เพราะเคยไปกำราบตำหนักทรงเนื่องในข้อหาฉ้อโกงและหลอกลวงประชาชน ทำให้ 'พยัคฆ์' ผู้กองหนุ่มอนาคตไกลถูกเจ้าปู่เจ้าของตำหนักทรงทำคุณไสยใส่พร้อมกับคำสาปที่จะทำให้เขาไม่อาจพบความสุขในชีวิตอีกต่อไป เรื่องสิ่งลี้ลับเหล่านี้ คนหัวสมัยใหม่อย่างพยัคฆ์ไม่เคยเชื่อและไม่มีวันเชื่อ กระทั่งคำสาปนั้นกำเนิดกับตัวเอง กายหนุ่มกำยำในตอนกลางวันนั้นกลับกลายเป็นครึ่งคนครึ่งเสือโคร่ง หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า 'เสือสมิง' ในยามวิกาล ยิ่งพยัคฆ์เผลอทำร้ายอดีตคนรักโดยไม่ได้ตั้งใจจนเกือบถึงความตาย ชายหนุ่มจึงปิดตัว ปิดใจ ออกจากราชการ และปลีกวิเวกไปใช้ชีวิตในไร่ที่ชนบทตามลำพัง 'แก้วตา' หญิงสาวถูกส่งตัวมาดูแลเขาในฐานะคนคุ้นเคย เธอเต็มใจด้วยมีจิตปฏิพัทธ์กับเขามาตั้งแต่เยาว์วัย หากแต่การมาอยู่ดูแลพยัคฆ์โดยที่เขาไม่ต้องการ กลับเป็นการทำให้เธอก้าวเข้าสู่โลกที่เธอไม่เคยพบมาก่อน เมื่อความลับถูกเปิดเผย ใจของเธอจะเปลี่ยนไปหรือไม่ หรือจะรอดชีวิตกลับสู่อ้อมอกของครอบครัวหรือเปล่า เป็นสิ่งที่แก้วตาคาดเดาไม่ได้เลย...
เคยได้ยินผู้เฒ่าผู้แก่พูดเตือนกันว่า ‘ไม่เชื่ออย่าลบหลู่’ ไหม?
สำหรับ ‘พยัคฆ์’ ผู้กองหนุ่มประจำสถานีตำรวจใจกลางเมืองหลวงแล้ว เขาได้ยินประโยคนี้มานับไม่ถ้วนตั้งแต่เด็กจนโต รวมถึงตอนนี้ที่เขาได้รับมอบหมายหน้าที่ให้พากองกำลังตำรวจมาเข้าจับกลุ่ม ‘เจ้าปู่ไพร’ เจ้าของตำหนักทรงเจ้าเข้าผีที่อยู่ในพื้นที่ ในข้อหาฉ้อโกง หลอกลวงประชาชน และล่วงละเมิดทางเพศสาวน้อยสาวใหญ่ที่มา ‘ทำของ’ ณ ตำหนักนี้ด้วย
จากข้อมูลที่พยัคฆ์ได้มา คือเจ้าปู่ไพร ชายวัยกลางคนที่ตั้งตัวเป็นคนมีคาถาอาคมคนนี้มีชื่อเสียงมากในเรื่องการทำเสน่ห์ มักมีลูกศิษย์ลูกหา หรือใครก็ตามที่หมายจะเพิ่มเสน่ห์ให้ตนเองเข้ามาทำพิธีกรรมต่างๆ อยู่บ่อยๆ หากแต่การทำพิธีของเขานั้น ไม่ใช่พิธีการลงนะหน้าทองปิดทองทั่วๆ ไป แต่เป็นการฝังร่างของตนลงไปในร่างของผู้มาทำเสน่ห์ด้วย หรือที่พูดกันง่ายๆ...ก็คือการร่วมหลับนอนกับคนที่มาทำเสน่ห์นั่นแหละ
ไม่ว่าจะชายหรือหญิง อายุมากหรือน้อย ล้วนแล้วตกเป็นเหยื่อความเชื่อของพ่อปู่ไพรทั้งนั้น เรื่องนี้จะไม่เป็นข่าวใหญ่เช่นนี้เลยถ้าหากว่าพ่อปู่ไพรไม่ไปทำพิธีกรรมให้เด็กที่อายุยังไม่ครบสิบแปดปีบริบูรณ์ จะเพราะเด็กเต็มใจหรือไม่ ก็นับว่าเป็นการล่วงละเมิดทางเพศ พ่อแม่ของเด็กที่ไปทำของตามความคึกคะนองประสาวัยรุ่นนั้นไม่ยอมความ จะเอาเรื่องให้ได้ จึงเป็นเหตุให้ถูกสืบสาวราวเรื่อง รวบรวมเจ้าทุกข์ที่ค่อยๆ มาแจ้งความทีละคนสองคน จนมีจำนวนมาก นำไปสู่การเข้าจับกุมในที่สุด
การจับกุมพ่อปู่ไพรก็หาใช่เรื่องง่ายดายนัก ไม่ใช่เพราะว่าเขามีคาถาอาคม เข้าจับตัวไม่ได้ แต่เป็นเพราะลูกศิษย์และชาวบ้านบางกลุ่มมาออกหน้าคอยปกป้อง ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ ทำให้ตำรวจต้องทำงานหนักกว่าเดิมเป็นเท่าตัว จากที่จะเข้าจับโดยละมุนละม่อม กลายเป็นว่าพ่อปู่ไพรหนีออกจากตำหนักเข้าป่าไป เหล่าตำรวจเลยต้องบริหารกำลังขา วิ่งไล่ตามเข้าปารกชัฏกันเป็นทิวแถว เรื่องนี้ทำเอาพยัคฆ์หัวเสียเป็นอย่างมาก
จะงมงายกันไปถึงไหน ไม่มีใครสามารถทำให้ใครรักกันได้หรอกถ้าหากใจไม่ได้ปฏิพัทธ์กันทั้งสองฝ่าย!
พยัคฆ์ไม่เชื่อเรื่องนี้เลยสักนิด แม้แต่เรื่องความรักระหว่างชายหญิงที่มั่นคงนิรันดร์ เขายังไม่เชื่อเลย รักกันแต่แรกเริ่ม อยู่กันไปนานๆ ก็ต้องเบื่อหน่ายกันเป็นธรรมดา มันเป็นสัจธรรมของชีวิต สิ่งที่ทำให้อยู่ด้วยกันนานคือความผูกพันและความดีของแต่ละฝ่าย เป็นไปไม่ได้หรอกที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะรักอีกฝ่ายมากจนสามารถทำได้ทุกอย่าง ไม่เว้นกระทั่งเรื่องคุณไสยมนตร์ดำ ทำทุกวิถีทางเพื่อให้คนรักกลับคืนมา
ใช่ เขาไม่ศรัทธาในความรักระหว่างชายหญิงสักเท่าไร นั่นเป็นเพราะเขารู้ดีว่าพ่อแม่ของเขาที่อยู่ด้วยกันจนมาถึงป่านนี้ เป็นเพราะเขา หากไม่มีเขาเป็นกาวใจแล้วล่ะก็ ป่านนี้พวกท่านหย่าร้างกันไปตั้งแต่ตอนที่พวกท่านมีปัญหาเรื่องมือที่สามแล้ว
เรี่องครอบครัวของเขา เขาไม่โทษว่าใครเป็นฝ่ายผิด ถือเสียว่าเป็นการเลือกของพ่อแม่ ซึ่งเขาเคารพในการตัดสินใจ และไม่เข้าไปยุ่งอีกแล้วด้วยเขาโตมากพอที่จะดูแลตัวเอง และปล่อยให้พวกท่านมีทางเลือกอื่นที่อิสระกว่านี้ เขาหมายถึง...หากพ่อแม่จะหย่าร้างกันในตอนนี้ เขาก็โอเคน่ะ ถ้าการอยู่ด้วยกันไม่มีความสุข เขาก็ไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องอยู่ด้วยกัน
พอได้มาทำคดีนี้ เขาถึงได้หัวเสียมากเมื่อเห็นลูกศิษย์ลูกหาของพ่อปู่ไพรขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ เปิดลู่ทางให้พ่อปู่ไพรหนีไปได้
เขากับพรรคพวกวิ่งไล่ชายวัยกลางคนคนนั้นเข้าไปในป่าหญ้าแพรกเรื่อยๆ น่าแปลกที่วิ่งตามไปมา ดุเหมือนจะมีแค่พยัคฆ์เท่านั้นที่วิ่งไล่พ่อปู่ไพรมาทัน ด้วยความที่เป็นคนออกกำลังกาย แข็งแรงเป็นเนื้อแท้เดิมทีอยู่แล้ว ไม่ทันไรก็ไล่หลังพ่อปู่ไพรที่วิ่งกระเซอะกระเซิงได้ติดๆ พอเห็นแผ่นหลังของหมอผีลวงโลกลิบๆ มือทั้งสองจับอาวุธปืนยื่นออกไปข้างหน้า ปากร้องกู่ก้องขู่
“หยุดเดี๋ยวนี้! ถ้าขัดขืนการจับกุม ผมไม่รับประกันความปลอดภัยของคุณนะ!”
แต่เสียงนั้นก็ไม่อาจทำอะไรอีกฝ่ายได้ ยังคงวิ่งหนีอุตลุดจนพยัคฆ์ต้องออกปากอีกครั้ง
“ผมขอสั่งให้หยุด! เฮ้ย! บอกให้หยุด!”
พ่อปู่ไพรทำเพียงหันมามองในเสี้ยววินาทีเท่านั้น ขาทั้งสองยังคงวิ่งต่อไป จนพยัคฆ์ชักหัวเสีย
“ถ้ามีคาถาอาคมจริง ก็อย่าหนีสิวะ! พิสูจน์สิ! เอาอาคมมาสู้เลย อยากรู้นักว่าจะแน่สักแค่ไหน ไอ้พ่อปู่ลวงโลก!”
ประโยคนี้...ทั้งท้าทาย และเต็มไปด้วยอารมณ์โมโห
เมื่อมนุษย์เพศชายเกิดการวิวัฒนาการทางร่างกาย ผู้ชายกลุ่มหนึ่งจึงสามารถตั้งท้องได้ และเพราะความเมาชนิดหลุดโลกในคืนวันนั้น ‘นภัทร’ เดือนคณะสุดหล่อจึงตื่นขึ้นมาพร้อมกับความจริงว่าตัวเองจัดการรวบหัวรวบหางลากหลืบคณะอย่าง ‘สิงหา’ ไปมี one night stand เป็นที่เรียบร้อย เรื่องควรจะจบลงแค่นั้น แต่ไม่จบเมื่อชีวิตน้อยๆ ถือกำเนิดขึ้น นภัทรหายตัวไป กลับมาอีกครั้งพร้อมกับข่าวลือประหลาดๆ ก่อนสิงหาจะพบว่าต้นเหตุของข่าวลือคือเด็กหญิงตัวน้อยอย่าง ‘น้องณดา’ ที่สิงหาสงสัยเหลือเกินว่าจะเป็นลูกของเขา “ให้เรียกนายว่าพ่อไม่ได้หรอก น้องณดาไม่ได้ลูกของนาย” “งั้นเรียกป๊ะป๋าก็ได้” “ไม่ได้” “แด๊ดดี้” “นี่...พอเลย” “ดาดา” คำเรียกที่หลุดจากปากของเด็กหญิงตัวน้อยทำเอาคุณพ่อกำมะลอยิ้มหน้าบาน ปฏิบัติการทวงคืนความเป็นพ่อต้องมา ต่อให้นภัทรไม่ยอมรับ งั้นสิงหาก็ขอเข้าทางลูกสาวตัวจิ๋วก็แล้วกัน! รับผมเป็นพ่อของลูกเถอะนะครับ!
เพราะไปตีกับเกรียนคีย์บอร์ดที่บังอาจเอานิยายเธอมาวิจารณ์หยาบๆ คายๆ ว่างานเธอเชิดชูระบอบปิตาธิปไตย ตามมาด้วยการดูแคลนเหยียดหยามทางเพศสภาพอีกหลายอย่าง ทำเอา ‘อาคิรา’ นักเขียนนิยายประโลมโลกถึงกับเลือดเฟมินิสต์ในกายเดือดพล่าน กล้าดียังไงมากล่าวหาเธออย่างนี้ งานเธอถึงจะเป็นงานประโลมโลก แต่ใช่ว่าจะเชิดชูระบอบชายเป็นใหญ่สักหน่อย! ต้องตามไปตบตีจนกว่าจะชนะ เถียงแพ้รอบนั้น แต่คนไม่แพ้ ตามหาแอคเคาทน์ของคนที่ใช้นามแฝงว่า ‘เวนไตย’ ไปจนเจอเข้ากับตอจังเบ้อเร่อ โดยหารู้ไม่ว่าเวนไตยคนนี้ หาใช่ไอ้เวรตะไลที่ประนามหยามเหยียดแต่อย่างใดไม่ ทว่าเป็นบรรณาธิการหนุ่มผู้คว่ำหวอดในวงการวรรณกรรมสร้างสรรค์สังคมต่างหาก “ฉันจะทำให้ดูว่างานเขียนฉันมันไม่ได้เชิดชูระบอบชายเป็นใหญ่!” “งั้นก็ลองเขียนมาดู ผมอยากอ่านเหมือนกัน อยากรู้ว่านักเขียนอย่างคุณจะทำได้ดีสักกี่น้ำ” โดนท้าทายมาถึงกับปรี๊ด คอยดูเถอะ เธอจะเอารางวัลมาฟาดหน้าไอ้เวรตะไลนี่ให้ได้เลย!
“ฉันจะเป็นเมียของนายดินค่ะ” ไม่รู้ว่าส้มหล่นหรือโชคร้ายกันแน่ที่จู่ๆ คุณหนู ‘หยาดฟ้า’ ของตระกูลเศรษฐีเมืองกรุงก็มาถวายตัวยอมเป็นเมียของ ‘ไอ้ดิน’ อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเสียอย่างนั้น ไอ้ดินค่อนข้างจะงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก็จะไม่ให้งงได้อย่างไร เขาไม่รู้จักมัดจี่กับเจ้าหล่อนนี่ จู่ๆ ก็มาบอกว่าจะเป็นเมียเขา เป็นใครก็งงทั้งนั้นแหละ! ก่อนที่เขาจะได้รับรู้ว่าเหตุนี้เกิดขึ้นเพราะหยาดฟ้าถูกบิดาบังคับให้แต่งงาน เธอจึงหนีมาอยู่ที่บ้านพักตากอากาศในต่างจังหวัด และได้เจอกับกุลีหนุ่มที่นี่ ประจวบเหมาะกับที่บิดาของเธอโทรมาคาดคั้นให้เธอกลับไปแต่งงานพอดี เธอถึงได้ลั่นวาจานี้ออกมาให้บิดารู้ว่าเธอมีผู้ชายคนใหม่ที่ยินยอมพร้อมใจจะเป็น ‘เมีย’ ของเขาแล้ว หาใช่ผู้ชายที่บิดาจัดเตรียมมาให้ สำหรับไอ้ดิน นี่คงไม่ใช่ส้มหล่นหรอก เป็นคราวเคราะห์เสียมากกว่า เขาจึงรีบบอกปัดหัวขวิด “ไม่ล่ะครับคุณหนู ผมคงไม่อาจเอื้อมไปเด็ดดอกฟ้าหรอก ผมก็แค่กุลีใช้แรงงานไปวันๆ จะเอาเงินที่ไหนไปเลี้ยงให้คุณหนูอยู่ดีกินดีได้” “ไม่ต้องกินดีอยู่ดีก็ได้ แค่ให้ฉันอยู่ด้วยก็พอ” “ให้อยู่ด้วยก็ไม่ได้ครับ ก็คุณหนูน่ะเป็น...” “เป็นเมียนายดินไงล่ะ” เป็นที่ไหนกัน เขายังไม่ได้ซั่มเธอเลยสักกะยก! ไอ้ดินปวดขมับตุบๆ ขณะที่หยาดฟ้าเชื้อเชิญเขาเป็นการใหญ่ “แล้วนี่มัวรออะไรอยู่ รีบพาฉันเข้าบ้านสิ จะได้ทำอะไรอย่างที่ผัวเมียเขาทำกัน” เธอรู้หรือเปล่าว่าพูดถึงเรื่องอะไรอยู่น่ะ!? ไอ้ดินไม่แน่ใจนัก แต่แวบเดียวก็แน่ใจแล้ว เพราะจู่ๆ หญิงสาวก็ดึงคอเสื้อให้หน้าอกอิ่มล้นทะลักออกมา ไอ้ดินมองจ้องตาไม่กะพริบ ได้สติมาอีกครั้งก็ตอนที่สาวเจ้าเอ่ยปาก “มาสิพี่ดิน มาเอากัน ฟ้าพร้อมจะเป็นเมียพี่แล้ว” ดูพูดจาเข้า เรียกแทนตัวด้วยชื่อ แทนเขาว่าพี่ชวนให้เอ็นดูอีก! โอ๊ย! ไอ้ดินจะบ้าตาย! เห็นทีเขาคงหนีไม่พ้นการถูกยัดเยียดความเป็น ‘ผัว’ ด้วยฝีมือหยาดฟ้าแล้วล่ะ
เพราะอกหักจากคนที่แอบชอบมานาน ทำให้ ‘ภีม’ พาตัวเองไปในที่อโคจรเพื่อที่จะระบายความเศร้าเสียใจออกไปบ้าง หากทว่าในคืนนั้น เขากลับได้พบกับชายแปลกหน้าอย่าง ‘สุดเขต’ ที่บังเอิญเข้ามาพูดคุยด้วย ทั้งสองเกือบจะลงเอยกันด้วยความสัมพันธ์ข้ามคืน หรือที่เรียกกันว่า One night stand หากทว่าก็เกิดเรื่องวุ่นๆ เสียก่อน ก่อนที่ภีมจะพบว่าผู้ชายที่เขาได้เจอในคืนนั้น เป็นคนคนเดียวกับคนที่เขาแอบชอบตกหลุมรัก ให้ตาย! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! ขณะเดียวกัน ปฏิบัติการ ‘ลัก’ ความรักของภีมก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อสุดเขตไม่สามารถลืมความน่ารักของภีมลงได้เลย เขาต้องเอามาให้ได้ ทั้งตัวภีม และความรักของภีม จะเอามาให้ได้ทั้งหมดเลยคอยดู!
แม้ขึ้นชื่อว่าเป็นปีศาจ ทว่าปีศาจกวางอย่าง ‘ลู่ลู่’ กลับหาได้พิสมัยการระรานมนุษย์สักเท่าไรนัก สะอาดบริสุทธิ์เสียจนแทบจะลุแก่ตบะแล้ว ทว่า... ชีวิตของเขาก็หาได้สงบสุขอีกต่อไปเมื่อนักพรตปราบปีศาจอย่าง ‘เยี่ยนเฉิน’ หนีตายจากการถูกล่าเพราะดันไปต้มตุ๋นชาวบ้านวิ่งทะเล่อทะล่ามาสลบอยู่หน้าถ้ำ ถึงจะเป็นปีศาจแต่ก็หาได้ไร้น้ำใจนัก มอบไมตรีช่วยเหลืออย่างไม่เกี่ยงงอน หากแต่เยี่ยนเฉินกลับตอบแทนบุญคุณด้วยการทำให้ชีวิตของลู่ลู่แปดเปื้อนด้วยมลทิน บีบบังคับให้ปีศาจกวางน้อยรวมหัวในแผนต้มตุ๋นชาวบ้านเพื่อเอาคืน! นักพรตจอมกะล่อนผงาด ใช้ชีวิตอย่างสำราญ ขณะที่ปีศาจน้อยถูกจิกหัวใช้ให้ไประรานชาวบ้านไม่เว้นวัน อะไรไม่ว่า เยี่ยนฉินยังขยันลูบหางเล็กๆ ของเขาเสียเหลือเกิน ไม่รู้หรือไงว่าตรงนั้นน่ะ...มะ...มัน... ...ทำให้ตัวร้อนผะผ่าวนะ! ต้องมีสักวันที่พลั้งเผลอไปมากกว่านี้แน่ สวรรค์! ลู่ลู่ผู้นี้จะหลั่งน้ำตาเป็นสายโลหิตแล้ว!
หากผู้ใดเชื่อว่าทะเลทรายผืนนี้โหดร้าย ผู้นั้นย่อมเชื่อในสิ่งที่ผิด เพราะสิ่งที่โหดร้ายกว่าผืนทะเลทรายแห้งแล้ง คือกองกำลังโจรทะเลทรายของ 'อัลมิราน' ผู้นี้ต่างหาก โหดร้าย...ชั่วช้า...เลวสามานย์ ดูเหมือนจะเป็นคำสร้อยที่พ่วงท้ายชื่อของโจรหนุ่มนามเลื่องลือไปเสียแล้ว แต่เขาจะสนใจสิ่งใดกัน ในเมื่อเขาถูกตราหน้าว่าชั่ว เขาก็จะเป็นคนชั่วให้สมดั่งที่ถูกบีบคั้น เพียงเพื่อให้ได้อัญมณีแห่งสุลต่านมาครอบครอง เขาก็ไม่เกรงกลัวสิ่งใดแล้ว หากแต่หารู้ไม่ว่าสวรรค์จะนำพาให้เขาพบกับอัญมณีมีชีวิตแห่งทะเลทราย...'จามิล' นักระบำร่อนเร่ผู้มีเสน่ห์เย้ายวน เพียงได้ชมระบำทะเลทรายของจามิลแค่ครั้งเดียวเท่านั้น หัวใจของอัลมิรานก็ถูกครอบครองไปสิ้น โดยหารู้ไม่ว่าตนกำลังก้าวเข้าสู่หุบเหวอเวจีแสนหวานที่จะฉุดคร่าชีวิตเขาไปเสียแล้ว...
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
“ผู้หญิงคนนี้เป็นของมาร์โก ใครก็ห้ามมายุ่งอีกเด็ดขาด” เขาประกาศให้รับรู้ทั่วกัน แต่ถามว่าผู้หญิงของเขาตอนนี้มีสีหน้ายังไง ถามได้! เธอยังช็อกไม่หายปล่อยให้เขาจับจูงเข้าไปในห้องจนเหตุการณ์สงบแล้วเธอก็ยังไม่รู้ตัวเหมือนเดิม! พระเจ้านี่มันเรื่องบ้าอะไร! เธอกลายเป็นผู้หญิงของมาเฟียได้ยังไง เรื่องชักจะวุ่นวายเกินไปแล้ว เธอตามไม่ทันจริง... ตั้งสติไว้ยัยแอน เธอต้องตั้งสติ ตั้งสติบ้าอะไร เขาก็ประกาศอยู่ว่าเธอเป็นของเขา ไม่ ๆ ไม่ใช่ พวกเราแค่นอนด้วยกันคืนเดียว ยังไงก็แค่เรื่องเข้าใจผิด ยังไงเขาก็คงคิดจะขู่เล่น ๆ โธ่เอ้ยยัยโง่ เขาประกาศขนาดนั้น ลองไปสิเธอได้ถูกผูกติดกับเตียงแน่ ชาตินี้อย่าหวังจะไปไหนได้เลย เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าคนนั้นคือมาเฟียมาร์โก มาเฟียที่มีอิทธิพลสุดในเมืองนี้! เธอจะบ้าตายเพราะเถียงกับตัวเองนี่แหละ แถมยังต้องมานั่งเสียใจที่มาเจอคนที่น่ากลัวที่สุดในเมือง พระเจ้าแกล้งเธอเกินไปแล้ว แบบนี้เธอจะทำยังไงดี!!
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
เมื่อสองปีที่แล้ว เพื่อช่วยคนรักในใจ พระเอกถูกบังคับให้แต่งงานกับนางเอก ในใจของเขา เธอเป็นคนน่ารังเกียจและแย่งคนรักของคนอื่น เขาเลยเย็นชาต่อเธอมาตลอด แต่กลับอ่อนโยนและเอาใจใส่กับคนรักในใจถึงเป็นเช่นนี้ เธอยังคงรักเขาอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาสิบปี ต่อมาตอนที่เธอรู้สึกเหนื่อยและอยากจะท้อแท้นั้น เขากลับตื่นตระหนก... เมื่อเธอกำลังจะตายขณะตั้งท้องลูกของเขา ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าผู้หญิงที่เขายอมเอาชีวิตตัวเองไปแลกนั้นก็คือเธอโดยตลอด