“ฉันไม่ได้... แอบดูนายนะ...” หล่อนเห็นไหล่กว้างสีแทนไหวน้อยๆ ขณะที่พ่อเจ้าประคุณมองผ่านหล่อนไปราวกับตัวหล่อนเป็นอากาศธาตุยังไงยังงั้น อลิซกัดปากแน่น แทบอยากจะกระโจนลงไปขย้ำตาบ้านี่ในสระเสียให้รู้แล้วรู้รอด ทำไมเขาจะต้องทำราวกับว่าหล่อนไร้ค่าในสายตาของเขาเสียทุกครั้งที่เจอนะ “ผมว่าคุณกลับไปอยู่ในที่ๆ ควรอยู่ดีกว่า อย่ามาวุ่นวายกับผม...” “ทำไม? ที่นี่มันบ้านของฉัน... ฉันจะอยู่ตรงไหนก็ได้” เสียงถอนใจเฮือกใหญ่คล้ายกับกำลังข่มโทสะของจามาลดังมาเข้าหูหล่อน พร้อมๆ กับร่างกำยำที่มีเพียงกางเกงว่ายน้ำเพียงตัวเดียวก็กระโดดขึ้นมาจากสระ อลิซจำไม่ได้ว่าตัวเองเผลอมองตาบ้านี่นานเท่าไหร่ และมองตรงไหนนานเป็นพิเศษ แต่มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่เสียงเหยียดหยามของจามาลดังขึ้นนั่นแหละ “ผมไม่ชอบถูกผู้หญิงลวนลามด้วยสายตา...” อลิซหน้าแดงก่ำเมื่อสำนึกได้ว่าถูกด่าตรงๆ “ฉัน... ฉันลวนลามอะไรนายยะ ก็แค่... มองผ่านๆ เท่านั้นแหละ” หล่อนไม่ได้มองผ่านๆ หรอก แต่มองแบบจะกลืนกินเลยต่างหาก บ้าจัง... ทำไมหล่อนจะต้องเห็นว่าตานี่ดูดี ดูสมบูรณ์แบบ และน่ากินแบบนี้ด้วยนะ หล่อนเกลียดจามาลไม่ใช่หรือ อลิซถามตัวเอง และก็ได้คำตอบที่แสนปวดใจกลับมา ไอ้ความรู้สึกในตอนนี้มันช่างห่างไกลจากคำว่าเกลียดเสียเหลือเกิน มันเข้าใกล้คำว่า... หญิงสาวรีบสะบัดศีรษะเต็มแรงเพื่อกำจัดความคิดน่าอาเจียนให้ออกไปจากสมอง ไม่มีทาง หล่อนเกลียดจามาล เกลียดเข้าไส้ และคนที่หล่อนรักก็คือแมทธิวต่างหาก แมทธิว บราวน์คนเดียวเท่านั้น “แล้วไอ้ที่คุณจ้องเป้ากางเกงของผม แล้วเลียปากล่ะหมายความว่ายังไง”
อลิซ เบอร์ลัสโคนิ สาวน้อยวัย 18 ปี น้องสาวแท้ๆ ของ อเล็กซิโอ เบอร์ลัสโคนิยืนกัดฟันแน่นเมื่อสายตากลมโตสีดำขลับของตัวเองรับภาพความสมบูรณ์แบบของผู้ชายกระด้างอย่างจามาล เฟอร์ยาบีเข้ามาในสายตา ความหงุดหงิดพลุ่งพล่านอยู่ภายในอกอย่างมหาศาลเมื่อข้างกายของจามาลมีผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ใกล้ๆ
ทั้งๆ ที่พยายามบอกตัวเองว่าอย่าอารมณ์เสียเพราะผู้ชายไร้หัวใจคนนี้ พยายามบอกตัวเองว่าอย่าได้ใส่ใจเขา แต่... หล่อนก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงต้องรู้สึกหงุดหงิดงุ่นง่านแบบนี้ด้วย ทำไมจะต้องรู้สึกอยากจะวิ่งเข้าไปลากแม่สาวสวยที่ยืนกระแซะข้างๆ กายกำยำของจามาลให้ออกห่างแล้วเตะโด่งให้กระเด็นไปสุดขอบโลกแบบนี้ด้วยนะ
หล่อนรักแมทธิวไม่ใช่หรือ?
ใช่... หล่อนรักแมทธิว บราวน์ รักมากเสียด้วยและก็พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้แมทธิวหันมามอง แต่ไหงหล่อนถึงได้มาหมกมุ่นอยู่กับผู้ชายคนนี้นะ จามาล เฟอร์ยาบี ผู้ชายที่หล่อนแสนจะรังเกียจ ผู้ชายกระด้างเถื่อนถ่อยที่หล่อนไม่กล้าเข้าใกล้เลยแม้แต่น้อย
อลิซเม้มปากแน่น ฝืนตัวเองให้ละสายตาจากภาพตรงหน้า หล่อนหมุนตัวและเดินจากหน้าต่างห้องมาทิ้งตัวแรงๆ ลงบนที่นอนนุ่ม ใบหน้างามหวานหยดย้อยยังคงเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง แต่กระนั้นมันก็ยังสู้หัวใจไม่ได้ หัวใจที่ตอนนี้ลุกเป็นไฟเสียแล้ว
“ผู้ชายบ้า... ทำไมต้องมาพลอดรักกันให้เราเห็นด้วยนะ”
หญิงสาวบ่นงึมงำไม่พอใจ ทิ้งตัวลงนอนหงายแรงๆ ดวงตาหวานฉ่ำจดจ้องไปยังเพดานห้อง แต่แล้วก็ต้องสบถออกมาเบาๆ เมื่อภาพบนเพดานห้องยังคงเป็นใบหน้าของจามาลไม่เปลี่ยนแปลง นี่หล่อนจะต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่มองทุกสิ่งทุกอย่างเป็นตาบ้านั่นนะ
สาวน้อยผุดลุกขึ้นนั่ง พยายามคิดหาทางออกให้กับความคิดในสมองของตัวเอง หล่อนจะต้องบ้าตายแน่ๆ กับความคิดที่มีต่อ จามาล ผู้ชายที่หล่อนก็ยังไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าไปคิดถึงเขาทำไมกัน อลิซถอนใจออกมาซ้ำๆ กันหลายครั้งจากนั้นก็ก้าวลงจากเตียง ก่อนที่เท้าบอบบางจะก้าวออกไปจากห้องนอนอย่างรวดเร็ว
จุดหมายน่ะเหรอ... ก็สถานที่ที่จามาลกับแม่ผู้หญิงคนนั้นอยู่ยังไงล่ะ
“ฉันมีห้องให้ยืมใช้ต่างโรงแรม สนใจไหม?”
อลิซเปิดฉากโจมตีทันทีเมื่อเดินเข้ามาหยุดอยู่ห่างจากตรงศาลากลางสวนที่จามาลกับแม่ผู้หญิงน่าหมั่นไส้คนนั้นกำลังคุยกะหนุงกะหนิงกันอยู่ ผู้หญิงคนนั้นหันมามองหล่อนตั้งแต่หัวจรดเท้า ในขณะที่พ่อตัวดีไม่ได้ขยับเขยื้อนสายตามามองหล่อนเลยแม้แต่นิดเดียว
“เด็กที่ไหนกันคะเจเจ... ปากร้ายไม่เบา”
แม่ผู้หญิงตรงหน้าละสายตาจากหล่อนไปฉอเลาะกับจามาลด้วยน้ำเสียงหวานหูจนคนฟังอย่างหล่อนแทบอยากจะอาเจียนออกมาเสียให้ได้ ไม่อยากจะเชื่อว่าจามาลมีรสนิยมเรื่องผู้หญิงแบบนี้
“ฉันไม่ใช่เด็กย่ะ!”
“เหรอ...”
ยายผู้หญิงคนนั้นหันมาจ้องหล่อนอีกครั้ง และตอบเสียงยานครางประมาณว่าสบประมาทอย่างนั้นแหละ
อลิซกัดฟันแน่นเพื่อข่มตัวเองให้เย็นที่สุด
“แต่เท่าที่ดูสัดส่วนของเธอ... อะไรอะไรมันยังไม่โตเต็มตัวเลยนี่ ยัง... เด็กๆ เล็กๆ อยู่เลย”
เจ้าหล่อนพูดจบก็หันไปหัวเราะกับจามาล ดีนะที่ตาบ้านั่นไม่ผสมโรงหัวเราะออกมาด้วยไม่อย่างนั้นหล่อนคงได้กระโจนเข้าไปข่วนหน้าหล่อๆ เย็นชานั้นเสียเดี๋ยวนี้แหละ อลิซเม้มปากก่อนจะปั้นหน้ายียวนออกมา สาวน้อยเดินเข้าไปใกล้คู่สนทนา ก่อนจะใช้สายตาเดียวกันกวาดมองร่างของคู่ควงของจามาล
“ถึงฉันจะไม่ได้ใหญ่โตเท่าเธอ... แต่ฉันก็ของจริง ไม่มีซีลิโคนแปลกปลอม” อลิซหัวเราะร่วน เมื่อเห็นอีกฝ่ายหน้าแดงก่ำด้วยความอับอาย จากนั้นถึงโจมตีต่อไปอีก
“ซึ่งถ้าฉันมองไม่ผิด... ในตัวของเธอคงไม่มีอะไรเป็นของจริงใช่ไหม ตั้งแต่นมยัน...”
สายตาของอลิซมองต่ำลงไปหยุดที่อวัยวะกลางลำตัวของคู่สนทนา จากนั้นก็เลื่อนขึ้นมามองหน้าอีกครั้ง
“ทั้งตัวนี่เสียไปเท่าไหร่ล่ะ กี่ล้านกัน...”
“นี่ยัยเด็กปากเสีย!”
คู่สนทนาของหล่อนลุกพรวดขึ้นจากที่นั่ง จากนั้นก็กระโจนลงมาเผชิญหน้ากับหล่อนในระยะกระชั้นชิด อลิซปลายตามองไปยังคนตัวโตก็เห็นเขายังคงนั่งนิ่งได้ราวกับว่าตรงนี้ไม่ได้มีสงครามย่อยๆ เกิดขึ้นอย่างนั้นแหละ
“ฉันพูดความจริงต่างหาก หัดยอมรับความจริงซะบ้างสิคะ”
อลิซหัวเราะร่วนด้วยความสะใจที่เห็นคู่สนทนาเต้นเร่าๆ ด้วยความอับอาย
“นังเด็กบ้า...”
ยายนั่นกราดเกรี้ยวใส่หล่อนอีกครั้ง ก่อนที่แม่คุณจะหันไปขอความช่วยเหลือจากจามาล แต่พ่อคุณช่างมีน้ำใจเสียเหลือเกิน
“เจเจคะ ดูนังเด็กคนนี้สิคะ ปากดีราวกับทำฟาร์มสุนัขเอาไว้ในปากยังงั้นแหละ”
“เชิญตามสบายเถอะ ผมไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับสงครามของผู้หญิง...”
ว่าแล้วพ่อคุณก็ลุกขึ้นยืนและก็เดินตัวปลิวผ่านไปทันที ทั้งหล่อนทั้งแม่คู่ควงอ้าปากค้างเติ่งพอๆ กัน จนแผ่นหลังกว้างลับตาไปแล้วนั่นแหละอลิซถึงได้กลับเข้ามาสู่สงครามน้ำลายต่ออีกครั้ง
“เห็นไหมว่าตานี่เป็นผู้ชายที่ไม่ได้เรื่องสักนิด... เธอควรจะเลิกสนใจเขาได้แล้วล่ะ ผู้ชายดีๆ ในโลกนี้ยังมีอีกตั้งเยอะ”
อลิซแนะนำ แต่คู่สนทนาเบ้ปากอย่างไม่เห็นด้วย
“เด็กอย่างเธอจะไปรู้อะไร... เจเจน่ะมีดีว่าผู้ชายทุกคนบนโลกนี้เสียอีก เขาทั้งหล่อ ทั้งรวย แล้วก็...”
“แล้วก็อะไรไม่ทราบ...”
อลิซสงสัยและก็อดจะสงบปากสงบคำรอจนคู่สนทนาพูดไม่ได้
แม่คู่สนทนาสาวเชิดหน้าสูง ระบายยิ้มเหยียดหยามออกมาพร้อมๆ กับกวาดตามองร่างกายของหล่อนอย่างละเอียดลอออีกครั้งหนึ่ง
“ก็เซ็กซ์จัดยังไงล่ะ”
อลิซแก้มแดงระเรื่อกับคำพูดของคู่สนทนา
“เจเจเป็นผู้ชายที่ตั้งรับและรุกได้อย่างยอดเยี่ยม ผู้หญิงคนไหนได้นอนกับเขาน่ะถือว่าเป็นบุญแล้วรู้ไหม ขนาดฉันได้นอนกับเขาแค่คืนเดียว ยังติดใจจนต้องวิ่งโร่มาหาถึงอิตาลีนี่เลย แต่ว่าเด็กอย่างเธอจะไปรู้อะไร... และจากที่ฉันมองเธอ ยังไม่เคยมีเซ็กซ์สักครั้งเลยใช่ไหมล่ะ”
ยายนั่นหัวเราะเยาะหล่อน อลิซเม้มปากแน่น เชิดหน้าสูง
“แล้วไง ฉัน... จะมีเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ฉันไม่มีทางแลตาบ้านี่หรอก”
หล่อนอุตส่าห์พูดอย่างมั่นใจสุดๆ แล้วแต่ยายคู่สนทนากับยังหัวเราะเยาะอยู่อีก
“แน่ใจหรือว่าจะมีผู้ชายคนไหนสนใจผู้หญิงจืดชืดแบบเธอ นี่ฉันจะบอกอะไรให้นะ ผู้ชายสมัยนี้นะชอบผู้หญิงเก่งๆ ลีลาเด็ดๆ สาวๆ พรหมจารีน่ะไม่มีใครมองหรอก...”
แล้วแม่คุณก็กรีดเสียงหัวเราะอีกครั้ง มันบาดลึกเข้าไปในโสตประสาทของหล่อนอย่างรุนแรงเลยทีเดียว พลันคำพูดของพี่ชายก็ย้อนกลับเข้ามาในหัวอีกครั้ง
เมื่อ คิมหันต์ ชายหนุ่มหล่อ รวย ทายาทคนเดียวของตระกูล ถูกใจ พอฤทัย นักกายภาพบำบัดที่คุณย่าจ้างมา เขาคิดว่าหล่อนง่าย แต่หล่อนกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดเลย หล่อนสวย แต่ยาก และนั้นก็ยิ่งทำให้เขากระหาย ยิ่งอยากได้หล่อนจนใจจะขาด ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ประตูห้องยังไม่ทันจะปิดสนิท คิมหันต์ก็ดึงคนตัวเล็กเข้ามาประกบปากจูบดูดดื่ม ราวกับว่าถ้ารออีกนิดเดียวเขาจะขาดใจตาย "คุณคิมหันต์ อย่าค่ะ...คุณปวดเอวอยู่ไม่ใช่เหรอ?" หล่อนจับมือที่บีบขยำนมออก แต่เขาก็เอาขึ้นมาบีบใหม่ ก้มหน้าลงกระซิบข้างหู "ปวดก็ต้องซ้ำครับ จะได้หายปวด" พูดจบก็อุ้มร่างบางขึ้นแนบอกทันที พอฤทัยรู้ว่าโดนหลอก ก็โมโหเอาฟันกัดที่หัวไหล่เขาไปทีหนึ่ง แล้วก็รู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดครั้งใหญ่ เมื่อได้ยินประโยคที่เขาพูดออกมา "ที่แท้คุณก็ชอบความรุนแรงนี่เอง ได้เลยครับเมียจ๋า...เดี๋ยวผัวจัดให้" เขาเดินก้าวยาว ๆ จนมาถึงเตียง วางร่างบางบนที่นอน จากนั้นก็ถอดเหมือนกระชากชุดของหล่อนออกจากร่าง ตามด้วยเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วทาบทับลงไป "เห็นคุณชอบความรุนแรงแบบนี้ แสดงว่าต้องชอบแบบจูบแรกของเราด้วยใช่ไหม?" เขาเคลื่อนหน้าลงมาถาม หล่อนถลึงตาใส่เขา เมื่อนึกถึงจูบรุนแรง ที่มีแต่ความเจ็บตรงหน้าห้องน้ำ "ก็ลองทำอีกสิ คราวนี้ฉันจะกัดลิ้นคุณให้ขาดเลย" เขาได้ยินก็หัวเราะเสียงร่วนออกมา ก่อนจะก้มหน้าลงไปจูบกลีบปากอิ่มอ่อนโยน และเปลี่ยนเป็นร้อนแรงขึ้นในเวลาต่อมา
นนท์ปวิธคือคุณหมอหนุ่มรูปงามและใจดี และมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้นที่ได้เห็นมุมมืดของผู้ชายคนนี้ มุมมืด... ที่เขาสร้างเอาไว้เพื่อทำร้ายเธอเพียงคนเดียว +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "นอนกับฉัน แล้วฉันจะยอมช่วยลูกสาวของเธอ" นี่คือข้อเสนอของนายแพทย์นนท์ปวิธ อริณวัฒน์ ศัลยแพทย์หัวใจชื่อดังของเมืองไทย เขาคือเทพเจ้าแห่งการผ่าตัดหัวใจ เพราะคนไข้ทุกคนที่ผ่านมีดผ่าตัดของเขาจะประสบความสำเร็จทุกราย ทุกคนต่างชื่นชมในฝีมือและความมีน้ำใจของคุณหมอหนุ่มหล่อคนนี้มาก เขาคือเทพบุตร คือเทวดาสำหรับคนไข้และญาติๆ แต่ในมุมมืดของเขามีเพียงแค่หล่อนคนเดียวที่ได้เห็น แน่ล่ะ... เขาสร้างมุมมืดเอาไว้เพื่อทำร้ายหล่อนแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น "ตกลงค่ะ" รอยยิ้มหยันเกลื่อนใบหน้าหล่อเหลาของนายแพทย์นนท์ปวิธ ขณะที่เคลื่อนเรือนร่างสูงโปร่งหกฟุตสามนิ้วเข้ามาหยุดใกล้ๆ "งั้นก็คืนนี้เลย" "ตาว... ขอเวลา..." "ลูกสาวของเธอ มีเวลาเหลือเยอะสินะ" "เอ่อ..." "ฉันต้องการเอาเธอคืนนี้..." แล้วเท้าใหญ่ก็ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก จนตอนนี้ร่างกายอยู่ห่างกันแค่เพียงฟุตเดียวเท่านั้น กลิ่นหอมเฉพาะตัวของเขาโชยฟุ้งเข้ามาในจมูก ทำให้รจิตราตัวสั่นเทา หล่อนช้อนตาขึ้นมองคนตัวสูง ซึ่งเขาก็ลดสายตามองลงมามองพอดี ดวงตาสองดวงสบประสานกัน โลกทั้งใบหยุดหมุน ความทรงจำเมื่อห้าปีก่อนย้อนกลับเข้ามาราวกับสายน้ำไหลหลาก ความทรงจำที่หล่อนไม่เคยลืม... และใช้มันหล่อเลี้ยงหัวใจมากว่าห้าปี
ในสายตาของทุกคน คชาวุฒิเก่งฉลาด สุภาพเรียบร้อย และสุดเนิร์ด คงมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้น ที่รู้ว่าใต้แว่นตาหนาของเขาซ่อนความร้อนแรงเอาไว้มากแค่ไหน ไม่รู้จะอวยยศให้อาจารย์ฟิสิกส์คนนี้ยังไงดี แต่รับประกันว่าอาจารย์แซ่บมาก แซ่บฉ่ำแฉะ^^ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "ตรงไหนดี..." หล่อนควรต่อต้านสิ ควรผลักไส เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ควรเกิดขึ้นเลย แต่... แต่ร่างกายของหล่อนมันอ่อนระทวยไม่มีแรงเลย "ตรงไหนดีเด็กน้อย..." เขากระซิบถามเสียงกระเส่า "ถ้าคุณไม่ตอบ ผมจะเลือกเองนะ..." "อาจารย์... หนู... หนู..." ใบหน้านวลแดงระเรื่อ ตอนนี้สมองของหล่อนขาวโพลนไร้ความคิดชั่วคราว รอยยิ้มจากปากหยักสวยของอาจารย์ฟิสิกส์สุดหล่อช่างบาดใจเหลือเกิน เขาค่อยๆ ย่อตัวลง และคุกเข่าลงกับพื้น ขณะที่สายตาช้อนขึ้นมาสบประสานกับหล่อนตลอดเวลา ไฟร้อนๆ ในดวงตาของเขากำลังแผดเผาให้หล่อนมอดไหม้ "อา... จารย์..." นี่เขากำลังจะทำอะไรน่ะ เขาคุกเข่าทำไม
พระเอกเรื่องนี้แรกๆ จะออกแนวปากหมา ใจร้าย ชอบทำนางเอกช้ำใจ แต่หลังจากเห่าหอนเป็นแล้ว ก็จะกลายเป็นหมาโบ้คลั่งรักสุดๆ เลยค่ะ ไรต์นอนยันเลย 555+++ คำเตือน... พระเอกเรื่องนี้โบ้ซ้ำโบ้ซ้อนโบ้ไม่ปรานีใคร 55 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "คุณ... ภาม... เป็นอะไรคะ..." คำถามของหล่อนตะกุกตะกักจนแทบฟังไม่เป็นคำ "หึ... ยังจะมีหน้ามาถามอีกหรือคาลิสา!" เขายื่นมาบีบคอของหล่อน และนั่นก็ทำให้หล่อนตกใจแทบช็อก "คุณภาม... ครีม... กลัว..." ทำไมเขาทำแบบนี้ ทำไมภาวินทร์ถึงบีบคอหล่อนล่ะ แม้จะไม่ได้บีบแรงนัก แต่ก็ทำให้หล่อนกลัวจนแทบหยุดหายใจ "เธอนี่มันเลี้ยงไม่เชื่อง" "คุณภาม... พูดอะไรคะ ครีมไม่เข้าใจ... อ๊ะ..." นิ้วยาวของเขาบีบเค้นลงกับลำคอขาวผ่องของหล่อนแรงขึ้น จนหล่อนเกือบจะหายใจไม่ออก "ยังจะมีหน้ามาถามอีกเหรอ เธอไปทำอะไรเอาไว้ล่ะ" "ครีม... ครีมเปล่า..." "เลิกตอแหลเถอะ ฉันรู้เรื่องจากน้องอัญหมดแล้ว" "..." "เธอจงใจละเมิดข้อตกลงของเรา" "ครีมเปล่านะคะ คุณอัญเธอรู้อยู่แล้ว... เธอรู้จากคุณภามไม่ใช่เหรอคะ..." หล่อนพยายามจะอธิบายในมุมของตัวเอง แต่ชายหนุ่มไม่ยอมรับฟัง "เธอเดือดร้อน ฉันก็ช่วย ให้ข้าวให้น้ำ ให้เงิน เซ็กซ์ดีๆ ฉันก็ให้ งานก็มีให้ทำ แล้วเธอยังต้องการอะไรจากฉันอีก อยู่เงียบๆ อยู่ในที่ตัวเองไม่ได้หรือไง หื้อ!" "ครีม... ฮืออออ..." "แล้วเธอยังมีหน้าไปโกหกน้องอัญว่าท้องกับฉันอีกเหรอ เธอกล้าดียังไงพูดแบบนั้นออกไป คาลิสา!" หากหล่อนบอกออกไปว่าตัวเองกำลังตั้งท้องลูกของเขาจริงๆ ภาวินทร์ก็คงจะไม่เชื่อ ใช่... เขาไม่มีทางเชื่อหรอก ตอนนี้เขาเชื่อคำพูดของคู่หมั้นคนสวยของเขาคนเดียวเท่านั้น "ตอบมาสิ... เธอท้องลูกของฉันจริงหรือเปล่า" ใบหน้าที่เปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตาส่ายไปมา ก่อนจะตอบเสียงสะอื้น "ไม่... ไม่ได้ท้องค่ะ..." "หึ... นึกอยู่แล้วเชียว เธอมันก็แค่ผู้หญิงมารยา ที่ต้องการทำให้ฉันเดือดร้อนเท่านั้นเอง" เขาหยุดบีบคอของหล่อน และผลักร่างของหล่อนออกห่าง แสดงท่าทางรังเกียจออกมา "เราเลิกกันเถอะ"
เรื่องนี้พระเอกเป็นพวกชอบวิ่ง ตอนแรกวิ่งหนี ตอนหลังวิ่งชนจนมดลูกน้องแทบอักเสบ ฝากติดตามเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยค่ะ เลิฟ เลิฟ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "พี่วิศ... ทำไมพี่เปลี่ยนไปแบบนี้คะ... อื้อ... อย่าทำแบบนี้สิคะ... " แม้จะพยายามขัดขืน แต่เสียงก็แผ่วเบา และอ่อนแรงเหลือเกิน "แล้วชอบพี่แบบนี้ไหมล่ะครับ... อืมม หอมจัง" ปลายจมูกของเขาซุกไซ้อยู่ที่ลำคอ ในขณะที่ฝ่ามืออบอุ่นลูบไล้ซุกซน "พี่ชอบก้นของเธอจัง นุ่มนิ่มมาก" "พี่วิศ..." "และพี่ก็ชอบเสียงครางของเธอด้วย ฟังแล้วยิ่งมีอารมณ์..." เขาเงยหน้าขึ้นจากลำคอของหล่อนที่ดูดเม้มจนแดงช้ำ ดวงตาสบประสานกัน ก่อนที่ปากหยักสวยจะแนบชิดลงมาหา เขาจูบเบาๆ หนึ่งครั้ง ก่อนจะกระซิบเสียงแปร่งพร่า "ให้พี่เอานะ... พี่หิว..."
เพราะแอบรักจึงยอมทุกอย่าง ยอมแม้กระทั่งเป็นคนในความลับ อยู่เงียบๆ ในเงามืดชั่วนิรันดร์ กฎของเขาก็คือ มีอะไรกัน นอนด้วยกัน สนุกกัน แต่ห้ามบอกใคร ห้ามให้ใครรู้ว่ามีความสัมพันธ์กันแบบไหน ในที่ทำงานเขาคือท่านประธาน และเธอก็คือพนักงานคนหนึ่งในบริษัทเท่านั้น เมื่อเจอกันก็ทักทายกันบ้างแบบเจ้านายกับลูกน้อง ห้ามแสดงท่าทางหรือแสดงความเป็นเจ้าของ ห้ามโพสต์สถานะในโซเชียล แม้จะไปเที่ยวด้วยกัน ไปถึงไหนต่อไหนด้วยกันก็แล้วแต่ห้ามเปิดเผยทั้งนั้น ซึ่งด้วยความรักที่มีต่อเขา ทำให้เธอตกลงยอมเป็น คนในความลับของเขาอย่างเต็มใจ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "มามี๊ขา..." วชิรวัฒน์มองเด็กหญิงตัวน้อยที่อายุน่าจะไม่ถึงสามขวบวิ่งเข้ามาสวมกอดฟาริดาด้วยความประหลาดใจและตกใจในเวลาเดียวกัน เขามองใบหน้ากลมๆ ของเด็กหญิงคนนั้น สลับกับใบหน้าของฟาริดา ซึ่งก็พบว่าหญิงสาวกำลังหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด "นี่มันอะไรกัน น้องฟาง... เด็กคนนี้... เป็น..." เขายังพูดไม่ทันจบ ฟาริดาก็ดันร่างของเด็กหญิงไปไว้ด้านหลัง ก่อนจะตอบเขาด้วยสุ่มเสียงดังฟังชัด "ลูกสาวของฟางเองค่ะ" วชิรวัฒน์ถึงกับอึ้ง เขาหันไปมองสบตากับอภิวัฒน์ ก็พบว่าเลขาฯ หนุ่มก็อึ้งไม่ต่างกัน หลังจากตั้งสติอยู่ชั่ววินาที เขาก็หันกลับมาจ้องหน้าฟาริดาเขม็ง "เด็กคนนี้เป็นลูกของใครครับ" เขาพยายามที่จะถามเสียงสุภาพ ทั้งๆ ที่ภายในในเต็มไปด้วยเพลิงไฟกัลป์ เพราะอย่างนี้เองเหรอ ฟาริดาถึงได้หนีจากเขาไป เพราะหล่อนท้อง... แล้วหล่อนท้องกับใครล่ะ นอกจากเขาแล้ว หล่อนยังแอบมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นอีกอย่างนั้นเหรอ บ้าชิบ! นี่หล่อนกำลังจะทำให้เขาโมโหจนเป็นบ้าอยู่แล้วนะ! "ลูกของใครก็ช่างเถอะค่ะ แต่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพี่โรมแน่นอน"
หลังจากถูกแฟนหนุ่มและเพื่อนสนิทของเธอจัดฉาก เฉี่ยนซีก็จบลงด้วยการใช้เวลาทั้งคืนกับชายแปลกหน้าลึกลับคนนั้น เธอมีความสุขมาก แต่พอเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกผิดทั้งหมดของเธอถูกชะล้างออกไป เมื่อเธอเห็นใบหน้าของชายที่นอนอยู่ข้างเธอ เธอจึงเอ่ยด้วยเสียงเบา ๆ ที่ว่า "ผู้ชายอะไร ทำไมหล่อจัง" และเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น ความผิดของเธอกลายเป็นความละอายใจโดยทันที และมันทำให้เธอตัดสินใจทิ้งเงินจำนวนหนึ่งไว้ให้ชายผู้นั้นก่อนที่เธอจะจากไป "เจ๋อข่าย" รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเงินดังกล่าว พร้อมกับคิดว่า 'ผู้หญิงคนนั้นพยายามจะจ่ายเงินให้ฉัน ราวกับว่า ฉันเป็นผู้ชายขายบริการอย่างนั้นหรอ? ' เขารู้สึกโกรธ จึงต้องการดูภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม เขาสั่งผู้ช่วยของเขาด้วยใบหน้าที่จริงจังพร้อมขมวดคิ้ว "ผมอยากรู้ว่า ใครอยู่ในห้องของผมเมื่อคืนนี้" 'อย่าให้เจอนะ ถ้าเจอเมื่อไหร่จะสั่งสอนให้เข็ดเลย! ' เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ
ลู่เจียหง นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังในยุคปัจจุบัน จับผลัดจับพลูลงลิฟต์ก็โผล่ไปยังยุคโบราณ แถมยังอยู่ในชุดเจ้าสาวอีก ถ้าประหลาดแค่นั้นไม่พอคงไม่เป็นไร ถ้าไม่พบว่าตัวเองกำลังถูกตามล่าจากว่าทีสามีที่ยังไม่ทันเข้าหอ งานนี้นางถือคติไม่ยุ่งเกี่ยวต่างคนต่างอยู่ แต่ท่านอ๋องผู้นั้นก็เอาแต่วนเวียนอยู่ข้างตัวนางไม่หยุด แบบนี้นางจะหย่าสำเร็จได้ตอนไหนกัน!!
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน