรับเธอกลับสงสารแม่จับใจ แม่ไม่รู้ว่าพ่อมีภรรยาอยู่แล้ว เป็นเพียงเด็กสาวต่างจังหวัดที่มาหางานทำในเมืองหลวง และก็โดนพ่อหลอกว่ายังโสดจนเผลอผูกใจสมัครรักใคร่ มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งจนท้อง ความก็แตกว่าพ่อมีภรรยาและลูกสาววัยสองขวบอยู่ก่อนแล้ว
เธอแต่งงานกับสามีที่เย็นชา หน้าดุ และไม่เคยบอกเธอว่ารักสักคำ เธอจะอบอุ่นแค่ตอนเขาร่วมรักด้วย จากนั้นเธอจะรู้สึกเหน็บหนาวกับความเฉยชาที่เขามีให้ สิ่งเดียวที่ทำให้เธอมีกำลังใจคือการตั้งครรภ์ลูกแฝด เธอไปจากเขาโดยไม่ล่ำลา 4 ปีต่อมา เธอและเขาได้พบกันอีกครั้ง พร้อมเด็กฝาแฝดวัย 3 ขวบที่เรียกเขาว่า ‘พ่อ’
เพราะน้ำเมาในคืนนั้น เธอจึงพลาดท่า ‘ท้องไม่มีพ่อ’ เธอจำผู้ชายคนนั้นไม่ได้ ไม่รู้ว่าเขาคือใคร สิ่งที่จำได้ดีคือเสียงของเขาเท่านั้น วันเวลาผ่านไป เธอคลอดลูกชายฝาแฝด มีคนแปลกหน้ามาจับตัวเธอและลูกๆไป…คฤหาสน์หลังใหญ่ราวกับวังคือสถานที่เธอและลูกถูกพาตัวมา เธอได้พบใครคนหนึ่งซึ่งมีใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตร แต่ทว่าแววตากลับเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง เขาเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ “ในที่สุด ผมก็ตามหาคุณเจอเสียทีนะ” เธอจำได้…เสียงทุ้มทรงอำนาจที่ไม่เคยลืมเลย เขาคือผู้ชายในคืนนั้น ! “คุณตามหาฉันเจอได้ยังไง” “ไม่มีอะไรที่ผมต้องการแล้วจะไม่ได้หรอกนะ ถึงแม้จะใช้เวลานานไปหน่อยก็เถอะ” หญิงสาวนั่งคุกเข่ากอดลูกๆแนบอก เนื้อตัวสั่นระริก ถามด้วยเสียงที่สั่นจนควบคุมไม่อยู่ “คุณต้องการอะไร” “ตอนแรกแค่อยากรู้ว่าผู้หญิงคนไหนกันที่มาเสียตัวให้ผมแล้วก็ชิ่งหนีไป แต่พอรู้ว่าคุณมีลูก ผมก็ต้องการลูก” “ไม่ได้นะ” เธอกอดลูกชายทั้งสองแน่นกว่าเดิม “เด็กๆเป็นลูกของฉัน ไม่เกี่ยวกับคุณ” ร่างสูงขยับมายืนใกล้ๆ หรี่ตามองเธอและเด็กๆ ก่อนยกมุมปากเป็นรอยยิ้มหยัน “มีแค่มดลูก คุณจะท้องได้เองหรือไง ถ้าไม่ได้สเปิร์มจากผมไปน่ะ” หญิงสาวหน้าร้อนวูบ… เพิ่งรู้ก็วันนี้เองว่า พ่อของลูกเธอนั้นไม่ใช่ผู้ชายธรรมดา แต่เป็นประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ร่ำรวยมหาศาล ที่สำคัญเขาต้องการลูกๆ เธอจะต้องหนีจากเงื้อมมือของเขาให้ได้ อุตส่าห์อุ้มท้องมาตั้ง 9 เดือน จะยอมให้เขามาพรากลูกไปจากอกไม่ได้เด็ดขาด แม้จะตั้งใจเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะต้องหนีให้ได้ แต่ทว่าสุดท้ายแล้ว…นอกจากจะหนีไม่พ้นแล้ว อย่าว่าแต่ลูกเลย แม้แต่หัวใจของเธอก็ตกเป็นของเขา !
ปภาวีหลงรักนัธทวัฒน์ข้างเดียวมานานแล้ว ในวันที่เขาหมั้นหมายกับผู้หญิงคนอื่น เป็นวันที่เธอพลาดพลั้งมีอะไรกับเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ เธอตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เมื่อพ่อขายเธอให้เป็นเมียเก็บของเขาในราคา 3 ล้าน ตอนกลางวันเธอเป็นคนรับใช้ที่โดนทุกคนในบ้านกดขี่รังแก ส่วนค่ำคืน เธอคือนางบำเรอของท่านประธานที่มองว่าเธอเป็นเพียงของเล่นเท่านั้น เมื่อเธอเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมาและอยู่ในความเสี่ยง ‘แท้งคุกคาม’ หนทางเดียวที่จะปกป้องลูกฝาแฝดชายหญิงในท้องไว้ได้คือเธอต้องหนีไปจากเขา...!!
เธอเป็นเลขาของเขา ส่วนเขาก็เป็นเจ้านายของเธอ.... อัมพิกาตกหลุมรักนิโคลัสตั้งแต่แรกเห็น ทว่า...สถานะระหว่างเลขากับท่านประธานช่างต่างกันจนเธอไม่อาจคาดหวังเกินตัว 1 ปีผ่านไป จากการได้ทำงานใกล้ชิด เธอยิ่งหวั่นไหวจนยากจะถอนหัวใจ ได้แต่เก็บงำความรักไว้เป็นความลับในใจ ไม่สามารถเอ่ยปากไปได้ จนวันหนึ่ง เธอและเขาต่างเมาด้วยกันทั้งคู่จนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน เธอยินยอมเพราะรัก แต่เขามีเพียงความใคร่ ในวันที่เสียตัวให้เขาแล้ว เขาพาเธอไปอยู่ด้วยกันที่บ้าน...ที่นั่น ก็มีสาวสวยอยู่แล้วคนหนึ่ง เขาตั้งกติกาว่า ระหว่างเธอกับผู้หญิงคนนั้น...หากใครมีทายาทให้เขาได้ก่อน เขาจะยอมจดทะเบียนสมรสด้วย เพราะสิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่ความรัก แต่เป็นทายาทสืบสกุล ! ผู้ชายเลือดเย็นคนนี้น่ะหรือที่เธอรัก...ต่อให้เธอเกิดตั้งท้องขึ้นมาก็อย่าฝันเลยว่าเธอจะยอมให้เห็นหน้าลูก !!
สรวิชญ์คือรักแรกของฝากขวัญ... เธอเป็นลูกสาวหัวหน้าคนงาน ส่วนเขาคือลูกชายเจ้าของไร่สิงห์คำรามที่อายุมากกว่าเธอ 5 ปี ความใกล้ชิดก่อเกิดความสายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง เธอในวัยเยาว์ ไร้เดียงสา เรียนยังไม่จบมัธยมปลายก็เสียตัวให้เขา เธอวาดฝันถึงอนาคตที่ดี ความรักที่สวยงาม แต่แล้ว...ในวันที่เธอจบการศึกษาชั้น ม.6 คือวันเดียวกับที่ถูกเขาทอดทิ้ง พ่อพาเธอไปอยู่กรุงเทพเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ ในขณะที่ท้องของเธอเริ่มโตขึ้นทุกวัน โดยที่สรวิชญ์ไม่เคยรู้เลยว่าเธออุ้มท้องสายเลือดของเขาอยู่ เวลาผ่านไป 6 ปี ลูกสาวของเธออายุ 5 ขวบ เธอได้เดินทางกลับมาที่ไร่สิงห์คำรามเพื่อดูแลสรัณซึ่งเป็นเจ้านายเก่าของพ่อ เธอและเขาได้พบกันอีกครั้ง...เขาไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว จากหนุ่มหน้าใส กลายเป็นผู้ชายดุดัน ไว้หนวดเครา ตัวโตร่างใหญ่ ที่สำคัญ...เขามีคู่หมั้นแล้ว แต่เธอไม่มีทางให้เขาสมหวังหรอกนะ เธอเคยเสียใจมากแค่ไหน เขาต้องได้รับความเสียใจมากกว่าเธอ ฝากขวัญไม่รู้เลยว่า...ความอยากเอาคืนในวันนั้น จะทำให้เธอตกหลุมรักอดีตสามีเป็นครั้งที่สอง ทว่าเธอไม่ใช่เด็กสาวม.ปลายผู้ไร้เดียงสาอีกแล้ว เธอไม่มีวันทำผิดพลาดเหมือนเมื่อก่อนแน่ๆ !
เธอเคยคิดว่าเขา รัก’จึงยอมยกให้ทั้งตัวและหัวใจ ทว่าในความจริง เธอเป็นได้แค่ ‘เมียในความลับ’ ที่ทำได้เพียงรอเวลาให้เขามานอนด้วย เจ้าสาวที่เขาจะแต่งงานด้วย ไม่ใช่เธอ แต่เป็นผู้หญิงคนอื่น และฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ความอดทนของเธอขาดลงก็คือการที่เธอตั้งครรภ์ แต่เขากลับแนะนำให้ไปทำแท้ง พอที...เธอไม่สามารถคบกับผู้ชายใจร้ายเช่นเขาได้อีก พรอุษาตัดสินใจตัดขาดความสัมพันธ์ที่มีแต่ความเจ็บปวด อุ้มท้องลูกน้อยหนีไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ 4 ปีผ่านไป บาดแผลในใจเริ่มจางหาย พร้อมลูกสาวที่เติบโตมาอย่างน่ารัก แล้วในวันหนึ่ง...โชคชะตาก็ทำให้เธอบังเอิญพบเจอกับสามีเก่าอีกครั้ง ถ่านไฟที่ยังไม่ทันได้ดับสนิทเริ่มติดไฟขึ้นมาอีกครั้ง...แต่ทว่าเธอจะไม่มีวันยอมผิดพลาดอีกเป็นครั้งที่สองแน่ๆ ...................... “นี่มัน” ชายหนุ่มย่นหัวคิ้ว ดึงแผ่นทดสอบมาดู... ถึงเขาจะเป็นผู้ชาย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้ว่าที่ถืออยู่นี้คืออะไร แล้วความหมายของสองขีดแดงคืออะไร...สายตาคู่คมจ้องหน้าเธออย่างเดือดดาล “เธอท้องเหรอ” “คือ...มัน...เอ่อ” เธออึกอัก “เธอท้อง...” เขากดเสียงให้ต่ำลงไปอีก ส่งผลให้เธอตัวลีบเล็ก อึกอัก “พิมลองตรวจดู ไม่คิดเหมือนกันว่ามันจะขึ้นสองขีด” “ไม่คิดงั้นเหรอ” ชายหนุ่มแค่นเสียง แสยะมุมปาก ปล่อยมือจากเธอพร้อมขยำแผ่นทดสอบปาลงพื้น “ฉันจะถือซะว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ไปเอาเด็กออกซะ”
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"