เพียงแค่เห็นหน้า เขาก็ถูกใจแล้ว แม้เธอจะมีลูกติดมา เขาก็ไม่คิดที่จะปล่อย ยังคงตามเอาใจลูกสาวตัวน้อยและจีบเธออย่างไม่ลดละ “เย้ เย้ แม่เอาอีกหนุก หนุก เอาอีก เอาอีก” โซดาเริ่มลุยน้ำลงไปกอบทรายที่เปียกน้ำใส่ศีรษะอันนิโต้เรื่อยๆ ไม่ยอมหยุด สิมิลันหัวเราะจนท้องแข็ง อันโตนิโอ้เอาคืนคนอารมณ์ดีด้วยการกอบทรายเปียกใส่ร่างบางบ้าง “ว้าย! เล่นอะไรนะคุณสกปรกจะตาย” “อ้าวที่คุณกับลูกทำผมล่ะ นี่แนะ” มือใหญ่ขยี้ผมบนศีรษะสิมิลัน โซดาเริ่มเอาอย่างสองมืออวบขยี้ผมบนศีรษะมารดาและศีรษะตัวเองจนยุ่งเหยิงและเปียกชื่น แล้วยืนหัวเราะเสียงใสแจ๋ว ดวงตาเป็นประกายสดใส ยิ้มจนเห็นฟันในปากแทบทุกซี่ “ไม่เลิกใช่ไหมคุณเอ โซดารุมพ่อเอเลยลูก” สองมือเล็กเรียวผลักร่างใหญ่ลงนอนบนพื้นทราย พร้อมกอบทรายเปียกชื้นละเลงบนกายแข็งแกร่ง สองแรงแข็งขันสองมือรุมกอบทรายละเลงบนกายหนาใหญ่จนเปียกชื้น ยังไม่พอสองนิ้วเล็กๆ จี้ไปเอวหนาจนชายหนุ่มหัวเราะท้องแข็ง โซดาเองก็เอาอย่างคนเป็นแม่ มือใหญ่ทั้งห้านิ้วจี้เอวแข็งแกร่ง อันโตนิโอ้ก็ไม่ยอมแพ้ มือใหญ่จี้เอวสองแม่ลูกกลับบ้าง เสียงหัวเราะของสองผู้ใหญ่หนึ่งเด็กดังลั่นหาดทรายสีขาว
ตอนที่ 1
...แม้อยู่ไกลคนละขอฟ้า แต่โชคชะตาก็นำพาเธอและเขามาพบกัน .
ก่อเกิดสายใยรักท่ามกลางทะเลสวยน้ำใส ปะการังงาม
บรรยากาศอันแสนโรแมนติกของทะเลไข่มุกแห่งอันดามัน...
...หมู่เกาะสิมิลัน...
สิมิลันเดินเข้าบ้านสีหน้าแจ่มใสแช่มชื่นตาเป็นประกายสมหวัง ดวงตากลมโตกวาดมองหาร่างลูกสาววัยสองขวบครึ่ง ซึ่งกำลังซนได้ที่จนคุณพรทิพย์มารดาเลี้ยงเริ่มบ่นถึงความซนและดื้อของเจ้าตัวเล็กแล้ว ไม่ใช่บ่นเพราะอะไรหรอก แค่อยากได้ค่าเลี้ยงดูโซดาเพิ่มนั่นแหละ จะว่าไปแล้วคุณพรทิพย์เองก็ใช่ว่าจะเลี้ยงโซดาทั้งวันเสียเมื่อไหร่
ระยะเวลาหนึ่งอาทิตย์คุณพรทิพย์จะต้องโทรศัพท์หาเธอ เพื่อเล่าวีรกรรมแห่งความซนของโซดาหรือว่าง่ายๆ ก็คือฟ้องเรื่องของเด็กหญิงนั่นแหละ ส่วนที่ตามมาก็จะเป็นเรื่องค่าแรงในการเลี้ยงดูโซดาว่าตอนนี้เธอได้รับค่าแรงน้อยไปไม่สมความซนของเด็กหญิง แล้วก็ยังหาเรื่องหาทางให้เธอรีบกลับมาดูเด็กหญิงตัวน้อย ด้วยการยกเหตุผลต่างๆ นานามากมายจนสิมิลันจำแทบไม่หมด
“น้องโซดาขา โซดาอยู่ไหนลูก แม่ลันมาแล้วจ้า” หญิงสาวตะโกนเรียกหาเด็กหญิงโซดา เนตรวรากุลลูกสาวสุดที่รักเสียงใสแจ๋ว
“น้องโซดาขา โซดาคนเก่งหนูอยู่ไหนคะลูก แม่ลันกลับมาแล้วค่ะ” สิมิลันร้องเรียกหาลูกสาวตัวน้อยจอมซนแต่น่ารักที่สุดในสายตาเธออีกครั้งจนเสียงดังลั่นบ้าน ก็เธออุตสาห์รีบเคลียร์งานที่คั่งค้างอยู่จนเสร็จเรียบร้อย รีบกลับบ้านมาเพื่อเจอหน้าลูกสาวและจะได้บอกข่าวดี เดือนหน้าเธอได้วันหยุดยาวสองอาทิตย์และจะพาน้องโซดาไปเที่ยวชายทะเลให้ชื่นฉ่ำใจซะที หลังจากที่ต้องผัดผ่อนลูกสาวตัวน้อยมาหลายครั้งแล้ว
“กรี๊ด...กรี๊ด...คุณยายขาเอาอีก เอาอีก” เสียงกรีดร้องอย่างสนุกสนานของเด็กหญิงผสมกับเสียงคำด่าของคุณพรทิพย์ดังมาจากห้องครัวบอกให้รู้ว่าผู้ร้องกำลังสนุกสนานเป็นอย่างมาก ก่อนที่สิมิลันจะสาวเท้าเข้าไปตามเสียงร้อง คุณพรทิพย์ก็พาร่างอวบอ้วนเดินออกมาพอดี
“กลับมาแล้วรึแม่ลัน ดีนะที่วันนี้กลับเร็ว ไม่นั้นป้าคงได้เรียกเธอมาดูแม่ลูกสาวตัวแสบในไม่ช้านี่แหละ” คุณพรทิพย์เอ่ยถาม มือใหญ่ลากแขนอวบอ้วนของน้องโซดาออกมาจากห้องครัว
สภาพของเด็กหญิงตัวน้อยทำเอาสิมิลันถึงกับตาโต อ้าปากค้าง เอ่ยถามลูกสาวอย่างสงสัย “โซดาไปทำอะไรมาคะลูก ทำไมเนื้อตัวถึงได้สกปรกแบบนี้คะ”
ชุดเสื้อกับกระโปรงสีขาวที่เธอเพิ่งจะซื้อมาให้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตอนนี้มันกลับกลายเป็นเหมือนผ้าขี้ริ้วกลายๆ สีดำเป็นจุดๆ เกือบทั้งตัว ผมที่เคยมัดไว้เป็นหางเปียทั้งสองข้างยุ่งเหยิงพันกันแทบจะมองไม่ออกว่าผมหรือยากไย่ที่อยู่บนนั้น ใบหน้าเปื้อนยิ้มสีขาวบ้างดำบ้างน่าจะเป็นจากถ่านไม้ ซึ่งเธอซื้อมาเพื่อให้คุณพรทิพย์ต้มยาสมุนไพรให้ขวัญชนกได้ทานบำรุงร่างกาย
ร่างกลมป้อมวิ่งถลาเข้ามาหาผู้เป็นแม่อย่างรวดเร็วก่อนจะให้คนเป็นแม่ดูรอยช้ำที่แขน ปากสีแดงแบะออก น้ำตาคล้อเบ้า เสียงสั่นน้อยๆ ฟ้องผู้เป็นแม่ราวกับว่าเจ็บหนักหนา “เจ็บ แม่จ๋าโซดาเจ็บ”
นิ้วเล็กป้อมชี้ไปทางคุณพรทิพย์ “คุณยายตีโซดา” ไม่ทันสิ้นเสียงเด็กหญิงตัวน้อย
“นังโซดา!!” คุณพรทิพย์ตวาดเสียงดังลั่น จนเด็กหญิงตัวน้อยรีบวิ่งถลาซุกอกผู้เป็นแม่แทบไม่ทัน แขนป้อมเอื้อมไปดึงร่างป้อมเข้าหาตัว ถ้าไม่เห็นแววตาเอาเรื่องของสิมิลันเสียก่อน
“ย่ะ เอาใจกันเข้าไป ตามใจกันเข้าไป ไม่นานเด็กมันก็เสียคน” คุณพรทิพย์บ่นพึมพำ ส่งค้อนให้สิมิลันกับโซดาวงใหญ่ ก่อนจะเดินกลับไปยังห้องครัว ปล่อยให้สิมิลันฟังเด็กหญิงฟ้องเรื่องที่โดนเธอตีอย่างทำอะไรไม่ได้
“ว่าไงคะโซดาหนูไปทำอะไรถึงได้โดนคุณยายตีเอาละคะ” ผู้เป็นแม่ถามลูกสาวตัวน้อยน้ำเสียงรักใคร่เอ็นดูปนสงสาร มือเรียวกยกขึ้นเช็ดน้ำตาบนใบหน้าป้อมขาวอย่างสงสาร
โซดาขาดพ่อ เธอจึงต้องทำหน้าที่ทั้งพ่อและแม่ให้เด็กหญิงตัวน้อยตั้งแต่แรกเกิดจนถึงตอนนี้ สิมิลันใช้มือหนึ่งหยิบจับเศษหยากไย่บนศีรษะให้ อีกมือก็เอื้อมไปหยิบกระดาษทิชชูที่วางอยู่บนโต๊ะรับแขกตัวใหญ่มาเช็ดตามใบหน้า แขน และส่วนต่างๆ ของร่างกาย หูก็ฟังเสียงพูดเล่าเรื่องจากปากสีแดงอมชมพูอย่างตั้งใจ
“โซดาอยากช่วยคุณยาย....ทำ...” คิ้วหนาเข้มขมวดมุ่นเข้าหากันเหมือนกับผู้ใหญ่ยามกำลังครุ่นคิดสิ่งใด แต่เมื่อยู่บนหน้ากลมป้อมกลับดูน่าขันเสียมากกว่า
“หนูช่วยทำอะไรล่ะคะลูก” สิมิลันมองหน้าลูกสาวที่กำลังคิดคำตอบมาตอบคำถามเธอ ตาคมไล่มองไปตามใบหน้าคนช่างคิดช่างจดช่างจำ ช่างซักช่างถามจนบางครั้งเธอก็สงสัยอยู่นะ โซดาไปหาข้อมูลเหล่านั้นมาจากไหน คำถามที่บางครั้งนอกจากจะสร้างความปวดเศียนเวียนเกล้าให้แล้ว คนเป็นแม่ยังจนมุมไม่สามารถหาคำตอบมาให้ได้อีกด้วย
มือเล็กป้อมยกขึ้นเกาศีรษะ เมื่อไม่สามารถจะหาคำตอบมาตอบผู้เป็นมารดาได้
สิมิลันมองหน้าโซดาตาบ้องแบ้ว น่ารักตาโตขนตายาวงอนแก้มป่องพวงแก้มสีแดงอมชมพูระเรื่อ ปากแดงระเรื่อจนเธออดใจไม่ไหวต้องก้มหาความหอมจากแก้มนุ่มทั้งสองข้างอย่างรักใคร่และเอ็นดู แล้วก็อดสงสัยไม่ได้ ทำไมคนเป็นยายอย่างพรทิพย์และขวัญชนกถึงไม่รักใคร่และสงสารโซดาเอาเสียเลย ทั้งที่เด็กหญิงเองก็น่ารักจะตาย อาจดื้อและซนไปหน่อยตามประสาเด็กที่กำลังช่างจดช่างจำและขยันเรียนรู้เท่านั้นเอง
“หนูต้องการช่วยคุณยายก่อไฟใช่ไหมจ้ะคนเก่ง” หญิงสาวเอ่ยปากถาม สองมือลูบไล้พวงแก้มขาวนวลจนคราบสกปรกหมดไป
“ค่ะ” เด็กหญิงตัวน้อยพยักหน้ารับใบหน้ายิ้มแป้น
“โซดาช่วยคุณยายก่อไฟ สนุ๊กสนุกค่ะคุณแม่” เด็กหญิงรีบบอกเสียงแจ๋ว ดวงตาใสราวกับลูกแก้ว “แต่ว่าคุณยายไม่ชอบ คุณยายชอบดุด่าโซดา” ปากแดงๆ พูดจ้อไม่ยอมหยุด ส่งสายตาไม่เข้าใจและเป็นคำถามมารดา
“โซดาขา คุณยายท่านรักหนูนะคะ เพียงแต่ท่านพูดเพราะๆ ไม่เป็นไงคะ” สิมิลันมองหน้าโซดาที่ทำท่าเหมือนจะเข้าใจในสิ่งที่เธอพูด แต่แล้วเด็กหญิงก็ส่ายศีรษะและยังทำแก้มอีกข้างป่องขึ้น ดวงตาเปล่งประกาย ลำตัวอวบอ้วนโผเข้าห่างบอบบางแล้วหอมแก้มซ้ายแก้มขวาจนน้ำลายติดแก้มนุ่มแทน พร้อมเสียงหัวเราะเอิ้กอ๊ากอย่างชอบอกชอบใจ
“อื้อ...โซดาไม่เอาค่ะไม่เล่นนะคะคนดี” หญิงสาวห้ามปราบ แต่ดวงตากลับเป็นประกายแข่งกับเด็กหญิง “โซดาคนเก่ง ตอนนี้ตัวหนูสกปรกมากเลยนะคะ คุณแม่ว่าเราไปอาบน้ำกันดีกว่าไหม” สิมิลันยื่นมือให้โซดาจับ
มือเรียวกอบกุมมือเล็กดวงตาต่างวัยสองดวงประสานกัน ใบหน้าแต่งแต้มด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่คนอายุน้อยกว่าจะชวนมารดาอีกครั้ง
“ไปอาบน้ำกัน โซดากับคุณแม่ลันไปอาบน้ำด้วยกัน” มือเล็กแกว่งแขนมารดาเบาๆ
“จะรีบไปไหนล่ะพี่ลัน ขอเงินหน่อยซิ” ขวัญชนกที่เดินออกจากห้องมาทันก่อนที่สิมิลันจะเข้าห้องไปเอ่ยขึ้น ใบหน้าขาวหวาน ดวงตากลมโต แก้มป่องปากได้รูป ใบหน้าที่เคยซูบซีดมีสีสันงดงาม เพราะแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพงจนดูเป็นสาวเกินวัย มือขาวเนียนค่อนข้างไปทางซีดยื่นหาพี่สาว
เมื่อเพื่อนถามถึงสถานะ... "พวกแก...เชี่ย! แล้วไหมล่ะ อย่าบอกกูนะไอ้ลูกเต่า ที่มึงพูดไปวันนั้นเป็นเรื่องจริง มึงด้วยไอ้ยอด...มีผัวเป็นตัวเป็นตนกับเขาด้วยใช่ไหม" "ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยชี้แจงเรื่องของมึงสองตัวกับพี่สองคนให้กูฟังหน่อย...เร็ว ๆ อย่าชักช้าร่ำไร" "คนที่นั่งข้าง ๆ กูชื่อพี่คาย...กูอาศัยอยู่กับพี่เขาแล้วก็คอยดูแลซีโร่ให้" ศรวัณบอกสั้น ๆ เพราะยังไม่ค่อยกล้าบอกสถานะของตัวเอง เขากลัวเพื่อนจะรับไม่ได้ "ช่วยบอกสถานะให้กูรู้ด้วย...แค่แฟนหรือเป็นผัวมึง!"
ก็ไม่ได้คิดหรอกนะว่าวันหนึ่งจะพบเจอกับเรื่องแปลก ๆ แต่เมื่ออยู่แล้วไร้ความหมายไม่มีคนที่รักและรักเรา เขาจึงเลือกที่จะแลกทั้งที่ไม่ได้มั่นใจเลยว่าจะได้พบกับคนที่รักจริงหรือเปล่า แต่ก็ตัดสินใจเลือกไปแล้ว... “อาซวงเป็นของข้าใช่หรือไม่” ก็มิค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่และคิดว่ามิน่าจะมีอะไรมากมาย เก้าเทียนรุ่ยจึงพยักหน้ารับ “ขอรับ” “ถึงเราจะมิได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขเช่นที่ท่านมีกับสหายที่ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่ นอนกลางดินกินกลางทรายมาด้วยกันมาอย่างชิงชวนหรือคนอื่น ๆ หากนับตั้งแต่ที่เราได้พบรวมถึงอยู่ด้วยกัน ข้าก็คิดว่าเราผ่านอะไรมามากมายพอที่จะทำให้ข้ารู้ถึงความรู้สึกที่ตนเองมีต่อท่าน” เก้าเทียนรุ่ยมองสบสายตาเสวียนลิ่วหลางที่มองเขาด้วยความงุนงง ในดวงตามีความสับสนระคนมิแน่ใจ คล้ายจะมีคำถามตามติดมาด้วย ทำให้เขาเผลอยิ้มหวานออกไป เสวียนลิ่วหลางได้แต่ยิ้มด้วยความเขินอาย “ข้าก็มิรู้ว่าจะวางตัวเช่นไรดี พึงพอใจอยากให้เจ้าอยู่ชิดใกล้...หากก็มิอยากบังคับหากเจ้ามิเต็มใจ” “แต่ก็มิอาจทำใจได้หากจะต้องปล่อยมือ” เก้าเทียนรุ่ยเอ่ยอย่างเข้าใจ “เมื่อยังต้องรอให้อาซวงรู้สึกเช่นเดียวกัน นอกจากข้าจะทำให้ผู้อื่นรับรู้แล้วว่าคนนี้...” เสวียนลิ่วหลางจับมือเก้าเทียนรุ่ยมาจูบขณะมองสบเข้าไปในดวงตากลมใสก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มหากเต็มไปด้วยความหนักแน่น “ข้าจอง” “ตะเกียบยังต้องอยู่เป็นคู่ถึงจะใช้กินอาหารได้ หยินก็ยังคู่หยางถึงจะสมดุล เมื่อข้าพบคนที่ใช่ เหตุใดถึงต้องปล่อยมือเล่า”
ความรักไม่ผิด...เรารักเขา เขาไม่รักเรา ก็ไม่ผิด แต่การรอคอยมันย่อมมีระยะเวลาสิ้นสุดลงเมื่อ...ใจเราไม่อาจรอรักจากเขาได้อีกแล้ว มันก็ถึงเวลา...สิ้นสุดยุติการรอคอที่เลื่อนลอยไร้จุดหมาย “นั่นสิคะ หนูดาวก็งงอยู่ ทำไมถึงหนีพี่เหนือไม่พ้นสักที ตั้งแต่หนูดาวตัดสินใจทำแบบนั้นลงไป พี่เหนือทำให้หนูดาวแปลกใจจนงงและสับสนไปหมด” “หือ” “ปกติพี่เหนือจะผลักไสให้หนูดาวไปไกล ๆ ชอบใช้สายตาแบบว่า...ฉันรำคาญเธอนะ เห็นหน้าเธอแล้วมันหงุดหงิดใจมาก จะไปเองดี ๆ หรือจะให้ฉันเตะโด่งเธอไป...ประมาณนี้นะคะ แต่พอหนูดาวเอาแหวนหมั้นไปคืน กลับต้องเจอกับพี่เหนือทุกวัน...และยังอยู่ด้วยกันแทบจะตลอดทั้งวันเลยด้วย ขนาดคิดหนีมาทำงานที่นี่ สุดท้ายยังหนีพี่เหนือไม่พ้นเลยด้วย” “เราคงเป็นคู่เวรคู่กรรมกันละมั้ง ทำยังไงก็หนีกันไม่พ้น เสร็จงานที่นี่ เห็นทีพี่คงจะต้องจับมัดเราให้หนักกว่าเดิม” พันดาวมองแดนเหนืออย่างตื่นตะลึง เรียวปากสีชมพูอ้าค้าง “นี่พี่เหนือ...”
เพื่อน้องสาว เขาจึงหลอกลวงนำตัวเธอมา “คุณโกรธอะไรใครก็ไปเอาคืนกับคนนั้นสิ มายุ่งกับฉันทำไม ปล่อยฉันนะไอ้วายร้าย!” “เผอิญว่าฉันดันอยากได้เธอด้วยผิง ก็เธอมันขาวอวบยั่วยวนราคะใช่ย่อยนิ แค่จับลูบไล้หน่อยเดียวก็พร้อมจะร้อนเป็นไฟแล้ว” ชายหนุ่มลูบไล้ฝ่ามืออุ่นร้อนบนลำตัวกลมกลึง สะกิดเอากระดุมหลุดออกจากรางทีละเม็ดจนหมด จูบอุ่นร้อนทาบทับซุกไซ้ซอกคอขาวผ่อง “ฉันขอร้องนะคุณใหญ่...ถ้าฉันผิดจริง ฉันยอมให้คุณลงโทษได้ทุกอย่าง คุณจะย่ำยีลงทัณฑ์ฉันยังไงก็ได้ ฉันจะไม่ร้องขอความปราณีแม้แต่นิดเดียว จะไม่หนีอย่างที่ทำอยู่ทุกวัน จะไม่คิดไม่เคียดแค้นคุณเลย แต่ถ้าฉันไม่ผิด คุณปล่อยฉันไปนะ...ได้โปรด” “รู้อะไรไหมผิง...ไม่มีผู้ชายคนไหนโง่ยอมปล่อยให้ผู้หญิงสวย ๆ เซ็กซี่ แล้วก็ปลุกเร้าอารมณ์ได้อย่างกับน้ำมันราดลงไปกองไฟให้หลุดรอดมือไปหรอกนะ” แต่ใครจะรู้ล่ะ...ความใกล้ชิดที่เกิดขึ้น จะนำสิ่งใดมาสู่เขาบ้าง เรื่องหัวใจก็ยังต้องจัดการ เรื่องการงานก็ต้องตรวจสอบหาความจริง
กฎของหมู่บ้าน ทำให้สองศรีพี่น้องต้องเร่งหา...ผัว! ให้ได้ “ตัวสั่นเชียว กลัวหรือจ๊ะฟองจ๋า” “โถ...น่าสงสารจริง เมียของผัว” มือหนาลูบไล้ผิวเนื้อนวลนุ่มลื่นขณะเดียวกันก็เกี่ยวเอาชายเสื้อของหญิงสาวดึงมันออกไปจากกายสาวก่อนจะแนบฝ่ามือลงบนทรวงอกอวบใหญ่ เสียงหวานแหบพร่าดังออกมาจากกลีบปากเล็ก “ร้องได้เลยจ้ะฟองจ๋า ผัวอยากได้ยินเสียงหวาน ๆ ของฟองที่สุด” “โถ่...จะปิดทำไมละจ๊ะสร้อยจ๋า” แม่เจ้าโว้ย! ใหญ่ฉิบหายเลย ใหญ่จนเขาอยากเห็นใกล้ ๆ อยากได้ลิ้มลองรสชาติในตอนนี้เลย “เดี๋ยวเราสองคนจะไม่เพียงแค่ได้เห็นทุกซอก...ทุกมุมของสร้อยแล้ว เราสองคนจะทั้งจับ...ทั้งเลีย แล้วก็อัดกระแทกให้ร่องสวาทของสร้อยแทบพังไปเลยจ๊ะ” ตรวนสวาทนางไพร : ใครกันแน่ที่เป็นผู้ล่า ใครกันแน่ที่เป็นเหยื่อ แน่ใจหรือว่าแพรพลอยคือเหยื่อให้ห้าหนุ่มอย่างพวกเขาเสพสวาทอย่างเร่าร้อน “ไม่เอาอย่างนี้นะโรม...อย่าทำแพรเลยนะ” แพรพลอยร้องห้ามเสียงสั่นพร่าเมื่อรู้ว่าโรมรันจะทำอะไร ไหนจะหนุ่ม ๆ ทั้งสี่ที่ไร้อาภรณ์ปกปิด ทำให้เธอได้เห็นอาวุธของแต่ละคนที่มันช่าง...ใหญ่! ไหนจะคำพูดที่บอกก่อนหน้านี้ที่บอกว่า...จะอัดกระแทกเธอให้ยับ! ทำเอาเธอถึงกับกับหวาดหวั่นไม่ใช่น้อย ยิ่งตอนนี้ทุกคนได้มายืนล้อมรอบเธอแล้วด้วย “พี่ได้ยินไม่ผิดใช่ไหมจ๊ะ...ที่น้องแพรบอกว่าอย่าช้า ให้พวกเรารีบเอาน้องแพรเร็ว ๆ นะ”
เพราะครอบครัวเกิดเรื่องไม่ดี เขมกรจึงตัดสินใจทำการแลกเปลี่ยนกับใครบางคน...จากนั้นเขาก็กลายมาเป็นคุณชายเกาหยุนเอ๋อร์ที่ไร้ความทรงจำ ที่...ก่อเรื่องราวไว้นั่นคือ การป่าวประกาศต่อหน้าผู้คนว่าจะเป็น “ฟูเหรินของซ่งหยวนเจ๋อ” อีกฝ่ายคงจะโกรธเขาอยู่นะ ถึงได้ตามติดไม่ยอมห่าง หรือว่าเขาเข้าใจอะไรผิดไป เพราะการตามติดของซ่งหยวนเจ๋อทำให้เขาเริ่มรู้สึกแปลก ๆ แต่คงเท่าอีกฝ่ายที่เดี๋ยวก็เลี้ยงอาหารเขา เดี๋ยวก็ให้เขาขี่หลัง นั่นก็มิหนักเท่ากับคอยป้อนอาหารเขานะสิ... หยุนเอ๋อร์...” ซ่งหยวนเจ๋อเอ่ยเรียกเสียงเข้มแต่นุ่มนวล ขณะทอดสายตาที่อบอุ่นเต็มไปด้วยความอ่อนโยนสบกับดวงตาของเกาหยุนเหลียง “ไม่...ดื้อนะ” หากมิใช่ถูกซ่งหยวนเจ๋อกอดกระชับเอวเอาไว้...เกาหยุนเหลียงรู้เลยว่าเข่าตนเองจะต้องอ่อนยวบทรุดลงไปกองอยู่บนพื้นแน่นอน ไหนจะหัวใจที่มันเต้นราวกับจะทะลุออกมาจากอกอีกเล่า ทำให้เขาคิดว่า กลับถึงเรือนเมื่อไหร่ ควรให้ท่านแม่เชิญท่านหมอมาดูหน่อย เหตุใดถึงได้มีอาการประหลาดเช่นนี้มากนักเมื่ออยู่กับซ่งหยวนเจ๋อ ถ้าหากว่าเป็นอะไรร้ายแรงจะได้รีบทำการรักษาได้ทันท่วงที “ดีมาก...หยุนเอ๋อร์ที่ไม่ดื้อ ไม่ซน ไม่เกเร ทำตัวเป็นอันธพาล...น่ารัก”
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ