เพราะอยากรู้ชาติกำเนิดที่แท้จริงของตัวเอง ทำให้ #ดวงดารา ต้องกลายเป็น #ดาลาวัน แม่ครัวจำเป็นในร้านภูเขาทอง ซึ่งมีเจ้าของร้านสุดหล่ออย่าง #กัญจน์ คอยจับตามองว่าเธอมาทำอะไรที่นี่ ความลับที่ไม่เป็นความลับกำลังจะถูกไฟรักของเขาแผดเผาให้ทุกอย่างกระจ่างชัด ระหว่าง ‘ดวงดารา’ กับ ‘ดาลาวัน’ ใครกันแน่ที่เป็นเจ้าของหัวใจ ‘กัญจน์’ อย่างแท้จริง ให้ความจริงได้พิสูจน์ความรัก ให้ความรักถูกยกย่องบนความจริงของหัวใจ ****** “พี่กัญจน์... พี่สัญญาแล้ว” ดวงตาไหวระริกมองเขาก่อนเปลือกตาจะปิดลง เพราะความรู้สึกรัญจวนกำลังปั่นป่วนอยู่ในอก “ก็ดาวบอกว่าจะช่วยพี่ทุกอย่างถ้าทำได้ ช่วยพี่เถอะนะ ช่วยพี่ด้วย พี่ทนไม่ไหวแล้ว” เสียงทุ้มหนักแน่นเอ่ยบอก ขณะที่ฝ่ามือพลิ้วไปตามส่วนเว้าส่วนโค้งภายใต้เสื้อคลุม “อื้อ... พี่กัญจน์อย่าสิคะ” ห่อตัวสั่นสะท้านเมื่อเสียงออดอ้อนกับการกระทำมันสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง เสียงเว้าวอนแต่ฝ่ามือกำลังรุกคืบไม่หยุดนิ่ง “ขอให้พี่รักดาวนะครับ นะครับ ที่รักของพี่” “พี่กัญจน์...” เธอหลับตาพริ้มพร้อมโอบท่อนแขนรอบลำคอของเขา และเสียงกระซิบแผ่วเบาที่ข้างใบหู ก็ทำให้กัญจน์ต้องเปล่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข ก่อนจะกดกระหน่ำจูบร้อนๆ แรงๆ ที่ริมฝีปากช่างจำนรรจานั้น อย่างแสนรักแสนหลง เพราะสิ่งที่เธอกระซิบบอกเขานั้นก็คือ “ดาวก็อยากบอกให้พี่ทำเร็วๆ เสียที ดาวรอจนจะแย่"
ละอองความชื้นจากบรรยากาศรุ่งสางทำให้คนที่นอนไม่หลับตลอดทั้งคืนตัดสินใจออกมาเดินเล่นที่ระเบียงริมน้ำ เพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์และซึมซับเอาพลังงานดีรอบกายเข้าสู่ตนเองให้มากที่สุด สิ่งที่รับรู้เมื่อช่วงหัวค่ำของคืนวาน ส่งผลให้ไม่อาจฝืนข่มตาหลับได้สักนาทีเดียว ในหัวมีแต่คำถามว่าควรทำอย่างไรจึงจะรู้ว่าสิ่งที่สงสัยนั้นเป็นจริงหรือเปล่า หรือทั้งหมดเป็นเพียงความโหยหาที่คิดไปเอง
ดวงตากลมโตมีแววอิดโรยทอดมองไปจนสุดสายตา ณ ที่แห่งนั้น แผ่นดินที่สะพานมิตรภาพเชื่อมไปถึง ‘นครหลวงเวียงจันทน์’ เธออยากข้ามไปเหลือเกิน
เพียงคิด... แพขนตางอนหนาก็ต้องกะพริบถี่เพื่อขับไล่หยาดน้ำที่เริ่มจะเอ่อซึมออกมาอีก ยามนึกถึงเหตุการณ์ที่กระตุ้นหัวใจให้เธออยากไปตามหาความจริง เพื่อไขสิ่งติดค้างในใจให้หมดไป
เมื่อคืนเพราะความรีบจะไปบอกให้แม่รู้ว่ามีลูกค้ามาติดต่อขอเข้าพักเกสเฮ้าท์ทั้งที่ค่ำแล้ว เผื่อแม่จะสั่งให้เปิดครัวทำอาหารว่างอย่างง่ายๆ ให้ลูกค้า แต่เสียงร้องไห้ที่ดังเล็ดลอดออกมาจากในห้องของแม่ กลับทำเธอชะงัก ไม่กล้าที่จะเข้าไปหรือแม้แต่ส่งเสียงเรียก ทว่าหัวใจกลับผลักดันให้เธอลอบมองผ่านบานประตูที่แย้มไว้เพียงนิด
ภาพที่เห็นนั้นคือ ‘แม่’ นั่งอยู่กับพื้นห้อง ร่างแบบบางสั่นสะอื้นจนหอบตัวโยน ในมือของแม่ถือกระดาษแผ่นบางมีข้อความเป็นลายมือจากหมึกสีน้ำเงินจนแทบเต็มหน้ากระดาษ และจากซองสีขาวที่วางอยู่บนตักของแม่ เธอก็คาดเดาได้ว่านั่นเป็นจดหมายจากใครบางคน แต่ใครกันเล่าจะทำให้แม่ร้องไห้ดุจหัวใจถูกบีบคั้นรุนแรงขนาดนั้น
คนในครอบครัวที่เหลือก็มีเพียงเธอกับแม่ ไม่มีใครคนอื่นอีก เพราะแม่ถูกส่งไปเรียนที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ยังเด็ก เมื่อกลับมาหนองคายก็ไม่เคยคุ้นกับญาติพี่น้องทางนี้สักเท่าไร หลังจากที่ตากับยายเสียไป ครอบครัวของแม่จึงมีแค่เธอกับคนงานในร้านที่แม่ดูแลเสมือนเป็นญาติเท่านั้น แล้วใครกันล่ะ... ที่สำคัญจนทำให้แม่ทุกข์ท่วมใจมากมายอย่างนั้น
แต่แล้วคำพูดพึมพำปนสะอื้นของแม่กลับทำให้เธอต้องแนบตัวนิ่งกับผนังห้อง
‘ดาวเป็นลูกของเดือน เป็นลูกของเดือนเพียงคนเดียวเท่านั้น พี่ไม่มีสิทธิ์ ยังไงเดือนก็จะไม่ยอมให้พี่มาพรากลูกไปจากเดือน เดือนไม่มีทางยอม...’
น้ำเสียงร้าวรานของแม่ ส่งผลให้หัวใจของเธอสั่น เพราะ ‘พี่’ ที่แม่หมายถึง... เป็นใคร หรือจะเป็นคนที่เธออยากเจอมากที่สุด
แม้ลางสังหรณ์จะบอกแบบนั้นแต่เธอก็อยากถามแม่ให้รู้เรื่อง อยากได้ยินคำตอบจากปากของแม่ แต่สิ่งที่เห็นกลับทำให้เธอเปลี่ยนใจ ภาพแม่กอดจดหมายแนบอกอย่างอ่อนโยนทั้งที่ยังสั่นสะท้านตามแรงสะอื้น นั่นแม่กำลังโหยหาเจ้าของจดหมายใช่หรือไม่
ความสงสัยมากมายตีรวนจนทำให้ไม่กล้าจะเผชิญหน้ากับแม่ สุดท้ายเธอก็ต้องเลี่ยงลงมาและให้พนักงานโทรศัพท์ขึ้นไปบอกแม่แทน แต่เรื่องที่เกิดขึ้นกลับส่งผลให้เธอนอนไม่หลับและออกมายืนริมน้ำทั้งที่ฟ้ายังไม่สาง
แผ่นดินฝั่งตรงกันข้ามเริ่มมองเห็นได้อย่างรางเลือน ทว่าดวงตาฉ่ำชื้นของ ‘ดวงดารา’ ก็ยังคงทอดมอง ‘แม่น้ำโขง’ ที่กว้างและยาวจนสุดสายตา ‘แม่โขง’ แม่น้ำซึ่งทำหน้าที่กั้นกลางระหว่างสองเขตแดน และอาจกั้นเธอกับคนทางนั้นด้วยใช่ไหม นั่นคือสิ่งที่ครุ่นคิดมาตลอดทั้งคืน
‘พี่’ ที่แม่พูดถึง เขาคือเจ้าของจดหมายฉบับนั้นหรือเปล่า ทำไมเขาจะมาพรากเธอไปจากแม่
แม่พูดว่า ‘ไม่มีสิทธิ์’ นั่นคืออะไร หรือเขาจะเป็นคนที่แม่บอกว่า ‘ตาย’ ไปก่อนที่เธอจะเกิด แต่แม่กลับไม่มีสิ่งใดให้เธอระลึกถึง ไม่มีภาพถ่าย ไม่มีเรื่องราวบอกเล่า แม้แต่ในใบเกิดของเธอก็ยังไม่ระบุชื่อ ‘เขา’ ด้วยซ้ำ
ทุกครั้งที่เธอเพียรถาม สีหน้าของแม่จะเศร้า และคำตอบที่ไม่เคยตรงกับคำถามก็คือ ‘แม่ดูแลดาวได้’
เมื่อเธอโตจนรู้ความ เธอก็เรียนรู้ว่าไม่ควรถามเรื่องนี้กับแม่อีก ทั้งที่ความสงสัยไม่เคยหมดไป เพราะหน้าตาของเธอฟ้องเรื่องราวของเขาคนนั้นออกมาได้ชัด
ครอบครัวของแม่เป็นคนไทยเชื้อสายจีน แม่จึงเป็นสาวหมวยผิวขาวเหลือง ตาคม ผมดำยาว ปากนิดจมูกหน่อย แต่เธอกลับมีผิวขาวอมชมพู ตาสีน้ำตาล ผมสีน้ำตาลอ่อน เครื่องหน้าชัด มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นลูกครึ่งยุโรป ก่อนที่เธอจะรู้จากญาติที่ซุบซิบกันว่าเขาคนนั้นเป็นคนลาวเชื้อสายฝรั่งเศส แม่อุ้มท้องกลับมาเพราะถูกคนทางนั้นทิ้งขว้าง แต่เมื่อเธออยากรู้มากกว่านั้น ก็ไม่มีใครยอมบอกเล่า แม้แต่ยายก็หลีกเลี่ยงและให้คำตอบเช่นเดียวกับแม่ นั่นคือ ‘ยายดูแลดาวได้’
แม้จะเป็นสิ่งเดียวที่เธอได้รู้เกี่ยวกับเขาคนนั้น แต่เธอก็รู้สึกดี เพราะอย่างน้อยเธอก็ได้รู้ว่าเขามีตัวตน ในร่างกายนี้มีสายเลือดของสองฝั่งโขงหลอมรวมอยู่ เธอไม่ได้เป็น ‘ลูกไม่มีพ่อ’ อย่างที่เคยถูกเพื่อนๆ ล้อเลียน
แสงสว่างรำไรที่ทอดผ่านน่านฟ้ามาสู่ผืนดินทำให้เห็นฝั่งตรงกันข้ามได้ชัดมากขึ้น แม้จะไม่เห็นหน้าค่าตาของคนทางฝั่งนั้น แต่ก็เห็นบ้านเรือน สิ่งก่อสร้าง และถนนเรียบริมโขงที่มีรถยนต์แล่นอยู่ แค่นั้นก็พอมองรู้ว่าต่างก็มีวิถีชีวิตไม่ต่างจากคนทางฝั่งนี้สักเท่าไร
หากนาไม่แล้ง ข้าวไม่แห้งตาย ‘เดช’ ก็ไม่คิดจะหอบเอา ‘ฟ้า’ เมียรักเข้ามาทำงานในเมืองกรุง แต่ความจนทำให้เลือกไม่ได้ และงานดี เงินดี เจ้านายเห็นใจ ก็เป็นเส้นทางที่ดีที่สุด ทว่า... หากรู้ว่ามาแล้วจะต้องเสียเมียให้นายฝรั่ง เดชเลือกที่จะไม่มาเสียยังดีกว่า แต่... เสียแล้วคือเสียเลย สิ่งเดียวที่จะชดเชยความแค้นก็คือ ‘เมียนาย’ คุณผู้หญิงเร่าร้อน เร่งเร้า รุนแรง และมากครั้งเท่าที่ต้องการ เดชไม่รู้แล้วว่านั่นคือการแก้แค้นหรือรางวัล +++++ ‘เดช’ พา ‘ฟ้า’ เมียรักมาทำงานที่บ้านนายฝรั่ง แต่ ‘คริส’ นายฝรั่งกินเมียเขาไปแล้ว และยังเอาดุ้นยาวใหญ่มาล่อให้ฟ้าติดใจ จนฟ้ากินไม่อิ่มไม่พอ อยากได้อะไรที่เทียบเท่า เขาก็เลยแอบกิน ‘โรส’ เมียของนายฝรั่ง แก้แค้นให้สาสม แต่แค้นช่างแสนหวานและฉ่ำชุ่ม จนเขาต้องกินซ้ำๆ ยิ่งได้กินพร้อมๆ กับพี่โชค เขาก็ยิ่งเมามัน และแน่นอนว่าโรสชอบ ในขณะที่นายฝรั่งกระหยิ่มยิ้มที่ได้กินเมียเขา เดชกลับสุขและยิ้มกว้างยิ่งกว่า เพราะเขาได้กิน ‘คุณหนูแพทตี้’ คุณหนูช่างร่านร้อนไม่ต่างจากแม่ แน่นอนว่าเขาชวนพี่โชคมากินด้วย
‘หากหัวใจปราศจากความแค้น คงไร้แล้วซึ่งลมหายใจ’ สำหรับหล่อน เขาคือชายชุดดำ บอดี้การ์ดหน้านิ่งของพ่อ เคร่งขรึม เก๊กหล่อ หมางเมินใส่ราวหล่อนไม่สำคัญ ก็แน่ล่ะ เพราะพี่สาวเขากำลังจะมาเป็นเมียใหม่ของพ่อ แต่มีเหรอที่หล่อนจะยอม นารีมีรูปเป็นทรัพย์ฉันใด หล่อนก็พร้อมจะลงทุนเพื่อสิ่งที่ได้มา ภายใต้แว่นดำนั้น หล่อนต้องรู้ให้ได้ว่า ‘หัวใจ’ หรือเปล่าที่ซุกซ่อนอยู่ แต่สำหรับเขา... หล่อนคือ เหยื่อ! ที่ความแค้นจะได้เอาคืน
ความรักหรือเพียงความปรารถนาแค่ข้ามคืน พบกับนิยายสุดเร่าร้อน 3 เรื่อง 1.คืนเคาท์ดาวน์ 2.คืนฝนฉ่ำรัก 3.คืนเหงาสาวข้างบ้าน
#มาดามทรายกับชายเลี้ยงม้า เปิดประสบการณ์รักร้อนในฟาร์มม้ากันสักครั้ง หรือจะลองกลิ่นฟางแห้งบ่มแดดอุ่นๆ ในโรงนาก็ไม่เลวนะ +++++ เคิร์กรู้ว่าฉันชอบขี่ม้า เขาจึงสอนให้ฉันขี่ม้าจริงๆ หลังจากขี่เขาจนช่ำชองมาหลายครั้ง และฉันก็หัวไวสอนง่ายซะด้วย เพราะเมื่อฝึกหัดขี่ม้าจริงตอนเย็นเสร็จ พอตกกลางคืนฉันก็ซ้อมขี่กับม้าเทียมอย่างเคิร์กอยู่ทุกวัน ไม่ได้ว่างเว้น และก็มีบ้างเป็นบางวันที่ฉันทนไม่ไหวและเคิร์กก็อดไม่ได้ เมื่อฟางใหม่หอมกลิ่นแดดเร่งเร้าความกำหนัดของเราเหลือเกิน เคิร์กก็จะพาฉันไปซ้อมขี่กันที่คอกม้าในโรงนาซะหลายครั้ง และความตื่นเต้นก็ทำให้ฉันกับเคิร์กคึกคักกันมากเป็นพิเศษ ยามที่ฉันควบขี่เคิร์กอยู่ในโรงนา กลิ่นฟางแห้งที่รองรับร่างกายยิ่งใหญ่ของเขาอยู่นั้น เร้าใจจนฉันควบขี่เขาได้ไวกว่าที่เคยทำได้ บั้นเอวและช่วงบั้นท้ายทำหน้าที่โยกตัวไปข้างหน้าและโย้มาข้างหลัง ทว่าปากก็ร่ำร้องบอกถึงความเสียวซ่านที่ดุ้นบังเหียนกระทำกับร่องลึกลับของฉันอยู่ตลอดเวลา
พี่หนึ่งจะทำยังไงถ้าต้องเจอหน้า ‘พี่ชมพู่’ อยู่ทุกวัน รุ่นพี่สาวสวยที่เขาเคยไปสารภาพรัก แต่เธอกลับปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใยด้วยข้อหา ‘เด็กไป’ ครั้งนี้ พี่หนึ่งตั้งใจจะลบคำสบประมาทให้ได้ พี่ชมพู่จะได้รู้ว่า ‘รุ่นน้อง’ ก็ทำอะไรได้หลายๆ อย่างไม่แพ้รุ่นพี่ โดยเฉพาะพี่หนึ่งน่ะจบด็อกเตอร์สาขา ‘เซ็กซ์ศาสตร์’ มาซะด้วย ‘เด็กกว่าแล้วไง’ รุ่นพี่ถ้ามาเจอ ‘รุ่นน้อง... สายดาร์ก’ จะทนได้เหรอ พี่หนึ่งจะพิสูจน์เอง
เพราะเป็นคนสวน 'เมฆ' จึงต้องรดน้ำดอกไม้ของ 'คุณนายชวนชม' ทั้งวัน...ทั้งคืน ‘คุณนายครับ’ เป็นเรื่องราวความเร่าร้อนของ ‘เมฆ’ คนสวนหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผิวกายดำแดง ตามแบบฉบับคนท้องไร่ท้องนาเต็มขั้น เมื่อเมฆต้องมาทำสวนที่บ้านของ ‘คุณนายชวนชม’ เมฆก็เลยต้องเป็นคนสวนที่ดีที่สุด ดังนั้นดอกไม้ในบ้านของคุณนายไม่ว่าจะมีกี่ดอก เมฆก็ต้องทำหน้าที่รดน้ำดอกไม้เหล่านั้นให้ชุ่มฉ่ำ ทั้งวันและทั้งคืน
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"