หากมงกุฎการันตีความงาม 100 เวที ไม่ได้ช่วยให้เธอก้าวกระโดดได้เท่ากับ ‘มงกุฎร้อยน้ำ’ ที่เธอได้มา เพราะแค่รีดน้ำให้ถูกคนถูกที่ แค่นั้นงานที่ต้องการก็ใส่พานมาให้ ตราบใดที่ความสาวและความสวยยังมีติดกาย ตราบใดที่ปากบนและปากล่างยังทำหน้าที่ได้ดี เมื่อนั้นความสำเร็จก็ไม่หนีไปไหน
‘โตขึ้นหนูจะเป็นนางงาม’ ความใฝ่ฝันที่ต้องไปให้ถึง แม้หนทางจะโรยรายด้วยกรวดหินและขวากหนามขวางกั้น หรือต้องแลกด้วยหยาดหยดของเม็ดเหงื่อ กี่น้ำ กี่ครั้ง กี่หน เธอก็ไม่หวั่น เพราะนั่นคือ ‘คุณค่า’ ที่เธอคู่ควร
เสียงดนตรีในจังหวะสนุกสนานดังกระหึ่มทั่วห้องแกรนด์บอลลูมของโรงแรมระดับห้าดาว ท่วงทำนองที่เร่งเร้าเพื่อปลุกความตื่นตัวให้กับแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน โดยเฉพาะแขกสุภาพบุรุษที่ยังมีความต้องการอันมากล้นนั้นดูจะตื่นตา ตื่นใจ และตื่นตัวมากเป็นพิเศษ
ทุกสายตาจับจ้องไปยังเวทีที่ประดับประดาไปด้วยแสง สี และเสียงอย่างอลังการงานสร้าง ด้วยในค่ำคืนนี้เป็นการประกวดเลือกเฟ้นสาวงามเพื่อเป็นตัวแทนประเทศไปประชันความสวยงามในเวทีระดับโลก
ทั้งแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงาน บรรดาบริษัทห้างร้านที่เป็นสปอนเซอร์หลักของรายการ ศิลปิน ดารา นักร้องและนายแบบนางแบบที่ได้รับเชิญก็ล้วนแต่เป็นระดับแถวหน้าของเมืองไทยทั้งสิ้น
แต่ผู้ที่ถูกจับตามองมากที่สุดคงไม่พ้นเป็นหัวใจของงาน นั่นคือสาวงามทั้ง 30 คน โดยเฉพาะตัวเก็งที่สื่อต่างประโคมข่าวว่าอาจมีสิทธิ์ติด 1 ใน 3 หรืออาจได้เป็นขวัญใจสื่อสารมวลชน หรือเรียกเล่นๆ กันว่า ‘นางงามขึ้นกล้อง’ นั้นก็ย่อมได้รับความสนใจเป็นพิเศษ
ด้านบนเวทีเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจเมื่อสาวงามทั้งหมดต่างเดินเรียงแถวกันออกมาเพื่อให้คณะกรรมการและแขกผู้มาร่วมงานได้ยลโฉมพวกเธอพร้อมๆ กัน สาวงามทั้ง 30 คนอยู่ในชุดบิกินีรูปแบบเดียวกันแต่หลากสี ทุกชุดถูกออกแบบให้เปิดในจุดที่ควรเปิดและปิดในจุดที่ควรปิด
ใบหน้าสวยงามเพราะได้รับการแต่งแต้มอย่างประณีตเชิดขึ้นอย่างมั่นใจ อกอวบอิ่มแอ่นสูง โชว์สัญลักษณ์แห่งสตรีเพศเต็มที่ สะโพกผายส่ายไปมาบ่งบอกความมั่นใจ พร้อมช่วงขายาวสมส่วนก็วาดลวดลายตามจังหวะดนตรีอย่างเป็นธรรมชาติ
ทุกสาวงามต่างคนต่างโพสท่าพรีเซนต์ตัวเองเต็มที่ เพราะหวังให้ตนเองดูโดดเด่นเจิดจรัสกว่าใคร ก่อนจะเดินเรียงแถวกันเข้าไปด้านหลังเวที เพื่อเดินออกมาอีกครั้งตามลำดับเลขที่ที่ได้รับ
จังหวะดนตรีจึงปรับเปลี่ยนเป็นช้าลงตามจังหวะจะโคนเพื่อให้เวลานางงามแต่ละหมายเลขได้ยักย้ายส่ายสะโพกออกมาโพสท่าให้คณะกรรมการได้ชื่นชมและให้คะแนนรูปร่าง โดยจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่บนเวทีจะทำหน้าที่บอกชื่อ-นามสกุล ประวัติคร่าวๆ และสัดส่วนของเธอเหล่านั้น
นางงามคนแล้วคนเล่าต่างผลัดกันออกไปโชว์สัดส่วน และเสียงปรบมือที่ได้รับก็หมายถึงบรรดาแฟนคลับที่ติดตาม หรือคะแนนนิยมที่พวกเธอได้รับ ซึ่งนั่นอาจมีผลต่อการให้คะแนนของคณะกรรมการไม่มากก็น้อย
ทว่าเมื่อนางงามหมายเลข 13 เคลื่อนย้ายส่ายสะโพกขึ้นไปอวดโฉมบนเวที เสียงปรบมือที่ว่าดังอยู่แล้วก็กลับดังกึกก้องมากขึ้น เพราะเธอคือหนึ่งในตัวเก็งของค่ำคืนนี้
‘นางสาวสุวรรณมาลี ศรีสุพรรณวิสุทธิ์ สัดส่วน 36-24-36 ส่วนสูง 170 เซนติเมตร น้ำหนัก 48 กิโลกรัม’
เรือนร่างงดงามประหนึ่งนาฬิกาทรายเยื้องย่างขึ้นสู่เวทีดุจนางพญา เธออยู่ในบิกินีสีแดงสดขับผิวสีน้ำผึ้งให้ยิ่งโดดเด่นมีออร่า ท่าเดินมั่นใจแต่เป็นธรรมชาติ ไม่เกร็งไม่ประหม่า เพราะไม่มีสิ่งใดน่ากลัวสำหรับเธออีกแล้ว ฉายา ‘นางงาม 100 มงกุฎ’ ที่สั่งสมมาตั้งแต่เริ่มแตกวัยสาวจนถึงวันนี้ เวทีนี้แหละคือเป้าหมาย เวทีสำหรับผู้หญิงที่สวยที่สุดในประเทศ ซึ่งมงกุฎนี้ต้องได้ประดับบนศีรษะของเธอแน่
รอยยิ้มบาดจิตโปรยปราย ดวงตาสวยหวานตวัดซ้ายขวาอย่างมีจริต แม้แต่เพียงการกะพริบตาหนึ่งครั้ง เธอก็ทำมันได้ดีอย่างเหลือเชื่อ จังหวะที่ขนตาหนางอนงามดุจปีกผีเสื้อสะบัดขึ้นลง นั่นคือเธอต้องได้หัวใจชายหลายๆ คนในที่แห่งนี้ และความมั่นใจอย่างที่สุดนั้นคือเธอจะได้สิ่งที่ต้องการในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า เมื่อคณะกรรมการที่มีผู้ชายถึง 6 ใน 10 นั้นย่อมเทคะแนนให้กับเธออย่างไม่ต้องสงสัย
ส่วนคะแนนของคณะกรรมการผู้หญิงนั้น เธอก็จะใช้ความมั่นใจเรียกคะแนนให้ได้มากที่สุดเช่นกัน เพราะเธอเรียนรู้ที่จะใช้จุดอ่อนและจุดแข็งของแต่ละคนให้เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะจุดที่แข็งมากและแข็งมากที่สุดของผู้ชายแต่ละคนนั้นเธอรู้ดีว่ามันอยู่ตรงไหน
สุวรรณมาลีปรายตาให้กับบุคคลที่เธอต้องการสื่อความหมาย เผยอริมฝีปากเล็กน้อยก่อนจะฉีกยิ้มอย่างอ่อนหวานให้กับ นักการเมืองระดับประเทศ ผู้ที่คืนก่อนเข้ามาเก็บตัวนั้น เธอพาเขาไปทัวร์สวรรค์มานับครั้งไม่ถ้วน ชนิดที่ว่าตั้งแต่เป็นหนุ่มมาจนถึงวัยใกล้เกษียณ เขาคงไม่เคยได้รับความหฤหรรษ์นี้จากใครแน่ เพราะความตื่นเต้นและเสียงครวญครางไม่หยุดนั้นมันบอกเธอ
‘ท่านขา... ชอบมั้ยคะ อูย... ท่านขา... ซี้ด... ของท่านใหญ่จังเลย อูย... ท่านขา... ซี้ด... โอว... ท่านขา... หนูแน่น... อูย... ซี้ด...’
เสียงหวานๆ ของเธอเอ่ยถามคนที่อยู่ใต้ร่าง คนที่ครางเสียงต่ำราวกับพอใจในสิ่งที่เธอทำนักหนา คนที่รู้สึกลำพองตัวเองอย่างที่สุด เมื่อเธอบอกว่าของเขานั้น ‘ใหญ่’ ทั้งที่มันไม่ได้ครึ่งของที่เธอเคยเจอมาด้วยซ้ำ แต่กล้ามเนื้อน่าอัศจรรย์ใจที่สั่งได้ของเธอก็บีบรัดตัวตนของเขาอย่างแนบแน่น เพื่อให้คนใต้ร่างรู้สึกว่าท่อนเนื้อของเขาช่างสร้างความคับแน่นได้ใจเธอเสียเหลือเกิน
เธอเรียนรู้ที่จะใช้เสียงและถ้อยคำหวานๆ ปลุกเร้าอารมณ์ บางครั้งการไม่พูดความจริงออกไป หรือการใส่จริตเล็กๆ น้อยๆ ก็อาจเรียกความสุขให้กับคู่นอนได้มากและเขาก็เป็นหนึ่งในนั้น คนที่ดื่มกินน้ำหวานหยาดเยิ้มของเธออย่างเอร็ดอร่อย
หากนาไม่แล้ง ข้าวไม่แห้งตาย ‘เดช’ ก็ไม่คิดจะหอบเอา ‘ฟ้า’ เมียรักเข้ามาทำงานในเมืองกรุง แต่ความจนทำให้เลือกไม่ได้ และงานดี เงินดี เจ้านายเห็นใจ ก็เป็นเส้นทางที่ดีที่สุด ทว่า... หากรู้ว่ามาแล้วจะต้องเสียเมียให้นายฝรั่ง เดชเลือกที่จะไม่มาเสียยังดีกว่า แต่... เสียแล้วคือเสียเลย สิ่งเดียวที่จะชดเชยความแค้นก็คือ ‘เมียนาย’ คุณผู้หญิงเร่าร้อน เร่งเร้า รุนแรง และมากครั้งเท่าที่ต้องการ เดชไม่รู้แล้วว่านั่นคือการแก้แค้นหรือรางวัล +++++ ‘เดช’ พา ‘ฟ้า’ เมียรักมาทำงานที่บ้านนายฝรั่ง แต่ ‘คริส’ นายฝรั่งกินเมียเขาไปแล้ว และยังเอาดุ้นยาวใหญ่มาล่อให้ฟ้าติดใจ จนฟ้ากินไม่อิ่มไม่พอ อยากได้อะไรที่เทียบเท่า เขาก็เลยแอบกิน ‘โรส’ เมียของนายฝรั่ง แก้แค้นให้สาสม แต่แค้นช่างแสนหวานและฉ่ำชุ่ม จนเขาต้องกินซ้ำๆ ยิ่งได้กินพร้อมๆ กับพี่โชค เขาก็ยิ่งเมามัน และแน่นอนว่าโรสชอบ ในขณะที่นายฝรั่งกระหยิ่มยิ้มที่ได้กินเมียเขา เดชกลับสุขและยิ้มกว้างยิ่งกว่า เพราะเขาได้กิน ‘คุณหนูแพทตี้’ คุณหนูช่างร่านร้อนไม่ต่างจากแม่ แน่นอนว่าเขาชวนพี่โชคมากินด้วย
‘หากหัวใจปราศจากความแค้น คงไร้แล้วซึ่งลมหายใจ’ สำหรับหล่อน เขาคือชายชุดดำ บอดี้การ์ดหน้านิ่งของพ่อ เคร่งขรึม เก๊กหล่อ หมางเมินใส่ราวหล่อนไม่สำคัญ ก็แน่ล่ะ เพราะพี่สาวเขากำลังจะมาเป็นเมียใหม่ของพ่อ แต่มีเหรอที่หล่อนจะยอม นารีมีรูปเป็นทรัพย์ฉันใด หล่อนก็พร้อมจะลงทุนเพื่อสิ่งที่ได้มา ภายใต้แว่นดำนั้น หล่อนต้องรู้ให้ได้ว่า ‘หัวใจ’ หรือเปล่าที่ซุกซ่อนอยู่ แต่สำหรับเขา... หล่อนคือ เหยื่อ! ที่ความแค้นจะได้เอาคืน
ความรักหรือเพียงความปรารถนาแค่ข้ามคืน พบกับนิยายสุดเร่าร้อน 3 เรื่อง 1.คืนเคาท์ดาวน์ 2.คืนฝนฉ่ำรัก 3.คืนเหงาสาวข้างบ้าน
#มาดามทรายกับชายเลี้ยงม้า เปิดประสบการณ์รักร้อนในฟาร์มม้ากันสักครั้ง หรือจะลองกลิ่นฟางแห้งบ่มแดดอุ่นๆ ในโรงนาก็ไม่เลวนะ +++++ เคิร์กรู้ว่าฉันชอบขี่ม้า เขาจึงสอนให้ฉันขี่ม้าจริงๆ หลังจากขี่เขาจนช่ำชองมาหลายครั้ง และฉันก็หัวไวสอนง่ายซะด้วย เพราะเมื่อฝึกหัดขี่ม้าจริงตอนเย็นเสร็จ พอตกกลางคืนฉันก็ซ้อมขี่กับม้าเทียมอย่างเคิร์กอยู่ทุกวัน ไม่ได้ว่างเว้น และก็มีบ้างเป็นบางวันที่ฉันทนไม่ไหวและเคิร์กก็อดไม่ได้ เมื่อฟางใหม่หอมกลิ่นแดดเร่งเร้าความกำหนัดของเราเหลือเกิน เคิร์กก็จะพาฉันไปซ้อมขี่กันที่คอกม้าในโรงนาซะหลายครั้ง และความตื่นเต้นก็ทำให้ฉันกับเคิร์กคึกคักกันมากเป็นพิเศษ ยามที่ฉันควบขี่เคิร์กอยู่ในโรงนา กลิ่นฟางแห้งที่รองรับร่างกายยิ่งใหญ่ของเขาอยู่นั้น เร้าใจจนฉันควบขี่เขาได้ไวกว่าที่เคยทำได้ บั้นเอวและช่วงบั้นท้ายทำหน้าที่โยกตัวไปข้างหน้าและโย้มาข้างหลัง ทว่าปากก็ร่ำร้องบอกถึงความเสียวซ่านที่ดุ้นบังเหียนกระทำกับร่องลึกลับของฉันอยู่ตลอดเวลา
พี่หนึ่งจะทำยังไงถ้าต้องเจอหน้า ‘พี่ชมพู่’ อยู่ทุกวัน รุ่นพี่สาวสวยที่เขาเคยไปสารภาพรัก แต่เธอกลับปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใยด้วยข้อหา ‘เด็กไป’ ครั้งนี้ พี่หนึ่งตั้งใจจะลบคำสบประมาทให้ได้ พี่ชมพู่จะได้รู้ว่า ‘รุ่นน้อง’ ก็ทำอะไรได้หลายๆ อย่างไม่แพ้รุ่นพี่ โดยเฉพาะพี่หนึ่งน่ะจบด็อกเตอร์สาขา ‘เซ็กซ์ศาสตร์’ มาซะด้วย ‘เด็กกว่าแล้วไง’ รุ่นพี่ถ้ามาเจอ ‘รุ่นน้อง... สายดาร์ก’ จะทนได้เหรอ พี่หนึ่งจะพิสูจน์เอง
เพราะเป็นคนสวน 'เมฆ' จึงต้องรดน้ำดอกไม้ของ 'คุณนายชวนชม' ทั้งวัน...ทั้งคืน ‘คุณนายครับ’ เป็นเรื่องราวความเร่าร้อนของ ‘เมฆ’ คนสวนหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผิวกายดำแดง ตามแบบฉบับคนท้องไร่ท้องนาเต็มขั้น เมื่อเมฆต้องมาทำสวนที่บ้านของ ‘คุณนายชวนชม’ เมฆก็เลยต้องเป็นคนสวนที่ดีที่สุด ดังนั้นดอกไม้ในบ้านของคุณนายไม่ว่าจะมีกี่ดอก เมฆก็ต้องทำหน้าที่รดน้ำดอกไม้เหล่านั้นให้ชุ่มฉ่ำ ทั้งวันและทั้งคืน
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"