ทั้งๆที่เธอไม่เคยเชื่อเรื่องความรัก แต่เธอกับรู้สึกราวกับว่าหัวใจถูกขังเอาไว้เพื่อรอใครบางคน จนกระทั่งฉันได้พบกับเธอ ถึงได้รู้ว่าหัวใจดวงนี้มันถูกขังไว้รอใคร
ทั้งๆที่เธอไม่เคยเชื่อเรื่องความรัก แต่เธอกับรู้สึกราวกับว่าหัวใจถูกขังเอาไว้เพื่อรอใครบางคน จนกระทั่งฉันได้พบกับเธอ ถึงได้รู้ว่าหัวใจดวงนี้มันถูกขังไว้รอใคร
ซ่าาา
หยดน้ำฝนตกกระทบพื้นจนเกิดเสียงซ่าซ่าเป็นระยะๆ อากาศเย็นสบาย ท้องฟ้ามืดครึ้มจนดูไม่ออกว่าตอนนี้เป็นเวลาช่วงบ่ายหรือว่าช่วงเย็นกันแน่ ณ คฤหาสน์ใจกลางเมือง ภายในห้องนอนปรากฏร่างสูงโปร่งของหญิงสาวนอนหลับใหลอยู่บนเตียงนอนขนาดKing Sizeแม้ฝนข้างนอกจะตกหนักเพียงใดแต่ภายในห้องของหญิงสาวช่างเงียบสงบมีเพียงเสียงแอร์คอเนชั่นเบาๆที่ถูกเปิดทิ้งเอาไว้
.
.
"อยู่กับฉันได้มั้ย"
ภาพหญิงสาวที่มีรูปร่างหน้าตาไม่ต่างอะไรกับหญิงสาวบนเตียงนอนเอ่ยพูดอย่างน่าสงสารหยดน้ำตาหลั่งไหลออกมาจนเปื้อนพ่วงแก้มทั้งสองข้าง หากแต่หญิงสาวร่างเล็กแม้ว่าจะแสดงอาการเหมือนลังเล หากแต่หล่อนก็ยังคงส่ายหน้าปฏิเสธหญิงสาวร่างสูงที่มีหน้าตาไม่ต่างกับคนบนเตียงอยู่ดี
ภาพความฝันที่ราวกับว่าจะวนลูปเกิดขึ้นซ้ำๆ หากแต่ใบหน้าของหญิงสาวในห้วงแห่งความฝันหญิงสาวที่เอาแต่ปฏิเสธช่างพร่าเบลอซะจนมองไม่ชัด ราวกับสวรรค์กำลังกลั่นแกล้ง ให้เธออยากรู้อยากเห็นมากยิ่งขึ้น หัวใจเต้นระรัวราวกับกลองรั่วยิ่งเวลาที่เธอเกือบจะเห็นใบหน้าของหญิงสาวร่างเล็กที่เอาแต่ปฏิเสธความอยากรู้อยากเห็นก็ยิ่งเพิ่มพูน
"เฮือกกกก!!"ยังไม่ทันได้เห็นใบหน้าที่ชัดเจนก็ราวกับถูกบางอย่างปิดกั้นจนต้องลืมตาตื่นขึ้นมาแม้ใจจริงจะไม่อยากลืมตาตื่นขึ้นมาเลยแม้แต่นิดเดียว
"เธอเป็นใครกันแน่"เหงื่อบนใบหน้าที่ไหลออกมาจนรู้สึกร้อนไม่ได้ช่วยทำให้หญิงสาวบนเตียงนอนรู้สึกอะไรไปมากกว่า คิดถึงถึงใบหน้าที่ไม่อาจจะจดจำได้
"ทำไมต้องตื่นตอนนี้ด้วยวะ!!"
เอ่ยบ่นอย่างหงุดหงิดตัวเอง เธออยากจะเห็นหน้าของผู้หญิงที่ทำให้เธอเอาแต่ตามติดไม่ยอมปล่อยวางแม้จะผ่านมานานแค่ไหน ก็ยังคงปราถนาที่จะเห็นใบหน้านั้นอยู่ดี
ราวกับว่าเธอกำลังรอคอยหล่อน ราวกับว่าถ้าไม่ใช่หล่อนก็จะเป็นใครไปไม่ได้ ไม่รู้ว่าที่เธอรู้สึกอยู่ตอนนี้มันเป็นเพราะอะไร และหญิงสาวที่มีใบหน้าเหมือนเธอในความฝันเป็นใครกันแน่ เธอรู้สึกเหมือนกับว่าจะเป็นตัวเองแต่ก็ไม่เหมือนตัวเธอเอง เธอไม่เคยอ้อนวอนขอความรักจากใคร ไม่เคยเชื่อว่าความรักมีจริงบนโลก แล้วเธอจะไปหลงรักใครก็ไม่รู้ได้อย่างไง
แล้วทำไมในความฝันใบหน้าที่เหมือนกับเธอถึงเอาแต่อ้อนวอนขอความรักจากผู้หญิงคนนั้นอยู่เรื่อยไป ทั้งเธอยังรู้สึกยึดติด ราวกับว่าหัวใจถูกแช่แข็งเอาไว้ ไม่มีความรู้สึกให้ใครทั้งนั้น
"เห้ออ~~ "
ถอนหายใจออกมาแรงๆ จะคิดมากให้ตายอย่างไงสุดท้ายก็ไม่รู้อยู่ดีว่ามันคืออะไรกันแน่ และเธอกำลังรอคอยอะไร
เรียวขาทั้งสองข้างก้าวลงจากเตียงตรงไปยังมุมห้องซึ่งมีรูปวาดของหญิงสาวร่างเล็กภาพวาดสวยงามหากแต่ดูเหมือนจะยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ขาดเพียงใบหน้าที่ว่างเปล่าเหมือนต้องการรอการเติมเต็มที่ยังไม่มีแม้แต่วี่แววที่จะพบ
นัยน์ตาสีม่วงราวอัญมณีจ้องมองภาพวาดตรงหน้าอยู่นานราวสิบนาที ทำราวกับว่าถ้าเธอจ้องนานกว่านี้บางทีใบหน้าที่อยากจะเห็นอาจจะปรากฏออกมาให้เธอได้มองเห็นแม้ความเป็นจริง เธอจะจ้องภาพวาดภาพนี้เกือบทุกวัน แต่ก็ไม่เคยมีเลยสักครั้งที่เธอจะได้เห็นใบหน้าที่ต้องการ ทุกๆครั้งเมื่อเธอเริ่มนึกออก ราวกับมีบางอย่างปิดกั้นจนสุดท้ายเธอก็นึกไม่ออกอยู่ดี
"เธอเป็นใครกันแน่"
เอ่ยพูดอย่างเหม่อลอย มือบางยกขึ้นมาลูบที่ใบหน้าของหญิงสาวในรูปภาพที่ว่างเปล่าอย่างแผ่วเบา ในบางครั้งเธอก็อยากจะลบๆความรู้สึกพวกนี้ออกไปให้หมด แต่ทำอย่างไงสุดท้ายเธอก็ทำไม่ได้ ยิ่งช่วงนี้ความฝันก็ดูเหมือนจะมีบ่อยขึ้น ยิ่งทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดมากกว่าเดิม ใบหน้าที่เคยเรียบนิ่ง คิ้วเรียวกับเริ่มขมวดเข้าหากัน
เธอหยิบภาพวาดภาพนั้นขึ้นมาก่อนจะจับมันทุ่มลงบนพื้นด้วยความรู้สึกหงุดหงิด
โครม!!!!
ยิ่งนึกถึงความฝันที่ถูกหญิงสาวคนนี้ปฏิเสธอยู่เรื่อยไป แม้จะคิดว่าคนที่ถูกปฏิเสธไม่ใช่ตัวเอง แต่ยามที่คิดว่าใบหน้าที่เหมือนกับเธอราวกับว่าเป็นคนคนเดียวกันถูกปฏิเสธก็ทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดจนระงับอารมณ์ตัวเองไม่ไหว
ทะลุมิติมาอยู่ในร่างนางเอก ที่ต้องคู่กับพระเอก แล้วเธอจะยอมงั้นหรอ ไม่มีทาง!! เธอไม่ได้ชอบผู้ชาย!! งานนี้ก็ต้องหนีสิคะรออะไร แต่ไหงเธอดันไปขโมยรูทของคุณพระเอก จนเป็นผลทำให้คุณนางร้ายตามติดเธอเป็นเงา!
เมื่อเพื่อนรักที่ไว้ใจแอบทรยศคบกับชายที่ตนรัก และชายที่ตนรักกลับรังเกียจตนจนไม่แม้แต่จะแตะต้องเนื้อตัวเธอ สิ่งที่เธอทำได้คือต่างคนต่างอยู่ แต่ในวังหลังแห่งนี้เธอจะทำอย่างนั้นได้จริงหรือ? ตัวอย่างเนื้อเรื่อง “เจ้ามีอันใดจะกล่าวหรือไม่... สนมหลี่กุ้ยเฟย” น้ำเสียงราบเรียบก่อนจะเน้นที่ละคำในประโยคท้ายอย่างหนักแน่น “ฮองเฮาแน่ใจแล้วหรือเพคะ ว่าจะให้หม่อมฉันทูลทุกอย่างต่อหน้าข้าราชบริพารเหล่านี้ หากมีข่าวแพร่ออกไปอีก ฮองเฮาทรงทนฟังคำนินทาเหล่านั้นได้หรือไม่” หลี่ฟางซินกล่าวพร้อมยิ้มอ่อนๆ หลี่ฟางซินย่อมรู้ดีว่าเย่วลี่อิงคงได้ยินคำนินทาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วจึงได้พูดเน้นย้ำ หวังจะกระตุ้นให้นางลงมือทำร้ายตน “คำนินทาเรื่องใดกัน เรื่องที่เจ้าเป็นนางอสรพิษนะหรือ เหตุใดเราจะทนฟังไม่ได้เล่า” เย่วลี่อิงตรัสพร้อมยักไหล่อย่าไม่แยแส มีหรือเย่วลี่อิงจะดูไม่ออกว่า ข่าวลือที่แพร่ออกไปนั้นมาจากผู้ใด หากเป็นแต่ก่อนนางย่อมไม่คิดว่าเป็นสหายคนสนิทของนางเป็นแน่ แต่บัดนี้นางรู้แล้วว่าหญิงที่ยืนตรงหน้านางหาใช่สตรีอ่อนหวานแสนดีอย่างที่นางรู้จักไม่ “หม่อมฉันเป็นนางอสรพิษตั้งแต่เมื่อใดกันเพคะ หม่อมฉันและฝ่าบาทมีใจรักใคร่กันมาเนิ่นนาน หากไม่ใช่เพราะฮองเฮาใช้ความดีของท่านแม่ทัพทูลขอให้ฮ่องเต้องค์ก่อนพระราชทานงานแต่ง วันนี้ตำแหน่งฮองเฮาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นของใคร” “เจ้านางแพศยา หากเจ้ามีใจให้ฝ่าบาท แล้วทำไมไม่บอกข้า ยังแสดงแกล้งเป็นแม่สื่อนำของที่ข้ามอบให้ฝ่าบาท ฝากผ่านพี่ชายเจ้าช่วยมอบของให้ฝ่าบาทแทนข้า” เย่วลี่อิงเริ่มพูดด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “ของอันใดกันเพคะ หม่อมฉันไม่เคยนำของ ของพระองค์มอบให้ฝ่าบาทเลยนะเพคะ ยิ่งให้พี่ชายช่วยส่งแทนให้ยิ่งมิเคย” น้ำเสียงเยาะเย้ยบวกกับรอยยิ้มยียวนของหลี่ฟางซินทำให้เย่วลี่อิงหัวเสียมากขึ้น “นี้เจ้าเอาของของเราไปทิ้งอย่างนั้นหรือ” “ฮองเฮาพูดถึงเรื่องอะไรเพคะ หม่อมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย พระองค์อย่าได้ใส่ความหม่อมฉันสิเพคะ” “นี้เจ้า”
ชาติที่แล้วของไห่เฉิงเขาเป็นประมุขมารที่ไม่สมหวังในความรัก มาแสนภพแสนชาติ และภพชาติที่หนึ่งแสนของเขา มีเหตุให้ต้องทำลายดวงจิตมารของตนเอง และเหลือเสี้ยวดวงจิตเอาไว้เพียงน้อยนิด ดวงจิตที่เหลืออยู่เขาอ้อนวอนขอต่อมหาเทพขอให้เขาได้เกิดเป็นมนุษธรรมดา ที่สมหวังในความรักม่ีครอบครัวที่อบอุ่น และไม่ขอจดจำอดีตชาติของตัวเองอีกต่อไป เขาขอเริ่มต้นใหม่ในดินแดนมนุษย์และไม่ว่าจะเกิดอีกกี่ครั้งกี่ภพกี่ชาติ ขอให้เขาได้สมหวังในความรักทุกภพทุกชาติไป
เนี่ยหลิง ตายแบบ งงๆ และได้ไปเกิดใหม่แบบ งงๆ ในโลกลมปราณของผู้ฝึกตนและพร อีก สอง ข้อ พร้อมธนู และลูกธนูหนึ่งชุด แหวนมิติเก็บของหนึ่งวง อย่าถามหา เหตุผล ว่าทำไม เนี่ยหลิงก็ไม่รู้เช่นกัน หวังว่า มันจะดี
เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"
เมื่อภัทราได้ทะลุมิติเข้าไปอยู่ในร่างของเจียงอันเล่อ ตัวละครในนิยายเรื่อง "ชะตารักพันธนาการ" ภารกิจปกป้องหานอี้หลง พระรองของเรื่องแต่เป็นชายในดวงใจของเธอก็เริ่มต้นขึ้น
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
© 2018-now MeghaBook
บนสุด