นักข่าวสาวจอมห้าว ตัวป่วนของสำนักพิมพ์ เธอถูกคุกคามด้วยข้อหาร้ายแรง...ขโมย เจ้าของบริษัทอัญมณีกล่าวหาเธอตกเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด บทลงโทษสำหรับคนผิด ที่เธอต้องชดใช้ด้วยร่างกาย ทอปัดติดกับ เพราะความปากพล่อย เธออาสารับชดใช้ให้ โดยไม่รู้ว่า...สิ่งที่ธันน์ต้องการไม่ใช่เงิน แต่...คือความสาวของเธอ
บทที่1.ชนวนเหตุ!!
ทอปัดขมวดคิ้วจนหน้าผากย่น…สายตามองเลยไปยังเตียงนอนมุมห้อง บนที่นอนนุ่มๆ ของเธอนั้นมีร่างของใครบางคนนอนคุดคู้ หลับสนิทอยู่บนนั้น หญิงสาวแน่ใจ...ก่อนจะตารีตาเหลือกออกไปทำงานเมื่อตอนสายๆ ของวันนี้ เธอมั่นใจว่าตนเองพับเก็บที่นอนเป็นอย่างดี หญิงสาวโครงศีรษะช้าๆ เอื้อมปลดกระเป๋าสะพายไหล่วางทิ้งไว้บนโต๊ะ เดินเลยไปยังที่นอนมุมห้อง...เพื่อพิสูจน์สิ่งที่คาใจ…ใครคนนั้น…น่าจะเป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอ ญาติสนิทที่มีนิสัยไม่ค่อยเกรงใจใคร หล่อนมักจะแอบมาใช้ห้องนอนของเธอเป็นประจำ แพรวนารี…
หญิงสาวส่ายใบหน้าแรงๆ สายตาสะดุดกับเสื้อผ้าใช้แล้วที่กองอยู่บนพื้น ทอปัดใช้ปลายเท้าเขี่ย…ซากเสื้อผ้าชิ้นเล็กๆ ที่ตกอยู่บนพื้นไปรวมกันอยู่มุมห้อง
“อีกแล้วนะนารี…ปัดบอกไม่เคยจำ ชอบทิ้งเสื้อผ้าใช้แล้วเรี่ยราดบนพื้น คุณนายจุไรมาเห็นคงได้เป็นลม!”
เจ้าตัวบ่น ยกมือขึ้นจับชายผ้าห่ม แล้วจึงออกแรงกระตุกเบาๆ
แพรวนารีผวา เธอกำลังฝันหวาน...แต่อะไรบางอย่างกระชากเธอออกมาจากห้วงฝันแสนสุขนั่นเสียก่อน
“โอ้ย…ปัด…ขอนรีนอนต่ออีก10นาทีได้มั้ยจ้ะ?”
เสียงบ่นพึมจากคนที่นอนหลับตาปี๋ เจ้าหล่อนคงรู้ดี คนที่เสียมารยาทปลุกคนนอนหลับนั่นคือใคร ไม่พ้นเจ้าของห้องที่เธอแอบมานอนในห้องของหล่อนโยไม่ได้บอกล่วงหน้า....เจ้าตัวพึมพำบอก รีบซุกใบหน้าลงใต้หมอนนุ่มเหมือนเดิม เมื่อง่วงจนเปลือกตาปรือไม่ขึ้น
“ดึกเหรอเมื่อคืน?” ทอปัดถามกลับ ปล่อยชายผ้าห่ม หันไปเก็บซากเสื้อผ้าของแพรวนรีแทน
แพรวนารีเป็นพริ้ตตี้ งานชุกเป็นช่วงๆ และเมื่อคืนดูเหมือนจะมีงานชิ้นใหญ่ ทอปัดเห็นหล่อนแวบๆ ตอนวิ่งไล่ตามกลุ่มคนดัง แต่ไม่คิดว่าแพรวนรีจะอดหลับอดนอนถึงเพียงนี้ เธอเองก็ง่วงจนตาจะปิด เมื่ออยู่ปิดต้นฉบับที่สำนักพิมพ์จนเช้า แอบแวบกลับห้องหลังส่งงานกับหัวหน้าสำเร็จ
“อืม…ไปต่อน่ะ ‘เขา’ เลี้ยง”
เสียงอู้อี้ตอบกลับมาก่อนจะเงียบไป เมื่อเจ้าตัวฝืนต่อไม่ไหว หลับน็อคกลางอากาศเพราะความอ่อนเพลีย
ทอปัดหมดความสนใจญาติสาว เธอผลัดเสื้อผ้าจากชุดทำงานเป็นกางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดลายการ์ตูน หญิงสาวมัวสาละวนกับการหาอะไรใส่ท้อง จนลืมคนที่นอนหลับอุดตุ…จนเมื่อถึงเวลานอนเข้าจริงๆ เธอจึงเริ่มปวดหัวตุ๊บๆ แพรวนารีนอนหลับสนิทโดยยึดเตียงนอนของเธอ ทอปัดจึงไม่อยากกวน เธอเดินไปเปิดตู้ไม้มุมห้องลากที่นอนแบบพับได้ออกมาปูข้างเตียงนอน ช่วงขณะที่กำลังสะบัดผ้าห่มผืนบาง…ชายผ้าห่มตวัดโดนกระเป๋าสะพายของแพรวนารีจนหล่นลงมาที่พื้น…
เธอวางผ้าห่มไว้บนที่นอนที่ปูเตรียมไว้ เดินไปเก็บของใช้ที่กระเด็นออกมาจากกระเป๋า….ก่อนจะสะดุดกับประกายแสงวิบวับ!! ที่ส่องแสงสะท้อนแสงไฟ
แสงระยิบระยับนั่นสะท้อนแสงไฟจนเธอตาพร่า…และต้นกำเนิดแสงนั่น…คือ…แหวนเพชรนั่นเอง…
ทอปัดขมวดคิ้ว...เอื้อมหยิบแหวนวงนั้นขึ้นมาดูใกล้ๆ ริมฝีปากอิ่มห่อเป็นวงกลม เมื่อมองเห็นแหวนวงงามเต็มสองตา…เธอคะเนด้วยตาเปล่า เมื่อไม่มีความรู้เรื่องเพชรมากสักเท่าไหร่ เป็นเพราะไม่ชอบสวมเครื่องประดับ ไม่ชอบของมีค่า แต่แหวนในมือวงนี้…หญิงสาวมั่นใจ…ของจริงชัวร์!! แถมเพชรยังเม็ดใหญ่อลังการ
ประกายแสงที่ล้อเล่นกับแสงไฟนั้น มันเป็นเหลี่ยมเป็มมุม เปล่งแสงแวววาว
“เห้อ!!” ทอปัดถอนใจ ชำเรืองมองบนเตียงนิดๆ มีความกังขาอยู่ในหัวใจ แต่ไม่อยากยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของแพรวนรี
หญิงสาวตัดใจยัดแหวนวงนั้นกลับเข้าไปในกระเป๋าของแพรวนารีเหมือนเดิม “ไปรวยอะไรมาหึ...นรี? เพชรเม็ดใหญ่ขนาดนี้คงแพงหูดับ…”
ทอปัดไม่รู้ว่า…แหวนวงนั้น…จะเป็นชนวนเหตุให้เธอปวดหัวไปอีกนาน
เพราะเหนื่อยกับการวิ่งไล่คนดัง บวกกับอากาศที่เริ่มเย็นตามฤดู คนนอนง่ายเลยหลับสนิทตั้งแต่ศีรษะแตะหมอนนุ่ม
เสียงกุกๆ กักๆ ปลุกคนที่นอนหลับสนิทให้ลืมตาตื่นขึ้นมา หญิงสาวหยีตาเมื่อไฟฟ้ากลางห้องถูกกดเปิด
“จะไปแล้วเหรอนรี?” หลังยกข้อมือขึ้นดูเวลาที่นาฬิกาเรือนโปรดบอกเวลายังไม่ทันสว่าง แต่เพื่อนร่วมห้องกับมีท่าทางรีบร้อน
“อืม...มีธุระน่ะ” แพรวนรีตอบเสียงแห้ง ท่าทางหล่อนร้อนรน เหมือนกำลังกลัวอะไรบางอย่าง
“ล็อคประตูด้วยนะ วันนี้ขอนอนยาวๆ สักวัน” สาวเจ้าของห้องตะโกนบอก รีบซุกตัวใต้ผ้าห่ม และหลับใหลไป โดยไม่รู้ว่าเพื่อนร่วมห้องกำลังสร้างความลำบากให้ตนเอง
“ขอโทษนะปัด...” แพรวนรีพึมพำ เธอรีบเร้นกายหายไปความมืด จุดหมายปลายทางยังไม่แน่ชัด แต่ที่เธอรู้...เธอต้องรีบไปก่อนที่เงามัจจุราชจะมาคร่าชีวิตตนเอง
คนนอนหลับหลับสนิท ฝันหวานเพราะไม่รู้เรื่องรู้ราว...
ยี่หวาไม่เคยคิดว่าปลายทางชีวิตของเธอจะจบลงแบบนี้ ก่อนที่เธอจะทิ้งอนาคตที่เหลือไปอย่างไร้ค่า เนื่องจากสุดที่จะทนกับความชอกช้ำที่ได้รับมาจากสามีคนเดียว เธอตัดสินใจฝากดวงใจของตัวเองไว้กับน้องสาวฝาแฝด น้องสาวที่ไม่มีคนรอบตัวรู้จัก มันคือความลับที่เธอปิดบังพวกเขาไว้ สมัยเด็กๆ พ่อกับแม่แยกทางกัน ทั้งสองท่านเลยแบ่งลูกไปเลี้ยงดูคนละคน ยี่หวาอยู่กับแม่ ส่วนญาดาไปอยู่กับบิดา สองสาวที่เหมือนกันทุกกระบิ แตกต่างที่นิสัย คนหนึ่งเรียบร้อย พูดน้อย น่ารัก ส่วนอีกคนตรงข้ามทุกอย่าง แกร่ง และกล้าท้าชน… และเพราะแค้นใจแทนพี่สาว ญาดาเลยรับปากก่อนยี่หวาสิ้นลม เธอจะเอาคืนทั้งสองคนนั้นให้สาสม ไม่ว่าจะเป็นปกป้องสามีสุดที่รักของยี่หวา หรือแม้แต่...ฉันทา ว่าที่ภรรยาคนใหม่แสนผยองคนนั้น สองคนนี้ต้องหาความสุขไม่ได้ เธอจะรังควานพวกเขา ให้เหมือนตกนรกทั้งเป็น...การจองเวรคืองานที่เธอควรทำ…ถ้าเป็นดั่งที่ตั้งใจไว้ ญาดาคงไม่กลุ้มใจหนัก ‘ความรัก’ บทจะมาก็มาประชิด เธออยากแก้แค้น แต่ดันไปหลงรัก ผู้ชายเลวคนนั้นเสียอีก หลังจากเฉดหัวฉันทา คงต้องหาทางมัดใจปกป้อง อย่างน้อยก็ทำเพื่อหลาน ถ้าเธอตกนรก เธอจะลากปกป้องตามไปด้วย...
คงไม่มีความซวยไหนเลวร้ายเท่ากับการถูกตราหน้าว่าเป็น ‘เด็กดริ้ง’ ความตั้งใจของณิรินคือไปจับผิดว่าที่พี่เขย แต่กลับกลายเป็นว่าเธอถูกเข้าใจผิดเสียเอง แถมผู้ชายคนนั้นดันเป็นคนสำคัญที่เธอต้องคอยดูแลระหว่างที่เขามาเจรจา เพื่อเป็นคู่ค้ากับบริษัทของลุงกับป้า หน้าที่นั้นเลยถูกโยนมาให้ณิรินรับผิดชอบ ผู้ชายปากร้ายเอาแต่ใจตัวเอง ค่อนข้างงี่เง่าคนนั้น เขาคิดว่าเธอมีอาชีพเสริม และพยายามเกาะแกะจนณิรินโมโห บางครั้งณิรินก็อดคิดไม่ได้ มันเป็นเพราะช่วงเบญจเพศของเธอหรือเปล่า เรื่องซวยๆ เลยเกิดขึ้นกับเธอไม่หยุดหย่อน
เสียงของเขาดังก้องอยู่ในหู ฉันไม่สามารถสลัดเสียงแหบๆ ของเขาออกไปจากความทรงจำได้เลย นี่เกิดอะไรขึ้นกับฉันนะ สิ่งที่ฉันคิดอยู่นี่คือ...ความผิด แม้จะเป็นแค่ความคิด แต่มันเป็นก้าวแรกที่ฉันตั้งใจทำผิดศีลธรรม กับผู้ชายที่มีภรรยาแล้ว!! ฉันกำลังเป็นคนเลว และอีกไม่ช้า ฉันคงโดนคนทั้งโลกประณามหากฉันไม่หยุดความคิดทุเรศๆ นั่นเสียตั้งแต่ตอนนี้ จะทำยังไงดีล่ะ? ฉันคิดอะไรไม่ออกเลย มีเพียงเสียงแหบๆ ของคน คนนั้นดังก้องอยู่ในหูเท่านั้น “สามีของเธอเดินทางไปทำธุรกิจ” “เธอบอกว่าสามีของเธอจะไม่อยู่ประมาณหนึ่งอาทิตย์!!” “มันจะดีแค่ไหนนะ หากฉันเปลี่ยนสิ่งที่ได้ยินได้ เขาน่าจะไปซัก7ปี” ผมพยายามข่มใจให้รู้สึกเศร้าตาม แต่หัวใจของผมกลับเต้นระรัวเกินกว่าจะควบคุมได้ “คุณอยู่ที่ไหน?
รัชศกปีที่สิบ มันเป็นช่วงเวลาแสนสุขที่ลืมไม่ลง แม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน ครั้งหนึ่ง ข้าเคยเป็น ‘สาวงาม’ ที่ผู้คนทั้งเมืองหลงใหล เมืองหลวงกว้างใหญ่ใต้แผ่นฟ้าเดียว ข้าผู้มาก่อนกาล เดิมทีข้าคิดว่าเป็นแค่ความฝันหนึ่งตื่น แต่ที่ไหนได้ ทุกเหตุการณ์ที่ข้าพบเจอ คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ความสุขที่ท่วมท้นอยู่ในใจ เป็นความทรงจำเดียวที่ทำให้ข้าอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพื่อ...รอ...ใครบางคน
เมื่อสามีตะโกนใส่หน้า “ผมต้องการหย่ากับเธอ!! คนที่ผมรักเขากลับมาหาผมแล้ว” เมษาเซ็นจำใจชื่อบนใบหย่าพร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลพรู เธอตัดสินใจเก็บงำความลับไว้กับตัว พร้อมกับจากไปโดยไม่ปริปากบอกคีรินเลยสักคำ ผ่านไป 5 ปี เด็กชายคนหนึ่งมาตามหาพ่อ... “ผมจะไปหาพ่อผม ปล่อยผมนะ!!” เสียงแผดก้องบริเวณหน้า ล็อบบี้ แม้แต่คีรินเองยังอดสนใจไม่ได้ เด็กชายคนหนึ่งถูก รปภ. รั้งตัวไว้ เขาดิ้นกระแด๋วๆ ตะโกนลั่น ผิวทั้งหน้าแดงก่ำ มีเม็ดเหงื่อผุดเต็มไปหน้า และเมื่อเด็กชายวิ่งตรงมาหาเขา “พ่อคร๊าฟฟฟฟฟ” คิรินเข่าอ่อน สัญชาตญาณบางอย่างเตือน เด็กชายตรงหน้าเขานี่ เป็นเลือดเนื้อส่วนหนึ่งของเขาร้อยเปอร์เซ็นต์
เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจไม่หยอก หากสามารถปราบพยศผู้ชายเจ้าอารมณ์ได้ ดานันจะเป็นอิสระจากข้อผูกมัดของบิดา ทว่า...ในความโชคร้าย มีความโชคดีแอบแฝงอยู่ ว่าที่สามีของเธอ เป็นบุตรชายผู้มั่งคั่งของตระกูลใหญ่ แต่เขาเพิ่งสูญเสียดวงตาไปจากอุบัติเหตุ ดานันต้องรองรับความเกรี้ยวกราดเช่นนี้ จนกว่าจะเปลี่ยนความคิดของเขาได้ ครามไม่ได้พิกลพิการมาตั้งแต่กำเนิด เขามีหนทางรักษาได้ ขึ้นอยู่กับว่า...ดานันจะโน้มน้าวว่าที่สามีของเธอได้หรือเปล่า
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
“หยุดทำบ้าๆ นะพี่สิงห์...อ๊อย...” น้ำผึ้งขนลุกซู่ เขาจูบไซ้ซอกคอของหล่อน ขณะหญิงสาวกำลังยืนส่องกระจกอยู่หน้าอ่างล้างหน้า “พี่ขออีกนิด แค่ภายนอกเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่เสียหายอะไรนี่นา...นะครับ” พี่เขยปะเหลาะปะแหละอย่างคนเอาแต่ได้ เสียงออดอ้อนอ่อนหวานเริ่มทำให้น้องเมียใจอ่อนหวามไหว ปล่อยให้มือของเขาเคล้นคลึงสะโพกของหล่อนอย่างนึกมันเขี้ยว สอดท่อนแขนเข้ามาระหว่างง่ามก้น หงายฝ่ามือลูบไล้เข้ามาถึงหนอกเนื้ออุ่นจัดอีกครั้ง ตะล่อมล้วงเข้ามาโอบเนินนูนเหมือนหลังเต่า บีบขยำเบาๆ เหมือนจะประมาณความอวบใหญ่ล้นอุ้งมือ “ของผึ้งใหญ่จัง” มือสัมผัสกลีบเนื้อเป็นพูแน่น โหนกนูนและใหญ่กว่าของเจนนี่มากมาย “อ๊าย...” น้ำผึ้งเสียว กระดกก้นขึ้นโดยอัตโนมัติ สิงหาบีบขยำความเป็นผู้หญิงของหล่อนเป็นจังหวะ หัวใจเต้นแรงกับความอวบใหญ่ที่อัดแน่นอยู่ในอุ้งมือของตน “อย่า...พี่สิงห์...หยุดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวพี่เจนนี่มาเห็นผึ้งซวยแน่ๆ” น้องเมียร้องห้ามอย่างสับสนใจ ส่ายก้นทำท่าว่าจะดิ้นหนี แต่ช้ากว่ามือใหญ่ของสิงหาอีกข้างที่กดลงบนแผ่นหลังของหล่อนเหมือนจะล็อกกายไม่ให้ขยับหนี
ว่าที่ลูกสะใภ้ไฟแรงสูงเธอต้องเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับว่าที่พ่อผัวหม้ายร้างเมียมานายอรมปี
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย