เธอถูกจ้างมาด้วยเงินแสนแพงเพียงเพื่อเป็นภรรยาในนามของเขา ผู้ชายจอมกะล่อนและเจ้าชู้จนใครๆขนานนามว่าคาสโนว่าฆ่าไม่ตาย งานหนักจึงตกกับนักเขียนสาว ภรรยากำมะลออย่างเธอ ! ไหนจะต้องปะทะกับแม่สามีตัวแสบไม่เว้นวัน ! ไหนจะหัวใจของตัวเองที่ไหวหวั่นไปกับเสน่ห์ร้ายของเขา
ภาพที่เห็นเบื้องหน้าทำให้วรัศยาชะงักเท้าอยู่กับที่ ดวงตากลมโตจับจ้องไปที่ผู้ชายร่างสูงที่โผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำดูมีเสน่ห์แห่งบุรุษไม่น้อย เรือนผมสีดำสนิทที่ถูกตัดไว้อย่างเป็นระเบียบลู่ลงมาเพราะเปียกน้ำติดใบหน้าคมสันที่มีหยดน้ำเกาะพราว คิ้วของเขาเข้มยาวอยู่เหนือดวงตาคมสีสนิมเหล็ก จมูกโด่งเป็นสันและริมฝีปากหยักลึกได้รูปคู่นั้น เล่นเอาวรัศยาต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น นี่สินะ พระเอกนิยายของเธอ เครื่องหน้าที่ดูสมชายเช่นนี้หาได้ไม่ง่ายนักในสังคมไทยปัจจุบัน ความคิดของเธอหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงแหลมเล็กของสตรีดังขึ้น
“ธีร์ขา ขึ้นจากน้ำเถอะค่ะ” ก่อนที่เจ้าของประโยคนั้นจะปลดผ้าที่พันปกปิดเรือนกายไว้อย่างหมิ่นเหม่ออกเผยรูปร่างยวนตาบุรุษเพศ ทั้งหน้าอกอวบอิ่ม เอวเล็ก สะโผกผายในชุดว่ายน้ำสีแสบตาแสนเซ็กซี่ตัวนั้น
ดวงตาสีสนิมเหล็กทอดประกายวาววามเมื่อทอดมองร่างอวบอิ่มที่ยืนอยู่บนชายหาด พลางค่อยๆขึ้นมาจากน้ำ ร่างสูงเพรียวในกางเกงว่ายน้ำเพียงตัวเดียวเปลือยอก ทำให้วรัศยาอดที่จะหน้าแดงไม่ได้
ทันทีที่เห็นธีรภัทรขึ้นมาจากน้ำแล้ว เจ้าของร่างอวบอิ่มก็แทบจะถลาไปกอดเขาไว้ทันที แล้วเขย่งปลายเท้าขึ้นจรดริมฝีปากลงทาบทับกับริมฝีปากหยักลึกแต่กระด้างของธีรภัทร ชายหนุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงที่อรันยาปรารถนาจะได้เขามาเป็นคู่ครอง จนวรัศยาอดที่จะเบิกตากว้างกับภาพที่เห็นนั่นไม่ได้ แม่สาวหุ่นล่อตะเข้นี่ช่างกล้าเสียจริงๆแต่ที่น่าตกใจมากกว่านั้นคือชายหนุ่มที่ถูกเรียกว่าธีร์กลับก้มลงบดเบียดริมฝีปากหนาได้รูปกับริมฝีปากอิ่มย้อยสีแดงสดอย่างเร่าร้อน มือหนาเอื้อมมาลูบไล้แผ่นหลังเนียนสีน้ำผึ้งอย่างแผ่วเบา
วรัศยาอ้าปากค้างด้วยไม่คิดว่าตัวเองจะมายืนแข็งทื่อมองดูหนังอาร์ที่กำลังเล่นสดๆอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ พวงแก้มนวลร้อนผะผ่าวราวกับมีไฟมาอังใกล้ๆ
และสิ่งที่เธอไม่คาดคิดก็คือใบหน้าคมคายค่อยๆถอนจุมพิตออกมาจากเรียวปากอิ่มของฝ่ายหญิงหุ่นเซ็กซี่คนนั้นก่อนที่ดวงตาสีสนิมเหล็กคมกล้าจะตวัดมองมาทางเธออย่างขบขัน ราวกับว่าเขารู้ตัวอยู่นานแล้วว่ามีคนคนหนึ่งกำลังเบิกตาโตๆ จ้องมองมาทางเขาจนตาแทบถลนอยู่เป็นนานสองนาน
วรัศยารีบหลบตาคมที่พราวระยับคู่นั้นทันที จุดแดงๆเล็กๆเกิดขึ้นที่โหนกแก้มของหญิงสาวก่อนจะกระจายเป็นสีชมพูระเรื่อไปทั้งใบหน้าจนถึงลำคอระหง หญิงสาวสะบัดหน้าไปอีกทางพลางก้มหน้างุดๆ เดินหันหลังกลับไปยังทางที่พักของเธอ
“บ้าชะมัด อีตานั่นรู้ว่าเรายืนดูอยู่ตรงนั้นแท้ๆยังกล้าแสดงหนังอาร์ให้เราดูอีก บ้า ทุเรศ หน้าด้านที่สุด” หญิงสาวบ่นอุบอิบ
เท้าเล็กๆเตะทรายแรงๆเป็นการระบายอารมณ์ เมื่อดวงหน้าคมเข้มของผู้ชายแปลกหน้าที่เธอบังเอิญพบเจอมาเมื่อครู่ลอยเข้ามาในความคิดเธออย่างไม่ตั้งใจ ก่อนที่จะนึกอะไรขึ้นมาได้อย่างหนึ่ง ร่างบางชะงักกึก ดวงตากลมโตกลอกไปมาอย่างเซ็งๆ
“เราไปว่าเขาหน้าด้านที่ยืนจูบกับแฟนต่อหน้าเรา... แล้วเราจะไปยืนดูเขาทำไมล่ะเนี่ย!”
กระดาษที่ถูกขยำจนไม่เหลือรูปเดิมถูกขว้างปาไปที่ตะกร้าขยะอย่างแม่นยำ เสียงทอดถอนหายใจดังขึ้นอย่างกลัดกลุ้ม ก่อนที่ร่างบางจะก้าวเดินไปที่ตู้เย็นรินน้ำสะอาดใส่แก้วยกขึ้นดื่มอย่างกระหาย
คิ้วเรียวโก่งขมวดเข้าหากันด้วยขบคิดจนหัวแทบแตกก็ยังคิดฉากรักวาบหวาบหวามของคู่ พระ-นาง ในนิยายโรมานต์ที่เธอแต่งอยู่ไม่ได้
เธอก้าวเดินออกมาที่ระเบียงบ้านพักริมชายทะเล ลมเย็นๆที่มาปะทะร่างบางทำให้อารมณ์ที่เริ่มจะขุ่นมัว กลับมาแจ่มใสอีกครั้ง เสียงคลื่นทะเลที่ซัดสาดทำให้เธอนึกอยากจะลงไปสัมผัสน้ำเค็มๆให้สมกับที่มาเที่ยวทะเลสักครั้ง
“คุณครับ ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณ” เสียงทุ้มนุ่มที่ดังมาจากข้างล่างทำให้เธอต้องก้มลงมองอย่างสงสัย พร้อมกับเบิกตากว้างเมื่อเห็นใบหน้าของเขาได้ถนัด
“คุณ!!”
“ทำไมคุณต้องทำหน้าเหมือนเห็นผีแบบนั้นด้วยครับ” ธีรภัทรทำเสียงล้อเลียน
“ให้ฉันเจอผียังดีกว่าเจอคุณ” เธอตอบกลับไปอย่างหงุดหงิด พลางตั้งท่าหมุนกายเตรียมกลับเข้าไปภายในห้อง
“เดี๋ยวสิคุณ” ร่างสูงร้องเรียกไว้อย่างตระหนกเมื่อเห็นร่างบางกำลังจะกลับเข้าไปในบ้านพัก
“อะไรของคุณอีก” วรัศยาตวาดแหวอย่างไม่ชอบใจก่อนจะอ้าปากค้างเมื่อเห็นชายหนุ่มเดินแกมวิ่งขึ้นบันไดบ้านพักของเธออย่างไม่รอฟังคำอนุญาต
“คุณ ลงไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้นะ” หญิงสาวผลักอกเขาอย่างแรง แต่ร่างสูงใหญ่กลับไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย จนคนผลักเป็นคนหมดแรงไปเอง
“คุณคุยธุระกับผมก่อนสิครับ” เขาพูดเสียงอ่อน มือหนาจับมือหญิงสาวที่ผลักอกเขาไว้ พร้อมทำตาเชื่อม
“คุณบุกรุกที่พักของฉัน แล้วอย่างนี้ยังมีหน้ามาบอกว่าคุณมีธุระอีกเหรอไง” เธอเชิดหน้าขึ้นจนคนฟังแทบอยากจะจับคางเล็กๆเขย่าเบาๆอย่างเอ็นดู
“ถ้าผมไม่มีธุระกับคุณ ผมจะบุกรุกที่พักของคุณทำไมล่ะครับ แล้วผมจะหาโอกาสพบคุณได้ง่ายๆเสียที่ไหนกัน” ธีรภัทรพูดเสียงเรียบ ดวงตาสีสนิมเหล็กคมกล้า ปรอยลงอย่างแสนเสียดาย เมื่อเจ้าของร่างน้อยที่เขาพึงใจ ดึงมือออกจากการเกาะกุมของมือใหญ่ด้วยความหวงตัว
“คุณมีอะไรจะพูดก็พูดมา ฉันให้เวลาคุณ5นาที” วรัศยาถอยหลังไปยืนห่างจากเขาอีกหลายก้าวด้วยความหวาดระแวง ซึ่งชายหนุ่มก็พอจะเดาได้ถึงความไม่ไว้วางใจของหญิงสาว
“ครับๆ คือว่าผมชื่อว่าธีรภัทร เรียกว่าธีร์ก็ได้ครับ แล้วคุณชื่ออะไรเหรอ” หน้ายิ้มๆของเขาค่อยๆหุบลงอย่างช้าๆ เมื่อเห็นสายตาขุ่นขวางของหญิงสาว
“ถ้าคุณยังมัวมาถามอะไรไร้สาระแบบนี้ คุณลงไปจากบ้านพักฉันเลยดีกว่า” เธอพูดเสียงเย็น
“เอ่อ ก็ได้ครับ คือว่าผมมีเรื่องจะขอร้องคุณ”
เธอแต่งงานกับสามีที่เย็นชา หน้าดุ และไม่เคยบอกเธอว่ารักสักคำ เธอจะอบอุ่นแค่ตอนเขาร่วมรักด้วย จากนั้นเธอจะรู้สึกเหน็บหนาวกับความเฉยชาที่เขามีให้ สิ่งเดียวที่ทำให้เธอมีกำลังใจคือการตั้งครรภ์ลูกแฝด เธอไปจากเขาโดยไม่ล่ำลา 4 ปีต่อมา เธอและเขาได้พบกันอีกครั้ง พร้อมเด็กฝาแฝดวัย 3 ขวบที่เรียกเขาว่า ‘พ่อ’
เพราะน้ำเมาในคืนนั้น เธอจึงพลาดท่า ‘ท้องไม่มีพ่อ’ เธอจำผู้ชายคนนั้นไม่ได้ ไม่รู้ว่าเขาคือใคร สิ่งที่จำได้ดีคือเสียงของเขาเท่านั้น วันเวลาผ่านไป เธอคลอดลูกชายฝาแฝด มีคนแปลกหน้ามาจับตัวเธอและลูกๆไป…คฤหาสน์หลังใหญ่ราวกับวังคือสถานที่เธอและลูกถูกพาตัวมา เธอได้พบใครคนหนึ่งซึ่งมีใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตร แต่ทว่าแววตากลับเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง เขาเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ “ในที่สุด ผมก็ตามหาคุณเจอเสียทีนะ” เธอจำได้…เสียงทุ้มทรงอำนาจที่ไม่เคยลืมเลย เขาคือผู้ชายในคืนนั้น ! “คุณตามหาฉันเจอได้ยังไง” “ไม่มีอะไรที่ผมต้องการแล้วจะไม่ได้หรอกนะ ถึงแม้จะใช้เวลานานไปหน่อยก็เถอะ” หญิงสาวนั่งคุกเข่ากอดลูกๆแนบอก เนื้อตัวสั่นระริก ถามด้วยเสียงที่สั่นจนควบคุมไม่อยู่ “คุณต้องการอะไร” “ตอนแรกแค่อยากรู้ว่าผู้หญิงคนไหนกันที่มาเสียตัวให้ผมแล้วก็ชิ่งหนีไป แต่พอรู้ว่าคุณมีลูก ผมก็ต้องการลูก” “ไม่ได้นะ” เธอกอดลูกชายทั้งสองแน่นกว่าเดิม “เด็กๆเป็นลูกของฉัน ไม่เกี่ยวกับคุณ” ร่างสูงขยับมายืนใกล้ๆ หรี่ตามองเธอและเด็กๆ ก่อนยกมุมปากเป็นรอยยิ้มหยัน “มีแค่มดลูก คุณจะท้องได้เองหรือไง ถ้าไม่ได้สเปิร์มจากผมไปน่ะ” หญิงสาวหน้าร้อนวูบ… เพิ่งรู้ก็วันนี้เองว่า พ่อของลูกเธอนั้นไม่ใช่ผู้ชายธรรมดา แต่เป็นประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ร่ำรวยมหาศาล ที่สำคัญเขาต้องการลูกๆ เธอจะต้องหนีจากเงื้อมมือของเขาให้ได้ อุตส่าห์อุ้มท้องมาตั้ง 9 เดือน จะยอมให้เขามาพรากลูกไปจากอกไม่ได้เด็ดขาด แม้จะตั้งใจเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะต้องหนีให้ได้ แต่ทว่าสุดท้ายแล้ว…นอกจากจะหนีไม่พ้นแล้ว อย่าว่าแต่ลูกเลย แม้แต่หัวใจของเธอก็ตกเป็นของเขา !
ปภาวีหลงรักนัธทวัฒน์ข้างเดียวมานานแล้ว ในวันที่เขาหมั้นหมายกับผู้หญิงคนอื่น เป็นวันที่เธอพลาดพลั้งมีอะไรกับเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ เธอตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เมื่อพ่อขายเธอให้เป็นเมียเก็บของเขาในราคา 3 ล้าน ตอนกลางวันเธอเป็นคนรับใช้ที่โดนทุกคนในบ้านกดขี่รังแก ส่วนค่ำคืน เธอคือนางบำเรอของท่านประธานที่มองว่าเธอเป็นเพียงของเล่นเท่านั้น เมื่อเธอเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมาและอยู่ในความเสี่ยง ‘แท้งคุกคาม’ หนทางเดียวที่จะปกป้องลูกฝาแฝดชายหญิงในท้องไว้ได้คือเธอต้องหนีไปจากเขา...!!
เธอเป็นเลขาของเขา ส่วนเขาก็เป็นเจ้านายของเธอ.... อัมพิกาตกหลุมรักนิโคลัสตั้งแต่แรกเห็น ทว่า...สถานะระหว่างเลขากับท่านประธานช่างต่างกันจนเธอไม่อาจคาดหวังเกินตัว 1 ปีผ่านไป จากการได้ทำงานใกล้ชิด เธอยิ่งหวั่นไหวจนยากจะถอนหัวใจ ได้แต่เก็บงำความรักไว้เป็นความลับในใจ ไม่สามารถเอ่ยปากไปได้ จนวันหนึ่ง เธอและเขาต่างเมาด้วยกันทั้งคู่จนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน เธอยินยอมเพราะรัก แต่เขามีเพียงความใคร่ ในวันที่เสียตัวให้เขาแล้ว เขาพาเธอไปอยู่ด้วยกันที่บ้าน...ที่นั่น ก็มีสาวสวยอยู่แล้วคนหนึ่ง เขาตั้งกติกาว่า ระหว่างเธอกับผู้หญิงคนนั้น...หากใครมีทายาทให้เขาได้ก่อน เขาจะยอมจดทะเบียนสมรสด้วย เพราะสิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่ความรัก แต่เป็นทายาทสืบสกุล ! ผู้ชายเลือดเย็นคนนี้น่ะหรือที่เธอรัก...ต่อให้เธอเกิดตั้งท้องขึ้นมาก็อย่าฝันเลยว่าเธอจะยอมให้เห็นหน้าลูก !!
สรวิชญ์คือรักแรกของฝากขวัญ... เธอเป็นลูกสาวหัวหน้าคนงาน ส่วนเขาคือลูกชายเจ้าของไร่สิงห์คำรามที่อายุมากกว่าเธอ 5 ปี ความใกล้ชิดก่อเกิดความสายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง เธอในวัยเยาว์ ไร้เดียงสา เรียนยังไม่จบมัธยมปลายก็เสียตัวให้เขา เธอวาดฝันถึงอนาคตที่ดี ความรักที่สวยงาม แต่แล้ว...ในวันที่เธอจบการศึกษาชั้น ม.6 คือวันเดียวกับที่ถูกเขาทอดทิ้ง พ่อพาเธอไปอยู่กรุงเทพเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ ในขณะที่ท้องของเธอเริ่มโตขึ้นทุกวัน โดยที่สรวิชญ์ไม่เคยรู้เลยว่าเธออุ้มท้องสายเลือดของเขาอยู่ เวลาผ่านไป 6 ปี ลูกสาวของเธออายุ 5 ขวบ เธอได้เดินทางกลับมาที่ไร่สิงห์คำรามเพื่อดูแลสรัณซึ่งเป็นเจ้านายเก่าของพ่อ เธอและเขาได้พบกันอีกครั้ง...เขาไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว จากหนุ่มหน้าใส กลายเป็นผู้ชายดุดัน ไว้หนวดเครา ตัวโตร่างใหญ่ ที่สำคัญ...เขามีคู่หมั้นแล้ว แต่เธอไม่มีทางให้เขาสมหวังหรอกนะ เธอเคยเสียใจมากแค่ไหน เขาต้องได้รับความเสียใจมากกว่าเธอ ฝากขวัญไม่รู้เลยว่า...ความอยากเอาคืนในวันนั้น จะทำให้เธอตกหลุมรักอดีตสามีเป็นครั้งที่สอง ทว่าเธอไม่ใช่เด็กสาวม.ปลายผู้ไร้เดียงสาอีกแล้ว เธอไม่มีวันทำผิดพลาดเหมือนเมื่อก่อนแน่ๆ !
เธอเคยคิดว่าเขา รัก’จึงยอมยกให้ทั้งตัวและหัวใจ ทว่าในความจริง เธอเป็นได้แค่ ‘เมียในความลับ’ ที่ทำได้เพียงรอเวลาให้เขามานอนด้วย เจ้าสาวที่เขาจะแต่งงานด้วย ไม่ใช่เธอ แต่เป็นผู้หญิงคนอื่น และฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ความอดทนของเธอขาดลงก็คือการที่เธอตั้งครรภ์ แต่เขากลับแนะนำให้ไปทำแท้ง พอที...เธอไม่สามารถคบกับผู้ชายใจร้ายเช่นเขาได้อีก พรอุษาตัดสินใจตัดขาดความสัมพันธ์ที่มีแต่ความเจ็บปวด อุ้มท้องลูกน้อยหนีไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ 4 ปีผ่านไป บาดแผลในใจเริ่มจางหาย พร้อมลูกสาวที่เติบโตมาอย่างน่ารัก แล้วในวันหนึ่ง...โชคชะตาก็ทำให้เธอบังเอิญพบเจอกับสามีเก่าอีกครั้ง ถ่านไฟที่ยังไม่ทันได้ดับสนิทเริ่มติดไฟขึ้นมาอีกครั้ง...แต่ทว่าเธอจะไม่มีวันยอมผิดพลาดอีกเป็นครั้งที่สองแน่ๆ ...................... “นี่มัน” ชายหนุ่มย่นหัวคิ้ว ดึงแผ่นทดสอบมาดู... ถึงเขาจะเป็นผู้ชาย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้ว่าที่ถืออยู่นี้คืออะไร แล้วความหมายของสองขีดแดงคืออะไร...สายตาคู่คมจ้องหน้าเธออย่างเดือดดาล “เธอท้องเหรอ” “คือ...มัน...เอ่อ” เธออึกอัก “เธอท้อง...” เขากดเสียงให้ต่ำลงไปอีก ส่งผลให้เธอตัวลีบเล็ก อึกอัก “พิมลองตรวจดู ไม่คิดเหมือนกันว่ามันจะขึ้นสองขีด” “ไม่คิดงั้นเหรอ” ชายหนุ่มแค่นเสียง แสยะมุมปาก ปล่อยมือจากเธอพร้อมขยำแผ่นทดสอบปาลงพื้น “ฉันจะถือซะว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ไปเอาเด็กออกซะ”
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี