เธอ...คือเจ้าสาวที่ฟ้าส่งมาโปรด ให้เจ้าบ่าวใกล้ตายที่ถูกเทงานแต่งงานอย่าง...เขา ++++++++ “เราขอโทษที่ไม่ได้บอกแกเรื่องพี่ปุณณ์จะแต่งงาน เราแค่ไม่อยากเห็นแกอกหักน้ำตานอง แต่เอ๊ะ...ทำไมแกพูดเหมือนกับว่ารู้จักเจ้าสาว” “อื้อ...พอดีเราเป็นญาติกัน คงเหมือนแกกับพี่ปุณณ์นั่นแหละ” “โลกแม่งก็กลม” เอ่ยจบเพียงดาวก็ถอนหายใจออกมา ตอนนี้เธอมืดแปดด้านไปหมดแล้ว ไม่รู้จะแก้ไขปัญหานี้ได้ยังไง “แล้วแบบนี้งานแต่งงานจะเอาไงต่อ” “ป้าเรา แม่พี่ปุณณ์นะ ยื่นคำขาดให้ญาติเจ้าสาวหาทางแก้ไขอยู่” “จะหาทางแก้ไขยังไงเล่า ในเมื่อเจ้าสาวไม่อยู่แบบนี้แล้ว” ดรินทร์คิ้วขมวดอีกคน “ก็ใช่ไง อีกอย่างเราเห็นบรรดาพ่อแม่ญาติพี่น้องเจ้าสาวพากันหนีขึ้นรถแล้วขับออกไปจากโรงแรมตะกี้นี้ คงเทงานแต่งงานเหมือนเจ้าสาวแล้วแน่นอน เราฟันธงได้” “หา” เสียงอุทานด้วยความตกใจดังมาจากดรินทร์อีกครั้ง “เอาไงดีอะแก ช่วยกันคิดหน่อยสิ” “จะไปคิดอะไรให้ยุ่งยาก ในเมื่อไม่มีเจ้าสาวแล้วก็ยกเลิกงานแต่งไปสิแก จะจัดต่อทำไม” “หรือไม่ก็แก้ผ้าเอาหน้ารอด ด้วยการหาผู้หญิงสักคนมาเป็นเจ้าสาว” ขณะพูดเพียงดาวก็มองตรงมายังดรินทร์ โดยที่คนถูกมองนั้นไม่รู้ตัวสักนิด ว่าเพื่อนกำลังวางแผนอะไรอยู่ในใจ “บ้า...ผู้หญิงสติดีที่ไหนจะยอมแต่งงานกับใครง่ายๆ ขนาดนั้นกัน” “แกไง” “เราเนี่ยเหรอ”คราวนี้ดรินทร์ตกใจจนตาโตเป็นไข่นกกระจอกเทศ ก่อนจะชี้นิ้วมาที่ตัวเองแล้วทำตาปริบๆ มองมายังเพียงดาว ส่วนคนพูดนั้นกลับส่งยิ้มหวานมาให้
ความโกลาหลกำลังเกิดขึ้นภายในห้องพักของโรงแรมชื่อดัง ซึ่งเวลานี้มีไว้สำหรับแต่งตัวเจ้าสาว แต่ทว่ากลับไม่มีใครเจอตัวเจ้าสาวของงานแม้แต่คนเดียว
ภายในห้องไม่มีการรื้อค้น ข้าวของ ทุกอย่างยังคงวางอยู่ที่เดิม โดยเฉพาะชุดแต่งงานแสนสวย ที่ถูกสั่งตัดมาเป็นพิเศษเพื่อวันที่แสนพิเศษเช่นวันนี้
“มีใครเจอตัวเจ้าสาวหรือยัง”
“ยังค่ะยัง” บรรดาญาติพี่น้องต่างเอ่ยถามและตอบกันไปมา นั่นเพราะทันทีที่รู้ข่าว พวกเขาก็พากันแยกย้ายเพื่อตามหาจนทั่วโรงแรม แต่กลับไม่เจอตัว
ญาติผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวพากันเครียดจนเป็นลมล้มพับไปหลายคน โดยเฉพาะแม่เจ้าสาวที่ถึงขนาดต้องเรียกรถพยาบาลมาสแตนบาย เพราะไม่คิดว่าจู่ๆ ลูกสาวจะหนีหน้าหายไปเอาในวันแต่งงานเช่นนี้ ทั้งๆ ที่ตกลงกันไว้ดิบดีว่าจะเข้าพิธีแต่งงานกับเจ้าบ่าวที่ชื่อ...ปุณณ์
เพราะตกลงกันไว้แล้ว เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันจึงช็อคไปตามๆ กัน นั่นเพราะหากงานแต่งงานครั้งนี้เกิดอุปสรรค ถึงขั้นล่มขึ้นมา หนี้สินที่ทางครอบครัวมีก็คงยิ่งพอกพูน เพราะนี่คือการแต่งงานเพื่อปลดหนี้ของครอบครัวเธอนั่นเอง
“เกิดเรื่องแล้วค่ะคุณป้า”
“เรื่องอะไรกุ๊กไก่”
“คือ...พี่ดาวหายตัวไปค่ะ” เพียงดาวเอ่ยบอกออกไป นั่นทำให้ปรียาถึงกับช็อค ก่อนจะทรุดตัวลงไปนั่งบนเก้าอี้อย่างไม่ไหวติง เพราะไม่ได้วางแผนรับมือกับเรื่องแบบนี้มาก่อน
นั่นเพราะใครจะไปคิดว่าเจ้าสาวของงานจะมาหายตัวไปเช่นนี้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าก็ไม่ได้มีวี่แววใดๆ เป็นสัญญาณเตือนถึงความไม่ปกติ หนีวันไหนไม่หนีมาหนีเอาวันสำคัญอย่างวันแต่งงานเสียด้วย คิดแล้วปรียาก็ทั้งโกรธทั้งแค้น
“หายตัวไป หายไปได้ยังไง”
“กุ๊กไก่ก็ไม่ทราบรายละเอียดเหมือนกันค่ะ รู้แค่ว่าตอนนี้หาตัวเจ้าสาวจนทั่วแล้วก็ไม่เจอ” สีหน้าของเพียงดาวเองก็เป็นกังวลมากเช่นกัน
“นี่มันเรื่องบ้าอะไร” ปรียาสบถออกมา อยากจะเป็นลมให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็สั่งตัวเองว่าห้ามเด็ดขาด เพราะไม่อย่างนั้นใครจะจัดการเรื่องนี้ต่อ
“เรายกเลิกงานแต่งไปก่อนดีไหมคะ”
“ไม่”
“ทำไมละคุณป้า” สีหน้าของเพียงดาวเต็มไปด้วยความสับสน อันที่จริงเธอตกใจตั้งแต่รู้ว่าลูกชายคนเดียวของปรียาจะแต่งงาน มันเร็วเกินไปจนน่าสงสัย อีกอย่างปุณณ์หรือที่เธอเรียกว่าพี่ปุณณ์ก็ไม่ใช่คนที่จะถูกจับคลุมถุงชนให้แต่งงานตามใจผู้ใหญ่ง่ายๆ
“ยังไงป้าก็ไม่ยกเลิกงานแต่งงานเด็ดขาด” นั่นเพราะปรียาไม่อยากเสียหน้า ยังไงงานนี้ก็ต้องมีคนรับผิดชอบ ในเมื่อเพียงดาวเข้าพิธีไม่ได้ ฝ่ายนั้นก็ต้องหาคนมาแทน ไม่งั้นเธอไม่ยอมจบเรื่องนี้ง่ายๆ แน่
เกิดมาก็ยังไม่เคยมีใครกล้าหักหน้าเธอเช่นนี้มาก่อน ขืนใครต่อใครรู้เรื่องเข้าทั้งเธอ ทั้งลูกชายรวมไปถึงวงศ์ตระกูลคงได้อับอายขายขี้หน้าไปทั่วแน่
“คุณป้า จะไปไหนคะ” เพียงดาวเอ่ยถามตามหลัง เมื่อเห็นปรียาเดินดุ่มๆ ตรงไปยังห้องแต่งตัวของเจ้าสาว โดยเพียงดาวนั้นเดินตามหลังมาด้วย ซึ่งทันทีที่ปรียาผลักประตูเข้าไปข้างในก็เห็นพ่อแม่และบรรดาญาติเจ้าสาวนั่งหน้าซีดอยู่
“สรุปวันนี้ลูกชายฉันจะได้แต่งงานไหม” น้ำเสียงห้วนๆ เอ่ยถามขึ้น
“เอ่อ...คือ” บรรจงพ่อเจ้าสาวถึงกับอ้ำๆ อึ้งๆ เพราะไม่รู้จะตอบคำถามนี้ของปรียาอย่างไรไม่ให้สถานการณ์มันแย่ไปมากกว่าที่เป็นอยู่ นั่นเพราะตนเองก็ไม่คาดคิดว่าลูกสาวจะมาหนีไปเช่นกัน
“ได้แต่งค่ะได้แต่ง” ยุพินภรรยาของบรรจงหรือแม่ของเจ้าสาว ที่ตอนนี้พอจะหายวิงเวียนเพราะอาการเป็นลมเอ่ยตอบขึ้น ก่อนจะสูดดมยาดมที่ถืออยู่ในมือเข้าปอดชุดใหญ่
“ถ้ามั่นใจแบบนั้นก็คงรู้สินะว่าต้องทำยังไง อ้อ...ช่วยทำให้เร็วด้วยเพราะแขกเหรื่อมารอในงานกันจนจะครบแล้ว”
“ค่ะๆ ครับๆ” ยุพินและบรรจงเอ่ยรับออกมาพร้อมๆ กัน
“ถ้าพวกเธอแก้ปัญหานี้ไม่ได้ ก็เตรียมไม่มีที่ซุกหัวนอนได้เลย” ทิ้งระเบิดเวลาเสร็จ ปรียาก็กลับออกไปทันที เพียงดาวเองก็รีบเดินตามหลังปรียามา ก่อนจะปลีกตัวลงไปคอยประสานงานที่ห้องจัดเลี้ยง เพื่อยื้อเวลาให้ทางญาติของเจ้าสาวที่หนีงานแต่งงานไปแล้วหาทางออกในเรื่องนี้
ส่วนปรียานั้นเข้าไปคุยกับบุตรชาย ที่เวลานี้แต่งตัวด้วยชุดสูทสามชั้นสีน้ำเงินเสร็จเรียบร้อยแล้ว รอแค่ลงไปต้อนรับแขกพร้อมเจ้าสาวที่ห้องจัดเลี้ยงก็เท่านั้นเอง ซึ่งเหลือเวลาอีกแค่ครึ่งชั่วโมง
“รออีกแป๊บนึงนะปุณณ์ พอดีเจ้าสาวยังแต่งตัวไม่เสร็จนะลูก” ปรียาเลือกที่จะโกหก แม้อีกไม่กี่นาทีปุณณ์ก็คงรู้ความจริงแล้วก็ตาม
“ครับ” เสียงทุ้มเอ่ยรับ ก่อนที่เขาจะหันกลับมามองผู้เป็นแม่ ปรียามองลูกชายด้วยแววตาชื่นชม นั่นเพราะไม่คิดว่าปุณณ์จะยอมแต่งงานตามที่เธอร้องขอ แม้ว่านี่จะเป็นการแต่งงานแบบคลุมถุงชนก็ตามที
ซึ่งปุณณ์เองก็มีเหตุผลของตัวเขาเช่นเดียวกัน อันที่จริงเขาเกลียดการแต่งงานแบบนี้ อยากปฏิเสธแบบหัวชนฝา ตายเป็นตายก็ยอม กระทั่งเมื่อเดือนก่อนก็มีเหตุให้เขาต้องเปลี่ยนความคิด สิ่งนั้นคือผลการตรวจร่างกายประจำปี ที่ระบุว่าเขานั้นมีก้อนเนื้อในสมอง ซึ่งเป็นจุดที่ยากต่อการผ่าตัด และอาจมีชีวิตอยู่ได้อีกแค่ไม่นาน
เขาไม่เคยกลัวความตายเท่าครั้งนี้มาก่อน คิดทบทวนไปต่างๆ นานา ว่าหากเขาตายขึ้นมาใครจะอยู่เป็นเพื่อนแม่ เพราะท่านเองก็เป็นหม้าย แถมยังมีเขาเป็นลูกแค่คนเดียว เขาจึงจำต้องแต่งงานกับผู้หญิงสักคนและถ้าให้ดีคือเป็นคนที่แม่เลือกน่าจะดีที่สุด
ปุณณ์เคยเจอว่าที่เจ้าสาวแค่สองครั้ง ครั้งแรกคือวันที่ไปดูตัว ครั้งที่สองคือวันที่ไปถ่ายพรีเวดดิ้งและนี่คือครั้งที่สามที่ได้เจอเธอ เขายอมรับว่าเธอเป็นคนสวยคนหนึ่ง หน้าตาก็ไม่ได้ขี้เหร่ จบการศึกษาก็ดีแต่กลับหัวอ่อนถูกจับคลุมถุงชน ซึ่งเธอก็คงมีเหตุผลของตัวเองเหมือนเขากระมัง
ภูตะวัน นายหัวแห่งอาณาจักรยางพาราทางปักษ์ใต้ที่จู่ๆ ก็ถูกมารดาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเกย์ ถึงขนาดไหว้วานลูกน้องของชายหนุ่มให้ตามสืบข่าวแต่ก็ถูกจับได้เสมอๆ เมื่อคนใกล้ตัวถูกจับได้จึงต้องส่งคนไกลตัวเข้าไปทำหน้าที่แทน นั่นจึงทำให้ภูตะวันได้พบกับสาวน้อยที่ชื่อว่านับพันดาว หญิงสาวตัวเล็กผมประบ่าแววตาซุกซนและอยากรู้อยากเห็น ที่จู่ๆ ก็ทำให้หัวใจของนายหัวหนุ่มเต้นด้วยจังหวะแปลกๆ เธอมาเพื่อจับผิดเขา แต่ไปๆ มาๆ กลับเป็นมีใจให้กันอย่างไม่รู้ตัว เพราะมีใจจึงปกป้องได้แม้กระทั่งชีวิต "จูบของนับพอจะทำให้พี่ลืมจูบคุณไมค์ได้ไหมคะ" น้ำเสียงกระเส่าเอ่ยถาม "เหมือนจะยังไม่ได้" คนเจ้าเล่ห์ยิ้มตอบแล้วจูบปากอิ่มอย่างดุดันอีกครั้ง เรียวลิ้นของทั้งคู่ตะหวัดหยอกเย้าสลับดูดเม้มอย่างเป็นจังหวะ ทุกอย่างเกิดขึ้นเนิ่นนานก่อนที่ภูตะวันจะถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง ทั้งคู่สบตากันและกันและนั่นก็คือคำตอบโดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยอะไร "นับดีใจจังที่ได้รักพี่" นับพันดาวเอ่ยรับพร้อมกับซุกตัวเข้าหาภูตะวันมากขึ้น ชายหนุ่มปัดปอยผมที่ชื้นด้วยเหงื่อออกจากหน้าผากเธอแล้วจุมพิตหนักๆ อย่างเอาใจ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่หยุดแค่นั้น "อย่ารุ่มร่ามนะคะ พอแล้ว" นับพันดาวตีมือที่เริ่มซุกซนของภูตะวันเบาๆ นอกจากบ้ากามแล้วเขายังบ้าพลังอีกด้วย เธอยังไม่ทันหายเหนื่อยเขาก็จะเริ่มใหม่อีกแล้ว "ยังไม่พอ" เขาว่าอย่างติดตลกพลอยทำให้คนฟังค้อน เขาสูบพลังไปจากเธอจนหมดยังจะบอกว่าไม่พออีกหรือไง สำหรับภูตะวันแล้วเซ็กซ์แต่ล่ะวันแต่ล่ะคืนไม่เคยมีคำว่าครั้งเดียว "คนบ้ากาม" คำพูดของนับพันดาวทำให้คนฟังหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ "มีเมียน่ารักแบบนี้ใครที่ไหนจะอดใจไหว" เพราะเขินอายทำให้นับพันดาวทุบแผงอกของภูตะวันไปแรงๆ ก่อนที่เขาจะทำให้เธอครางกระเส่าออกมาอีกครั้ง ซึ่งนับพันดาวก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด จูบที่อ่อนหวานกลายเป็นเร่าร้อนดุดันชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร
ภูตะวัน นายหัวแห่งอาณาจักรยางพาราทางปักษ์ใต้ที่จู่ๆ ก็ถูกมารดาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเกย์ ถึงขนาดไหว้วานลูกน้องของชายหนุ่มให้ตามสืบข่าวแต่ก็ถูกจับได้เสมอๆ เมื่อคนใกล้ตัวถูกจับได้จึงต้องส่งคนไกลตัวเข้าไปทำหน้าที่แทน นั่นจึงทำให้ภูตะวันได้พบกับสาวน้อยที่ชื่อว่านับพันดาว หญิงสาวตัวเล็กผมประบ่าแววตาซุกซนและอยากรู้อยากเห็น ที่จู่ๆ ก็ทำให้หัวใจของนายหัวหนุ่มเต้นด้วยจังหวะแปลกๆ เธอมาเพื่อจับผิดเขา แต่ไปๆ มาๆ กลับเป็นมีใจให้กันอย่างไม่รู้ตัว เพราะมีใจจึงปกป้องได้แม้กระทั่งชีวิต "จูบของนับพอจะทำให้พี่ลืมจูบคุณไมค์ได้ไหมคะ" น้ำเสียงกระเส่าเอ่ยถาม "เหมือนจะยังไม่ได้" คนเจ้าเล่ห์ยิ้มตอบแล้วจูบปากอิ่มอย่างดุดันอีกครั้ง เรียวลิ้นของทั้งคู่ตะหวัดหยอกเย้าสลับดูดเม้มอย่างเป็นจังหวะ ทุกอย่างเกิดขึ้นเนิ่นนานก่อนที่ภูตะวันจะถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง ทั้งคู่สบตากันและกันและนั่นก็คือคำตอบโดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยอะไร "นับดีใจจังที่ได้รักพี่" นับพันดาวเอ่ยรับพร้อมกับซุกตัวเข้าหาภูตะวันมากขึ้น ชายหนุ่มปัดปอยผมที่ชื้นด้วยเหงื่อออกจากหน้าผากเธอแล้วจุมพิตหนักๆ อย่างเอาใจ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่หยุดแค่นั้น "อย่ารุ่มร่ามนะคะ พอแล้ว" นับพันดาวตีมือที่เริ่มซุกซนของภูตะวันเบาๆ นอกจากบ้ากามแล้วเขายังบ้าพลังอีกด้วย เธอยังไม่ทันหายเหนื่อยเขาก็จะเริ่มใหม่อีกแล้ว "ยังไม่พอ" เขาว่าอย่างติดตลกพลอยทำให้คนฟังค้อน เขาสูบพลังไปจากเธอจนหมดยังจะบอกว่าไม่พออีกหรือไง สำหรับภูตะวันแล้วเซ็กซ์แต่ล่ะวันแต่ล่ะคืนไม่เคยมีคำว่าครั้งเดียว "คนบ้ากาม" คำพูดของนับพันดาวทำให้คนฟังหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ "มีเมียน่ารักแบบนี้ใครที่ไหนจะอดใจไหว" เพราะเขินอายทำให้นับพันดาวทุบแผงอกของภูตะวันไปแรงๆ ก่อนที่เขาจะทำให้เธอครางกระเส่าออกมาอีกครั้ง ซึ่งนับพันดาวก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด จูบที่อ่อนหวานกลายเป็นเร่าร้อนดุดันชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร
สวาทรักพ่อเลี้ยงภูเมฆ “นี่คุณจะใจดีจ่ายหนี้แทนณดลอย่างนั้นเหรอ” เพราะไม่พอใจกับการตัดสินใจของเภตราทำให้เสียงของภูเมฆนั้นห้วนไม่น่าฟัง “ฉันจ่ายเพื่อซื้ออิสรภาพของตัวเองต่างหากแล้วค่อยไปเอาคืนผู้ชายห่วยๆ นั่น คุณอยากได้เท่าไหร่ก็ว่ามา” มีหรือที่เภตราจะจ่ายหนี้ให้ณดลกลับกันเธอจะเอาคืนอีกฝ่ายให้สาสมต่างหาก “ผมไม่รับเงินสดไม่รับเช็คหรืออะไรทั้งนั้น สิ่งเดียวที่ผมอยากได้คือแรงและเวลา ถ้าคุณทำตัวดีๆ สามสี่ปีก็น่าจะใช้หนี้ผมได้หมด” “แล้วสิ่งที่คุณทำกับฉันเมื่อคืนมันมีค่าเท่าไหร่ ไม่พอใช้หนี้เลยหรือไง” เภตราเอ่ยถามเสียงสั่นพร้อมกับน้ำตาที่จู่ๆ ก็เอ่อออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง ภูเมฆสบตาที่แดงก่ำของเธอแล้วเอ่ยขึ้น “ไม่พอ” คำตอบของเขาช่างแสนเลือดเย็นจนทำให้เภตราจุกไปทั้งอกก่อนจะกล้ำกลืนน้ำตาลงคอ เพราะไม่อยากให้มันไหลออกมาประจานตัวเอง ในเมื่อเขาไม่เห็นค่าของมันเธอไปเก็บมาใส่ใจแล้วจะได้อะไร
งานทำบุญครบร้อยวันยังมาไม่ถึงด้วยซ้ำ แต่จู่ๆ อดีตคนรักของน้องสาวก็ประกาศจะแต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่ แถมเธอคนนั้นยังเคยเป็นอดีตคนรักของเขาอีกด้วย นั่นทำให้คริสบินตรงกลับมาที่เมืองไทยเพื่อสะสางความแค้นให้เขาและน้องผู้จากไป +++++++++++++++++ “คุณ” ลลิตาอุทานออกมาอย่างตกใจ เพราะไม่คิดว่าคนที่ยืนกดออดอยู่หน้าบ้านเป็นคริส ชายหนุ่มรู้ได้ยังไงว่าเธออยู่ที่นี่ “ขอเข้าไปหน่อย” แขกที่ไม่ได้รับเชิญเอ่ยบอกแต่เจ้าบ้านสาวกลับไม่ยอมทำตามเช่นกัน “ฉันไม่สะดวก คุณมีอะไรก็พูดมาได้เลย” “แน่ใจหรอกว่าจะให้ผมพูดตรงนี้” “แน่ใจ” ลลิตาเชิดหน้าขึ้นสูง เธอต้องเอาชนะผู้ชายคนนี้ให้ได้ จะไม่ยอมให้เขาเห็นความอ่อนแอแน่นอน “โอเค แน่ใจก็แน่ใจ บังเอิญว่าผมยังเก็บคลิปเซ็กซ์ของเราไว้ดูต่างหน้า” “ว่าอะไรนะ!” คำพูดของคริสทำให้ลลิตารู้สึกเย็นวาบไปถึงตัว เพราะอารมณ์ในตอนนั้นมันพาไปเธอจึงยอมให้เขาถ่ายทุกอย่างเก็บไว้ ไม่คิดว่าวันนึงคลิปบ้าๆ นั่นจะตามมาหลอกหลอนเธอ “ได้ยินชัดแล้วนี่” “แต่ฉันลบมันไปแล้วกับมือ” ลลิตามั่นใจว่าเธอลบคลิปที่ว่ากับมือแล้วทำไมคริสถึงยังมีอีกหรือว่าเขาหลอกให้เธอตายใจ “ลบเสียเมื่อไหร่เพราะก่อนหน้านั้นผมสำรองไฟล์ไว้ดูหลายไฟล์ คิดถูกจริงๆ ที่ทำแบบนั้น” “สารเลว” “นอกจากมีคลิปแล้วผมยังเปิดดูมันบ่อยๆ ด้วยนะ คุณไม่อยากดูบทรักของเราหน่อยเราเหรอ” คริสเอ่ยอย่างไม่ไยดีราวกับเรื่องที่เขาทำนั้นเป็นสิ่งปกติ “คุณมาหาฉันเพื่อเอาคลิปอุบาทว์ๆ นั่นมาขู่อย่างนี้นะเหรอ” “ผมไม่ได้ขู่” “แล้วต้องการอะไร” “วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ช่วยหาเวลาให้ผมหน่อย ขอแค่สามวันเท่านั้น” นั่นคือหนึ่งในแผนที่จะทำลายผู้หญิงตรงหน้าของคริส “ถ้าฉันปฏิเสธล่ะคะ” ลลิตาจ้องตาเขากลับมาอย่างไม่กลัวเช่นกัน “คุณก็น่าจะเดาได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง คลิปในมือผมมันคงทำให้คุณดังกระฉ่อนทีเดียวล่ะ” ชายหนุ่มยิ้มมุมปากพร้อมหัวเราะออกมาเล็กน้อย คำขู่ของเขายังคงได้ผลกับลลิตาเรื่องแบบนี้คนที่เสียหายที่สุดคงเป็นผู้หญิงแบบเธอ “ถ้าคลิปนั่นหลุดขึ้นมา คุณเองก็จะดังกระฉ่อนไปด้วยไม่ใช่หรอ หน้าที่การงานที่คุณโหยหาและสร้างมันของคุณจะพังทลายไปเหมือนกัน” “มันคือเรื่องส่วนตัวฝรั่งเขาไม่แคร์เรื่องนี้หรอกอีกอย่างในคลิปนั้นก็ไม่เห็นหน้าผมด้วยสิ”
คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ยังเวอร์จิ้น! มาแก้ไขปริศนาประโยคนี้กันค๊า โดยแกนนำคือรอยส์ซีอีโอหนุ่มที่ตกหลุมรักลูกน้องคนเก่งที่มีสถานะเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวอย่างขวัญชีวาเข้าอย่างจัง กระทั่งเธอก็มีเหตุให้ยื่นใบลาออก รอยส์จึงใช้ความเจ้าเล่ห์เข้าล่อหลอกเพื่อให้เธอตกหลุมพราง แต่ดูเหมือนเขาต่างหากที่จะตกหลุมพรางที่ตัวเองขุดไว้เสียเอง ในเมื่อต้องการเรื่องอะไรจะปล่อยเธอไป ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องได้ด้วยกลไม่ได้ด้วยมนต์ก็ต้องได้ด้วยคาถา โอมมมม เพี้ยงงงงง
เธอถูกคนใกล้ตัวคิดร้ายและเขาคือเจ้าชายขี่ม้าขาว รวีคือหญิงสาวที่รอดตายจากการถูกลอบฆ่า เธอดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากก้นเหมืองและคนที่ช่วยชีวิตเธอไว้คือภีม บางคนกล่าวไว้ว่าความรักครั้งนี้ของภีมเกิดขึ้นจากความสงสาร แต่ชายหนุ่มก็พิสูจน์ให้เห็นว่าความรักที่เกิดจากความสงสารนั้นไม่ผิด เขารักเธอ รักผู้หญิงแปลกหน้าที่ใสซื่อและไร้พิษภัย เพราะรักจึงทุ่มเทและเลือกที่จะปกป้อง ใครหน้าไหนก็แตะเธอไม่ได้
“หยุดทำบ้าๆ นะพี่สิงห์...อ๊อย...” น้ำผึ้งขนลุกซู่ เขาจูบไซ้ซอกคอของหล่อน ขณะหญิงสาวกำลังยืนส่องกระจกอยู่หน้าอ่างล้างหน้า “พี่ขออีกนิด แค่ภายนอกเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่เสียหายอะไรนี่นา...นะครับ” พี่เขยปะเหลาะปะแหละอย่างคนเอาแต่ได้ เสียงออดอ้อนอ่อนหวานเริ่มทำให้น้องเมียใจอ่อนหวามไหว ปล่อยให้มือของเขาเคล้นคลึงสะโพกของหล่อนอย่างนึกมันเขี้ยว สอดท่อนแขนเข้ามาระหว่างง่ามก้น หงายฝ่ามือลูบไล้เข้ามาถึงหนอกเนื้ออุ่นจัดอีกครั้ง ตะล่อมล้วงเข้ามาโอบเนินนูนเหมือนหลังเต่า บีบขยำเบาๆ เหมือนจะประมาณความอวบใหญ่ล้นอุ้งมือ “ของผึ้งใหญ่จัง” มือสัมผัสกลีบเนื้อเป็นพูแน่น โหนกนูนและใหญ่กว่าของเจนนี่มากมาย “อ๊าย...” น้ำผึ้งเสียว กระดกก้นขึ้นโดยอัตโนมัติ สิงหาบีบขยำความเป็นผู้หญิงของหล่อนเป็นจังหวะ หัวใจเต้นแรงกับความอวบใหญ่ที่อัดแน่นอยู่ในอุ้งมือของตน “อย่า...พี่สิงห์...หยุดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวพี่เจนนี่มาเห็นผึ้งซวยแน่ๆ” น้องเมียร้องห้ามอย่างสับสนใจ ส่ายก้นทำท่าว่าจะดิ้นหนี แต่ช้ากว่ามือใหญ่ของสิงหาอีกข้างที่กดลงบนแผ่นหลังของหล่อนเหมือนจะล็อกกายไม่ให้ขยับหนี
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!