ได้ชื่อว่าเป็นยักษ์พาลนั้นก็เพราะนางเมขลาได้ก่อเรื่องไว้ ครั้นมาถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน ความเข้าใจผิดนั้นก็เสมือนตราบาปที่ประทับลงมายังวงศาคณายักษ์ตระกูลรามสูร ทำเอา ‘รามสุระ’ ยักษ์หนุ่มครึ่งเทวา ถูกกลั่นแกล้งอยู่ร่ำไป หากแต่การถูกรังแกนั้นเป็นเพราะเขาเป็นอสูรเทพบุตรผู้มีเรือนกายน่ารักน่าชังหาใช่เพราะเป็นลูกหลานรามสูร ความน่าเอ็นดูเป็นที่เลื่องลือไปทั้งแดนสวรรค์ แม้แต่เทวดาจอมเจ้าชู้อย่าง ‘กรฤต’ ยังอดไม่ได้ที่จะยลโฉมหน้า เมื่อมีเหตุให้ต้องปะมือกับยักษ์ผู้เป็นพี่ของรามสุระเพราะอีกฝ่ายได้รับคำสั่งจากพระอิศวรให้ไปตามดวงแก้วมณีที่เทวดาหนุ่มลักขโมยไปกลับคืน กรฤตก็สบโอกาสใช้เล่ห์กลล่อลวงรามสุระให้มายังวิมานที่ตั้งอยู่ยังสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ถึงจะเป็นอสุรา แต่ผุดผ่องไร้เดียงสาเช่นนั้นหรือจะสู้ความเจ้าเล่ห์เพทุบายของเทวดาหนุ่มได้ เพียงเจ็ดทิวา เจ็ดราตรีที่ต้องตกเป็นของอีกฝ่าย รามสุระก็ตระหนักได้ว่าไม่ว่าเพลาจะผันผ่านไปเพียงใด เมขลากับรามสูรก็มิอาจปรองดองกันได้เลย “เรียกข้าว่าพี่สิเจ้ายักษ์น้อย ข้าจะได้เอ็นดูเจ้าให้มาก” “เงียบปากของเจ้าไปเสีย ไม่อย่างนั้นข้าจะเอาดวงแก้วมณียัดปาก แล้วใช้ขวานเพชรสับเจ้าให้เป็นชิ้นๆ!”
แต่กาลก่อน มีตำนานกล่าวขานไว้ว่า ณ วิมานชั้นฟ้าอันเป็นที่สถิตของเหล่าทิพยาดาและนางอัปสร คราถึงเทศกาลวสันตฤดูมาเยือน เหล่าเทวดาและนางอัปสรเล่นนักขัตฤกษ์จับระบำกัน
นางเมขลา นางสวรรค์ผู้ซึ่งสถิตอยู่ยังวิมานรัตนะ มีหน้าที่คอยพิทักษ์รักษาสมุทรไท และครอบครองดวงแก้ววิเศษดวงหนึ่งซึ่งพระนารายณ์ได้ประทานให้ ทำให้นางมีอิทธิฤทธิ์ เหาะเหินไปแห่งหนใน นางเมขลาจึงนำดวงแก้วติดตัวไปด้วยเสมอ เมื่อต้องออกจากวิมานไปร่วมงานนักขัตฤกษ์ เจ้ายักษานามรามสูรอันเป็นอสูรเทพบุตรได้พบพานเข้า และเกิดต้องตาความแวววาวของดวงแก้ว พลันเหาะติดตามเข้าไปไล่จับ หมายจะช่วงชิงดวงแก้วนั้นมาเป็นของตน
นางเมขลาจำได้ดีว่ายักษาคืออสุราชั้นเลวที่เที่ยวเกะกะระรานไปทั่วทั้งแดนสวรรค์และบาดาล จึงยั่วโทสะอีกฝ่ายให้เดือดดาล เจ้ายักษ์รามสูรขว้างขวานเพชรในมือหมายจะทำลายนางอัปสรให้สูญสิ้น ทว่า...ความแวววาวของดวงแก้วทำให้ยักษ์รามสูรขว้างพลาด ครั้นเกิดโทสะก็บันดาลใส่พระอรชุนที่เหาะผ่านมาพอดี จึงเกิดเป็นการสู้รบสะเทือนเลือนลั่นทั้งสรวงสวรรค์
ยักษ์รามสูรสังหารพระอรชุนด้วยการจับขาฟาดกับเขาพระสุเมรุจนเขาเอียงทรุด ร้อนถึงเหล่าเทพยดา รวมทั้งฤาษีชีไพร แลครุฑ นาค คนธรรพ์ ที่ต้องมาทำพิธีชะลอเขาพระสุเมรุให้กลับตั้งตรง ขณะที่พระอินทร์ทำหน้าที่เป่าสังข์ให้อาณัติสัญญาณ
และตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา เจ้ายักษ์รามสูรก็กลายเป็นที่เกลียดชังของทุกดินแดน ทุกชีวิตตราหน้าว่าเป็นจอมอสูรไร้ศีล ต้องปลีกวิเวกหลบหนีไปเก็บซ่อนตัว โดยหารู้ไม่ว่าความจริงแล้ว ตำนานที่เล่าขานมานั้น... เป็นเรื่องราวที่ถูกบิดเบือนจนกลายเป็นความเชื่อตราบจนกาลปัจจุบัน
๏ อสุราเห็นแก้วแววไว
ซึ่งนางเมขลาโยนเล่น ยิ่งเห็นยิ่งชอบอัชฌาสัย
ยิ่งพิศยิ่งติดต้องใจ จะใคร่ได้ดวงจินดา
หมายเขม้นเข่นเขี้ยวจะราญรอน กรกุมขวานเพชรเงื้อง่า
เผ่นโผนโจนไปในเมฆา ไล่นางเมขลาด้วยฤทธีฯ
..................................
๏ เมื่อนั้น นวลนางเมขลามารศรี
เลี้ยวล่อรามสูรอสุรี กรโยนมณีจินดา
ท่าทีประหนึ่งจะให้แก้ว กลอกแสงพราวแพรวบนหัตถา
ครั้นรามสูรไล่เลี้ยวมา กัลยารำล่ออสุรี
นางแกล้วเลี้ยวลัดฉวัดเฉวียน เวียนไปตามจักราศี
มือหนึ่งชูแก้วมณี ทำทีเยาะเย้ยอสุราฯ
..................................
สิ่งนั้นคือโบราณกาลกล่าวขาน เมื่อเวลาผันผ่าน เรื่องจริงก็กลายเป็นตำนาน รามสูรยักษากลายเป็นผู้กระทำผิดก่อกวนชั้นสวรรค์บรรณภพจนวุ่นวาย โดยหารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้วการวิวาทกันจนกลายเป็นศัตรูระหว่างรามสูรและเมขลานั้น เกิดมาจากการที่นางเมขลาเบื่อหน่ายในหน้าที่ เมื่อพระอิศวรบรรทมหลับ นางเมขลาก็ขโมยเอาแก้วมณีซึ่งมีอิทธิฤทธิ์ สามารถดลบันดาลให้พรที่ขอเป็นไปตามประสงค์ออกมา ตั้งจิตภาวนาขอให้แก้วมณีบังเนตรเทวาทั้งปวงไม่ให้เห็นนาง ขอให้แคล้วคลาดจากเทพาอาวุธทั้งหลาย อีกทั้งยังดื่มกินและอาบน้ำอมฤตเพื่อให้ฤทธากล้าแข็งยิ่งขึ้น เมื่อได้ของมาไว้ในมือก็หนีออกจากวิมานพระอิศวร เหาะดั้นเมฆาไปเที่ยวเล่นอย่างสำราญใจ
เมื่อพระอิศวรตื่นบรรทมและพบว่านางเมขลาหายตัวไปพร้อมกับแก้วมณี ก็ออกคำสั่งให้เทวาทุกสารทิศออกตามหา ทว่า...กลับไร้ซึ่งผู้ใดตามนางกลับมาได้ เทพสวรรค์ผู้ยิ่งใหญ่จึงทรงประกาศให้รางวัล หากใครเอาแก้วมณีมาถวายคืน จะยกนางเมขลาให้เป็นเมีย
ครั้นบัญชานี้แพร่งพรายออกไปทั่วสารทิศ ราหูยักษาจึงไปชักชวนสหายรักมีนามว่ารามสูร ดวงหน้าพริ้มเพราของนางเมขลาอันเป็นที่เลื่องลือทั่วแผ่นดินฟ้าว่างามงด ทำให้รามสูรโอ้อวดตนว่าจะตามจับนางมาให้ได้ในสามราตรี เพราะเหตุนั้น นางเมขลาจึงถูกรามสูรไล่ล่าไม่เลิกรา กระนั้นก็มิอาจจับนางได้ อีกทั้งยังถูกนางยั่วเย้าโทสะให้หัวเสีย พานให้ต้องขว้างขวานเพชรอันเป็นอาวุธประจำกายใส่ด้วยโทสะบันดาล นางเมขลาก็ล่อหลอกด้วยแสงวิบวับของแก้วมณีให้เป็นที่สนุกสนาน
หาว่ายักษ์นั้นพาล แต่แท้จริงแล้ว นางอัปสรผู้นั้นต่างหากที่เล่นเย้าไม่ได้ความอันใด แต่ผู้ผิดกลับกลายเป็นรามสูรที่ถูก่นด่าสาปแช่งชั่วลูกชั่วหลาน เหตุการณ์นั้นก็ผ่านพ้นมาสี่ชั่วลูกหลานแล้ว ทว่าวงศาคณายักษ์ลูกหลานของรามสูรก็คงยังถูกก่นด่าไม่เลิก ทำเอายักษ์หนุ่มหงุดหงิดใจอยู่ไม่น้อย
ดวงหน้างดงามได้รูปนั้นยับยู่เมื่อเทพาหนุ่มวัยฉกรรจ์ที่มาเข้าเฝ้าพระอิศวรบังเอิญเห็นเขาที่มาหาพี่ชายซึ่งเป็นยักษ์เฝ้าวิมานพระอิศวรล้อเลียนว่าเป็นลูกหลานยักษ์พาล หากแต่ ‘รามสุระ’ ก็หาได้ตอบโต้อันใด นอกจากมองตาขวางด้วยร้อนระอุอยู่ในอกเท่านั้น
เมื่อมนุษย์เพศชายเกิดการวิวัฒนาการทางร่างกาย ผู้ชายกลุ่มหนึ่งจึงสามารถตั้งท้องได้ และเพราะความเมาชนิดหลุดโลกในคืนวันนั้น ‘นภัทร’ เดือนคณะสุดหล่อจึงตื่นขึ้นมาพร้อมกับความจริงว่าตัวเองจัดการรวบหัวรวบหางลากหลืบคณะอย่าง ‘สิงหา’ ไปมี one night stand เป็นที่เรียบร้อย เรื่องควรจะจบลงแค่นั้น แต่ไม่จบเมื่อชีวิตน้อยๆ ถือกำเนิดขึ้น นภัทรหายตัวไป กลับมาอีกครั้งพร้อมกับข่าวลือประหลาดๆ ก่อนสิงหาจะพบว่าต้นเหตุของข่าวลือคือเด็กหญิงตัวน้อยอย่าง ‘น้องณดา’ ที่สิงหาสงสัยเหลือเกินว่าจะเป็นลูกของเขา “ให้เรียกนายว่าพ่อไม่ได้หรอก น้องณดาไม่ได้ลูกของนาย” “งั้นเรียกป๊ะป๋าก็ได้” “ไม่ได้” “แด๊ดดี้” “นี่...พอเลย” “ดาดา” คำเรียกที่หลุดจากปากของเด็กหญิงตัวน้อยทำเอาคุณพ่อกำมะลอยิ้มหน้าบาน ปฏิบัติการทวงคืนความเป็นพ่อต้องมา ต่อให้นภัทรไม่ยอมรับ งั้นสิงหาก็ขอเข้าทางลูกสาวตัวจิ๋วก็แล้วกัน! รับผมเป็นพ่อของลูกเถอะนะครับ!
เพราะไปตีกับเกรียนคีย์บอร์ดที่บังอาจเอานิยายเธอมาวิจารณ์หยาบๆ คายๆ ว่างานเธอเชิดชูระบอบปิตาธิปไตย ตามมาด้วยการดูแคลนเหยียดหยามทางเพศสภาพอีกหลายอย่าง ทำเอา ‘อาคิรา’ นักเขียนนิยายประโลมโลกถึงกับเลือดเฟมินิสต์ในกายเดือดพล่าน กล้าดียังไงมากล่าวหาเธออย่างนี้ งานเธอถึงจะเป็นงานประโลมโลก แต่ใช่ว่าจะเชิดชูระบอบชายเป็นใหญ่สักหน่อย! ต้องตามไปตบตีจนกว่าจะชนะ เถียงแพ้รอบนั้น แต่คนไม่แพ้ ตามหาแอคเคาทน์ของคนที่ใช้นามแฝงว่า ‘เวนไตย’ ไปจนเจอเข้ากับตอจังเบ้อเร่อ โดยหารู้ไม่ว่าเวนไตยคนนี้ หาใช่ไอ้เวรตะไลที่ประนามหยามเหยียดแต่อย่างใดไม่ ทว่าเป็นบรรณาธิการหนุ่มผู้คว่ำหวอดในวงการวรรณกรรมสร้างสรรค์สังคมต่างหาก “ฉันจะทำให้ดูว่างานเขียนฉันมันไม่ได้เชิดชูระบอบชายเป็นใหญ่!” “งั้นก็ลองเขียนมาดู ผมอยากอ่านเหมือนกัน อยากรู้ว่านักเขียนอย่างคุณจะทำได้ดีสักกี่น้ำ” โดนท้าทายมาถึงกับปรี๊ด คอยดูเถอะ เธอจะเอารางวัลมาฟาดหน้าไอ้เวรตะไลนี่ให้ได้เลย!
“ฉันจะเป็นเมียของนายดินค่ะ” ไม่รู้ว่าส้มหล่นหรือโชคร้ายกันแน่ที่จู่ๆ คุณหนู ‘หยาดฟ้า’ ของตระกูลเศรษฐีเมืองกรุงก็มาถวายตัวยอมเป็นเมียของ ‘ไอ้ดิน’ อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเสียอย่างนั้น ไอ้ดินค่อนข้างจะงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก็จะไม่ให้งงได้อย่างไร เขาไม่รู้จักมัดจี่กับเจ้าหล่อนนี่ จู่ๆ ก็มาบอกว่าจะเป็นเมียเขา เป็นใครก็งงทั้งนั้นแหละ! ก่อนที่เขาจะได้รับรู้ว่าเหตุนี้เกิดขึ้นเพราะหยาดฟ้าถูกบิดาบังคับให้แต่งงาน เธอจึงหนีมาอยู่ที่บ้านพักตากอากาศในต่างจังหวัด และได้เจอกับกุลีหนุ่มที่นี่ ประจวบเหมาะกับที่บิดาของเธอโทรมาคาดคั้นให้เธอกลับไปแต่งงานพอดี เธอถึงได้ลั่นวาจานี้ออกมาให้บิดารู้ว่าเธอมีผู้ชายคนใหม่ที่ยินยอมพร้อมใจจะเป็น ‘เมีย’ ของเขาแล้ว หาใช่ผู้ชายที่บิดาจัดเตรียมมาให้ สำหรับไอ้ดิน นี่คงไม่ใช่ส้มหล่นหรอก เป็นคราวเคราะห์เสียมากกว่า เขาจึงรีบบอกปัดหัวขวิด “ไม่ล่ะครับคุณหนู ผมคงไม่อาจเอื้อมไปเด็ดดอกฟ้าหรอก ผมก็แค่กุลีใช้แรงงานไปวันๆ จะเอาเงินที่ไหนไปเลี้ยงให้คุณหนูอยู่ดีกินดีได้” “ไม่ต้องกินดีอยู่ดีก็ได้ แค่ให้ฉันอยู่ด้วยก็พอ” “ให้อยู่ด้วยก็ไม่ได้ครับ ก็คุณหนูน่ะเป็น...” “เป็นเมียนายดินไงล่ะ” เป็นที่ไหนกัน เขายังไม่ได้ซั่มเธอเลยสักกะยก! ไอ้ดินปวดขมับตุบๆ ขณะที่หยาดฟ้าเชื้อเชิญเขาเป็นการใหญ่ “แล้วนี่มัวรออะไรอยู่ รีบพาฉันเข้าบ้านสิ จะได้ทำอะไรอย่างที่ผัวเมียเขาทำกัน” เธอรู้หรือเปล่าว่าพูดถึงเรื่องอะไรอยู่น่ะ!? ไอ้ดินไม่แน่ใจนัก แต่แวบเดียวก็แน่ใจแล้ว เพราะจู่ๆ หญิงสาวก็ดึงคอเสื้อให้หน้าอกอิ่มล้นทะลักออกมา ไอ้ดินมองจ้องตาไม่กะพริบ ได้สติมาอีกครั้งก็ตอนที่สาวเจ้าเอ่ยปาก “มาสิพี่ดิน มาเอากัน ฟ้าพร้อมจะเป็นเมียพี่แล้ว” ดูพูดจาเข้า เรียกแทนตัวด้วยชื่อ แทนเขาว่าพี่ชวนให้เอ็นดูอีก! โอ๊ย! ไอ้ดินจะบ้าตาย! เห็นทีเขาคงหนีไม่พ้นการถูกยัดเยียดความเป็น ‘ผัว’ ด้วยฝีมือหยาดฟ้าแล้วล่ะ
เพราะอกหักจากคนที่แอบชอบมานาน ทำให้ ‘ภีม’ พาตัวเองไปในที่อโคจรเพื่อที่จะระบายความเศร้าเสียใจออกไปบ้าง หากทว่าในคืนนั้น เขากลับได้พบกับชายแปลกหน้าอย่าง ‘สุดเขต’ ที่บังเอิญเข้ามาพูดคุยด้วย ทั้งสองเกือบจะลงเอยกันด้วยความสัมพันธ์ข้ามคืน หรือที่เรียกกันว่า One night stand หากทว่าก็เกิดเรื่องวุ่นๆ เสียก่อน ก่อนที่ภีมจะพบว่าผู้ชายที่เขาได้เจอในคืนนั้น เป็นคนคนเดียวกับคนที่เขาแอบชอบตกหลุมรัก ให้ตาย! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! ขณะเดียวกัน ปฏิบัติการ ‘ลัก’ ความรักของภีมก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อสุดเขตไม่สามารถลืมความน่ารักของภีมลงได้เลย เขาต้องเอามาให้ได้ ทั้งตัวภีม และความรักของภีม จะเอามาให้ได้ทั้งหมดเลยคอยดู!
แม้ขึ้นชื่อว่าเป็นปีศาจ ทว่าปีศาจกวางอย่าง ‘ลู่ลู่’ กลับหาได้พิสมัยการระรานมนุษย์สักเท่าไรนัก สะอาดบริสุทธิ์เสียจนแทบจะลุแก่ตบะแล้ว ทว่า... ชีวิตของเขาก็หาได้สงบสุขอีกต่อไปเมื่อนักพรตปราบปีศาจอย่าง ‘เยี่ยนเฉิน’ หนีตายจากการถูกล่าเพราะดันไปต้มตุ๋นชาวบ้านวิ่งทะเล่อทะล่ามาสลบอยู่หน้าถ้ำ ถึงจะเป็นปีศาจแต่ก็หาได้ไร้น้ำใจนัก มอบไมตรีช่วยเหลืออย่างไม่เกี่ยงงอน หากแต่เยี่ยนเฉินกลับตอบแทนบุญคุณด้วยการทำให้ชีวิตของลู่ลู่แปดเปื้อนด้วยมลทิน บีบบังคับให้ปีศาจกวางน้อยรวมหัวในแผนต้มตุ๋นชาวบ้านเพื่อเอาคืน! นักพรตจอมกะล่อนผงาด ใช้ชีวิตอย่างสำราญ ขณะที่ปีศาจน้อยถูกจิกหัวใช้ให้ไประรานชาวบ้านไม่เว้นวัน อะไรไม่ว่า เยี่ยนฉินยังขยันลูบหางเล็กๆ ของเขาเสียเหลือเกิน ไม่รู้หรือไงว่าตรงนั้นน่ะ...มะ...มัน... ...ทำให้ตัวร้อนผะผ่าวนะ! ต้องมีสักวันที่พลั้งเผลอไปมากกว่านี้แน่ สวรรค์! ลู่ลู่ผู้นี้จะหลั่งน้ำตาเป็นสายโลหิตแล้ว!
หากผู้ใดเชื่อว่าทะเลทรายผืนนี้โหดร้าย ผู้นั้นย่อมเชื่อในสิ่งที่ผิด เพราะสิ่งที่โหดร้ายกว่าผืนทะเลทรายแห้งแล้ง คือกองกำลังโจรทะเลทรายของ 'อัลมิราน' ผู้นี้ต่างหาก โหดร้าย...ชั่วช้า...เลวสามานย์ ดูเหมือนจะเป็นคำสร้อยที่พ่วงท้ายชื่อของโจรหนุ่มนามเลื่องลือไปเสียแล้ว แต่เขาจะสนใจสิ่งใดกัน ในเมื่อเขาถูกตราหน้าว่าชั่ว เขาก็จะเป็นคนชั่วให้สมดั่งที่ถูกบีบคั้น เพียงเพื่อให้ได้อัญมณีแห่งสุลต่านมาครอบครอง เขาก็ไม่เกรงกลัวสิ่งใดแล้ว หากแต่หารู้ไม่ว่าสวรรค์จะนำพาให้เขาพบกับอัญมณีมีชีวิตแห่งทะเลทราย...'จามิล' นักระบำร่อนเร่ผู้มีเสน่ห์เย้ายวน เพียงได้ชมระบำทะเลทรายของจามิลแค่ครั้งเดียวเท่านั้น หัวใจของอัลมิรานก็ถูกครอบครองไปสิ้น โดยหารู้ไม่ว่าตนกำลังก้าวเข้าสู่หุบเหวอเวจีแสนหวานที่จะฉุดคร่าชีวิตเขาไปเสียแล้ว...
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"