เธอคือยัยตัวแสบของเขา มีความสุขกับการกลั่นแกล้งให้เขาตกหลุมรัก
เธอคือยัยตัวแสบของเขา มีความสุขกับการกลั่นแกล้งให้เขาตกหลุมรัก
ซีรีส์หนูณี
เล่ม 1 หนูณี
“หนูณีครับ”
“อุ๊ย!” มณีรัตน์อ้าปากค้าง หน้าแดงตาโตเมื่อเห็นพี่ชายลูกพี่ลูกน้องเดินมาประจันหน้ากับเธอ
ตะวันเป็นบุตรชายของป้าและลุงเขย คเชนทร์บิดาของเธอเป็นบุตรบุญธรรมของตายายมีศักดิ์เป็นน้อง(ไม่แท้) ของป้าเธอ เขาจึงมีศักดิ์เป็นพี่ชายลูกพี่ลูกน้องของเธอด้วย
“ทำไมทำหน้าแบบนั้น แอบไปทำอะไรผิดมาหรือเปล่า” ตะวันดักคออย่างรู้ทัน น้องสาวลูกพี่ลูกน้องของเขาเวลาทำอะไรผิดก็มักทำหน้าอย่างนี้
“เปล๊า ไม่มี๊”
เสียงสูงมีพิรุธ เขามองอย่างไม่เชื่อถือ
“เอ๊ะ! นั่นเสียงอะไร”
เสียงแบบนี้มันทำให้เขาตัวร้อนซู่ เสียงครางที่รุนแรงยังกับ!
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ”
เธอปิดประตูห้องบิดาไม่สนิท
ตายห่านนนน!
คนทำผิดรีบวิ่งปรู๊ดไปงับประตู แต่มันงับไม่ได้นี่สิ
เฮ้ย! พี่ตะวันมาดันประตูเอาไม่ให้ปิดได้ยังไงกัน เมื่อกี้ยังอยู่ที่โน้นนี่นา
“พี่ตะวันจะชวนหนูณีแอบมองคุณเชนเล่นจ้ำจี้ใช่ไหมคะ”
ตะวันงับประตูปิดแทบไม่ทัน เขาหน้าแดงก่ำ กอดอกมองยัยตัวแสบตรงหน้าไม่วางตา
มณีรัตน์ดึงนิ้วไปมา ทำหน้ามึนเหมือนจะบอกว่า “เค้าไม่ได้ทำอะไรผิดนะตะเอง แค่แอบวางยาปลุกเซ็กซ์ให้คุณพ่อกับพี่ข้าวเท่านั้นเอง”
เธออยากมีแม่น่ารักและใจดีแบบพี่ข้าวนี่นา
“ทีหลังอย่าแอบดูผู้ใหญ่อีกนะหนูณี”
“หนูณีแค่อยากเรียนรู้วิชาเพศศึกษาเท่านั้นเองค่ะ”
คนหน้ามึนตอบก่อนจะเดินตามพี่ชายไปที่ห้อง
“หนูณีจัดห้องให้พี่ตะวันเองเลยนะคะ ส่วนคุณเชนกำลังยุ่งอยู่กับการเล่นจ้ำจี้ ดังนั้นเราไม่ควรไปกวนคุณเชนในเวลานี้ แต่คุณเชนรู้แล้วล่ะค่ะว่าพี่ตะวันจะมา”
“พี่รู้แล้ว”
เขาบอก ในขณะที่เธอไขว้นิ้วไปด้านหลัง ท่าทีเหมือนสำรวจห้องเขา ตะวันเลิกคิ้วขึ้นมองยัยตัวแสบเขม็ง
“ฮะ แฮม พี่จะอาบน้ำแล้วครับ เดินทางมาทั้งวันเหนื่อย”
“ตามสบายเลยค่ะพี่ตะวัน”
เธอตอบเขาตาปริบๆ ยิ้มยิงฟันน่ารักส่งมาให้
“หนูณีไม่คิดจะออกไปจากห้องพี่เหรอครับ พี่จะแก้ผ้า”
“ว้าว! พี่ตะวันจะแก้ผ้า ไหนขอหนูณีดูหน่อยนะคะว่าเหมือนของคุณเชนไหม โอ๊ย! ดีดหน้าผากหนูณีทำไมคะ” เธอลูบหน้าผากตัวเองเบาๆ ทำปากยื่นหน้างอ
“ลามกใหญ่แล้วนะเรา ออกไปจากห้องพี่ได้แล้ว พี่จะอาบน้ำ”
“ขอหนูณีอยู่ต่อนะคะ รับรองว่าจะมองเฉยๆ ไม่กวนแน่นอน”
“หนูณี เดี๋ยวจับตีก้น อย่าดื้ออย่าซนสิ”
“อะไรกันคะ พี่ตะวันจำไม่ได้เหรอว่าแพ้พนันหนูณี”
เธอกระโดดขึ้นไปนอนบนเตียง นอนหงายกอดอกอย่างแสนเจ้าเล่ห์ ตะวันถึงกับโครงศีรษะไปมา เขาแพ้พนันเธอ ด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง!
แต่ก็นั่นแหละ เรื่องไม่เป็นเรื่องก็ต้องยอมแพ้พนันเพราะว่าเขาต้องทำให้เธอไปภูเก็ตให้ได้ตามคำสั่งของใครบางคน
ตอนเธอไปเที่ยวที่รีสอร์ทของเขาเมื่อปิดเทอมก่อน จู่ๆ ก็พนันกันเรื่องจีบสาว แขกที่มาพักที่โรงแรมเป็นสาวสวยน่ารัก เธอท้าให้เขาจีบ คนอย่างเขาไม่เคยยอมให้ใครสบประมาท เธออยากเล่นพิเรนทร์อะไร ก็ต้องเล่นไปตามน้ำ
แต่รายนี้ไม่สำเร็จ แถมเธอยังชอบผู้ชายอีกคนที่มาจีบเสียอีก เขาเลยกินแห้ว แพ้พนัน ต้องมารับยัยตัวแสบไปเที่ยวตอนปิดเทอมตามคำเรียกร้องของเธอ
บ้านเขาทำธุรกิจการท่องเที่ยว โรงแรมและ รีสอร์ท บิดาเป็นคนปักษ์ใต้ แต่งงานกับมารดาก็พามารดาย้ายไปอยู่ทางใต้ แต่ครอบครัวของเขากับมณีรัตน์สนิทกันมาก แม้มารดาจะไม่ใช่พี่สาวแท้ๆ ก็รักคเชนทร์ซึ้งเป็นน้องชายบุญธรรมมากๆ จึงไปมาหาสู่กันตลอด
“จะตีก้นหนูณีก็ตีเบาๆ นะคะ” เธอพลิกนอนคว่ำหันก้นมาให้เขา ตะวันแยกเขี้ยวใส่ยัยตัวแสบ
“อ้าว... ไม่ตีเหรอคะ”
“พี่จะแก้ผ้า ถ้าเราไม่อายก็ตามใจนะ”
“หนูณีไม่อายค่ะ หนูณีเรียนวิชาเพศศึกษามาเป็นอย่างดีแล้ว คิกๆ” ยัยจอมลามกลุกนั่งขัดสมาธิ กอดอกมองเขาเขม็ง
เขาเองเป็นผู้ชายยังอาย!
มณีรัตน์แสบสุดๆ เขาเคยได้ยินพ่อลูกคุยกัน ตอนแรกนึกว่าคเชนทร์คุยกับเพื่อนรุ่นเดียวกันเสียอีก เขาฟังก็แทบเอาเท้าก่ายหน้าผากแทน
“คุณเชนดูนมคุณป้าปากแดงที่อ่อยคุณเชนสิคะ นมนั่นใหญ่มาก ทำมาแหงๆ”
“เรื่องธรรมดาของผู้หญิงสมัยนี้”
คเชนทร์ตอบบุตรสาว
“ตายแล้ว คุณเชนพูดแบบนั้นได้ยังไงคะ ซิลิโคนเน่าขึ้นมาตอนคุณเชนดูดจะทำยังไงคะ หลุดติดปากเลยนะนั่น”
คเชนทร์แทบสำลักกาแฟ พ่นมันออกมาจากปาก
“ผู้ชายเขาชอบ”
“คุณเชนชอบของปลอมเหรอคะ ผู้ชายก็น่ามืดนะคะ เห็นนมแล้วน้ำลายหก”
“พ่อไม่ได้ชอบของปลอม ชอบของจริง ไม่ได้ชอบใหญ่ยักษ์อะไรขนาดนั้น”
“นั่นถ้าแตกขึ้นมาจะทำยังไงคะ หนักอกหนักใจแทน นั่นๆๆ คุณพ่อดูนั่นสิคะ คางแหลม จมูกแหลม หน้าเรียวยังกับเอเลี่ยน”
“หนูณีเบาๆ หน่อยลูก”
คเชนทร์ทำท่าจุ๊ปาก บุตรสาวของเขาพูดแต่ละอย่าง เพลียใจเสียจริงๆ เลย
“จุ๊ๆ ค่ะคุณเชน” เธอจุ๊ๆ ตาม ท่าทีน่าหมั่นไส้
“พ่อไม่ต้องมีเมียกันแล้วเนอะชาตินี้”
“หนูณีเคยห้ามไม่ให้คุณเชนมีเมียเหรอคะ ถ้าคุณเชนจะมีเมียก็ต้องเลือกหาดีๆ หน่อย เอานมจริงค่ะ หน้าจริง จมูกจริง ตาจริง อย่าเอาของปลอมเข้าบ้าน”
“พ่อจะรู้ได้ไงว่าจริงไม่จริง”
“คุณเชนทร์ดูคลิปนี้สิคะ ผู้หญิงคนนี้สวยหรือเปล่า”
เธอหยิบโทรศัพท์มาเปิดให้บิดาดู
“สวย”
“เดี๋ยวหนูณีจะเปิดให้ดูนะคะ”
วิดีโอซูมไปยังภาพผู้หญิงคนหนึ่ง กำลังเริ่มเช็ดเครื่องสำอาง แกะโน่นแกะนี่ ขนตาปลอมบ้างอะไรบ้าง จากหน้าตาสวยๆ กลายเป็นน่ากลัวในทันที
“เฮ้ย!” คเชนทร์สะดุ้ง
“หนูณีบอกคุณเชนแล้วว่าต้องเลือกดีๆ เดี๋ยวนี้ถ้าจะเลือกเมีย อย่าเลือกตรงที่แข่งกันแต่งหน้า ต้องเลือกตรงที่แข่งกันล้างหน้า”
“หนูณีครับ พี่จะอาบน้ำจริงๆ แล้วนะครับ”
“ค่าๆๆ หนูณีไปแล้วก็ได้ พี่ตะวันชอบเขิน หนูณียังไม่เขินเลย” คนทำสีหน้าเจ้าเล่ห์อ้อยอิ่งกับการลุกจากเตียง เดินออกจากห้อง
ตะวันจัดการผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่ออาบน้ำอาบท่า
“พี่ตะวันคะ”
“เฮ้ย!” เขาสะดุ้งเมื่อเธอโผล่หน้ามาจากประตู ดึงผ้าเช็ดตัวนุ่งแทบไม่ทัน
“ตกใจหนูณีเหรอคะ”
“หนูณีแค่จะถามว่าพี่ตะวันกินอะไรมาหรือยังคะ ถ้ายังจะลงไปอุ่นกับข้าวให้กินค่ะ”
“ก็ดีนะ” เขาก็หิวเหมือนกันเดินทางมาเหนื่อยๆ
“โอเคค่ะ”
เธอโบกมือสีหน้าทะเล้น เขารีบเดินมากดล็อกประตู กลัวเธอพรวดพราดเข้ามาอีก
หลังอาบน้ำเสร็จตะวันก็ลงมารับประทานอาหารกับยัยตัวแสบ
มณีรัตน์เป็นคนผิวขาวมีน้ำมีนวล ไม่ผอมบาง ใบหน้าเหมือนตุ๊กตา ผมยาวสลวยนั้นหยักศกสีน้ำตาลอ่อนทำให้เธอดูเหมือนตุ๊กตาแสนสวยยามมอง
เห็นหน้าตาน่ารักแบบนี้แสบยิ่งกว่าพริกทั้งสวน เผลอเป็นไม่ได้ เสียท่าให้ทุกทีสิน่า
แต่มีอยู่คนหนึ่งที่ปราบมณีรัตน์ได้ “เฮียเสือ” ญาติผู้พี่ของเขานั่นเอง เป็นญาติกันอีกทีหนึ่ง เฮียเสือ หรือ พยัคฆ์ เป็นเจ้าของเกาะเสือ พี่ชายคนนี้เคยมีเรื่องพิพาทกับมณีรัตน์มาก่อน เลยไม่กินเส้นกับเด็กสาว และมณีรัตน์ก็ไม่ค่อยอยากสุงสิงเพราะรู้ดีว่าตัวเองทำไม่ดีเอาไว้
“พี่ตะวันคะ”
“ว่าไงครับ”
“เฮียเสือไม่อยู่แน่ๆ ใช่ไหมคะ”
“ไม่อยู่ ไปต่างประเทศ ทำไมกลัวเฮียรึ”
“เปล๊า คนอย่างหนูณีนะเหรอจะกลัวใคร ไม่มีทางเสียหรอก”
สุ่มเสียงเย่อหยิ่ง กอดอกทำปากยื่น ตะวันแทบหลุดขำ ไม่กลัวแต่ปากสั่นน้อยๆ มณีรัตน์เป็นเด็กแสบไม่กลัวใครก็จริง แต่ถ้ากลัวจะชอบทำปากสั่น สู้ แบบี้แหละ
พยัคฆ์ไม่อยู่ โลกทั้งใบก็เป็นของเธอคนเดียวน่ะสิ อีตานั่นหน้าดุ ใจร้ายยังกับอะไร เธอไม่อยากเข้าใกล้นักหรอก
ชิส์! ใจร้าย เธอจะไม่รักพยัคฆ์แล้วล่ะ จะตัดอกตัดใจจากเขา
“เสียงสูงมีพิรุธ”
“หนูณีเปล่านะคะ”
มณีรัตน์หน้างอ ทำปากยื่นหน่อยๆ เพราะถูกรู้ทัน
“เฮียไม่อยู่ ไปติดต่องานไม่มีกำหนดกลับ”
“ดีแล้วล่ะค่ะ คนใจร้ายแบบนั้น ใครจะอยากเจอ”
เธอเบ้ปาก นั่งคุยกับตะวันอีกครู่ก่อนจะขึ้นห้องนอน
“พี่ตะวันไม่อยากให้หนูณีนอนเป็นเพื่อนจริงๆ เหรอคะ”
“ไม่ล่ะ กลัวเสียตัวเหมือนน้องข้าว”
ปานวาดตื่นขึ้นมาด้วยอาการอ่อนเพลียและปวดหัวอย่างรุนแรง เธอค้นพบว่าไม่ได้นอนอยู่คนเดียว กวาดสายตามองรอบตัวก็เห็นเพียงห้องไม่คุ้นตา แต่ที่ทำให้เธอตกใจแทบช็อกก็เพราะว่าร่างเปลือยเปล่าของผู้ชายข้าง ๆ “กรี๊ด!!!” ปานวาดกรีดร้องสุดเสียง ปลุกให้เชนที่นอนอยู่ข้าง ๆ สะดุ้งตื่น เขารีบคร่อมทับร่างของเธอเอาไว้ ก่อนที่จะจัดการอุดปากของเธออย่างตกใจเช่นกัน “กรีดร้องทำไมแม่ตัวดี เดี๋ยวคนก็แห่กันมาหรอก” “อื้อ ๆ ๆ” เธอร้องประท้วง อึก ๆ อัก ๆ อยู่ใต้ร่างหนาหนัก ดวงตาเบิกกว้างอย่างตกใจ “ถ้าเธอไม่ร้องพี่จะปล่อยเธอ เข้าใจไหม” เธอรีบพยักหน้า แต่พอเชนปล่อยมือเธอก็กรีดร้องอีก “กะ.. กรี๊ด! อื้อ...” เชนอุดปากของเธอเอาไว้ กอดปล้ำกันจนเตียงสั่นไปหมด สุดท้ายเชนก็กระแทกริมฝีปากลงไปหา บดจูบเพื่อปิดเสียงร้องของเธอ แต่จูบไปจูบมาดันมามีอารมณ์ อาจเพราะเบื้องล่างไม่มีอะไรสวมใส่อยู่เลย ทำให้แก่นกายชายของเขาเสียดสีกับน้องสาวของเธอถนัดถนี่ “ไม่เงียบใช่ไหม งั้นพี่คงต้องหาอะไรอุดปากของเธอซะ”
โปรย คลั่งรักเมียทาส เพราะพี่สาวขโมยเงินและเครื่องเพชรหนีไป เขาจึงต้องจับเธอเอาไว้เป็นตัวประกัน เป็นทาสบำเรอรักบนเตียงกว้างอันแสนเร่าร้อน เหนือสิ่งอื่นใดยังมีบางอย่างแอบแฝงที่เธอไม่เคยรับรู้มาก่อน ว่าเขาอยากได้เธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น และคลั่งรักเธอมากเพียงใด ตัวอย่างบางช่วงบางตอน มยุรินมองเขาอย่างชื่นชม เขาหล่อ ดูดี ร่ำรวย และเซ็กซี่เหลือร้าย แต่เขาก็ร้ายกาจมากเช่นกัน ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะหลงรักผู้ชายร้ายกาจคนนี้ได้ เด็กสาวอยากที่จะเจียมเนื้อเจียมตัว แต่ก็ทำไม่ได้เมื่อใจเจ้ากรรมดันตกหลุมคนใจร้ายอย่างเขาไปเสียแล้ว "อาบน้ำให้ฉันหน่อย" เขาเชยคางสาวให้แหงนขึ้นมาสบตา ก่อนที่ก้มลงมาบดจูบอย่างร้อนแรง "คุณชัชคะ หนูเหนื่อยจังค่ะ" เธอประท้วงน้อย ๆ ในชณะที่ชัชมองเด็กสาวด้วยสายตาร้อนแรง "เธอเป็นทาสของฉันจำไม่ได้หรือไง ถ้าเธอทำตัวดี ๆ เจอพี่สาวเธอเมื่อไหร่ฉันจะไว้ชีวิต หรือเธออยากให้พี่สาวของเธอตาย" "ไม่ค่ะ" มยุรินรีบส่ายหน้าไปมา "ก็อย่าขัดใจฉันสิ" ชัชพูดเสียงกร้าว มองเด็กสาวเหมือนจะกลืนกิน "หนูแค่เหนื่อยน่ะค่ะ" เขาตื่นมาตอนเที่ยงแล้วลากเธอขึ้นเตียงจนเกือบเย็น ก้นของเธอปวดเมื่อยระบบไปหมดแล้ว ช่องคลอดเหมือนจะฉีกขาดเสียให้ได้ ชัชกระแทกไม่ยั้งจนช่วงล่างของเธอแทบพัง เธอตกเป็นของเขาในครั้งแรกยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง เขายิ่งรู้ก็ยิ่งเอา ไม่ได้บันยะบันยังตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา "นอนอ้าขาเฉย ๆ เหนื่อยด้วยเหรอ บอกให้ตอดก็ทำบ้างไม่ทำบ้าง" เขาสลัดผ้าห่มที่คลุมกายของเธอออก มยุรินร้องเบา ๆ เพราะตอนนี้ร่างเปลือยเปล่าเปิดเผยต่อสายตาของเขาอีกครั้ง "หนูจะขาดใจแล้วค่ะ" เธอบอกเขาเสียงสั่น กอดอกหน้าแดง แต่เขากระชากแขนที่กอดอกของเธอออก ทำให้ปทุมถันอวบเต็มเด้งไปมาจากแรงขยับ ริมฝีปากหน้าร้ายกาจก้มลงงับดูดอย่างเร่าร้อน
เธอแอบรักเขา จึงยอมเขาทุกอย่าง จนกระทั่งวันที่เธอตั้่งท้อง เธอต้องเลือกระหว่างการทนอยู่กับคนที่ไม่รัก หรือจากไปพร้อมกับลูกน้อยที่กำลังจะลืมตาดูโลก
"วันนี้เธอมาหาฉันทำไม" พายัพเอ่ยถามพลางไล่สายตามองร่างสมส่วนไม่วางตา "หนูจะมาขอผัดผ่อนหนี้สินของคุณพ่อไปก่อนจะได้ไหมคะ" เธอบอกเขาเสียงสั่น "ได้สิ มีอะไรแลกเปลี่ยนไหม" เขาแตะลิ้นเลียริมฝีปาก "ตัวหนูพอจะแลกเปลี่ยได้ไหมคะ" เธอรู้ว่าเขาอยากได้เธอ แม้จะรังเกียจเขาเพียงใด แต่เธอก็ต้องทำเพื่อครอบครัว "ก็พอได้นะ" เขายกยิ้มมุมปาก รอยยิ้มแบบนี้ทำให้เธอต้องกัดปากตัวเอง เขาชอบยิ้มแบบนี้เสมอ ผู้ชายตรงหน้าคือมาเฟียตัวร้าย เขามีเงิน มีอำนาจ ยิ่งใหญ่คับบ้านคับเมืองเสียเหลือเกิน เธอเป็นเพียงแค่เด็กสาวที่ไม่สามารถต่อกรอะไรกับเขาได้เลย "ไหนลองช่วยตัวเองให้ฉันดูหน่อยสิ" ประโยคของเขาทำให้ข้าวหอมหน้าชาด้วยความอาย ฃ เพี้ยะ!!! เธอตบหน้าเขาจนหน้าหัน ไม่รู้เหมือนกันว่ากล้าตบหน้าเขาแบบนี้ได้อย่างไรกัน ใบหน้าของพายัพกระด้าง เขาดุนดันกระพุ่งแก้มเบา ๆ คล้ายเจ็บ ๆ คัน ๆ ดวงตาคมกริบของเขามองเธอไม่วาง "ชอบตบจูบอย่างนั้นเหรอ" เขากระชากเธอเข้ามาหา ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงดุดัน "ปล่อยหนูนะ" "ไม่เคยมีใครกล้าตบหน้าฉันมาก่อน" พายัพดันร่างของเด็กสาวไปจนชิดกับผนัง กวาดสายตามองเธอไม่วาง "ถ้าฉันยังไม่ได้ทดสอบสินค้าจะรู้ได้ยังไงว่ามันคุ้มกับการแลกเปลี่ยนหรือเปล่า เพราะไอ้แฟนของเธอคงไม่ปล่อยให้เธอยังเวอร์จิ้นอยู่กระมัง" ประโยคของเขาทำให้ข้าวหอมหน้าชาอีกครั้ง ทั้งอับอาย ทั้งโกรธเกลียดเขาอย่างเหลือล้น เจ้าหนี้หน้าเลือดของบิดา!!!
เธอปลอมตัวไปเป็นเลขาของเขาเพื่อจะจับผิดว่าเขานอกใจเธอหรือเปล่า เพราะแท้ที่จริงเขาคือคู่หมั้นของเธอที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ แต่ปลอมตัวอย่างไรไม่ทราบ ดันไปตกเป็นเมียของเขาเสียนี่ ตัวอย่างบางช่วงบางตอน “ต่อไปผมจะมารับคุณไปทำงานทุกวัน” “รับทำไมคะ” พิมพ์พิศาอุทานออกมา กำลังคิดอยู่เชียว เขาเหมือนรู้ว่าเธอคิดอะไรเลยพูดดักคอออกมาแบบนี้ “คุณเป็นเลขา เผื่อผมมีงานด่วนอะไรต้องเรียกใช้คุณ คุณก็ต้องพร้อมทุกสถานการณ์ คุณไปทำงานพร้อมผมน่ะดีแล้ว” “เจ้านายคนอื่นเขามารับเลขาไปทำงานด้วยกันแบบนี้ไหมคะ” เธอประชด “รับ” คำสั้น ๆ ของเขาทำให้เธอค้อนเขาเสียวงใหญ่ “เพิ่งรู้นะคะนี่” “คุณกินอาหารเช้าหรือยัง” เสียงท้องของเธอเป็นคำตอบ ทำเอาพิมพ์พิศาต้องลูบท้องตัวเองอย่างเขินอาย “ผมคงไม่ต้องถามคุณซ้ำหรอกนะว่าคุณหิวหรือไม่หิว” ระยะทางที่ขับรถมาถึงคอนโดฯ ของเขาไกลพอสมควร เธอเหลือบมองเขาพลางคิดในใจว่าเขาขับรถจากคอนโดฯ มารับเธอไกลขนาดนี้เชียวหรือ พิมพ์พิศารีบเสไปมองข้างทางเมื่อเขาหันมาสบตากับเธอเข้าพอดี เธอกำลังมองเขาเพลินเชียว เวลาอยู่กับเปรม เธอรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองพอสมควร สมบูรณ์จอดรถหน้าคอนโดฯ หรูของเปรม ก่อนจะรีบลงไปเปิดประตูให้คนทั้งสอง ในขณะที่พิมพ์พิศากำลังเก้ ๆ กัง ๆ อยู่นั้น เปรมก็แตะข้อศอกของเธอเบา ๆ ทำให้หญิงสาวถึงกับสะดุ้ง “ตามผมมาสิ” เขาเอ่ยกับเธอก่อนจะเดินนำเข้าไปด้านใน พิมพ์พิศาเริ่มลังเลว่าจะตามเขาขึ้นไปดีไหม เธอเป็นผู้หญิงจะขึ้นห้องไปกับผู้ชายมันก็ดูไม่ดี “เร็วสิคุณ เดี๋ยวไปทำงานสายนะ เรามีเวลาไม่มาก” เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู เร่งเร้าให้เธอเดินตามเขาไป พิมพ์พิศาจึงต้องรีบตามเขาขึ้นไปบนห้องพัก “เชิญครับ” เขาเปิดประตูห้องให้เธอ ก่อนจะผายมือให้เธอเข้าไปด้านในก่อน เธอยืนอึ้ง ๆ ทำตัวไม่ถูกอยู่หน้าประตู แต่ก็โดนเขาดันร่างเข้ามาภายในห้องโดยไม่ทันตั้งตัว เพียงแค่ประตูปิดลง เปรมก็กดร่างของเธอไปกับผนังห้อง ก่อนที่ริมฝีปากหนาจะบดจูบเข้าหาปากของเธออย่างเร่าร้อน “อื้อ... ท่านประธานทำอะไรคะ” พิมพ์พิศาดิ้นรน แต่มือหนาของเขากดมือเธอไปกับผนังห้องไม่ยอมปล่อย “ผมหิว” “หิวอะไรคะ อื้อ... พอก่อนค่ะ” ถามอีกก็ถูกจูบอีก จูบจนปากแทบช้ำ “หิว” เขาตอบสั้นน้ำเสียงอ้อยอิ่ง มองริมฝีปากจิ้มลิ้มของเธอไม่วาง สายตาของเธอนั้นทำให้ท้องไส้ของเธอปั่นป่วนยิ่งนัก “ท่านประธาน อย่าค่ะ” เธอเบี่ยงหลบเมื่อเขาทำท่าจะประทับจุมพิตลงมาอีกครั้ง “ทำไมเรียกพี่เสียห่างเหินแบบนั้นล่ะ” “คะ” พิมพ์พิศาหลุดอุทานออกมา มองเขาตาปริบ ๆ พลางกัดปากตัวเองด้วยความรู้สึกใจสั่นสะท้าน อย่าบอกนะว่าเขารู้ความจริงหมดแล้ว “อุตส่าห์นั่งรถไปตั้งไกล เหนื่อยไหม”
ตัวอย่างบางช่วงบางตอน “เดี๋ยวบ่าวไปเอาขมิ้นกับมะขามเปียกก่อนนะเจ้าคะ คุณบัวรออยู่ที่ท่าน้ำก่อนนะเจ้าคะ” “จ้ะพี่” กลีบบัวตอบรับ นั่งรออยู่ที่ท่าน้ำด้วยจิตใจเลื่อนลอย “พี่พุดซ้อนมาแล้วเหรอจ๊ะ อุ๊ย! พี่พฤกษ์” หล่อนร้องอุทานเมื่อหันไปก็เจอเข้ากับพฤกษ์ที่วางมือร้อนๆ อยู่ตรงไหล่บอบบางของหล่อน “จะอาบน้ำเหรอ” เขาเอ่ยถาม “ค่ะพี่พฤกษ์” คนพูดมีท่าทีเขินอาย เสียงสั่นสะท้าน ก้มงุดเพราะตัวเองอยู่ในสภาพอันล่อแหลมนัก “ตัวหอมอยู่แล้ว ไม่ต้องอาบก็ได้” เขากระซิบลงตรงริมหู ใช้ริมฝีปากดุนดันกลีบปากของหล่อนเบาๆ พอหล่อนเบี่ยงหลบเขาก็หอมแก้ม ขบเม้มติ่งหูสาวอย่างมีชั้นเชิง “อย่าเจ้าค่ะพี่พฤกษ์ เดี๋ยวบ่าวในเรือนมาเห็นเข้า” “ไม่มีใครมาเห็นหรอก ข้าสั่งไอ้เข้มเอาไว้แล้วว่าไม่ให้ใครเข้ามา” “ตรงนี้เป็นท่าน้ำนะเจ้าค่ะ มันไม่เหมาะสม” “ท่าน้ำแล้วทำไม” เขาปลดอาภรณ์ออกจากกาย ไม่ได้สนใจเสียงประท้วงของหล่อนอีก เขาอยากได้อะไรก็ต้องได้ และเวลานี้เขาต้องได้หล่อนให้สมใจอยาก
เพียงดื่มน้ำชาจอกแรกที่ผู้เป็นมารดาเลี้ยงมอบให้ซุนฮวาก็กลายเป็นสตรีร้ายกาจ ปีนขึ้นเตียงท่านอ๋องผู้เป็นคู่หมายของน้องสาวจำใจกล้ำกลืนสถานะพระชายาตัวแทนเป็นเพียงเงาของผู้อื่นในสายตาของสวามี
ซ่งจิ่งถังรักฮั่วอวิ๋นเซินอย่างลึกซึ้งนานถึงสิบห้าปี แต่ในวันที่เธอคลอดลูกกลับตกอยู่ในอาการโคม่า ขณะที่ฮั่วอวิ๋นเซินกระซิบข้างหูเธออย่างอ่อนโยนว่า "ถังถัง อย่าฟื้นขึ้นมาอีกเลย สำหรับฉัน เธอไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว" ซ่งจิ่งถังเคยคิดว่าสามีของเธอเป็นคนอ่อนโยนและรักใคร่ตัวเอง แต่จริงๆ แล้วเขามีแต่ความเกลียดชังและใช้ประโยชน์จากเธอเท่านั้น และลูกๆ ที่เธอเสี่ยงชีวิตให้กำเนิด กลับเรียกหญิงสาวคนอื่นว่า 'แม่' ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนต่อหน้าที่เตียงคนไข้ของเธอ เมื่อซ่งจิ่งถังฟื้นขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอทำคือการตัดสินใจหย่าขาดอย่างเด็ดขาด! แต่หลังจากหย่าแล้ว ฮั่วอวิ๋นเซินจึงเริ่มตระหนักว่า ชีวิตที่ผ่านมาของเขาเต็มไปด้วยเงาของซ่งจิ่งถัง หญิงคนนี้กลายเป็นความเคยชินของเขา เมื่อพบกันอีกครั้ง ซ่งจิ่งถังปรากฏตัวในที่ประชุมในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เธอเปล่งประกายจนทุกคนต้องหันมามอง หญิงคนนี้ที่เคยมีแต่เขาในใจ บัดนี้กลับไม่แม้แต่จะมองเขาอีก ฮั่วอวิ๋นเซินคิดว่าเธอแค่ยังโกรธอยู่ ถ้าเขาเอ่ยปากพูดนิดหน่อย ซ่งจิ่งถังจะต้องกลับไปหาเขาแน่นอน เพราะเธอรักเขาหมดหัวใจ แต่ต่อมา ในงานหมั้นของผู้นำคนใหม่ของตระกูลเพ่ย เขาเห็นซ่งจิ่งถังสวมชุดแต่งงานหรูหรา ยิ้มอย่างเปี่ยมสุขและกอดแน่นเพ่ยตู้พร้อมสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ ฮั่วอวิ๋นเซินอิจฉาจนแทบคลั่ง เขาตาแดงก่ำและบีบแก้วจนแตก เลือดไหลไม่หยุด...
วิญญาณฮองเฮาชั่วร้ายต้องเข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูหลินจื่อเว่ยที่ตายโดยไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะต้องต่อกรกับแม่เลี้ยงใจยักษ์และโหดเหี้ยม งานนี้นางจึงต้องงัดฝีไม้ลายมือเก่า ๆ เอามาใช้ เพียงแต่ว่าเรื่องนี้ช่างยากเย็นนัก เมื่อนางมิได้ต่อสู้กับแม่เลี้ยงใจโฉดเพียงคนเดียว เมื่อบัดนี้กลับต้องเผชิญหน้ากับท่านอ๋องคู่หมั้น ที่วิปริตเย็นชาและยังเป็นโรคประสาทบ้าตัณหาผู้หนึ่ง!
"ฉันจะนอนกับคุณทุกที่ ทุกเวลา และทุกครั้งที่คุณต้องการ เพื่อแลกกับอิสรภาพของพ่อฉัน" "แล้วถ้าผมไม่ตกลงล่ะ" ในที่สุดเขาก็พูดออกมาจนได้ ยาหยีก้มหน้าซ่อนความเจ็บช้ำเอาไว้จนมิด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้งและพูดออกไปเสียงแผ่วเบา "ฉันจะให้คุณดูสินค้าก่อนก็ได้...แล้วค่อยตัดสินใจ" เมื่อบิดาของตนเป็นโจรขโมยเพชรล้ำค่าของตระกูลมาเฟียที่ยิ่งใหญ่แห่งกรุงมอสโค ยาหยี จำต้องโยนศักดิ์ศรีของตัวเองทิ้งแล้วกลายเป็นหญิงไร้ยางอายเพื่อให้บิดารอดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราชอย่างเขา ทางเลือกเพียงทางเดียวที่มีคือยอมพลีกายให้ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าหล่อเหลาในสามโลกได้เชยชม สาวพรหมจรรย์อย่างหล่อนแทบขาดใจตายเพราะบทพิศวาสเร่าร้อนรุนแรงที่ไม่เคยได้พานพบ ความวาบหวามครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขามอบให้ทำให้ยาหยีคลั่งไคล้ในรสสิเน่หา กายสาวร่ำร้องโหยหาแต่เขาเพียงผู้เดียว หากภายในใจก็ต้องคอยย้ำเตือนตนเองไว้ว่า หล่อนก็เป็นได้แค่ของเล่นชั่วคราว สักวันพอเขาเบื่อ ก็จะถูกเขี่ยทิ้งอย่างไร้ความปรานี!! จากที่คิดจะตามไล่ล่าเด็ดหัวคนทรยศให้แดดิ้นไปต่อหน้า คอร์เนล ซีร์ยานอฟ เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการโทรคมนาคมในประเทศรัสเซีย ก็เปลี่ยนเป้าหมายทันทีเมื่อได้เจอสาวน้อยนัยน์ตากลมหวานซึ้ง ใบหน้าหวานๆ ส่งผลให้เขาต้องการอยากครอบครองหล่อนแทบคลั่ง คอร์เนลมั่นใจว่ามันจะมีผลกับร่างแกร่งได้ไม่นานหรอก เพราะสำหรับเขา ผู้หญิงคือวัตถุทางเพศเคลื่อนที่ได้เท่านั้น เพียงได้ลิ้มลองแค่ครั้งเดียว เขาก็ไม่เคยหันกลับไปกินของเก่าอีก แต่ทฤษฎีนี้กลับใช้ไม่ได้ผลกับหล่อน ให้ตายสิ! เขาไม่เคยรู้สึกติดใจผู้หญิงรุนแรงขนาดนี้มาก่อน คอร์เนลหลงใหลเนื้อนุ่มจนกลายเป็นเสพติด ทั้งที่ความยโสโอหังของบุรุษเลือดเย็นเยี่ยงเขาพยายามบอกกับตนเองว่า เขายังเชยชมร่างงามไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่สูญเสียไป แต่ภายในใจลึกๆ กลับตะโกนก้องสวนทางออกมาว่า เขาขาดเธอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว!!
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY